ข้อหารือ การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว

ธุรกิจต่างด้าวต้องปฏิบัติอย่างไรในการประกอบธุรกิจในประเทศไทย

“บริษัทเอ เป็นนิติบุคคลต่างด้าวจดทะเบียนที่ประเทศญี่ปุ่น และมีการจำหน่ายสินค้าให้แก่ บริษัทบี ซึ่งเป็นนิติบุคคลไทยที่มีผู้ถือหุ้นข้างมากเป็นต่างด้าว และเป็นผู้ซื้อในประเทศไทย โดยบริษัทเอ ได้นำสินค้าเข้ามาฝากไว้ที่จัดเก็บสินค้าของบริษัท บี ซึ่งตั้งอยู่ในเขตปลอดอากร (Free Zone)ในประเทศไทย แต่สินค้าดังกล่าวยังคงเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท เอ และเมื่อบริษัทบี ได้เบิกสินค้าจากโกดังเก็บสินค้าพร้อมชำระเงินค่าสินค้าให้แก่บริษัท เอ ซึ่งทำให้กรรมสิทธิ์ในสินค้าจะโอนจากบริษัท เอ ไปยังบริษัท บี ซึ่งถือเป็นการจำหน่ายสินค้าให้แก่ผู้ซื้อในประเทศไทย”

จากข้อเท็จจริงข้างต้นพิจารณาได้ว่าทั้งบริษัทเอ และบริษัทบี มีธุรกิจที่ต้องขออนุญาตตาม พ.ร.บ. การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ดังนี้

บัญชีสาม (14) การค้าปลีก และ บัญชีสาม (15) การค้าส่ง

ซึ่งคนต่างด้าวจะประกอบธุรกิจดังกล่าวได้ต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว

อนึ่ง การค้าปลีก ได้แก่การขายให้แก่ลูกค้าเพื่อใช้ในการบริโภคโดยตรงของตนเอง ทั้งนี้ไม่รวมถึงการขายให้แก่ผู้ผลิตเพื่อนำไปเป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าอื่นและการค้าส่ง ได้แก่การขายสินค้าให้แก่ผู้ซื้อที่นำไปขาย หรือให้บริการต่อแก่ลูกค้าหรือ นำไปเป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าอื่น

อย่างไรก็ตาม หากบริษัทเอ และบริษัทบี ต้องการประกอบธุรกิจในประเทศไทย ทั้งค้าปลีกและค้าส่งโดยไม่ต้องขออนุญาต บริษัทเอ และบริษัทบี จะต้องนำหรือส่งทุนขั้นต่ำเป็นเงินตราต่างประเทศที่ใช้ในการเริ่มต้นประกอบธุรกิจในประเทศไทยแต่ละธุรกิจไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งไม่รวมทุนขั้นต่ำในธุรกิจอื่นที่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ทั้งนี้ทุนขั้นต่ำ 100 ล้านบาทสำหรับกรณีค้าปลีกสามารถมีร้านค้าปลีกได้จำนวน 5 ร้านค้า หรือกรณีการค้าส่งสามารถมีร้านค้าส่งได้จำนวน 1 ร้านค้าเท่านั้น

การยื่นขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว
การจัดเตรียมคำขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ต้องมีหัวข้อและรายละเอียด ดังนี้
1. ลักษณะธุรกิจและขั้นตอนการดำเนินงาน
2. โครงสร้างทุน /ภาพรวมการประกอบธุรกิจ
3. ขนาดของกิจการ /ตารางประมาณการรายจ่ายในการประกอบธุรกิจ จำนวน 3 ปี
4. คำรับรองเกี่ยวกับการถ่ายทอดเทคโนโลยี (แผนการถ่ายทอดเทคโนโลยี)
5. แผนการจ้างงาน

คนต่างด้าวสามารถยื่นคำขออนุญาตตามมาตรา 17 ซึ่งเจ้าหน้าที่จะพิจารณาคำขอ เอกสารประกอบคำขอและการวิเคราะห์ลักษณะธุรกิจที่ขออนุญาต โดยการพิจารณาของคณะอนุกรรมการ/คณะกรรมการ/คณะรัฐมนตรี แล้วแต่กรณี โดยกำหนดเวลาการพิจารณา 60 วัน นับแต่วันชำระค่าคำขอ

หลักเกณฑ์การพิจารณาคำขออนุญาต

มาตรา 5 การอนุญาตให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พิจารณาโดยคำนึงถึงผลดีและผลเสียต่อความปลอดภัยและความมั่นคงของประเทศ การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ศิลปวัฒนธรรมและจารีตประเพณีของประเทศ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ การพลังงานและการรักษาสิ่งแวดล้อม การคุ้มครองผู้บริโภค ขนาดของกิจการ การจ้างแรงงาน การถ่ายทอดเทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนา

บทลงโทษ

มาตรา 37 คนต่างด้าวผู้ใดประกอบธุรกิจโดยฝ่าฝืนมาตรา 6 มาตรา 7 หรือมาตรา 8 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเลิกการประกอบธุรกิจ หรือเลิกกิจการ หรือสั่งเลิกการเป็นผู้ถือหุ้น หรือเป็นหุ้นส่วน แล้วแต่กรณี หากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลต้องระวางโทษปรับวันละหนึ่งหมื่นบาทถึงห้าหมื่นบาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่

หากท่านมีคำถามหรือข้อสงสัยเพิ่มเติมใดๆ สามารถติดต่อได้ที่

บริษัท สำนักกฎหมายธรรมนิติ จำกัด
2/2 อาคารภักดี ชั้น 2 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
โทรศัพท์ 0-2680-9790
Email:

เลขที่หนังสือ : กค 0706/พ./2497
วันที่ : 28 กุมภาพันธ์ 2550
เรื่อง : ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มของคนต่างด้าว
ข้อกฎหมาย : มาตรา 77/1(10) มาตรา 85/1 มาตรา 82(1) มาตรา 88(6) และประกาศอธิบดีฯ (ฉบับที่ 57)ฯ
ข้อหารือ

:           1. กรณีบุคคลธรรมดาที่เป็นคนต่างด้าว ประกอบกิจการประเภทให้บริการที่พัก โดยมีบ้านพัก 4 หลัง และมีรายรับเกิน 1,800,000 บาท ต่อปี มิได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเนื่องจาก ไม่มีใบอนุญาต ประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ตามข้อ 5 (1) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 57) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และการออกใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ลงวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2537 จึงขอทราบว่า
                    1.1 กรณีไม่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จะสามารถยื่นคำขอจดทะเบียนภาษี มูลค่าเพิ่มได้หรือไม่
                    1.2 กรณีรายรับเกินมูลค่าของฐานภาษีของกิจการขนาดย่อม แต่ผู้ประกอบการไม่สามารถจด ทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มได้ จะต้องรับผิดเสียภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่ ่

แนววินิจฉัย :               1. ผู้ขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มไม่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จะขอจด ทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มให้ได้หรือไม่นั้น พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 มาตรา 5 บัญญัติว่า การอนุญาตให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พิจารณา โดยคำนึงถึงผลดีและผลเสียต่อความปลอดภัยและความมั่นคงของประเทศ การพัฒนาเศรษฐกิจและ สังคมของประเทศ ความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน... มาตรา 8(3) ห้ามมิให้ คนต่างด้าวประกอบธุรกิจที่คนไทยยังไม่มีความพร้อมที่จะแข่งขันในการประกอบกิจการกับ คนต่างด้าว ตามที่กำหนดไว้ในบัญชีสาม เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากอธิบดีโดยความเห็นชอบ ของคณะกรรมการ ดังนั้น เมื่อคนต่างด้าวยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มโดยไม่มีใบอนุญาต ประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวจึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษี มูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 57)ฯ ลงวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2537 ข้อ 5(1) เจ้าพนักงานสรรพากรจึงไม่อาจ รับคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มตามข้อ 6 วรรคสอง
              2. คนต่างด้าวประกอบกิจการให้บริการที่พัก ถือเป็นการให้บริการตามมาตรา 77/1(10) แห่ง ประมวลรัษฎากร หากมูลค่าฐานภาษีเกิน 1,800,000 บาท ต่อปี มีหน้าที่ต้องยื่นคำขอจดทะเบียน ภาษีมูลค่าเพิ่มภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ฐานภาษีเกินมูลค่าของฐานภาษีของกิจการขนาดย่อม ตามมาตรา 85/1(1) แห่งประมวลรัษฎากร เมื่อคนต่างด้าวไม่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจของ คนต่างด้าว จึงไม่สามารถจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มได้ และไม่ได้เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียน จึงไม่มีหน้าที่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่ยังคงมีหน้าที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตาม มาตรา 82(1) แห่งประมวลรัษฎากร เจ้าพนักงานประเมินมีอำนาจประเมินภาษีมูลค่าเพิ่ม เบี้ยปรับ และเงินเพิ่มได้ตามมาตรา 88(6) แห่งประมวลรัษฎากร ่
เลขตู้ : 70/34807