สังคมและวัฒนธรรมประเทศฟิลิปปินส์

ชนเผ่า

     เด็กๆในในชนเผ่า Negritos มีลักษณะคล้ายพวกเงาะป่าในประเทศตอนใต้ ปัจจุบันได้มีการผสมเผ่าพันธุ์อื่นๆ จนมีเหลือที่เป็น Negritos แท้มีไม่มากนัก ปัจจุบันมีเหลือไม่เกิน 30,000 คน ส่วนพวกประชากรลูกประสมที่เรียกว่า Mestizo มีอยู่ร้อยละ 2 แต่มีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจของประเทศอย่างมาก จากการศึกษาเผ่าพันธุ์ Stanfor Genetic Study ชาวฟิลิปปินส์มีเลือดผสมที่มาจากยุโรปประมาณร้อยละ 3.6

     สำหรับชาวต่างชาติที่ได้เข้ามาอยู่ในฟิลิปปินส์และกลายเป็นชนกลุ่มน้อยที่มีมากที่สุดคือชาวจีน มีเป็นร้อยละ 3 ของประชากร ที่เหลือนอกนั้นมีกระจัดกระจาย เช่น อเมริกาเหนือ (North Americans) สเปน (Spaniards) และพวกชาวยุโรป(Europeans) เมกซิกันจากทวีปอเมริกาตอนกลาง (Mexicans) และจากทางประเทศทางอเมริกาใต้ (Latin Americans) มีบางส่วนจากอาหรับ (Arabs) จากเอเซียใต้ (Sout Asians) ประเทศอินโดนิเซีย (Indonesians) เกาหลี (Koreans) ญี่ปุ่น (Japanese) เวียดนาม (Vietnamese) และผู้อพยพจากเอเซียอื่น

     ในลักษณะดังกล่าวนี้จึงจัดได้ว่าประเทศฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่มีชนกลุ่มต่างๆ หลากหลายมากที่สุดประเทศหนี่งในเอเซีย ในช่วงหลายทศวรรษหลัง รัฐบาลพยายามทำให้ประเทศมีความเป็นหนึ่งเดียวทางวัฒนธรรมมากขึ้น แต่ก็ได้รับการต่อต้านจากกลุ่มชนต่างๆ ในประเทศที่ต้องการสงวนวัฒนธรรมและฐานรากทางภาษาของตนไว้ โดยมองว่ารัฐบาลพยายามทำให้ความหลากหลายนั้นถูกครอบงำโดยวัฒนธรรมกระแสหลักของชาติที่เป็นพวกพูกภาษาตากาล็อก (Tagalog)

     ภาษา Languages

     ประเทศฟิลิปปินส์มีการใช้การพูดมากกว่า 170 ภาษา เกือบทั้งหมดเป็นกลุ่มภาษาที่เรียกว่า  Western Malayo-Polynesian Language ภาษาตากาล็อค และภาษาอังกฤษ คือภาษาของทางราชการ

     ภาษาถิ่นอีก 12 ภาษา อันมีการพูดที่แตกต่างกันไปตามแต่ละภูมิภาค ภาษาเหล่านี้ได้แก Tagalog, Cebuano, llokano, Hiligaynon, Waray-Waray, Bikol, Kapampangan, Pangasinan, Kinaray-a, Maranao, Maguindanao, และ Tausug ภาษาตากาล็อค (Tagalog) เป็นภาษาถิ่นที่มีการใช้มากที่สุด

     ศาสนา Religion

     ประเทศฟิลิปปินส์จัดเป็นประเทศที่มีคนนับศาสนาคริสต์นิกายคาอธอลิกที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก มีคนนับถือนิกายโปรเตสแตนท์มากเป็นอันดับ 13 ของโลก นับถืออิสลามมากเป็นอันดับที่ 40 เป็นพวกนับถือฮินดูมาเป็นอันดับที่ 7 และนับถือพุทธศาสนามากเป็นอันดับที่ 17 ของโลก

     แต่โดยส่วนใหญ่จัดว่าเป็นพวกนับถือคริสศาสนา ร้อยละ 92 ของชาวฟิลิปปินส์เป็นชาวคริสเตียน และร้อยละ 83 เป็นโรมันแคธอลิก และร้อยละ 9 เป็นชาวโปรแตนท์ แม้ชาวฟิลิปปินส์จะได้รับอิทธิพลด้านศาสนาจากตะวันตกมาก แต่ก็ยังมีพวกนับถือประเพณีท้องถิ่นเดิม

     วัฒนธรรม  Culture

     อิทธิพลวัฒนธรรมจากสเปนและเมกซิโก เรียกว่า Hispanic Influences ที่มีมากกว่า 300 ปี ในช่วงการปกครองแบบอาณานิคม จะเห็นได้จากความเชื่อในศาสนาคาธอลิกงานประเพณีทางศาสนาในทุกปี ฟิลิปปินส์จะมีงานรื่นเริง เรียกว่า Barrio Fiesta เป็นการฉลองนักบุญของเมือง หมู่บ้านและเขตการปกครองต่างๆ มีการประกอบพิธีทางศาสนา การเดินขบวนในเมืองฉลองนักบุญ การจุดพลุไฟ การประกวดความงามและ การเต้นรำ รวมทั้งมีการตีไก่

Skip to content

  • เรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง
  • เรียนภาษาเกาหลีด้วยตัวเอง
  • แปลเพลงสากล
  • แปลเพลงเกาหลี
  • ข้อมูลเรียนต่อต่างประเทศ
  • เกร็ดความรู้
  • ทุนการศึกษา
  • กริยา 3 ช่อง
  • สูตรคูณ
  • รับสมัคร นักศึกษาฝึกงาน

วัฒนธรรมประเทศฟิลิปปินส์Admin-Asia2018-05-14T17:26:42+07:00

วัฒนธรรมประเทศฟิลิปปินส์

วัฒนธรรมประเทศฟิลิปปินส์ ได้รับอิทธิพลจากหลากหลายชาติและมีระยะเวลายาวนานกว่า 400 ปี จึงมีการผสมผสานกันซึ่งสะท้อนให้เห็นได้จากหลายๆสิ่งในปัจจุบัน เช่น สังคม อาหาร ภาษา เป็นต้น

สังคมและวัฒนธรรมประเทศฟิลิปปินส์

ด้านอาหาร

อาหารฟิลิปปินส์ ฟิลิปปินส์มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว หลายศตวรรษผ่านมาฟิลิปปินส์มีการพัฒนาอาหารจากวัฒนธรรมดั้งเดิมผสมกับอาหารสเปนและโปรตุเกส จีน อเมริกัน และอาหารอื่น ๆ

ช่วงก่อนที่สเปนเข้ามาปกครองฟิลิปปินส์ วิธีการปรุงอาหารแบบดั้งเดิมของชาวฟิลิปปินส์ที่เป็นชาวจีนตอนใต้และไต้หวันได้แก่ การต้ม นึ่ง และอบ วัตถุดิบส่วนใหญ่ได้มาจากสิ่งมีชีวิตรอบตัว เช่น วัว ไก่ และหมู และอาหารทะเลอีกหลายชนิด

การค้าขายเครื่องเทศต่างๆและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับชาวจีนฮกเกี้ยน ทำให้ชาวฟิลิปปินส์มีเครื่องปรุงอาหารมากขึ้น เช่น ซีอิ๊ว, เต้าหู้, ถั่วงอก และน้ำปลา รวมถึงยังได้วิธีการปรุงอาหารโดยการผัดและเคี่ยวน้ำซุปจากชาวจีนฮกเกี้ยนอีกด้วย

การค้าขายกับอาณาจักรเพื่อนบ้านอื่นๆ เช่น มะละกาและศรีวิชัย ในมาเลเซียและชวา ก็ได้นำอาหารและวิธีการปรุงอาหารเข้ามาในฟิลิปปินส์ด้วยเช่นกัน เช่น การนำกะทิมาปรุงอาหาร (สตูว์ไก่ต้มกับกะทิ) และยังได้รับอิทธิพลของอาหารอินเดียและอาหารอาหรับผ่านทางมาเลเซียและอินโดนีเซียด้วย  อาหารเหล่านี้จะพบมากทางใต้ของฟิลิปปินส์ในปัจจุบัน

การที่สเปนเข้ามาปกครองของนั้นก็ได้นำพืชพันธุ์จากทวีปอเมริกาเข้ามา เช่น พริก มะเขือเทศ ข้าวโพด มันฝรั่งและการปรุงอาหารโดยใช้กระเทียมและหัวหอม ซึ่งอาหารสเปนและอาหารเม็กซิโก มักเป็นอาหารที่มีการปรุงซับซ้อนและใช้ในโอกาสสำคัญ แต่อย่างไรก็ตาม อาหารฟิลิปปินส์จัดเป็นอาหารที่มีไขมันและคอเลสเตอรอลสูงกว่าอาหารเอเชียโดยทั่วไป

สังคมและวัฒนธรรมประเทศฟิลิปปินส์

ยุคสมัยปัจจุบัน ชาวฟิลิปินส์ในสมัยนี้นิยมทานอาหารจานด่วน (Fastfood) ที่รับมาจากวัฒนธรรมตะวันตก  เช่น McDonald, Pizza Hut, Burger King, KFC,Kenny Rogers Roasters นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารจานด่วนของท้องถิ่นที่ประสบความสำเร็จเช่นเดียวกัน ได้แก่ Jollibee, Greenwich Pizza, และ Max’s Fried Chicken เป็นต้น

สังคมและวัฒนธรรมประเทศฟิลิปปินส์

การแต่งกาย

ก่อนที่ฟิลิปปินส์จะตกเป็นประเทศอาณานิลมของสเปน ชาวฟิลิปปินส์ในยุคนั้น นิยมใช้เครื่องประดับกาย สักตามใบหน้า และร่างกาย แต่ราวคริสต์ศตวรรษที่ 14 ฟิลิปปินส์ตกอยู่ ในการปกครองของสเปน เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลง ฟิลิปปินส์ได้เอกราชตามสนธิสัญญา ศิลปวัฒนธรรมหรือเครื่องแต่งกายของฟิลิปปินส์ จึงมีการผสมผสานกันระหว่างชาวยุโรป เอเชีย และตะวันตกทำให้เครื่องแต่งกายประจำชาติของฟิลิปปินส์นั้น เป็นเสื้อคอกว้างแบบตะวันตก แขนยกตั้งเป็นปีกกว้าง ทำด้วยผ้าบางและแข็งอย่างไหมสับปะรด นุ่งกระโปรงติดกับเสื้อเป็นชุดเดียวกัน ส่วนตามเกาะต่าง ๆ มีการแต่งกายแบบคล้ายชาวมลายู และอินโดนีเซีย คือ นุ่งโสร่งปาเต๊ะ สวมเสื้อผ้าไหมสับปะรดหรือแพร แขนกระบอกยาวจดข้อมือ มีผ้าพาดบ่า ส่วนผู้ชายจะสวมเสื้อแขนยาวทำจากใบสับปะรด นุ่งกางเกง แบบสากล

การแต่งกายนั้นชาวฟิลิปปินส์ถือเรื่องสำคัญ ดังนั้นการแต่งกายให้ถูกต้องกาลเทศะจึงเป็นสิ่งที่ชาวฟิลิปปินส์ควรปฏิบัติโดยต้องแต่งกายสุภาพสวมรองเท้าหุ้มส้นในการผ่านเข้า อาคารสำนักงาน โบสถ์ โรงแรม และร้านอาหารที่มีระดับหลายแห่ง การแต่งตัวเข้าร่วมงานประชุมหรืองานพิธีการทางราชการ ผู้ชายชาวฟิลิปปินส์มักสวมเสื้อประจำชาติ เรียกว่า บารอง และผู้หญิงมักใส่กระโปรงสุภาพกับเสื้อที่ค่อนข้างมีสีสัน

สังคมและวัฒนธรรมประเทศฟิลิปปินส์

สังคม

ชาวฟิลิปปินส์มีการผสมผสานทางวัฒนธรรมของชาวพื้นเมือง มุสลิม สเปน  อเมริกาและจีน ลักษณะสังคมของชาวฟิลิปปินส์จึงมีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น สมาชิกครอบครัวจะใกล้ชิดสนิทกันและอยู่เป็นครอบครัวใหญ่เหมือนของชาวจีน แต่ก็จะมีความทันสมัยแบบอเมริกาที่พ่อแม่ให้อิสระกับลูกๆ โดยเฉพาะสังคมในเมือง ซึ่งในเรื่องของศาสนาก็มีส่วนเกี่ยวข้องกีบวัฒนธรรมทางสังคมในลักษณะที่ครอบครัวชาวฟิลิปปินส์ส่วนใหญ่นั้นเป็นครอบครัวใหญ่ เนื่องจากการคุมกำเนิดหรือการทำแท้งเป็นเรื่องขัดกับหลักศาสนา จึงทำให้แต่ละครอบครัวมีบุตรเยอะ และเรื่องของการสั่งสอนคนรุ่นหลัง ฟิลิปปินส์รับอิทธิพลระบบเจ้าขุนมูลนายและระบบอุปถัมภ์มาจากสเปน ค่านิยมทางครอบครัวหรือสังคมที่อบรมลูกหลานหรือคนรุ่นหลังให้เคารพเชื่อฟังผู้อาวุโส เด็กๆจะถูกอบรมสั่งสอนให้ยอมรับอำนาจของผู้อาวุโสกว่า จนกลายเป็นพฤติกรรมที่ยอมรับอำนาจนิยม

ดนตรีและศิลปะ

ดนตรีและศิลปะของชาวฟิลิปปินส์ได้รับอิทธิพลจาก ไต้หวัน สเปน โปตุเกส เม็กซิโก  ซึ่งเพลงประเภทแรกที่มีขึ้นในประเทศฟิลิปปินส์เป็นเพลงพื้นเมืองของชาวไต้หวัน และลักษณะเครื่องดนตรีที่ใช้เล่นจะแตกต่างกันไปตามภูมิภาค เช่น ภาคใต้ จะมีลักษณะตามตัวอย่าง

สังคมและวัฒนธรรมประเทศฟิลิปปินส์

ส่วนรูปแบบของเครื่องดนตรีพื้นบ้านภาคเหนือจะเป็น ฆ้องเอเซีย  นอกเหนือจากเครื่องมือที่ใช้ในภาคใต้และภาคเหนือแล้ว เครื่องดนตรีหรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่ใช้ในประเทศฟิลิปปินส์ก็จะเป็นพวก กลอง ปี่ zithers ไม้ไผ่ และ Kudyapi

วัฒนธรรมจากสเปน เม็กซิโก และ โปตุเกสมีอิทธิพลอย่างยิ่งกับฟิลิปปินส์ เพราะวัฒนธรรมของชนชาติเหล่านี้ได้นำรูปแบบเสียงเพลงสไตล์ Harana Kundiman และ Rondalla เข้ามาในฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นเพลงสไตล์เม็กซิกันและสเปนแบบดั้งเดิมทุกวันนี้เพลงสไตล์เม็กซิกันและสเปนแบบดั้งเดิมยังคงมีอยู่ในสังคมฟิลิปปินส์สมัยใหม่ ยิ่งไปกว่านั้นในท่วงทำนองของเพลงที่แต่งขึ้นในยุคปัจจุบันก็ยังมีกลิ่นอายของสไตล์เพลงสเปนและเม็กซิกัน รวมทั้งสไตล์เพลงโปรตุเกสร่วมด้วย

ศิลปะของฟิลิปปินส์มีรากฐานมาจากประเพณีพื้นเมืองและประเทศล่าอาณานิคม อย่างไรก็แล้วแต่ประเทศฟิลิปปินส์นั้นมีสไตล์และเอกลักษณ์เป็นของตัวเองทั้งประติมากรรมศิลปะพลาสติกและภาพวาด และศิลปะการเต้นรำหรือการเคลื่อนไหว ศิลปินชาวฟิลิปปินส์ที่มืชื่อเสียงมากที่สุด คือ Fernando Amorsolo และอีกมากมาย

สังคมและวัฒนธรรมประเทศฟิลิปปินส์

การทักทาย

ชาวฟิลิปปินส์ทักทายเหมือนกับชาวตะวันตก เช่น วิธีการจับมือทักทาย หรือ หอมแก้มแบบแก้มชนแก้ม เป็นต้น  เด็กชาวฟิลิปปินส์ส่วนใหญ่ถูกอบรมให้ ทักทายญาติผู้ใหญ่ด้วยการนำมือผู้อาวุโสมาแตะที่กลางหน้าผากเพื่อเป็นการแสดงความเคารพ ในการพบปะเจรจาธุรกิจ ในงานสังคมทั่วไปทั้ง ชาย/หญิง จะจับมือเพื่อทักทายและทำความรู้จัก และจับ มืออีกครั้งเมื่ออำลา ในขณะที่การแสดงความเคารพต่อผู้อาวุโสนั้นต้องเริ่มด้วยการทักทายผู้ที่อาวุโสมากที่สุดก่อน

สังคมและวัฒนธรรมประเทศฟิลิปปินส์