คุณเป็นคนที่มีความสนใจหลากหลาย จนไม่รู้ว่าจะจับต้นชนปลายอย่างไรดีหรือเปล่า? ยินดีด้วย! คุณเป็นคนที่รอบรู้ ซึ่งนี่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี อย่างไรก็ตาม เมื่อมาถึงช่วงของการเลือกอาชีพ ว่าควรจะทำอะไรดี การที่คุณเป็นคนที่มีความสนใจหลากหลาย มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย มาดูกันว่า จะเริ่มอย่างไร เขียนลิสต์ (แยกระหว่างงานอดิเรก ความสนใจ และงาน)เริ่มจากการลิสต์สิ่งที่สนใจ เขียนให้ยาวที่สุดเท่าที่จะทำได้ จากนั้นลองดูว่าความสนใจเหล่านี้ สามารถทำให้เป็นงานดิเรกได้ไหม แล้วจะนำไปสู่การทำเป็นอาชีพได้ไหม ตัวอย่างเช่น คุณอาจจะชอบถักนิตติ้งมาก แต่คุณเชี่ยวชาญในสิ่งนั้นมากพอที่จะสร้างรายได้จากมันได้หรือไม่ มีตลาดสำหรับคนกลุ่มนี้ไหม ไปจนถึงคุณจะสามารถหารายได้ที่เพียงพอจากสิ่งนี้ได้หรือไม่ บางครั้ง งานอดิเรก ก็สามารถเป็นแค่งานอดิเรก ไม่จำเป็นต้องทำเงิน หรืออาจจะเป็นโปรเจคส่วนตัว ที่นำรายได้มาให้ก็ได้ คุณอาจจะชอบถักนิตติ้ง แต่ถ้าทำเป็นอาชีพ คุณอาจจะไม่มีความสุขเหมือนเดิมก็ได้ ลองดูว่าตัวเองมีทักษะอะไร มีสไตล์การทำงานอย่างไรลองดูว่าตัวคุณสามารถทำอะไรได้ดีที่สุด มีความสุขเมื่อได้ทำอะไรมากที่สุด ลองถามคำถามต่อไปนี้กับตัวเองดู
นอกจากนี้ อาจจะลองสร้างลิสต์ของทักษะที่คุณมี อาจจะเป็น hard skills (การเขียนโค้ด ดีไซน์ การตลาด การเขียน และอื่นๆ) หรือ soft skills (การสื่อสาร การจัดการ การทำงานร่วมกับผู้อื่น และอื่นๆ) ลองทำแบบทดสอบอาชีพ หรือบุคลิกภาพการดูว่าตัวเองมาจุดอ่อน จุดแข็งด้านไหน จะช่วยให้คุณรู้ว่าตัวเองเหมาะกับงานประเภทไหนมากขึ้น ลองดูว่ามึอุตสาหกรรมไหนที่คุณสนใจเป็นพิเศษคุณะที่จบมาอาจจะช่วยไกด์ว่าคุณสามารถทำอะไรได้บ้างก็จริง แต่ก็ไม่จริงทั้งหมด ตัวอย่างเช่น จบอักษรมาก็สามารถทำงานในด้านการตลาดได้ คนที่มีแพชชั่นในเสียงดนตรี อาจจะทำงานเป็นทนาย หรือออกแบบเว็บไซต์ก็ได้ ลองทำงานจริง
มองหาองค์กรที่ให้ความสำคัญด้านการพัฒนาอาชีพ ไม่ว่าคุณจะเลือกทำงานอะไร แน่นอนว่าก็ย่อมมีโอกาสที่คุณจะไม่ได้ทำทุกอย่างที่อยากทำหรือถนัดไปเสียหมด องค์กรที่เปิดโอกาสให้พนักงานได้ทำงาน cross functional หรือ department ด้วย นั้นจะทำให้คุณได้ลองทำอะไรใหม่ๆ การมองหาฟีดแบคจากคนรอบข้างการถามฟีดแบคจากคนรอบข้างที่รู้จักคุณเป็นอย่างดี ว่า จุดอ่อน จุดแข็งของคุณคืออะไร ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยให้คุณเลือกอาชีพที่เหมาะกับคุณได้มากขึ้น
ค้นหาตัวเอง ในวันที่คุณ ไม่รู้ว่าชอบอะไรหลายคนบอกว่าแค่หาสิ่งที่ตัวเรารัก และ ถนัดให้เจอเราก็จะสามารถมองเห็นเป้าหมายได้ชัดเจน แต่ปัญหาคือหลายคนยัง ค้นหาตัวเอง ไม่เจอ ไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร หรือถนัดอะไร เลือกเรียนก็เรียนตามที่พ่อแม่ตั้งการ ทำงานก็ทำตามความนิยมของสังคม จนถึงจุดหนึ่งทำให้เราเบื่อหน่ายกับชีวิตตัวเอง ไม่รู้ว่าเป้าหมายตัวเองคืออะไร กว่าจะรู้ตัวก็เสียเวลาไปเสียแล้ว หากคุณกำลังตกอยู่ในสถานะการณ์นี้ เรามีวิธีค้นหาตัวเองมาฝากกันค่ะ หยุดฟังเสียงคนอื่น หันมาฟังเสียงหัวใจตัวเองทุกคนเกิดมาล้วนถูกคาดหวังจากคนอื่นอยู่แล้ว แต่สิ่งที่สำคัญกว่าความคาดหวังของคนอื่น ก็คือความฝันของคุณ ความคาดหวังของคุณต่างหากคือสิ่งสำคัญ เพราะอย่าลืมว่าคนที่อยู่กับมันตลอดชีวิตนั้นคือตัวคุณเองไม่ใช่คนอื่น ดังนั้นควรฟังเสียงหัวใจตัวเองให้ชัดๆ ว่าเราชอบอะไร อะไรคือสิ่งที่ทำได้ดีที่สุด มีพรสวรรค์ด้านใดที่คนอื่นชื่นชมหรือมาขอความช่วยเหลือจากคุณบ้าง? ใจเย็นๆ ให้เวลากับมันหน่อยแค่ฟังเสียงหัวใจตัวเองยังไม่พอและแน่นอนว่าการค้นหาตัวเองน่ะไม่ได้ใช้เวลาแค่วันสองวันนะ คุณต้องให้เวลากับตัวเองบ้าง ลองสังเกตตัวเองให้ดีๆ อย่ามองข้ามสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิต เพราะบางทีนั่นอาจจะเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตคุณก็เป็นได้แม้จะใช้เวลาสักหน่อย แต่หากไม่หยุดพยายามเราเชื่อว่าคุณจะต้องเจอเข้าสักวันแน่นอนค่ะ เมื่อรู้แล้วอย่าหยุดพัฒนาตัวเองหากคุณเจอสิ่งที่ชอบแล้วแต่ปัญหาคือ คุณอาจยังทำมันได้ไม่ดีเท่าที่ควร หรือมีคนที่เก่งความคุณ ชำนาญกว่าคุณ ก็อย่าพึ่งเลิกหวังหรือท้อแท้ไปกลางทางค่ะ เพราะไม่เช่นนั้นคุณก็ไม่ต่างจากคนเดิมที่ใช้ชีวิตไปวันๆ อย่างน้อยตอนนี้คุณก็ได้รู้แล้วว่าตัวเองชอบอะไร ดังนั้นอย่าหยุดพัฒนาตัวเอง พัฒนาสิ่งที่ชอบสักวันหนึ่งมันจะกลายเป็นอาชีพที่สามารถเลี้ยงปาก เลี้ยงท้อง ของคุณและครอบครัวได้ และคุณยังสนุกไปกับมันอีกด้วย บางครั้งคุณก็ต้องยอมทิ้งบางสิ่งไว้ข้างหลังชีวิตไม่ได้ง่ายไปซะทุกอย่างหรอกค่ะ ตั้งแต่เด็กจนโตกว่าจะมีวันนี้มักจะมีคนที่เรารู้จักหล่นหาย ตกหล่นไปจากชีวิตบ้าง ซึ่งมันเป็นเรื่องธรรมดามากๆ เพราะบางครั้งเราก็ต้องรู้จักเสียสละทิ้งบางอย่างไว้ข้างหลัง อย่าลืมว่าทุกคนก็มีเส้นทางเป็นของตัวเอง ไม่มีใครที่จะสามารถอยู่ร่วมทางเดินของคุณได้ตลอดไปหรอกนะ ถามตัวเองให้ดีว่าจุดหมายในชีวิตของคุณคืออะไรข้อสุดท้ายนี้ เป็นข้อที่เราอยากให้ทุกคน นิยามความสำเร็จของตัวเองว่าคุณต้องการอะไร อะไรคือเป้าหมายที่แท้จริงของชีวิต เพราะบางคนก็คิดว่า การประสบความสำเร็จในชีวิตนั้นคือการร่ำรวยเงินทาง มีบ้าน มีรถ บางคนก็แค่ได้ทำสิ่งที่ตัวเองรัก มีความสุขในทุกวัน ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว คุณควรจะถามตัวเองให้ดี เพราะของแบบนี้ไม่มีรูปแบบตายตัว มันขึ้นอยู่กับความพึ่งพอใจของคุณเองต่างหากล่ะ |