เข้าเดือนเมษา จะนึกถึงอะไรไม่ได้เลยนอกจากแดดจ้าและเทศกาลสงกรานต์ ใครหยุดยาวไปเที่ยวไหนก็ดูแลตัวเองกันดีๆ นะคะ^^
ปิดเทอมคราวนี้ เรียกว่าหยุดยาวกันมากๆ เปิดเทอมอีกทีก็ไปโรงเรียนไปมหา'ลัย  เวลาที่เราไปเที่ยว สิ่งหนึ่งที่แทบจะดูดพลังเงินของเราไปซะเยอะคงไม่พ้น "ค่าตั๋วเครื่องบิน" เผลอๆ ดูดไปกว่าครึ่งของงบทั้งทริปเลยทีเดียว สำหรับตั๋วเครื่องบินไปเกาหลีนั้น ปัจจุบันมีให้เลือกเยอะมากจริงๆ ค่ะ เป็นสิบๆ สายการบิน ลองมาดูดีกว่าว่า มันมีตั๋วแบบไหนให้เราเลือกบ้าง 1. ตั๋วเครื่องบิน บินตรงไปเกาหลี แบบ Full Service
จากกรุงเทพไปเกาหลีใช้เวลาเดินทางประมาณ 5-6 ชั่วโมง ตั๋วเครื่องบินประเภทนี้ก็จะพาเราบินตรงไปยังเกาหลีโดยไม่แวะพักที่สนามบินใดๆ ก่อน ปัจจุบันมีทั้งหมด 3 สายการบินที่ให้บริการแบบนี้อยู่ ได้แก่ - การบินไทย (Thai Airways) - โคเรียนแอร์ (Korean Air) - เอเชียน่า แอร์ไลน์ (Asiana Airline)
โดยราคานั้นก็จะไม่ต่างกันมากค่ะ ส่วนมากอยู่ระหว่างประมาณ 18,000-25,000 บาท ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่จองหรือโปรโมชั่นต่างๆ ซึ่งเราจะได้รับบริการแบบ Full Service คือมีอาหารอย่างดีเสิร์ฟ ที่นั่งสบาย โหลดกระเป๋าได้ตามน้ำหนักที่สายการบินอนุญาต (ประมาณ 20 กิโลกรัม)
2. ตั๋วเครื่องบิน บินตรงไปเกาหลี แบบ Low Cost
Low Cost คือสายการบินต้นทุนต่ำ ทำให้ตั๋วเครื่องบินของสายการบินพวกนี้ถูกกว่าสายการบินแบบ Full Service เพราะได้ตัดต้นทุนของบริการบางอย่างออกไป เช่น ไม่มีอาหารให้บนเครื่องบิน อาจแจกแค่น้ำดื่ม หรือ ที่นั่งจะแคบกว่าสายการบินแบบ Full Service สายการบินที่ให้บริการแบบนี้ ได้แก่ - ทีเวย์ แอร์ไลน์ (T'way Airlines) - จินแอร์ (Jin Air)
ราคาอยู่ระหว่างประมาณ 12,000-16,000 บาท แต่หากเป็นฤดูท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวจำนวนมาก อาจทำให้ราคาตั๋วแพงกว่านี้ ส่วนตัวพี่ขอแนะนำว่า หากซื้อตั๋วประเภทนี้ได้ในราคาที่แพงกว่า 15,000 บาท ควรเปลี่ยนใจไปซื้อตั๋วเครื่องบินในข้อ 1 น่าจะดีกว่า จ่ายเพิ่มอีกนิดนึง แต่ได้บริการแบบ Full Service น่าจะคุ้มกว่าค่ะ *ตั๋วประเภทนี้ หากใกล้วันเดินทางแล้วยังขายไม่หมด สายการบินมักนำออกมาขายในราคาถูกเกือบครึ่งแค่ 7-8 พัน แต่ก็เป็นระยะเวลาแบบกระชั้นชิดมาก เช่น ต้องเดินทางพรุ่งนี้มะรืนนี้อะไรทำนองนี้เลยค่ะ*
3. ตั๋วเครื่องบิน บินแบบแวะเปลี่ยนเครื่อง แบบ Full Service
การบินแบบแวะเปลี่ยนเครื่องหรือที่เรียกว่า Transfer Flight นั้น เป็นอีกวิธีการเดินทางที่หลายคนนิยมสำหรับการเดินทางไกลๆ เช่น กรุงเทพไปยุโรป กรุงเทพไปอเมริกา เพราะได้ลงมาเดินยืดเส้นยืดสาย และที่สำคัญ ราคามักถูกกว่าตั๋วเครื่องบินในข้อ 1 เล็กน้อยด้วยค่ะ ราคาจะตกประมาณ 14,000-20,000 บาท
แล้วจะแวะเปลี่ยนเครื่องที่ไหน? เครื่องบินจะลงจอดที่สนามบินที่เป็นประเทศแม่ของสายการบินนั้นๆ ค่ะ เช่น หากน้องบินไปเกาหลีด้วยสายการบินคาเธย์แปซิกฟิก (Cathay Pacific) เครื่องบินจะแวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินฮ่องกง ดังนั้นเราจะได้ตั๋วเครื่องบินมา 2 ใบคือ กรุงเทพ-ฮ่องกง และ ฮ่องกง-เกาหลี เมื่อเราเดินทางไปถึงฮ่องกง ก็ให้เดินไปรอเครื่องบินอีกลำที่จะพาเราบินจากฮ่องกงไปเกาหลีค่ะ (แน่นอนว่าบิน 2 ต่อ ก็จะได้เสิร์ฟอาหาร 2 ครั้ง อิ่มเลย ฮ่าาา)
แล้วรอเปลี่ยนเครื่องนานแค่ไหน? ก็แล้วแต่ตารางการบินเลยค่ะ ส่วนมากต้องรอประมาณ 2-3 ชั่วโมง เอาจริงๆ มันแค่แป๊บเดียวค่ะ แต่หากใครเจอแจ็คพ็อตต้องรอเปลี่ยนเครื่องนานๆ 7-8 ชั่วโมง เราก็สามารถขอผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองออกมาข้างนอกได้นะคะ (เฉพาะประเทศที่คนไทยไม่ต้องใช้วีซ่าในการเข้าประเทศ เช่น ฮ่องกง เวียดนาม มาเลเซีย) แล้วพอใกล้ๆ ถึงเวลาเครื่องออก เราก็ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองเข้าไปใหม่อีกรอบนั่นเอง^^ แต่บางคนก็ไม่ค่อยชอบบินแบบนี้นะคะ เพราะมองว่าเสียเวลา รวมเวลาบิน 2 ต่อและเวลาที่รอเปลี่ยนเครื่องแล้ว ก็เหยียบ 10 ชั่วโมงเลยล่ะค่ะ สำหรับสายการบินที่ให้บริการบินจากไทยไปเกาหลีโดยแวะเปลี่ยนเครื่อง - คาเธย์แปซิฟิก (Cathay Pacific) แวะเปลี่ยนเครื่องที่ฮ่องกง - มาเลเซียแอร์ไลน์ (Malaysia Airline) แวะเปลี่ยนเครื่องที่มาเลเซีย - แอร์มาเก๊า (Air Macau) แวะเปลี่ยนเครื่องที่มาเก๊า - สิงคโปร์แอร์ไลน์ (Singapore Airline) แวะเปลี่ยเครื่องที่มาเก๊า - ไชน่าอีสเทิร์นแอร์ไลน์ (China Eastern Airline) แวะเปลี่ยนเครื่องที่จีน - เวียดนามแอร์ไลน์ (Vietnam Airline) แวะเปลี่ยนเครื่องที่เวียดนาม
4. ตั๋วเครื่องบิน บินแบบแวะเปลี่ยนเครื่อง แบบ Low Cost
สำหรับประเภทที่ 4 นี้ มีสายการบินเดียวคือ แอร์เอเชีย (AirAsia) นั่นเองค่ะ โดยเราจะต้องนั่งจากกรุงเทพไปมาเลเซียก่อน จากนั้น "ต้องเดินผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองของมาเลเซียออกมา มาเช็คอินเที่ยวบินจากมาเลเซียไปเกาหลี แล้วค่อยผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองอีกรอบเพื่อเข้าไปรอเครื่องบิน" ซึ่งจะต่างจากตั๋วเครื่องบินในข้อสอง เพราะในแบบที่ 2 นั้นเราจะเช็คอินเพียงครั้งเดียวตั้งแต่ที่สนามบินไทยเลย อ้อ ถึงแม้เราจะต้องเช็คอินเองทั้ง 2 รอบ แต่กระเป๋าเดินทางนั้นจะเช็คอินเพียงรอบเดียวค่ะคือตั้งแต่ที่สนามบินไทย แล้วไปรอรับได้ที่ปลายทางเกาหลีเลย
ส่วนราคานั้น ก็ต้องรอโปรโมชั่นแรงๆ เช่น 0 บาทแข่งกันจองผ่านเว็บไซต์ซึ่งดุเดือดมากกกก ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 8,000 บาทถึงหมื่นต้นๆ และที่สำคัญ ถ้าจะโหลดกระเป๋า ต้องเสียเงินเพิ่ม ไม่มีโหลดฟรีค่ะ
แต่แว่วๆ มาว่า อีกไม่นานนี้ แอร์เอเชียจะมีเปิดบินตรงจากไทยไปเกาหลีแล้ว รอกันอีกแป๊บนึงนะ
หลายคนน่าจะเคยเห็นทัวร์ต่างๆ จัดโปรโมชั่นไปเกาหลีในราคาที่ถูกมากกกกกกก แค่ 14,000-15,000 บาทก็ไปทัวร์เกาหลีได้ ถ้าไปเองนี่ยังไม่พอค่าเครื่องบินเลย นั่นเป็นเพราะว่าทัวร์พวกนี้มักบินโดยเช่าเครื่องบินแบบ Charter Flight (เช่าเหมาลำ) ซึ่งจะทำให้ได้ราคาตั๋วเครื่องบินที่ถูกกว่าราคาปกติมาก จึงสามารถปรับราคาทัวร์ให้ถูกลงได้ค่ะ
น้องๆ อาจจะสงสัยว่า เอ๊ อย่างนี้ซื้อทัวร์บินไปเกาหลีแล้วเราขอแยกมาเที่ยวเองได้มั้ย? พี่เคยไปถามเพื่อนพี่ทำทัวร์ เค้าบอกว่าไม่ได้ค่ะ ถ้าใครจะแยกตัวไปเที่ยวเอง จะต้องเสียค่าปรับให้แก่ทัวร์ เพราะทัวร์จะพาเราไปลงตามร้านค้าต่างๆ ตามที่รัฐบาลเกาหลีกำหนดไว้ว่านักท่องเที่ยวที่มากับทัวร์จะต้องแวะ (จำพวกร้านขายโสมนั่นแหละค่ะ) หากเราไม่ไปด้วย จะต้องเสียค่าปรับร้านละ 100 USD หรือประมาณ 3 พันกว่าบาท ซึ่งในทริปนึง ทัวร์จะพาเราไปแวะประมาณ 3 ร้าน ก็ต้องเสียค่าปรับเหยียบหมื่นเลยค่ะ
สรุปได้ว่า ใครอยากเที่ยวเองตามแพลนที่วางไว้ หรือจะจัดทริปตามนักร้องเกาหลี ถ้าไปเองน่าจะคุ้มและสนุกกว่าแน่นอนค่ะ^^ ว่าแต่ใครมีแพลนจะไปเกาหลีแล้วยังหาเพื่อนไม่ได้ ก็ลองมาคอมเม้นท์หาคนร่วมทริปได้ที่คอมเม้นท์ด้านล่างเลย เผื่อเจอคู่หูคนใหม่นะ ภาพประกอบ : justfares.com,topnews.in
พี่เป้ - Columnist มนุษย์บ้างานและบ้านวด ผู้ตกหลุมรักปลาแซลมอน การนอน และและออฟฟิศ |
อยากไปเที่ยวเกาหลีไปกับสายการบินไหนดี
กระทู้ที่เกี่ยวข้อง
ลิขสิทธิ์ © 2024 moicapnhap Inc.
