ขายของ เงียบมาก 2565 pantip

สวัสดีค่าาาาาเพื่อนๆชาว Pantip ทุกคน ช่วงนี้โควิดระลอกใหม่กำลังระบาดอีกแล้ว เราก็เลยอยากแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆ ที่กำลังเจอวิกฤตโดยเฉพาะเรื่องรายได้หรือไม่รู้จะทำอะไรดี โดยเราจะขอเล่าจากประสบการณ์ส่วนตัวที่ขายออนไลน์แบบลองผิดลองถูกมาประมาณสองปีกว่าๆ หากผิดพลาดตรงไหนก็ขออภัยด้วยน้า

มาเริ่มเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าค่ะ เรื่องของเรื่องเลยคือตอนนั้นเราเป็นเด็กจบใหม่ก็พยายามที่จะหางานประจำทำ ซึ่งหางานยากมาก ยากเว่อร์ บวกกับหลายๆ บริษัท ไม่รับคนเพิ่มและต้องการเคลียร์พนักงานเก่าออกด้วย ซึ่งเราพยายามสมัครงานอยู่หลายที่ เหมือนจะดี ตอนสัมภาษณ์บอกจะติดต่อกลับ แต่ก็เงียบหายไปเลย เราเลยกลับมานั่งคิด นอนคิด ว่า…อยู่แบบนี้ต่อไปคงยากและ เลยตัดสินใจหาอะไรที่ตัวเองจะทำได้มาลองทำ โชคดีตอนนั้นพอมีเงินเก็บอยู่บ้างจากการที่มหาลัยจ้างนักศึกษาทำการสำรวจผู้มีรายได้น้อย ตอนนั้นได้มาหลักหมื่นอยู่น้าเพราะเราขยันขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปสำรวจแต่เช้า กลับมาก็เย็นนู้นเลย เลยเอาเงินเก็บตรงนี้แหละเพื่อมาทำทุนต่อยอดจ้า

ธุรกิจที่เราทำตอนนั้นคือไปซื้อของจากสำเพ็งมาขาย ถามว่าได้ดีมั้ย ก็ดีนะเรื่อยๆ แต่พอหลังๆ คนมาทำเยอะคู่แข่งเยอะ กำไรก็น้อยเลยยากที่จะทำต่อ แต่เราก็พอมีฐานลูกค้าอยู่แล้ว เราเลยตัดสินใจหาสินค้าอื่นมาขายแทน บวกกับเรามีญาติเรียนอยู่ที่จีน นางพูดภาษาจีนได้ นางเลยช่วยเราติดต่อหาสินค้าแปลกๆ สินค้าใหม่ๆ ที่กำลังเป็นกระแสมาขาย รวมถึงช่วยต่อรองราคาด้วย มันดีตรงนี้แหละ ส่วนวิธีขายเราใช้วิธีให้คน Pre-order ของก่อน แต่ยังไม่เก็บเงินลูกค้านะ แล้วค่อยกลับมาสั่งของทีหลัง ยิ่งสั่งเยอะสั่งมากก็จะได้เรทในราคาที่ถูกลง แต่วิธีการขายแบบ Pre-order ข้อเสียคือ ลูกค้าที่สั่งแล้วชอบหายยยยย สั่งแล้วไม่โอนนี่น่าตีจริงๆ (อยากบอกกับคุณลูกค้าทุกท่านเลยนะคะว่าไม่ควรทำนิสัยไม่น่ารักแบบนี้ค่ะ อยากให้เห็นใจคนขายด้วย ยิ่งสั่งเล่นๆไม่ควรทำเลยจริงๆค่ะ) ซึ่งถ้าเราเจอเหตุการณ์แบบนี้กับลูกค้าคนเดิมๆ เราก็จะบล็อกไปเลยค่ะ เลยทำให้ตอนหลังๆมีแต่ลูกค้าที่น่ารักๆ แต่ยังไงก็ยังมีพวกชอบ CF เล่นๆอยู่ แต่ก็ดีกว่าเมื่อก่อนเยอะ นอกจากนี้การมองหาสินค้า เราจะมองหาสินค้าที่เป็นเทรนโดยมองไกลกว่าปัจจุบัน เราจะไม่ชอบสั่งของที่เป็นกระแสแบบร้านอื่นสั่งมาขาย เพราะลูกค้าจะต้องเปรียบเทียบราคาอยู่แล้ว พอเจอเจ้าไหนที่ถูกกว่าหรือเร็วกว่ามักทิ้งออเดอร์ตลอด แอบเซ็งเบาๆ ดังนั้นสินค้าที่ตอบโจทย์จึงสำคัญมาก ถ้าจะขายของออนไลน์นะ

ต่อมาคือการเลือกช่องทางการขายของ โดยช่วงแรกๆ เราใช้เฟสบุ๊ค ช่วงนั้นยังไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่ แต่เดี๋ยวนี้เหรอ โอ้ยยยย….ยากมากกก ยากจนอยากจะร้องไห้ บล็อกเก่ง ปิดกั้นเก่ง เราเลยมองหาช่องทางอื่นเสริมเพิ่ม ก็คือ ไอจี เพราะในไอจีแค่สร้างแฮชแท็กที่จำง่ายๆ คนก็จะเข้ามาดูสินค้าเราได้เลย เลยทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นด้วย ยิ่งในช่วงโควิดที่ผ่านมาติ๊กต๊อกเป็นอะไรที่บูมมาก กลุ่มลูกค้าของเราอยู่ในนั้นเยอะ ยิ่งถ้ารีวิวดีๆทำให้น่าสนใจ ยอดกดไลท์เพียบเลยแหละ ดังนั้นช่องทางการขายของถือว่าเป็นหัวใจหลักเลยก็ว่าได้เปรียบเสมือนการเลือกทำเลในการเปิดร้าน เลือกถูกช่องทางก็ปังปุริเยไปเลย เลือกผิดช่องทางก็จะเหงาๆ หน่อย แล้วค่อยเลือกใหม่ แหะๆ

และเกือบสุดท้ายเลยที่คู่กับการขายของออนไลน์ ก็คือการเลือกขนส่งที่โอเค ช่วงแรกๆเราก็ไม่ได้ดีลกับเจ้าไหนจริงจังมาก เพราะตอนนั้นออเดอร์ยังไม่เยอะมาก จะเน้นแค่ของถึงเร็วถึงชัวร์ ซึ่งช่วงแรกเราเลือกส่ง Kerry เพราะของถึงไวอยู่ แต่ค่าส่งก็แพงเอาเรื่องอยู่เด้อ หลังๆมาเลยเริ่มมองหาเจ้าอื่นที่จะทำให้กำไรเราเพิ่มขึ้นมาหน่อย อย่างแถบกรุงเทพและปริมณฑลเราจะเลือก ไปรษณีย์ไทย กับ Ninja Van เพราะส่งเร็ว แต่ไปรษณีย์ราคาจะสูงกว่า  Ninja Van  นิดหน่อย นอกจากการเลือกขนส่ง เราก็จะมีการแจ้งรายละเอียด ราคาในการส่ง ระยะเวลาส่ง ลูกค้าจะได้รับภายในกี่วัน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการส่งของกับลูกค้า และสุดท้ายและท้ายสุดสำหรับคนขายของออนไลน์สิ่งที่ควรทำคือแจ้งลูกค้าเมื่อรับสินค้าแล้วให้ถ่ายวีดีโอขณะเปิดกล่อง เพื่อเช็คสินค้าค่ะ

ที่เราร่ายมาด้านบนถือว่าเป็นการแชร์แนวคิดในการขายของออนไลน์ให้กับทุกๆคนฟังนะคะ หวังว่าเพื่อนๆจะได้ประโยชน์จากกระทู้นี้ไม่มากก็น้อยแต่หากผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะคะ วิกฤตคือโอกาสหากเราตั้งสติและพร้อมรับมือกับมันเราจะต้องผ่านมันไปให้ได้ค่ะเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆทุกคนที่กำลังเจอวิกฤตอยู่ในช่วงนี้น้า

ชื่อสินค้า:   ขายของออนไลน์

คะแนน:     

ร้านขายของไม่ดี แก้ปัญหากันยังไงคะ

เราขายของออนไลน์มา 5 ปีแล้วค่ะ
ออกมาทำเต็มตัว 3 ปี
2 ปีก่อนหน้านั้น ทำงานประจำไปด้วย ขายไปด้วย
พอรายได้น่าพอใจ จึงออกมาขายเต็มตัว

ปีแรกขายดี อยู่ได้เลยค่ะ
ชีวิตอิสระ พอมีเงินเก็บ
เพราะไม่ต้องเดินทาง ค่าใช้จ่ายน้อยลง
ภาษีสังคมน้อยลง
*ส่วนตัวเราไม่มีภาระอะไรมาก อยู่กับพ่อแม่
ช่วยค่าใช้จ่ายทางบ้านตกเดือนละ 6-7 พัน
เก็บเงินซื้อรถมือสองเงินสด และรับผิดชอบตัวเอง
ไม่ได้ฟุ่มเฟือยอะไรมาก พยายามไม่สร้างหนี้

แต่ตั้งแต่โควิดมา
รายได้ก็ลดลงมาอย่างต่อเนื่อง
ด้วยสินค้าที่เราขาย ไม่ใช่ปัจจัย 4
เลยขายยากมากๆ

รวมทั้งจากที่เราสังเกต
ร้านค้ามีเยอะมากกกกกกกกกก ขึ้น 2 เท่าตัวเลย
และพร้อมที่จะขายตัดราคาได้ตลอดเวลา
ตลาดพังมากค่ะ ท้อใจมาก
บางทีเขาเอากำไร 10 20 เอง

อายุเราก็เพิ่มมากขึ้น อยากมีรายได้ที่โอเคกว่านี้

เราหาสาเหตุของปัญหาที่เราขายได้ไม่ดี
1. โควิด สำหรับเรา ทำให้ทุกอย่างแย่ลง ทั้งรายได้
และสภาพจิตใจ ตอนแรกคิดไว้ว่า 2022
มันจะดีขึ้น แต่เห็นแล้วน่าจะแย่ไปอีกนานเลย
2. ช่องทางการขาย เราขายในไอจีช่องทางเดียวเลย
ไม่เคยยิงแอด เคยลองทำไปครั้งนึง ไม่มีผลอะไร
เลยหยุด และฝากตามร้านโปรโมทบ้าง
3. คู่แข่งตัดราคามากๆ ร้านเกิดมาใหม่ตลอดเวลา
ทำของเลียนแบบมาตลอด

เราคิดว่าจะแก้ปัญหาตามนี้ค่ะ
1. เข้าใจโควิดใหม่ ว่ามันไม่มีวันหายไป ต้องอยู่กับ
มันให้ได้ ไม่มีใครช่วยเราได้ การเยียวยาต่างๆ
ไม่เห็นผล ไม่มีใครแก้ปัญหาให้เราได้
คนที่มีหน้าที่เขาก็ทำแบบไม่มีประสิทธิภาพ
2. หาช่องทางการขายอื่นๆ เริ่มลง fb แอพส้ม
แอพน้ำเงิน สร้างคอนเท้นใน tiktok เพื่อหากลุ่มลูกค้า
ใหม่ๆ เพราะปัญหาหลักของไอจีคือเราถูกปิด
การมองเห็น ลูกค้าไม่เห็นเรา
3. ศึกษาการยิงแอด และสร้างตัวตนไปพร้อมๆกัน
4. ถูกตัดราคา อันนี้เราทำใจ และวาง target ลูกค้าใหม่ ทำสินค้าให้ดีเหมาะสมกับลูกค้าที่มีกำลังซื้อ
วางยอดขายแต่ละเดือนให้ชัดเจน เอาตามเป้าที่เรา
วางไว้เป็นหลัก ไม่เน้นทำแข่งกับเขา
5. หาสินค้าอื่นๆมาขาย ลองดูสินค้าใหม่ๆ ทดลอง
นำมาขาย หาตลาดอื่นๆ รีบลอง รีบทำ คิดว่าการมี
อาชีพเดียวไม่มั่นคงอีกต่อไป ต้องมี 2 3 4 สำรอง
เสมอ

เราแบ่งเงินเก็บเป็นรายจ่ายจำเป็นไปเลย
และพยายามสร้างตัว ตอนแรกจากศูนย์
เก็บเงิน ซื้อที่ จะสร้างครอบครัว แต่งงาน มีลูก
แต่ตอนนี้คือพักไว้ก่อนเลย
แค่คิดว่าต้องมีค่าใช้จ่ายครอบครัวตัวเอง
แล้วส่งเงินให้ที่บ้านด้วย คงยังไม่ไหว
ต้องค้างๆงงๆ แบบนี้ไปก่อน
เครียดและท้อเหมือนกัน

ทุกคนเจอปัญหาอะไรบ้างคะ
แก้ปัญหากันยังไง
บางทีคิดว่า เหนื่อยจัง อยากมั่นคง
ทำราชการหรือรัฐวิสาหกิจก็ไม่เหมาะ
วางแผนชีวิตยังไงดี
พยายามไม่เครียดมาก แต่ปัญหามันก็เห็นอยู่ทุกวันๆ