เฉลย ใบ งานที่ 4.1 1 เรื่อง ประโยชน์และโทษจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ

8. ครูให้นักเรียนศึกษาตัวอย่างการใช้บล็อกจากสถานการณ์ท่ีกาหนดไว้ในหนังสือเรียน หน้า 83 พร้อมตอบคาถาม ทา้ ทายการคิดข้ันสงู ว่า “นอกจากการสร้างส่ือการเรียนการสอน นกั เรียนคิดว่า บล็อกสามารถนามาใช้ประโยชน์ใน ดา้ นการเรียนการสอนไดอ้ ย่างไรบ้าง” (แนวตอบ : ครูสามารถใช้บล็อกในการขยายความเขา้ ใจในเน้ือหาตา่ ง ๆ เพ่ือเผยแพร่ใหน้ กั เรยี นได้ศกึ ษาและมี ความเขา้ ใจมากย่ิงขนึ้ อีกทั้งยังสามารถเป็นชอ่ งทางใหน้ ักเรียนไดแ้ ลกเปล่ยี นความรู้ร่วมกัน) ขั้นสรปุ ขน้ั ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration) 1. ครูให้นักเรียนทากิจกรรมฝึกทักษะการติดต่อส่ือสารผ่านอินเทอร์เน็ตจากหนังสือเรียน หน้า 84 จากนั้นให้นักเรียน อภปิ รายร่วมกันในหอ้ งเรยี น 2. ครูมอบหมายให้นักเรียนทา ใบงานท่ี 4.1.1 เร่ือง โปรแกรมสนทนาออนไลน์ เป็นการบ้าน และนามาส่งในช่ัวโมง ถัดไป ขน้ั ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 1. ครแู ละนกั เรยี นสรปุ รว่ มกันเก่ียวกับการติดต่อส่อื สารผ่านอนิ เทอร์เน็ต 2. ครตู รวจสอบการทาใบงานที่ 4.1.1 กิจกรรมฝึกทกั ษะและกจิ กรรมเสริมสร้างการเรยี นรู้ 3. ครปู ระเมินผลโดยการสังเกตการตอบคาถาม การรว่ มกนั ทาผลงาน และจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ 4. ครตู รวจสอบการทาแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 4 เรื่อง การใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภยั 5. ครูตรวจสอบการทากิจกรรมฝกึ ทกั ษะการตดิ ต่อสอ่ื สารผ่านอนิ เทอรเ์ น็ตในสมุดประจาตวั 7. การวดั และประเมนิ ผล วิธวี ัด เครื่องมอื เกณฑก์ ารประเมิน - ตรวจแบบทดสอบ รายการวัด ก่อนเรยี น - แบบทดสอบก่อนเรยี น ประเมนิ ตามสภาพ จริง 7.1 การประเมินก่อนเรียน - ตรวจใบงานที่ 4.1.1 - แบบทดสอบก่อนเรียน - ตรวจสมุดประจาตวั - ใบงานท่ี 4.1.1 รอ้ ยละ 60 หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 4 ผ่านเกณฑ์ เรอ่ื ง การใชอ้ ินเทอรเ์ น็ต - สงั เกตพฤติกรรม - กิจกรรมฝึกทักษะ ระดบั คุณภาพ 2 อยา่ งปลอดภยั การทางานรายบุคคล การตดิ ตอ่ ส่ือสาร ผา่ นเกณฑ์ ผ่านอนิ เทอรเ์ นต็ 7.2 การประเมินระหวา่ งการ - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ระดบั คุณภาพ 2 จดั กิจกรรม การทางานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์ 1) โปรแกรมสนทนา ออนไลน์ 2) กิจกรรมฝึกทักษะ การติดต่อสือ่ สาร ผ่านอนิ เทอร์เนต็ 3) พฤติกรรมการทางาน รายบุคคล 48

รายการวดั วิธวี ัด เครื่องมอื เกณฑก์ ารประเมนิ 4) คุณลกั ษณะ - สงั เกตความมวี ินัย ใฝเ่ รียนรู้ - แบบประเมินคุณลกั ษณะ ระดับคุณภาพ 2 อนั พึงประสงค์ และมงุ่ มนั่ ในการทางาน อนั พงึ ประสงค์ ผ่านเกณฑ์ 8. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้ 8.1 สือ่ การเรยี นรู้ 1) หนงั สอื เรยี น เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ป.5 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 เร่อื ง การใช้อินเทอรเ์ นต็ อย่างปลอดภัย 2) ใบงานท่ี 4.1.1 เรอื่ ง โปรแกรมสนทนาออนไลน์ 3) บตั รภาพสัญลกั ษณ์โปรแกรมสนทนา 4) QR Code เร่ือง การแทรกขอ้ มูลในอเี มล 8.2 แหล่งการเรยี นรู้ - 49

ใบงานท่ี 4.1.1 เร่อื ง โปรแกรมสนทนาออนไลน์ คาช้ีแจง : ให้นักเรียนบอกโปรแกรมสนทนาออนไลน์ท่ีนักเรียนใช้เป็นประจา และวาดภาพสัญลักษณ์ของโปรแกรมท่ีนักเรียนใช้ พรอ้ มอธบิ ายวา่ โปรแกรมสนทนาออนไลน์นีค้ อื อะไร และมีประโยชนก์ บั นกั เรยี นอย่างไรบา้ ง โปรแกรมสนทนาออนไลน์ที่นกั เรยี นใช้ คอื .......................................................................................................... ภาพสัญลักษณ์ โปรแกรมออนไลนน์ ี้ คอื LINE คอื แอพพลเิ คช่นั ทรี่ วมบริการระหว่าง Messaging และ Voice Over IP จงึ ทาให้เกดิ เปน็ แอพพลิเคช่ันท่ีสามารถแชท สรา้ งกลุม่ สง่ ข้อความ สง่ รูปต่างๆ โทรคุยแบบใช้เสียง และ โทรคยุ แบบเห็นหนา้ ได้ ซ่ืงทาใหม้ ีประโยชน์ต่อการสอื่ สาร เปน็ อย่างมาก แม้ว่าอยู่ไกลกนั แค่ไหนก็ ทาให้ ประโยชนข์ องโปรแกรม คือใกลก้ ันม ากยิ่งข้ึน จงึ ทาให้เกิดเป็นแอพพลิเคช่นั ทีส่ ามารถแชท สร้างกลุ่ม ส่งขอ้ ความ สง่ รูปต่างๆ โทรคุยแบบใช้เสียง และ โทรคยุ แบบเหน็ หน้าได้ ซื่งทาให้มีประโยชน์ตอ่ การส่ือสาร เปน็ อยา่ งมาก แมว้ ่าอยู่ไกลกนั แค่ไหนกท็ าให้ 50

เฉลย ใบงานท่ี 4.1.1 เร่อื ง โปรแกรมสนทนาออนไลน์ คาช้ีแจง : ให้นักเรียนบอกโปรแกรมสนทนาออนไลน์ท่ีนักเรียนใช้เป็นประจา และวาดภาพสัญลักษณ์ของโปรแกรมที่นักเรียนใช้ พร้อมอธิบายว่าโปรแกรมสนทนาออนไลนน์ ี้คืออะไร และมีประโยชนก์ ับนักเรยี นอยา่ งไรบา้ ง โปรแกรมสนทนาออนไลนท์ นี่ กั เรียนใช้ คอื ...................................L..I..N...E................................................................ ภาพสญั ลักษณ์ โปรแกรมออนไลน์นี้ คือ LINE ซ่ึงเป็นแอปพลิเคชันที่รวมบริการระหว่าง Messaging และ Voice Over IP จึงทาให้เกิดเป็นแอปพลิเคชันท่ีสามารถแชต สร้างกลุ่ม ส่งข้อความ ส่งรูปต่าง ๆ โทรคุยแบบใช้เสียง และโทรคยุ แบบเหน็ หน้าได้จึงทาให้เกิดเปน็ แอพพลิเคช่ันทสี่ ามารถแชท สร้างกลมุ่ ส่งขอ้ ค วาม สง่ รปู ประโยชน์ของโปรแกรม คือ ใช้ในการการส่ือสาร แม้ว่าอยู่ไกลกันแค่ไหนก็สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ สะดวกนแอพพลิเคช่ันท่ีสามารถแชท สร้างกลมุ่ สง่ ขอ้ ความ ส่งรูปต่างๆ โทรคุยแบบใช้เสียง และโทรคุย แบบเห็นหน้าได้ ซ่ืงทาใหม้ ีประโยชนต์ อ่ การสอ่ื สาร เป็นอย่างมาก แมว้ ่าอยู่ไกลกั น แคไ่ หนกท็ าให้ 51

บตั รภาพ   LINE Messenger Skype 52

9. ความเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษาหรอื ผทู้ ไ่ี ด้รบั มอบหมาย .......... ................... ................... ......... ) ขอ้ เสนอแนะ ลงชอ่ื ( ตาแหนง่ 10. บนั ทกึ ผลหลงั การสอน  ดา้ นความรู้  ด้านสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน  ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์  ด้านความสามารถทางวิทยาศาสตร์  ดา้ นอนื่ ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมท่มี ีปัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถ้าม)ี )  ปัญหา/อปุ สรรค  แนวทางการแกไ้ ข 53

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 2 อาชญากรรมทางอินเทอรเ์ นต็ เวลา 1 ชั่วโมง 1. มาตรฐาน/ตวั ชว้ี ัด ว 4.2 ป.5/3 ใช้อินเทอร์เน็ตค้นหาข้อมลู ติดต่อสื่อสาร และทางานรว่ มกัน ประเมนิ ความนา่ เชื่อถือของข้อมลู ว 4.2 ป.5/5 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย มีมารยาท เข้าใจสิทธิและหน้าท่ีของตน เคารพในสิทธิของผู้อื่น แจ้งผู้ เกย่ี วข้องเมื่อพบขอ้ มูลหรือบุคคลท่ไี มเ่ หมาะสม 2. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. บอกความหมายของอาชญากรรมทางอินเทอรเ์ นต็ ได้ (K) 2. ยกตวั อย่างอาชญากรรมทางอินเทอรเ์ น็ตได้ (K) 3. สืบคน้ ข้อมลู แนวทางปอ้ งกนั การเกดิ ปัญหาอาชญากรรมได้ (P) 4. เลง็ เห็นถึงความสาคัญเกย่ี วกับอาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ น็ต (A) 5. สนใจใฝร่ ู้ในการศกึ ษา (A) 3. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนร้แู กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ ้องถน่ิ - การค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต และการพิจารณาผลการ พิจารณาตามหลักสตู รของสถานศกึ ษา คน้ หา - อันตรายจากการใช้งานและอาชญากรรมทางอนิ เทอร์เน็ต 4. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด ในปัจจุบนั ปัญหาอาชญากรรมอนิ เทอร์เนต็ มีจานวนเพ่ิมมากขึ้นเร่ือย ๆ โดยการใช้คอมพิวเตอร์และเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เป็นเคร่ืองมือในการกระทาความผิด เพื่อให้ผู้อื่นเกิดความเสียหาย หรือเสื่อมเสียชื่อเสียง ดังนั้น จึงควรปฏิบัติตนตามแนวทาง ปอ้ งกนั การเกิดปัญหาอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต 5. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียนและคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มีวนิ ยั 2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 3. มุง่ มัน่ ในการทางาน 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 6. ทักษะการคิดอยา่ งมีวิจารณญาณ 7. ทักษะการใช้เทคโนโลยี 8. ทกั ษะการส่อื สาร 54

6. กิจกรรมการเรยี นรู้  วธิ กี ารสอนโดยเน้นการจัดการเรียนรู้แบบใช้ปญั หาเป็นฐาน (problem-based learning) ช่วั โมงท่ี 1 ขัน้ นา ครูกระตุ้นความสนใจของนักเรียนโดยถามคาถามประจาหัวข้อว่า “นักเรียนมีวิธีป้องกันการเกิดอาชญากรรมทาง อินเทอรเ์ น็ตท่อี าจจะเกิดข้นึ กับตนเองอย่างไร” (แนวตอบ : ตัดการเช่ือมต่ออินเทอร์เน็ตทุกคร้ังหลังเลิกใช้งาน ติดต้ังโปรแกรมสแกนไวรัส ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัว ลงบนเวบ็ ไซต์ตา่ ง ๆ) ขัน้ สอน ข้นั ท่ี 1 กาหนดปญั หา ครถู ามคาถามนักเรยี นว่า “นกั เรยี นจะมวี ิธกี ารปอ้ งกนั การเกิดปัญหาอาชญากรรมทางอินเทอรเ์ น็ตได้อยา่ งไร” ขน้ั ท่ี 2 ทาความเขา้ ใจปัญหา ครใู หน้ ักเรียนทาความเขา้ ใจเกย่ี วกับอาชญากรรมทางอนิ เทอร์เน็ต พรอ้ มศึกษาเกีย่ วกับอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ตท่ี เกิดข้นึ บอ่ ย ๆ ในหนงั สือเรยี น หนา้ 86 ขั้นท่ี 3 ดาเนินการศึกษาค้นควา้ 1. ครอู ธบิ ายเกีย่ วกบั ประเภทของอาชญากรรมทางอินเทอรเ์ นต็ ท้งั 6 ประเภทจากหนงั สอื เรยี น หนา้ 87 และครูอธิบาย เพ่ิมว่า “ในปัจจุบันปัญหาอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ตมีจานวนเพ่ิมมากขึ้น และเพ่ือเป็นการป้องกันตนเองจาก ปญั หาดังกล่าวเราจงึ ควรปฏิบตั ติ นตามแนวทางปอ้ งกนั การเกิดปญั หาอาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ นต็ ” 2. ครถู ามคาถามนักเรียนว่า “นกั เรียนมวี ธิ ีอะไรบา้ งท่จี ะช่วยป้องกนั การเกิดอาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ น็ตได”้ (แนวตอบ : ไมเ่ ปดิ เผยข้อมลู ส่วนตวั ของตนเอง ต้ังรหัสผ่านในการเข้าใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ ไม่นาข้อมูลท่ีอยู่ใน คอมพวิ เตอรข์ องผอู้ น่ื ออกมาใชห้ รือเผยแพร่) 3. ครูให้นักเรียนศึกษาแนวทางป้องกันการเกิดปัญหาอาชญากรรมในหนังสือเรียน หน้า 88 หรือให้นักเรียนสแกน QR Code เร่ืองการป้องกันอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต จากนั้นครูถามคาถามท้าทายการคิดข้ันสูงว่า “นักเรียน คิดว่าอะไรเป็นสาเหตทุ ีท่ าใหเ้ กิดปัญหาอาชญากรรมทางอนิ เทอร์เนต็ ” (แนวตอบ : การแสวงหาผลประโยชนอ์ ยา่ งผดิ กฎหมาย การขยายตัวของอาชญากรรม) ขนั้ ท่ี 4 สังเคราะห์ความรู้ 1. ครใู ห้นักเรียนทากจิ กรรมฝกึ ทกั ษะอาชญากรรมทางอินเทอร์เนต็ ในหนังสอื เรียน หน้า 89 ลงในสมุด 2. ครใู ห้นกั เรยี นทา ใบงานที่ 4.2.1 เรอื่ ง การป้องกันการเกิดอาชญากรรมทางอินเทอรเ์ น็ต โดยให้นักเรียนสืบค้นข้อมูล ปัญหาอาชญากรรมทางอินเทอร์เนต็ และแนวทางการปอ้ งกนั ปญั หาจากแหลง่ ข้อมลู สารสนเทศต่าง ๆ 55

ข้นั สรปุ ขน้ั ที่ 5 สรุปและประเมนิ คา่ ของคาตอบ ครสู ่มุ นักเรยี น 2-3 คน ออกมาอภิปรายปัญหาและแนวทางการปอ้ งกนั อาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ นต็ ขั้นท่ี 6 นาเสนอและประเมนิ ผลงาน 1. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรุปเนื้อหา เรอ่ื ง อาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ นต็ 2. ครูเปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นซักถามข้อสงสัย โดยครูให้ความร้เู พิม่ เติมในส่วนนนั้ 3. ครปู ระเมนิ ผลโดยการสังเกตการตอบคาถาม การทาผลงาน สมดุ ประจาตัว และกจิ กรรมทักษะ 4. ครตู รวจสอบการทาใบงานที่ 4.2.1 เรื่อง การปอ้ งกนั การเกิดอาชญากรรมทางอินเทอรเ์ น็ต 5. ครตู รวจสอบการทากจิ กรรมฝกึ ทกั ษะอาชญากรรมทางอินเทอรเ์ น็ตในสมุดประจาตัว 7. การวัดและประเมนิ ผล วิธวี ัด เครื่องมอื เกณฑ์การประเมิน รายการวดั - ตรวจใบงานที่ 4.2.1 - ใบงานที่ 4.2.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 7.1 การประเมินระหว่างการ - ตรวจสมุดประจาตัว - กิจกรรมฝึกทักษะ ระดับคุณภาพ 2 จดั กิจกรรม อาชญากรรมทาง ผ่านเกณฑ์ 1) การป้องกนั การเกิด - ประเมินการนาเสนอ อนิ เทอรเ์ นต็ ระดบั คุณภาพ 2 ผลงาน - ผลงานที่นาเสนอ ผ่านเกณฑ์ ปญั หาอาชญากรรมทาง - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดบั คุณภาพ 2 อนิ เทอรเ์ นต็ การทางานรายบุคคล การทางานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์ 2) กจิ กรรมฝึกทกั ษะ - สังเกตความมวี ินยั ใฝ่เรียนรู้ - แบบประเมนิ คุณลักษณะ ระดับคุณภาพ 2 อาชญากรรมทาง และมุ่งมน่ั ในการทางาน อันพึงประสงค์ ผา่ นเกณฑ์ อนิ เทอร์เน็ต 3) การนาเสนอผลงาน 4) พฤติกรรมการทางาน รายบุคคล 5) คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สอ่ื การเรียนรู้ 1) หนังสือเรยี น เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ป.5 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 เรอ่ื ง การใช้อนิ เทอร์เนต็ อย่างปลอดภยั 2) ใบงานที่ 4.2.1 เรื่อง การป้องกนั การเกิดปัญหาอาชญากรรมทางอนิ เทอร์เน็ต 3) QR Code เรอ่ื ง การปอ้ งกันอาชญากรรมทางอินเmอรเ์ นต็ 8.2 แหลง่ การเรยี นรู้ อนิ เทอรเ์ นต็ 56

ใบงานท่ี 4.2.1 เรือ่ ง การปอ้ งกันการเกิดปัญหาอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต คาชี้แจง : ให้นักเรียนสืบค้นข้อมูลเก่ียวกับปัญหาอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต และแนวทางการป้องกันปัญหาจากแหล่งข้อมูล สารสนเทศต่าง ๆ มา 3 ข้อ ปัญหาอาชญากรรมทางอนิ เทอร์เน็ต แนวทางการปอ้ งกันปัญหา 1. การละเมิดลิขสิทธ์ิ นาผลงานของผู้อื่นไปใชป้ ระโยชน์โดย 1. ควรใส่เครดิตในผลงานทเ่ี รานามาใช้ ” ” ไมไ่ ดร้ ับอนญุ าต ” 2. ขออนุญาตเจ้าของผลงานก่อนนาผลงานมาใช้ ” ” “ ”“ “ ”“ 2. การเจาะระบบเข้าไปทาลายระบบคอมพิวเตอร์ หรือนา ตั้งรหัสผ่านในการเข้าสู่เคร่ืองคอมพิวเตอร์ให้คาดเดายาก ข้อมลู ของผอู้ ื่นออกมาใช้งาน ” และไม่บอกรหัสการเข้าเคร่ืองคอมพิวเตอร์ให้กับผู้อื่น และ “ ” เปลีย่ นรหัสผา่ นทกุ ๆ 2 - 3 เดือน ” “ ”“ ” 3. การเผยแพร่ภาพน่ิงหรือภาพเคลือ่ นไหวลามกอนาจารลง ไมเ่ ข้าไปยังเว็บไซตท์ ีด่ ูไมน่ ่าไว้วางใจและดาวน์โหลดข้อมูล บนอนิ เทอร์เนต็ ” หรอื เอกสารตา่ งๆ ควรดาวนโ์ หลดจากเวบ็ ไซตท์ เี่ ชื่อถือได้ “ ” เทา่ นน้ั “ ” “ ”“ ” 57

เฉลย ใบงานท่ี 4.2.1 เรอ่ื ง การปอ้ งกนั การเกดิ ปญั หาอาชญากรรมทางอนิ เทอร์เนต็ คาช้ีแจง : ให้นักเรียนสืบค้นข้อมูลเก่ียวกับปัญหาอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต และแนวทางการป้องกันปัญหาจากแหล่งข้อมูล สารสนเทศตา่ ง ๆ มา 3 ขอ้ ปญั หาอาชญากรรมทางอินเทอรเ์ น็ต แนวทางการป้องกันปญั หา 1. การละเมดิ ลขิ สทิ ธ์ิ นาผลงานของผู้อ่ืนไปใชป้ ระโยชนโ์ ดย 1. ควรใสเ่ ครดติ ในผลงานทเ่ี รานามาใช้ ” ” ไม่ไดร้ บั อนญุ าต ” 2. ขออนุญาตเจา้ ของผลงานก่อนนาผลงานมาใช้ ” ” “ ”“ “ ”“ 2. การเจาะระบบเข้าไปทาลายระบบคอมพิวเตอร์ หรือนา ตั้งรหัสผ่านในการเข้าสู่เคร่ืองคอมพิวเตอร์ให้คาดเดายาก ข้อมูลของผู้อน่ื ออกมาใช้งาน ” และไม่บอกรหัสการเข้าเคร่ืองคอมพิวเตอร์ให้กับผู้อ่ืน และ “ ” เปลย่ี นรหัสผ่านทุก ๆ 2-3 เดือน ” “ ”“ ” 3. การเผยแพรภ่ าพน่ิงหรอื ภาพเคลอื่ นไหวลามกอนาจารลง ไม่เขา้ ไปยังเว็บไซตท์ ่ีดูไมน่ า่ ไว้วางใจและดาวน์โหลดขอ้ มูล ” บนอนิ เทอร์เน็ต ” หรือเอกสารตา่ ง ๆ ควรดาวน์โหลดจากเวบ็ ไซต์ทเ่ี ชอ่ื ถอื ได้ ” “ ” เท่าน้ัน“ ” “ ”“ ” 58

9. ความเห็นของผ้บู ริหารสถานศึกษาหรือผู้ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ........ ................... ................... ......... ) ขอ้ เสนอแนะ ลงช่ือ ( ตาแหน่ง 10. บันทกึ ผลหลงั การสอน  ดา้ นความรู้  ด้านสมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน  ด้านคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์  ด้านความสามารถทางวิทยาศาสตร์  ด้านอน่ื ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤตกิ รรมท่มี ีปัญหาของนักเรียนเป็นรายบคุ คล (ถ้ามี))  ปัญหา/อปุ สรรค  แนวทางการแกไ้ ข 59

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 3 มารยาทในการติดต่อสอื่ สารผ่านอนิ เทอร์เน็ต เวลา 1 ช่ัวโมง 1. มาตรฐาน/ตวั ช้วี ัด ว 4.2 ป.5/3 ใช้อนิ เทอร์เน็ตคน้ หาข้อมลู ตดิ ต่อส่ือสาร และทางานรว่ มกนั ประเมินความนา่ เช่ือถือของข้อมลู ว 4.2 ป.5/5 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย มีมารยาท เข้าใจสิทธิและหน้าท่ีของตน เคารพในสิทธิของผู้อ่ืน แจ้งผู้ เกย่ี วขอ้ งเมอ่ื พบขอ้ มูลหรือบคุ คลที่ไม่เหมาะสม 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกมารยาทในการติดตอ่ สื่อสารผ่านอินเทอรเ์ นต็ ได้ (K) 2. สืบคน้ ข้อมูลจากแหล่งสารสนเทศได้ (P) 3. เล็งเหน็ ถึงความสาคัญของมารยาทในการตดิ ต่อสื่อสารผ่านอนิ เทอรเ์ นต็ (A) 3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถิ่น - การคน้ หาข้อมูลในอินเทอรเ์ น็ต และพจิ ารณาผลการคน้ หา พิจารณาตามหลกั สูตรของสถานศกึ ษา - มารยาทในการติดต่อสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ต (บูรณาการ กบั วชิ าที่เก่ียวขอ้ ง) 4. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด ปัจจุบันการติดต่อส่ือสารผ่านอินเทอร์เน็ตได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ทั่วโลก แต่การ ติดตอ่ ส่อื สารท่ดี นี ้นั จะต้องสื่อสารอย่างมมี ารยาท 5. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียนและคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ความสามารถในการส่ือสาร 1. มวี ินยั 2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 3. ม่งุ มัน่ ในการทางาน 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. ทักษะการส่อื สาร 7. ทักษะการคิดสร้างสรรค์ 8. ทกั ษะการใช้เทคโนโลยี 60

6. กจิ กรรมการเรียนรู้  วธิ กี ารสอนโดยเนน้ รูปแบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ชั่วโมงที่ 1 ขน้ั นา ข้นั ที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement) 1. ครูถามคาถามประจาหวั ขอ้ วา่ “การตดิ ต่อส่ือสารทดี่ ีผา่ นอนิ เทอรเ์ น็ตควรทาอย่างไร” (แนวตอบ : ใช้ภาษาสุภาพและใช้คาใหถ้ ูกต้องตามหลกั ไวยากรณ์ หลีกเลี่ยงการใช้ภาษาท่ีดถู ูก เหยยี ดหยามผู้อนื่ ) 2. ครูถามนักเรยี นโดยใช้คาถามกระตุ้นความสนใจของนักเรียนว่า “ปัจจบุ ันเราติดตอ่ สื่อสารกันผา่ นชอ่ งทางใดบ้าง” (แนวตอบ : โทรศพั ทม์ ือถือ สงั คมออนไลนต์ ่าง ๆ เชน่ Facebook LINE Twitter Skype) ขัน้ สอน ขั้นท่ี 2 สารวจคน้ หา (Exploration) ครใู ห้นกั เรยี นสบื ค้นช่องทางการติดต่อสอ่ื สารในปัจจบุ นั ผ่านทางอนิ เทอรเ์ น็ต ขั้นท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation) 1. ครใู ห้นกั เรยี นศึกษามารยาทในการตดิ ต่อสือ่ สารผา่ นอนิ เทอรเ์ นต็ ใน หนังสือเรียน หน้า 90 พร้อมถามคาถามท้าทาย การคิดข้นั สูงว่า “ถ้าทุกคนบนโลกไม่เขา้ ใจเรอื่ งมารยาทในการใชอ้ ินเทอรเ์ นต็ จะเป็นอยา่ งไร” (แนวตอบ : การละเมิดสิทธ์ิของผู้อื่น อาจเกิดการทะเลาะเบาะแว้ง มีการฟ้องร้องหม่ินประมาทตามมา และทาให้ ผู้อ่ืนได้รับความเสียหายหรือเส่ือมเสียช่ือเสียง เผยแพร่ข้อความ หรือภาพน่ิงท่ีผิดกฎหมาย หรือขัดกับศีลธรรม อันดีงามของสังคมไทย) 2. ครูให้นักเรียนศึกษาตัวอย่างมารยาทในการติดต่อส่ือสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตจากสถานการณ์ในหนังสือเรียน หน้า 91 3. ครแู ละนักเรียนร่วมกันวิเคราะหแ์ ละแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณต์ ัวอย่างจากหนังสอื เรียน 4. ครูอธิบายเพิ่มเติมให้นักเรียนฟังเกี่ยวกับส่ิงท่ีควรทาและไม่ควรทาในการติดต่อสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตว่า “ส่ิงที่ควรระวังในการติดต่อสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ต น่ันคือ คาพูด นักเรียนควรเลือกใช้คาพูดให้เหมาะสมตาม กาลเทศะ เช่น พูดกับผู้ใหญ่กค็ วรจะมีคาลงท้าย ดังน้ี สวัสดคี ะ่ ขอบคณุ ครับ รบกวนสอบถามหน่อยครับ ส่วนส่ิงไม่ ควรกระทานัน่ คอื การตาหนิโดยใช้คาหยาบคายท่ีเป็นการเหยียดหยามทาให้ผู้อ่ืนเสื่อมเสียชื่อเสียง เช่น พูดนินทา กับผู้อื่นว่าพนักงานคนน้ีจะต้องได้รับเงินใต้โต๊ะก่อนจึงจะเต็มใจทางานให้ หรือพูดกล่าวหาเพ่ือนว่าขโมยของใน สหกรณ์โรงเรียนโดยไม่มหี ลักฐาน” ขั้นสรุป ขัน้ ที่ 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration) 1. ครูให้นักเรียนทากิจกรรมฝึกทักษะมารยาทในการติดต่อสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ต ในหนังสือเรียน หน้า 92 โดยให้ นักเรยี นสรา้ งผงั ความคดิ และบันทกึ ลงในสมดุ 2. ครสู ่มุ นกั เรยี น 2-3 คนออกมานาเสนอผลงานของตนเอง และครูอธิบายรายละเอียดต่าง ๆ เพมิ่ เตมิ 61

ข้ันที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 1. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันสรปุ เนอ้ื หาโดยภาพรวมเก่ียวกับมารยาทในการตดิ ตอ่ ส่ือสารผา่ นอินเทอร์เนต็ 2. ครปู ระเมินผล โดยการสงั เกตการตอบคาถาม การรว่ มกนั ทางาน การนาเสนอผลงาน และการทากิจกรรมฝึกทกั ษะ 3. ครูตรวจสอบการทากจิ กรรมฝึกทักษะมารยาทในการตดิ ต่อส่อื สารผา่ นอนิ เทอรเ์ นต็ ในสมุดประจาตวั 7. การวัดและประเมนิ ผล วิธีวัด เคร่ืองมอื เกณฑ์การประเมิน รายการวดั - ตรวจสมดุ ประจาตวั - กิจกรรมฝึกทักษะ ระดับคุณภาพ 2 7.1 การประเมนิ ระหว่างการ - ประเมนิ การนาเสนอผลงาน มารยาทในการ ผ่านเกณฑ์ ติดตอ่ สื่อสาร จัดกจิ กรรม ผ่านอนิ เทอรเ์ น็ต ระดับคุณภาพ 2 1) กจิ กรรมฝึกทักษะ - ผลงานที่นาเสนอ ผา่ นเกณฑ์ ระดบั คุณภาพ 2 มารยาทในการ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ผ่านเกณฑ์ ติดต่อสื่อสาร การทางานรายบุคคล การทางานรายบุคคล ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านอินเทอร์เนต็ - สังเกตความมวี นิ ยั ใฝ่เรียนรู้ - แบบประเมินคุณลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์ 2) การนาเสนอผลงาน และมุ่งมั่นในการทางาน อันพงึ ประสงค์ 3) พฤติกรรมการทางาน รายบคุ คล 4) คณุ ลักษณะ อันพึงประสงค์ 8. ส่อื /แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สอื่ การเรียนรู้ หนังสอื เรียน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ป.5 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 4 การใชอ้ นิ เทอร์เน็ตอย่างปลอดภยั 8.2 แหลง่ การเรียนรู้ อินเทอรเ์ นต็ 62

9. ความเห็นของผ้บู ริหารสถานศึกษาหรือผู้ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ........ ................... ................... ......... ) ขอ้ เสนอแนะ ลงช่ือ ( ตาแหน่ง 10. บันทกึ ผลหลงั การสอน  ดา้ นความรู้  ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน  ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์  ด้านความสามารถทางวิทยาศาสตร์  ด้านอ่ืน ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤตกิ รรมท่มี ีปัญหาของนักเรียนเป็นรายบคุ คล (ถ้ามี))  ปญั หา/อุปสรรค  แนวทางการแกไ้ ข 63

คูม่ ือครู 01 02 06 03 รายวชิ าพืน้ ฐาน (เทวทคิ ยโนาโกลายรี คาํ นวณ) ป.5ตามมาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชีว้ ัด 05 กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) 04 ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 หลักตสวัตู อรยป่ารงบั ปรงุ ’60 M;*S LOY _EDW ;ETDI-V [email protected];Yh 2T; แจกฟรีM;*S LOY _EWD;[email protected];Yh 2T;I9V DTJTL7เฉEพาะครูผูส้ อน ( ʏɿΥ ʊʘɩʘʋɬʚɿʙɬʁʜʁʏʜɻʍʊ)Φ Ë¹Ñ§ÊÍ× àÃÂÕ ¹ à·¤â¹âÅÂÕ (ÇÔ·ÂÒ¡ÒäÒí ¹Ç³) ». 1 -Sh;=ER8CJ$X KT=9 Wg 5 $GCZ LTER$TE_EDW ;EI[ V9DTJTL77TECC¤T,7<ES<2=T;E$<S T=EE_EZ*DW;@Eª`[JGªR275SI6-0hWI6S) _9'a;aGDW ¤I9V DT$TE'U;I5¥=ª± ʃ˺5 7TCMGS$L7[ E`$;$GT*$TEJX$KT%hS;@Yh;2T;@Z9:JS$ET-®±±­ ©›³ àïÁèÔ´µ™¹Œ—¶ ¤q คมู่ อื ครู อจท. ·Óª§Ç‹ Ò§¹àªºÒŒ ÒŒ ¹ ใช้ประกอบการสอนค่กู บั หนงั สอื เรียน äÁÁ‹ àÕ ÃÂÕ ¹ ÁàÕ ÃÂÕ ¹¾àÔ ÈÉ ÁàÕ ÃÂÕ ¹ เพิม่ คำแนะนำการใช้ Ã´Õ ¼ÒŒ àÃÍÂÕ Í¹¡¾äàÔ»ÈÉ เพิ่ม คำอธบิ ายรายวชิ า ¡ÅºÑ ¡Í‹ ¹ 17.00 ¹. เพม่ิ Pedagogy เพิม่ Teacher Guide Overview ʹéÔ Ê´Ø เพม่ิ Chapter Overview ©›³ ¯´™—¶ ¤q เพ่ิม Chapter Concept Overview 5S2BS9E `$I E7S ;B9S E เพ่ิม เพิ่ม ข้อสอบเนน้ การคดิ กิจกรรม 21st Century Skills 5S2B9S E`$I E7S ;B9S E ภาพปกนม้ี ขี นาดเทา่ กบั หนงั สอื เรยี นฉบบั จรงิ ของนกั เรยี น ผ้เู รียบเรยี งคู่มอื ครู นกั วชิ าการ STEM เพมิ่ คําแนะนําการใช้ ช่วยสร้างความเข้าใจ เพื่อใช้คู่มือครู Chapter Overview ช่วยสร้างความเข้าใจ และ ไดอ้ ยา่ งถูกต้องและเกดิ ประสทิ ธภิ าพสงู สุด คําอธิบายรายวิชา แสดงขอบข่ายเนื้อหาสาระของ เห็นภาพรวมในการออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชา ซ่ึงครอบคลมุ มาตรฐานการเรยี นรู้ และตัวชวี้ ดั ตาม แต่ละหน่วย ทหี่ ลกั สูตรกาํ หนด Pedagogy ช่วยสร้างความเขา้ ใจในกระบวนการออกแบบ Chapter Concept Overview ชว่ ยใหเ้ ห็นภาพรวม การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ได้อย่าง มปี ระสิทธภิ าพ Concept และเนือ้ หาสําคัญของหน่วยการเรยี นรู้ Teacher Guide Overview ช่วยให้เห็นภาพรวมของ การจดั การเรยี นการสอนทงั้ หมดของรายวชิ า กอ่ นทจ่ี ะลงมอื ขอ้ สอบเนน้ การคดิ /ขอ้ สอบแนว O-NET เพอ่ื เตรียม สอนจริง ความพรอ้ มของผเู้ รยี นสกู่ ารสอบในระดับตา่ ง ๆ กิจกรรม 21st Century Skills กิจกรรมที่จะช่วย พฒั นาผเู้ รยี นใหม้ ที กั ษะทจี่ าํ เปน็ สาํ หรบั การเรยี นรแู้ ละการ ดํารงชวี ติ ในโลกแหง่ ศตวรรษท่ี 21 64

ค�ำแนะน�ำกำรใช้ คู่มือครู รายวิชาพ้ืนฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคํานวณ) ป.5 จัดท�าข้ึนเพ่ือให้ครูผู้สอนใช้เป็นแนวทางวางแผนการจัดการเรียนการ สอน เพ่ือพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและประกันคุณภาพผู้เรียน ตามนโยบายของส�านกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) Chapter Overview เพทโดยเลอื ก Trim โครงสร้างแผนและแนวทางการประเมนิ ผู้เรยี น นาํ นาํ สอน โซน 1สรปุ ประเมนิ ประจ�าหน่วยการเรยี นรู้ ขนั้ นาํ 4 ¡ารãªÍŒ ¹Ô à·Íรà ¹µçËน่ÇยการàรÕยนรŒ·Ù èÕ Chapter Concept Overview ÍÂÒ‹ §»ÅÍ´ÀÂÑ กระตนุ ความสนใจ สรปุ สาระสา� คัญประจ�าหนว่ ยการเรยี นรู้ ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียนของ หนวยการเรียนรูท่ี 4 การใชอินเทอรเน็ตอยาง ปลอดภยั เพอื่ วดั ความรูเ ดมิ ของนกั เรยี นกอ นเขา สกู ิจกรรม ÊÇัÊดÕ นกั àรÕยนมÕÇÔ¸กÕ ารãªงŒ าน ÊÇÊั ดÕ อินเทอร์เน็ตอÂา‹ งäร ãËปŒ ลอดภยั โซน 1 ชว่ ยครูจดั แนวตอบ ประจาํ หนวยการเรยี นรู หนังสือเลมเนนื้อี้อหยาูในอราะจหมวีกาางรสปงรตับรปวรจุงพแิจกาไรขณาตัวชีว้ ัด เชน ติดตั้งโปรแกรมสแกนไวรัส ต้ังรหัสผาน กำรเรยี นกำรสอน ว 4.2 ป.5/3 ใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ ค้นหาข้อมูล ตดิ ต่อสอื่ สาร และท�างานรว่ มกัน ประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้แก่ผู้สอน ในการเขาสเู คร่ืองคอมพิวเตอรใหค าดเดาไดย าก ว 4.2 ป.5/4 รวบรวม ประเมนิ น�าเสนอข้อมลู และสารสนเทศ ตามวัตถปุ ระสงคโ์ ดยใชซ้ อฟต์แวร์หรอื บริการ โดยแนะนา� ขั้นตอนการสอน และการจัดกจิ กรรมอยา่ งละเอยี ด บนอนิ เทอร์เน็ตที่หลากหลาย เพ่อื แกป้ ญหาในชีวิตประจ�าวนั เพอื่ ให้นกั เรยี นบรรลุผลสัมฤทธิ์ตามตัวชว้ี ดั ว 4.2 ป.5/5 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั มมี ารยาท เขา้ ใจสทิ ธแิ ละหนา้ ท่ีของตน เคารพในสิทธิของผูอ้ น่ื แจง้ ผเู้ ก่ียวข้องเมื่อพบขอ้ มลู หรือบุคคลทไ่ี ม่เหมาะสม น�ำ สอน สรุป ประเมนิ เกร็ดแนะครู ขอสอบเนน การคดิ โซน 2 ช่วยครเู ตรยี มสอน ครอู าจใหน กั เรยี นสนทนาเกยี่ วกบั อนิ เทอรเ นต็ โดยใหน กั เรยี นทกุ คนชว ยกนั นกั เรยี นคิดวา อินเทอรเน็ตมีความสาํ คัญในชีวติ ประจําวนั ประกอบด้วยองค์ประกอบต่าง ๆ ท่ีเป็นประโยชน์เพ่ือ แสดงความคดิ เหน็ วา อนิ เทอรเ นต็ (Internet) คอื อะไร แลว ครอู ธบิ ายเพม่ิ เตมิ ให ของนกั เรยี นหรือไม เพราะอะไร ชว่ ยลดภาระในการสอนของครผู สู้ อน นกั เรยี นเขา ใจวา อนิ เทอรเ นต็ คอื แหลง ขอ มลู ขนาดใหญ และมคี วามหลากหลาย เชน ภาพ วิดโี อ ขอความ และอนิ เทอรเน็ตยังเปนชองทางในการติดตอ ส่อื สาร (แนวคําตอบ อินเทอรเน็ตมีความสําคัญในชีวิตประจําวัน เกรด็ แนะครู ทม่ี คี วามสะดวกและรวดเร็วอีกดวย เพราะสามารถใชเ ปน แหลง คน ควา หาขอ มลู ตา งๆ ได ซง่ึ มที ง้ั ขอ มลู ภาพ วดิ โี อ ขอความ สามารถสรางความผอนคลายได เนื่องจาก ความรเู้ สรมิ สา� หรบั คร ู ขอ้ เสนอแนะ ขอ้ สงั เกต แนวทางการจดั สามารถฟงเพลงหรอื ดรู ายการโทรทศั นย อ นหลงั และออนไลนไ ด) กิจกรรมเพอ่ื ประโยชน์ในการจัดการเรยี นการสอน โซน 3 นกั เรียนควรรู้ โซน 2 ความรเู้ พมิ่ เตมิ จากเนอื้ หา เพอื่ ใหค้ รนู า� ไปใชอ้ ธบิ ายใหน้ กั เรยี น T84 เรยี นร้คู า� ศัพท์ (วทิ ยาการคํานวณ) ส่อื Digital อธิบายค�าศัพทท์ มี่ ีในบทเรียนเพิ่มเตมิ การแนะน�าแหล่งคน้ คว้าจากสื่อ Digital ตา่ ง ๆ แนวทางการวัดและประเมนิ ผล การเสนอแนะแนวทางในการวดั และประเมนิ ผลนกั เรยี นทสี่ อดคลอ้ ง กบั แผนการสอน 66

โดยใชห้ นังสือเรยี น รายวิชาพนื้ ฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคาํ นวณ) ป.5 และแบบฝกหัด รายวิชาพ้ืนฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคํานวณ) ป.5 ของบริษทั อักษรเจรญิ ทัศน์ อจท. จา� กดั เปน็ ส่ือหลกั (Core Meterial) ประกอบการสอน และการ จดั กจิ กรรมการเรียนรูใ้ หส้ อดคล้องกบั มาตรฐานการเรียนร้ ู และตัวชี้วัดของกลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 โดยคมู่ อื ครมู อี งคป์ ระกอบทง่ี า่ ยตอ่ การใชง้ าน ดงั นี้ โซน 1 นาํ สอน สรปุ ประเมนิ โซน 3 ชว่ ยครเู ตรียมนักเรยี น การนําอินเทอรเ น็ต 1. ¡ารµ´Ô µÍ‹ สè×Íสาร¼า‹ ¹ ขน้ั สอน ประกอบด้วยแนวทางการจัดกิจกรรม และเสนอแนะ เขา มาใช ในการ Í¹Ô à·Íรà ¹µç แนวข้อสอบ เพอ่ื อ�านวยความสะดวกให้แก่ครผู สู้ อน ตดิ ตอ สอื่ สารมี การติดต่อสอ่ื สารผ่านอินเทอร์เนต็ เปน็ สาํ รวจคน หา ประโยชนอ ยางไร บริการท่ีช่วยตอบสนองความต้องการในการ ครูถามคําถามกระตุนความสนใจนักเรียนวา กิจกรรม 21st Century Skills สื่อสารของมนุษย์ให้มีความสะดวกสบายมาก ยงิ่ ขน้ึ โดยการตดิ ตอ่ สอื่ สารผา่ นอนิ เทอรเ์ นต็ ในปจ จบุ นั สามารถ “นักเรียนรูจักการติดตอสื่อสารผานอินเทอรเน็ต กิจกรรมที่ให้นักเรียนได้ประยุกต์ใช้ความรู้มาสร้างชิ้นงาน ท�าได้ 3 แบบ ดังนี้ แบบใดบาง” หรอื ทา� กจิ กรรมรวบยอดเพอ่ื ใหเ้ กดิ คณุ ลกั ษณะทรี่ ะบใุ นทกั ษะ 1) ไปรษณยี อ์ เิ ลก็ ทรอนกิ ส ์ หรอื อเี มล (E-mail) เปน็ บรกิ าร แหง่ ศตวรรษท่ี 21 รับส่งจดหมายผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตจากบุคคลหน่ึงไปยัง (แนวตอบ คาํ ตอบขน้ึ อยกู บั ดลุ พนิ จิ ของครผู สู อน) บุคคลอื่น ๆ ซึ่งสามารถสง่ ได้ทั้งขอ้ ความ เสยี ง รูปภาพ วดิ ีโอ อธบิ ายความรู ขอ้ สอบเน้นการคดิ และไฟล์ต่าง ๆ โดยผู้ส่งและผู้รับจะต้องมีที่อยู่อีเมล (E-mail 1. ครูผูสอนอธิบายความหมายของไปรษณีย Address) เพือ่ ใช้ในการแสดงตัวตน ตัวอย่างข้อสอบที่มุ่งเน้นการคิด มีทั้งปรนัย-อัตนัย พร้อม 1. การเข้าใช้งานอีเมล ถ้าผู้ใช้ท่ียังไม่มีบัญชีผู้ใช้และ อเิ ล็กทรอนิกส เฉลยอยา่ งละเอยี ด ต้องการจะเข้าใช้งานอีเมลจะต้องสร้างบัญชีผู้ใช้ก่อนจึงจะเข้า 2. ครูใหนักเรียนเขาเว็บไซต www.gmail.com ใชง้ านได ้ โดยมีขน้ั ตอนปฏิบตั ิ ดงั น้ี กจิ กรรมทา้ ทาย เพื่อสรางบัญชีผูใช โดยปฏิบัติตามข้ันตอนใน www.gmail.com 1 2 หนั เงนื้สืออเหลามอนี้าจอมียูใกนารระปหรัวาบงปสรุงงแตกรไวขจพิจารณา หนังสือเรียน เทคโนโลยี (วิทยาการคํานวณ) เสนอแนะแนวทางการจดั กจิ กรรม เพอ่ื ตอ่ ยอดสา� หรบั นกั เรยี น 77 ป.5 หนา 77-78 ทเ่ี รยี นรไู้ ดอ้ ยา่ งรวดเรว็ และตอ้ งการทา้ ทายความสามารถใน 1. เขา้ สเู่ ว็บไซต์ทใ่ี ห้บริการอีเมล ระดับทีส่ ูงข้นึ แนวตอบ คาํ ถามสาํ คญั ประจาํ หัวขอ ในทีน่ ี ้ คอื www.gmail.com การตดิ ตอ สอ่ื สารผา นอนิ เทอรเ น็ต เปน บรกิ าร กจิ กรรมสรา้ งเสรมิ 2. คลกิ เลอื ก สรา้ งบัญช ี เพอ่ื สร้าง ที่ชวยตอบสนองความตองการในการส่ือสารของ เสนอแนะแนวทางการจดั กจิ กรรมซอ่ มเสรมิ สา� หรบั นกั เรยี นท่ี มนษุ ยใ หมคี วามสะดวกสบายยิง่ ขึ้น ควรไดร้ บั การพฒั นาการเรยี นรู้ บัญชีใหม่ ขอสอบเนน การคิด เกร็ดแนะครู นักเรียนคิดวา การติดตอส่ือสารผานไปรษณียอิเล็กทรอนิกส ในเร่ืองการติดตอสื่อสารผานอินเทอรเน็ต ครูควรจัดกิจกรรมการเรียนรู หรอื อเี มลมีประโยชนหรือไม เพราะอะไร โดยใหน ักเรยี นปฏบิ ตั กิ จิ กรรม ดังนี้ (แนวคําตอบ มีประโยชน เพราะสามารถสงไดท้ังขอความ • การสมัครและสง ไปรษณียอิเล็กทรอนิกส (E-mail) เสียง ภาพ วิดีโอ ประหยัดเวลาในการติดตอแมจะติดตอกับ • การใชโ ปรแกรมสนทนา (Chat) ผูท่ีอยูในระยะทางท่ีหางไกล สามารถสงใหผูรับหลายๆ คนได • การใชบ ลอ็ ก (Blog) ในการสงครัง้ เดยี ว ขอมูลถูกเก็บเปนความลบั ระหวางผูสงกบั ผูรบั ครูควรใหนักเรียนไดลงมือปฏิบัติกิจกรรมดวยตนเองจนเกิดเปนความรู วา การติดตอส่ือสารผานอินเทอรเน็ตในปจจุบันสามารถทําได 3 แบบ คือ เทา น้ัน) โซน 3 ไปรษณยี อ ิเลก็ ทรอนิกส (E-mail) โปรแกรมสนทนา (Chat) และบลอ็ ก (Blog) โซน 2 T85 67

ค�ำอธิบำยรำยวิชำ กลุม่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ เวลาเรยี น 20 ชวั่ โมง / ปี เทคโนโลยี (วทิ ยำกำรคำ� นวณ) ชน้ั ประถมศึกษำปที ี่ 5 ศกึ ษาการใชเ้ หตผุ ลเชงิ ตรรกะในการแกป้ ญั หา การทา� งาน การคาดการณผ์ ลลพั ธจ์ ากปญั หาอยา่ งงา่ ย การออกแบบ และเขยี นโปรแกรมทม่ี กี ารใชเ้ หตผุ ลเชงิ ตรรกะอยา่ งงา่ ย ตรวจหาขอ้ ผดิ พลาดและแกไ้ ขการใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ คน้ หาขอ้ มลู ตดิ ตอ่ ส่ือสารและท�างานร่วมกัน ประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล การรวบรวม ประเมิน น�าเสนอข้อมูล และสารสนเทศตาม วัตถุประสงค์โดยใช้ซอฟต์แวร์หรือบริการบนอินเทอร์เน็ตที่หลากหลายเพื่อแก้ปัญหาในชีวิตประจ�าวัน การใช้เทคโนโลยี สารสนเทศอย่างปลอดภัย มีมารยาท เขา้ ใจสิทธแิ ละหนา้ ที่ของตนเอง เคารพในสิทธขิ องผอู้ ื่น และแจง้ ผเู้ กย่ี วข้องเมอ่ื พบ ข้อมลู หรอื บคุ คลท่ไี มเ่ หมาะสม โดยอาศัยกระบวนการเรยี นรู้โดยใชป้ ญั หาเปน็ ฐาน (Problem-based Learning) เพื่อเนน้ ให้ผ้เู รียนเกดิ การเรียนร ู้ จากการฝกึ แกป้ ญั หาตา่ ง ๆ ผา่ นกระบวนการคดิ การปฏบิ ตั อิ ยา่ งมรี ะบบ และสรา้ งองคค์ วามรใู้ หมจ่ ากการใชป้ ญั หาทเี่ กดิ ขน้ึ จริงในชีวิตประจา� วันได้ เพอื่ ใหผ้ เู้ รยี นมคี วามร ู้ ความเขา้ ใจ มที กั ษะการคดิ เชงิ คา� นวณ การคดิ วเิ คราะห ์ แกป้ ญั หาเปน็ ขน้ั ตอนและเปน็ ระบบ มีทักษะในการตั้งค�าถาม หรือก�าหนดปัญหาเกี่ยวกับส่ิงท่ีจะเรียนรู้ตามท่ีก�าหนดให้ หรือตามความสนใจ คาดคะเนค�าตอบ หลายแนวทาง สรา้ งสมมตฐิ านทส่ี อดคล้องกับค�าถาม วางแผนและส�ารวจตรวจสอบโดยใช้เครอื่ งมอื อุปกรณ ์ และเทคโนโลยี สารสนเทศท่ีเหมาะสมในการเก็บรวบรวมข้อมูลทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ ค้นหาข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพและประเมิน ความนา่ เชอื่ ถอื ตดั สนิ ใจเลอื กขอ้ มลู ใชเ้ หตผุ ลเชงิ ตรรกะในการแกป้ ญั หา ตลอดจนนา� ความรคู้ วามเขา้ ใจในวชิ าวทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยีไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม และการด�ารงชีวิต จนสามารถพัฒนากระบวนการคิดและจินตนาการ ความ สามารถในการแก้ปญั หาและการจดั การทักษะในการสอ่ื สาร และความสามารถในการตัดสนิ ใจ และเปน็ ผูท้ ี่มีจติ วิทยาศาสตร์ มีคณุ ธรรม จริยธรรม และค่านยิ มในการใช้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยอี ยา่ งสร้างสรรค์ ตัวช้ีวัด ว 4.2 ป.5/1 ใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา การอธบิ ายการทา� งาน การคาดการณ์ผลลัพธ์ จากปัญหาอยา่ งงา่ ย ว 4.2 ป.5/2 ออกแบบและเขยี นโปรแกรมท่มี ีการใช้เหตุผลเชงิ ตรรกะอย่างงา่ ย ตรวจหาข้อผิดพลาดและแก้ไข ว 4.2 ป.5/3 ใช้อนิ เทอร์เน็ตค้นหาขอ้ มลู ติดตอ่ สอื่ สารและท�างานรว่ มกัน ประเมนิ ความน่าเช่ือถอื ของข้อมูล ว 4.2 ป.5/4 รวบรวม ประเมนิ นา� เสนอขอ้ มลู และสารสนเทศ ตามวตั ถปุ ระสงคโ์ ดยใชซ้ อฟตแ์ วรห์ รอื บรกิ ารบนอนิ เทอรเ์ นต็ ท่ีหลากหลาย เพอ่ื แก้ปัญหาในชีวิตประจา� วนั ว 4.2 ป.5/5 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย มีมารยาท เข้าใจสิทธิและหน้าที่ของตน เคารพในสิทธิของผู้อื่น แจ้งผเู้ กย่ี วขอ้ งเมื่อพบข้อมลู หรือบคุ คลท่ไี ม่เหมาะสม รวม 5 ตวั ชี้วัด 68

Pedagogy คู่มอื ครู รายวชิ าพน้ื ฐาน เ ทค โนโลยี จัดท�าข้ึนเพื่อให้ครูผู้สอนน�าไปใช้เป็นแนวทางวางแผนการสอนเพ่ือพัฒนาผลสัมฤทธ ์ิ (วทิ ยำกำรคำ� นวณ) ป.5 ทางการเรยี นของผเู้ รยี น โดยผสู้ อนสามารถวางแผนการจดั การเรยี นรปู้ ระกอบการใชห้ นงั สอื เรยี น รายวิชาพื้นฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการค�านวณ) ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ ี 5 (ฉบบั อนญุ าต) ท่ที างบรษิ ัท อกั ษรเจรญิ ทศั น์ อจท. จ�ากดั จดั พิมพ์ จ�าหน่าย เพอ่ื ใหส้ อดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ช้ีวดั กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร ์ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตร แกนกลางการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน พ.ศ. 2551 โดยออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ (Instructional Design) สอดคลอ้ งตามรูปแบบการเรียนร ู้ ท่ีสา� คัญ 2 รูปแบบ คอื รปู แบบการสอนแบบ 5Es และรปู แบบการสอนแบบใชป้ ัญหาเป็นฐาน (PBL) โดยมีรายละเอียด ดังนี้ รูปแบบกำรสอน 5Es กระตนุ้ ความสนใจ 2 Explore อธิบายความรู้ 4 Expand ตรวจสอบผล 1 Engage 3 Explain 5 Evaluate ส�ารวจค้นหา ขยายความรู้ เลอื กใชว้ ฏั จกั รการเรยี นรแู้ บบสบื เสาะหาความร ู้ (5Es) เนอื่ งจากเปน็ กระบวนการเรยี นรทู้ ตี่ อ้ งการใหผ้ เู้ รยี นสรา้ งองคค์ วามรู้ ด้วยตนเองผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติ และใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตรเ์ ป็นเคร่ืองมอื ให้ผู้เรียนได้ฝึกวิธีการทางวทิ ยาศาสตร์ ทกั ษะ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และทกั ษะการเรยี นรแู้ ห่งศตวรรษที ่ 21 โดยเฉพาะทกั ษะดา้ นการเรยี นรู้และนวัตกรรม วธิ ีกำรสอน เทคนคิ กำรสอน ••• ก ารใช้กรณตี วั อย่าง ทกั ษะกำรเรยี นรู้ท่ไี ด้ ••• ใชค้ �าถาม การอภปิ รายกลุม่ ย่อย ใชผ้ ังกราฟกิ การใชส้ ถานการณ ์ • การคิดเชงิ คา� นวณ • การสอ่ื สาร ใ ชต้ วั อยา่ งกรณีศึกษา จ�าลอง • การท�างานร่วมกัน • การแกป้ ญั หา • การคิดอย่างมวี จิ ารณญาณ รูปแบบกำรสอนแบบใช้ปัญหำเปน็ ฐำน (Problem-Base Learning; PBL) ก�าหนดปัญหา ดา� เนนิ การศึกษาค้นคว้า สรุปและประเมินค่าของคา� ตอบ 1 23456 ทา� ความเขา้ ใจปัญหา สังเคราะหค์ วามรู้ นา� เสนอและประเมินผลงาน เลือกใช้รปู แบบการสอนแบบใชป้ ัญหาเปน็ ฐาน (PBL) เพราะเปน็ รปู แบบการสอนที่ใหผ้ เู้ รยี นสรา้ งความร้ใู หมจ่ ากการใช้ ปญั หาทเ่ี กดิ ขน้ึ จรงิ ในโลก ซง่ึ เปน็ บรบิ ทของการเรยี นรทู้ ที่ า� เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นเกดิ ทกั ษะการคดิ วเิ คราะหแ์ ละคดิ แกป้ ญั หา การเรยี นรโู้ ดยใชป้ ญั หา เปน็ ฐาน จงึ เป็นผลมาจากกระบวนการทา� งานที่ตอ้ งอาศัยความเข้าใจและการแก้ไขปญั หาเปน็ หลัก ซงึ่ สอดคลอ้ งกบั วิชาวิทยาการคา� นวณ องคป์ ระกอบพ้นื ฐำนในกำรออกแบบหน่วยกำรเรียนรูแ้ บบ PBL หวั ข้อ (Topic) สาระสา� คัญ สถานการณ์ (Situation) ค�าถามที่เก่ยี วกบั บทบาทของนักเรยี น กจิ กรรมปดิ ท้าย (Theme) ปัญหา (Student Role) (Culminating Activity) เช่น พลงั งาน สถานีพลงั งานในพ้นื ทีท่ ี ่ (Problem Question) ผลกระทบของ นักเรยี นอาศยั อย่ ู ไดถ้ ูกปดิ ลง นักเรียน คือ นักเรียนน�าเสนองานและ วกิ ฤติพลงั งาน ซึ่งเป็นผลมาจากแสงอาทิตย์ เราจะลดผลกระทบ ประชาชนในพ้ืนท่ีน้ัน หนทางการแก้ปญั หาของ ตอ่ มนษุ ยแ์ ละ นกั เรยี นตอ้ งประเมนิ สถานการณ์ ตอ่ พน้ื ทข่ี องเรา ซ่ึงอยใู่ นทมี ที่ต้อง พวกเขาตอ่ คณะกรรมการ สิ่งแวดลอ้ ม ในการหาแหล่งพลังงานใหม่ จากการปดิ สถาน ี คอยชว่ ยเหลอื ฉกุ เฉนิ ทดี่ แู ลพน้ื ทนี่ เี้ พอื่ ตดั สนิ ใจ และแนวทางการแก้ปัญหาใน พลงั งานได้อยา่ งไร ส�าหรับประเด็นที่สูญเสีย การสญู เสยี พลงั งาน พลังงาน 69

Teacher Guide Overview เทคโนโลยี (วิทยำกำรค�ำนวณ) ป.5 หน่วย ตวั ช้ีวัด ทกั ษะท่ีได้ เวลำทใี่ ช้ กำรประเมิน ส่ือทใ่ี ช้ กำรเรียนรู้ 1 - ใ ช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ - ทักษะการสื่อสาร - ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น - ห นงั สอื เรยี น ปัญหา การอธิบายการท�างาน - ทักษะการทา� งานร่วมกนั - ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น รายวชิ าพ้ืนฐาน เทคโนโลยี เหตผุ ลเชงิ การคาดการณ์ผลลัพธ์ จาก - ทกั ษะการคิดเชงิ คา� นวณ - ตรวจใบงาน (วิทยาการค�านวณ) ป.5 ตรรกะกบั การ ปญั หาอยา่ งงา่ ย (ว 4.2 ป.5/1) - ทักษะกระบวนการคดิ - การนา� เสนอผลงาน - แบบทดสอบกอ่ นเรียน อย่างมีวจิ ารณญาณ 3 - สังเกตพฤติกรรม - แบบทดสอบหลังเรยี น แกป้ ัญหา ช่วั โมง การท�างานรายบคุ คล - PowerPoint - สังเกตพฤติกรรม - QR Code การท�างานกล่มุ - บตั รภาพ - สงั เกตคณุ ลักษณะ - ใบงาน อันพงึ ประสงค์ 2 - ออกแบบและเขียนโปรแกรมที่ - ทกั ษะการส่ือสาร - ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น - ห นงั สือเรยี น มีการใช้เหตุผลเชิงตรรกะอย่าง - ทกั ษะการทา� งานรว่ มกนั - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น รายวิชาพ้นื ฐาน เทคโนโลย ี การเขียน ง่าย ตรวจหาข้อผิดพลาดและ - ทกั ษะการคดิ เชงิ ค�านวณ - ตรวจผลงาน/ชิน้ งาน (วิทยาการคา� นวณ) ป.5 โปรแกรมโดย แก้ไข (ว 4.2 ป.5/1) - ท กั ษะการใช้เทคโนโลยี 5 - การนา� เสนอผลงาน - แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ใชเ้ หตผุ ลเชงิ สารสนเทศ - สังเกตพฤติกรรม - แบบทดสอบหลงั เรยี น - ทกั ษะการแกป้ ัญหา ชั่วโมง การท�างานกล่มุ - PowerPoint ตรรกะ - สังเกตคณุ ลักษณะ - QR Code อันพึงประสงค์ 3 - ใช้อินเทอร์เน็ตคน้ หาข้อมูล - ทักษะการสอ่ื สาร - ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น - ห นงั สอื เรียน ติดต่อสอ่ื สารและทา� งานรว่ มกนั - ทักษะการท�างานรว่ มกัน - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น รายวิชาพื้นฐาน เทคโนโลยี ขอ้ มูล ประเมนิ ความนา่ เช่ือถือของ - ทักษะการคิดเชงิ คา� นวณ - ตรวจผลงาน/ช้ินงาน (วทิ ยาการค�านวณ) ป.5 สารสนเทศ ขอ้ มลู (ว 4.2 ป.5/3) - ทักษะการใชเ้ ทคโนโลยี - ตรวจใบงาน - แบบทดสอบกอ่ นเรียน - รวบรวม ประเมิน นา� เสนอ สารสนเทศ 6 - การนา� เสนอผลงาน - แบบทดสอบหลังเรยี น ข้อมูลและสารสนเทศ ตาม - ทกั ษะการแกป้ ญั หา - สังเกตพฤตกิ รรม - PowerPoint วัตถปุ ระสงคโ์ ดยใชซ้ อฟต์แวร์ ชว่ั โมง การทา� งานกลมุ่ - QR Code หรือบริการ บนอนิ เทอร์เนต็ ที่ - สังเกตพฤตกิ รรม - ใบงาน หลากหลาย เพื่อแก้ปัญหาใน การทา� งานรายบคุ คล ชีวิตประจา� วัน (ว 4.2 ป.5/4) - สังเกตคณุ ลกั ษณะ - อันพงึ ประสงค์ 4 - ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่าง - ทกั ษะการสือ่ สาร - ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น - ห นังสือเรียน ปลอดภัย มีมารยาท เขา้ ใจสิทธิ - ทกั ษะการทา� งานร่วมกัน - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น รายวชิ าพน้ื ฐาน เทคโนโลย ี การใช้ และหนา้ ทข่ี องตน เคารพในสทิ ธิ - ทักษะการคิดเชงิ ค�านวณ - ตรวจผลงาน/ชิ้นงาน (วิทยาการคา� นวณ) ป.5 อินเทอรเ์ น็ต ของผอู้ น่ื แจง้ ผเู้ กยี่ วขอ้ งเมอื่ พบ - ทักษะการใช้เทคโนโลยี - ตรวจใบงาน - แบบทดสอบก่อนเรยี น อยา่ งปลอดภัย ข้อมูลหรือบุคคลท่ีไม่เหมาะสม สารสนเทศ - การนา� เสนอผลงาน - แบบทดสอบหลงั เรียน 6 (ว 4.2 ป.5/5) - ทกั ษะการแก้ปญั หา - สงั เกตพฤติกรรม - PowerPoint - ทักษะการสังเกต ช่วั โมง การทา� งานกลมุ่ - QR Code - สังเกตพฤติกรรม - ใบงาน การทา� งานรายบุคคล - สังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ 70

สำรบัญ Chapter Title Chapter Chapter Teacher Overview Concept Script Overview หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 เหตผุ ลเชงิ ตรรกะกบั กำรแกป้ ญั หำ T2 T4 T3 • การแก้ปญั หาดว้ ยเหตุผลเชิงตรรกะ T5 - T12 • การทาํ นายผลลพั ธจ์ ากปญั หาอยา่ งง่าย T21 T13 - T15 • ทา้ ยหนว่ ยการเรียนรทู้ ี ่ 1 T16 - T19 T51 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 กำรเขยี นโปรแกรมโดยใช้เหตผุ ล T20 T22 เชิงตรรกะ T83 T23 - T32 • การออกแบบโปรแกรม T33 - T46 • การเขยี นโปรแกรมโดยใช้ Scratch T47 - T49 • ทา้ ยหนว่ ยการเรยี นรู้ท ่ี 2 T52 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 ขอ้ มูลสำรสนเทศ T50 T53 - T62 • รูจ้ กั ข้อมลู T63 - T78 • เรียนรูแ้ หล่งขอ้ มลู T79 - T81 • ทา้ ยหนว่ ยการเรยี นรู้ท ่ี 3 T84 หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 4 กำรใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ อยำ่ งปลอดภยั T82 T85 - T93 • การตดิ ตอ่ สอื่ สารผา่ นอินเทอรเ์ นต็ T94 - T97 • อาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต T98 - T100 • มารยาทในการตดิ ตอ่ สือ่ สารผ่านอนิ เทอร์เนต็ T101 - T107 • ขอ้ มลู เพ่ือการตัดสนิ ใจ T108 - T112 • ตัวอย่างการทาํ แบบสาํ รวจความคดิ เห็นออนไลน์ T113 - T115 • ท้ายหน่วยการเรียนรู้ท ่ี 4 บรรณำนกุ รม T116 71

Chapter Overview แผนการจัด ส่อื ท่ีใช้ จ�ดประสงค์ ว�ธ�สอน ประเมิน ทกั ษะที่ได้ คุณลกั ษณะ การเร�ยนรู้ อันพงึ ประสงค์ แผนฯ ที่ 1 - แบบทดสอบก่อนเรียน 1. อธิบายการตดิ ตอ่ สอ่ื สาร แบบสบื เสาะ - สังเกตพฤติกรรม - ทักษะกระบวน 1. มวี ินัย การตดิ ต่อ - ห นังสือเรียน รายวชิ า ผา่ นอนิ เทอรเ์ น็ตได้ (K) หาความรู้ การทา� งานรายบคุ คล การคดิ อย่างมี 2. ใฝเ รยี นรู้ สอ่ื สารผา่ น 2. เขียนอเี มลเบื้องตน้ ได้ (P) (5Es - ตรวจใบงานท ่ี 4.1.1 วิจารณญาณ 3. ม่งุ มัน่ ใน อนิ เทอร์เน็ต พน้ื ฐาน เทคโนโลยี 3. สืบคน้ ข้อมูลโปรแกรม Instructional เร่อื ง โปรแกรม - ทกั ษะการสื่อสาร การท�างาน (วทิ ยาการค�านวณ) ป.5 สนทนาและบลอ็ กได้ (P) Model) สนทนาออนไลน์ - ทกั ษะการใช้ 2 - บัตรภาพ เรือ่ ง 4. เ ล็งเห็นถึงความสา� คญั ของ - สงั เกตคณุ ลักษณะ เทคโนโลยี โปรแกรมสนทนา การติดตอ่ สื่อสารผา่ น อันพึงประสงค์ - ทกั ษะการสงั เกต ชั่วโมง - Q R Code การแทรก ข้อมลู ในอีเมล - ใ บงานท ี่ 4.1.1 อนิ เทอรเ์ น็ต (A) เรื่อง โปรแกรม สนทนาออนไลน์ แผนฯ ที่ 2 - หนังสอื เรยี น รายวชิ า 1. บอกความหมายของ แบบใช้ปัญหา - การนา� เสนอผลงาน - ทกั ษะกระบวน 1. มวี ินัย อาชญากรรม พื้นฐาน เทคโนโลยี อาชญากรรมทาง เป็นฐาน - สงั เกตพฤตกิ รรม การคิดอย่างมี 2. ใฝเรยี นรู้ ทางอินเทอรเ์ นต็ (วทิ ยาการค�านวณ) ป.5 อินเทอร์เน็ตได้ (K) (Problem- การทา� งานรายบุคคล วิจารณญาณ 3. มุ่งมนั่ ใน การทา� งาน 1 - QR Code การปองกนั 2. ย กตวั อย่างอาชญากรรม based - ตรวจใบงานที่ 4.2.1 - ทักษะการใช้ อาชญากรรมทาง ทางอินเทอร์เนต็ ได้ (K) Learning) เร่อื ง การปองกนั เทคโนโลยี ช่ัวโมง อินเทอร์เนต็ 3. สบื คน้ ขอ้ มลู แนวทาง การเกิดปัญหา - ทักษะการสื่อสาร - ใบงานที่ 4.2.1 ปองกันการเกดิ ปัญหา อาชญากรรมทาง เร่อื ง การปอ งกันการ อาชญากรรมได้ (P) อนิ เทอรเ์ นต็ เกดิ ปัญหาอาชญากรรม 4. เ ลง็ เห็นถงึ ความสา� คญั - ส งั เกตคณุ ลักษณะ ทางอนิ เทอรเ์ นต็ เกี่ยวกับอาชญากรรมทาง อันพึงประสงค์ อินเทอรเ์ นต็ (A) 5. สนใจใฝร ู้ในการศึกษา (A) แผนฯ ที่ 3 - ห นังสอื เรียน รายวิชา 1. บ อกมารยาทในการติดต่อ แบบสืบเสาะ - การนา� เสนอผลงาน - ทักษะการสอ่ื สาร 1. มีวินัย มารยาทในการ พ้นื ฐาน เทคโนโลยี สอื่ สารผ่านอินเทอรเ์ น็ตได้ หาความร้ ู - สังเกตพฤตกิ รรม - ทักษะการคดิ 2. ใฝเ รียนรู้ ติดตอ่ ส่อื สาร (วทิ ยาการค�านวณ) ป.5 (K) (5Es การทา� งานรายบคุ คล สร้างสรรค์ 3. มุ่งมน่ั ใน ผ่านอนิ เทอร์เน็ต การท�างาน 2. สืบค้นขอ้ มลู จากแหล่ง Instructional - ส งั เกตคุณลักษณะ - ทักษะการใช้ 1 สารสนเทศได ้ (P) Model) อันพงึ ประสงค์ เทคโนโลยี ชั่วโมง 3. เ ล็งเห็นถึงความสา� คญั ของมารยาทในการตดิ ต่อ สอื่ สารผา่ นอนิ เทอรเ์ นต็ (A) T82 72

Chapter Concept Overview หนว่ ยกำรเรียนรทู้ ี่ 4 ไปรษณีย์อิเลก็ ทรอนิกส ์ หรอื อเี มล (E-mail) โปรแกรมสนทนา (Chat) เป็นบริการรับส่งจดหมายผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เปน็ การสนทนาออนไลน์ผ่านเครอื ขา่ ยอินเทอร์เนต็ โดย ซงึ่ สามารถสง่ ได้ทง้ั ขอ้ ความ ภาพ และวดิ โี อ ใชเ้ วบ็ ไซต์ตา่ ง ๆ ในการตดิ ต่อสอ่ื สารกันบนสงั คมออนไลน์ เช่น Line Facebook บล็อก (Blog) เป็นการเขียนเว็บไซต์รูปแบบหน่ึงคล้ายการ เขียนไดอารี ซึ่งเราสามารถท�าได้ด้วยตนเอง และไม่เสียค่าใชจ้ า่ ย การติดตอ ส่อื สารผา นอนิ เทอรเ์ นต็ ขอ้ มลู เพ่ือการตดั สินใจ การใช้อนิ เทอรเ์ นต็ การท�าแบบส�ารวจความคิดเห็น อยา่ งปลอดภยั ออนไลน์ การนําขอ้ มลู มาตดั สินใจ เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลเพ่ือ เป็นการท�าแบบส�ารวจความคิดเห็น พิจารณาทางเลือกต่างๆ แล้ว ออนไลน์ได้โดยใช้ Google Form ตดั สินใจเลอื กทางทีเ่ หมาะสม อาชญากรรมทางอนิ เทอร์เน็ต มารยาทในการตดิ ตอ ส่ือสาร ผานอินเทอร์เนต็ เชน่ การแพร่ภาพอนาจาร เช่น เป็นการใช้คอมพิวเตอร์ในการเผยแพร่ภาพ ไมส่ ง่ ต่อข้อมลู ส่วนตวั ของผอู้ ่ืน หรือวิดโี อลามกอนาจารลงบนอนิ เทอรเ์ นต็ เป็นการไมส่ ง่ ตอ่ ขอ้ มลู สว่ นตวั ของผอู้ นื่ หาก ไมไ่ ดร้ ับอนญุ าต การเจาะระบบ เป็นการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการ ใช้ภาษาสภุ าพ ท�าลายระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อ่ืนหรือน�า เป็นการไม่ใช้ภาษาที่ดถู ูกเหยียดหยามผู้อ่นื ขอ้ มูลนัน้ ออกมาใช้ ไมพ่ ูดคยุ หรอื นนิ ทาผู้อืน่ การกอ่ การร้ายทางคอมพิวเตอร์ เป็นการไม่พูดถึงผู้อ่ืนลับหลังในทางที่ เป็นการเจาะระบบคอมพิวเตอร์ แล้วน�า เสยี หายหรอื ทา� ใหเ้ สอ่ื มเสียช่ือเสยี ง ขอ้ มลู ไปขม่ ขเู่ พ่ือเรียกรอ้ งผลประโยชน์ T83 73

นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ นาํ 4 ¡ารãªÍŒ ¹Ô à·Íรà ¹µçËนÇ่ ยการàรÕยนรŒ·Ù Õè ÍÂÒ‹ §»ÅÍ´ÀÂÑ กระตนุ ความสนใจ ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียนของ หนวยการเรียนรูที่ 4 การใชอินเทอรเน็ตอยาง ปลอดภยั เพอื่ วดั ความรเู ดมิ ของนกั เรยี นกอ นเขา สู กิจกรรม ÊÇÊั ดÕ นกั àรÕยนมÇÕ Ô¸กÕ ารãªงŒ าน ÊÇัÊดÕ อนิ เทอร์เนต็ อÂา‹ งäร ãËปŒ ลอดภัย แนวตอบ ประจาํ หนวยการเรียนรู หนังสือเลมเนนื้อี้อหยาูในอราะจหมวีกาางรสปงรตับรปวรจุงพแิจกาไรขณาตวั ชีว้ ัด เชน ติดตั้งโปรแกรมสแกนไวรัส ตั้งรหัสผาน ว 4.2 ป.5/3 ใชอ้ นิ เทอร์เน็ตค้นหาขอ้ มูล ติดตอ่ ส่ือสาร และท�างานร่วมกนั ประเมนิ ความนา่ เช่อื ถือของขอ้ มูล ในการเขา สเู ครือ่ งคอมพวิ เตอรใหคาดเดาไดยาก ว 4.2 ป.5/4 รวบรวม ประเมิน น�าเสนอขอ้ มลู และสารสนเทศ ตามวตั ถุประสงคโ์ ดยใชซ้ อฟต์แวรห์ รือบรกิ าร บนอินเทอรเ์ นต็ ทหี่ ลากหลาย เพ่อื แกป้ ญ หาในชวี ิตประจ�าวัน ว 4.2 ป.5/5 ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย มมี ารยาท เขา้ ใจสทิ ธิและหน้าท่ีของตน เคารพในสิทธิของผอู้ ื่น แจ้งผ้เู กี่ยวขอ้ งเมื่อพบขอ้ มูลหรือบุคคลที่ไม่เหมาะสม เกร็ดแนะครู ขอ สอบเนน การคิด ครอู าจใหน กั เรยี นสนทนาเกยี่ วกบั อนิ เทอรเ นต็ โดยใหน กั เรยี นทกุ คนชว ยกนั นกั เรียนคิดวา อินเทอรเนต็ มีความสําคัญในชีวิตประจาํ วัน แสดงความคดิ เหน็ วา อนิ เทอรเ นต็ (Internet) คอื อะไร แลว ครอู ธบิ ายเพมิ่ เตมิ ให ของนักเรยี นหรือไม เพราะอะไร นกั เรยี นเขา ใจวา อนิ เทอรเ นต็ คอื แหลง ขอ มลู ขนาดใหญ และมคี วามหลากหลาย เชน ภาพ วิดีโอ ขอความ และอนิ เทอรเ นต็ ยงั เปน ชองทางในการติดตอสอื่ สาร (แนวคําตอบ อินเทอรเน็ตมีความสําคัญในชีวิตประจําวัน ทีม่ ีความสะดวกและรวดเร็วอีกดวย เพราะสามารถใชเ ปน แหลง คน ควา หาขอ มลู ตา งๆ ได ซง่ึ มที ง้ั ขอ มลู ภาพ วิดีโอ ขอความ ชวยในการติดตอสื่อสารของบุคคลใน ครอบครัว เพ่ือน คนรูจัก และสามารถสรางความผอนคลายได เนื่องจากสามารถฟงเพลงหรือดูรายการโทรทัศนยอนหลังและ ออนไลนได) T84 74

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ การนําอนิ เทอรเ น็ต 1. ¡ารµÔ´µÍ‹ สÍè× สาร¼า‹ ¹ ขนั้ สอน เขามาใช ในการ ÍÔ¹à·Íรà¹çµ ตดิ ตอ สือ่ สารมี การติดตอ่ ส่ือสารผ่านอนิ เทอรเ์ น็ต เป็น สาํ รวจคน หา ประโยชนอ ยางไร บริการท่ีช่วยตอบสนองความต้องการในการ สื่อสารของมนุษย์ให้มีความสะดวกสบายมาก ครูถามคําถามกระตุนความสนใจนักเรียนวา ยง่ิ ขนึ้ โดยการตดิ ตอ่ สอ่ื สารผา่ นอนิ เทอรเ์ นต็ ในปจ จบุ นั สามารถ “นักเรียนรูจักการติดตอสื่อสารผานอินเทอรเน็ต ทา� ได ้ 3 แบบ ดังน้ี แบบใดบา ง” 1) ไปรษณยี อ์ เิ ลก็ ทรอนกิ ส ์ หรอื อเี มล (E-mail) เปน็ บรกิ าร รับส่งจดหมายผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตจากบุคคลหนึ่งไปยัง (แนวตอบ คาํ ตอบขนึ้ อยกู บั ดลุ ยพนิ จิ ของครผู สู อน) บคุ คลอน่ื ๆ ซ่งึ สามารถสง่ ได้ทงั้ ข้อความ เสยี ง รูปภาพ วิดโี อ และไฟล์ต่าง ๆ โดยผู้ส่งและผู้รับจะต้องมีที่อยู่อีเมล (E-mail อธบิ ายความรู Address) เพอ่ื ใช้ในการแสดงตวั ตน 1. การเข้าใช้งานอีเมล ถ้าผู้ใช้ท่ียังไม่มีบัญชีผู้ใช้และ 1. ครูผูสอนอธิบายความหมายของไปรษณีย ต้องการจะเข้าใช้งานอีเมลจะต้องสร้างบัญชีผู้ใช้ก่อนจึงจะเข้า อเิ ล็กทรอนิกส ใชง้ านได ้ โดยมีขน้ั ตอนปฏบิ ัติ ดงั นี้ 2. ครูใหนักเรียนเขาเว็บไซต www.gmail.com www.gmail.com 1 2 หนั เงนื้สืออเหลามอนี้าจอมียูใกนารระปหรัวาบงปสรุงงแตกรไวขจพิจารณา เพ่ือสรางบัญชีผูใช โดยปฏิบัติตามข้ันตอนใน 77 หนังสือเรียน เทคโนโลยี (วิทยาการคํานวณ) 1. เขา้ สูเ่ วบ็ ไซตท์ ใี่ ห้บรกิ ารอีเมล ป.5 หนา 77-78 ในท่นี ้ ี คือ www.gmail.com แนวตอบ คาํ ถามสาํ คัญประจําหวั ขอ 2. คลิกเลือก สรา้ งบัญช ี เพอื่ สรา้ ง การตดิ ตอสื่อสารผา นอินเทอรเ น็ต เปน บริการ ท่ีชวยตอบสนองความตองการในการสื่อสารของ บญั ชใี หม่ มนษุ ยใ หมีความสะดวกสบายยงิ่ ขนึ้ ขอสอบเนน การคิด เกร็ดแนะครู นักเรียนคิดวา การติดตอส่ือสารผานไปรษณียอิเล็กทรอนิกส ในเร่ืองการติดตอส่ือสารผานอินเทอรเน็ต ครูควรจัดกิจกรรมการเรียนรู หรอื อีเมลมปี ระโยชนหรอื ไม เพราะอะไร โดยใหน กั เรยี นปฏบิ ัติกิจกรรม ดังนี้ (แนวคําตอบ มีประโยชน เพราะสามารถสงไดท้ังขอความ • การสมัครและสงไปรษณยี อ เิ ลก็ ทรอนิกส (E-mail) เสียง ภาพ วิดีโอ ประหยัดเวลาในการติดตอแมจะติดตอกับ • การใชโปรแกรมสนทนา (Chat) ผูที่อยูในระยะทางที่หางไกล สามารถสงใหผูรับหลายๆ คนได • การใชบลอ็ ก (Blog) ในการสงครง้ั เดียว และขอ มูลถูกเกบ็ เปนความลบั ระหวา งผสู งกับ ครูควรใหนักเรียนไดลงมือปฏิบัติกิจกรรมดวยตนเองจนเกิดเปนความรู ผรู บั เทานัน้ ) วา การติดตอส่ือสารผานอินเทอรเน็ตในปจจุบันสามารถทําได 3 แบบ คือ ไปรษณียอ ิเลก็ ทรอนิกส (E-mail) โปรแกรมสนทนา (Chat) และบล็อก (Blog) T85 75

6 ภาพท่ี 4.1 ัข้นตอนการเ ขาใชงาน ีอเมล ขอสอบเ นน การคิด 5 ขอใดไ มใ ชขอดีของไปรษ ีณย ิอเล็กทรอนิก ส หรือ ีอเมล 1. ใ ชเวลาในการ สง นอย 7 7. แ ่ตในกร ีณ ่ที ู้ผใ ้ชงาน ีมอีเมลแล้ว ก็สามารถเ ้ขาใ ้ชงาน ีอเมลด้วยการกรอก ืช่อ ู้ผใ ้ช และรหัสผ่าน ่ีทห ้นา ลงชื่อ 2. ตอง ีมคอมพิวเตอ รและอินเทอรเน็ต 3. สามารถ สง ขอ ูมลไ ดโดยไ มจํา ักดระยะทาง 43. กรอกข้อมูล ู้ผใช้งาน เ ่ชน 5. กรอกข้อ ูมล ้ผูใ ้ชงาน เช่น เ ้ขาใ ้ชงาน เพ่ือเข้าใช้งานโปรแกรมไ ้ดเลย 4. สามารถ สงไ ดทั้ง ขอความ เสียง รูปภาพ ิวดีโอ (วิเคราะห ํคาตอบ การสงไปรษ ีณย ิอเล็กทรอนิกส หรืออีเมล ประเมิน 4. คลิกเลือก ถัดไป • เบอ ์รโทรศัพท์ • ีอเมล �สารอง • ัวน เดือน ป เ ิกด 6. ค ิลกเลือก ถัดไป (ถ้าไ ่มมีไม่ต้องใส่) ตองใชคอม ิพวเตอรท่ี ีมการเชื่อมตอ ิอนเทอรเ ็นต ่ึซงจะตองมีคา ใชจาย และหาก ีมคอมพิวเตอรแตไม ีมการเ ื่ชอมตออินเทอรเน็ต จะไมสามารถสงไปรษ ีณย ิอเล็กทรอ ินกส หรืออีเมลได ดัง ้ันน ขอ 2. ึจงเปนคําตอบ ่ีทถูก ตอง) ข้ันสอน • นามสกุล•• รื่ชหัอสผู้ใผ่ ้ชาน1 • เพศ เก ็รดแนะครู 76 สอน สรุป อธิบายความ รู • ื่ชอ หนังสือเลมเนนื้อี้อหยาูในอราะจหมวีกาางรสปงรตับรปวรจุงพแิจกาไรขณา78 การจัดกิจกรรมการเ ีรยน ูร เ ่รือง การเขาใช ีอเมล ครูอาจใชวิ ีธสอนโดยใ ช การสา ิธต Demonstration ึ่ซงมี ้ขันตอนการ ัจด ิกจกรรมการเ ีรยน ูร ัดง ้ีน 3. เมื่อ ันกเรียนสรางบัญชีผูใชแ ลว ค ูรใ หนักเ ีรยน เ ขาใ ชงานอีเมลดวยการกรอกชื่อผูใ ช จาก ั้นน 1. ค ูร ผูสอน ฝก ํทากอนการสา ิธตจ ิรง กรอกร ัหสผาน ี่ทห นาตางลงชื่อเขาใชงาน 2. ครูผูสอนแสดงการสา ิธต แ ลวใ หผูเ ีรยนสังเกตการสาธิต 3. ครูอาจสุมนักเรียน 2-3 คน เ ื่พอเ ปนตัวแทนออกมาสาธิตรวมกัน ํนา 3 4. ครูใ ห ันกเรียนเขียนส ุรป ั้ขนตอน ่ีทไ ดจากการสังเกตการสา ิธตสงครู ันกเ ีรยนควรรู 1 ร ัหสผาน หรือ password ควรใชร ัหสผานที่ ูผ ่อืนคาดเดาไดยาก ควรใช ั้ทงตัวอักษรภาษา ัองกฤษ ิพมพใหญ ิพมพเ ็ลก และตัวเลขผสมกัน โดยเราตอง เ ็กบไ วเปนความลับ และเป ีล่ยนรหัส ผาน ุทกๆ 2-3 เ ืดอน T86

ขอสอบเนน การคดิ 5 2 1. คลกิ เลอื ก เขียน 2. การเขยี นอีเมลเบ้อื งตน้ สามารถท�าได้ ดงั น้ี 3 ขอใดกลา วไมถ ูกตองเก่ยี วกับไปรษณียอ ิเล็กทรอนกิ ส (E-mail) ภาพที่ 4.2 การเขียนอีเมล เพอ่ื เขยี นอเี มล 1. สามารถใชเ ครอื่ งคอมพวิ เตอรเ ครอ่ื งใดกไ็ ดท ม่ี กี ารเชอื่ มตอ อนิ เทอรเ นต็ มมุ Com Sci 2. พิมพ์ทอ่ี ยู่อีเมล 2. สามารถสงขอความในรูปแบบท่ีหลากหลาย เชน ภาพ ขอความ การเขียนชื่อเรอ่ื งในการส่งอเี มล ควรใช้ขอ้ ความท่กี ระชบั ไดใ้ จความ เขา้ ใจงา่ ย ของผูร้ ับ 3. ผสู ง ตอ งมอี เี มลแอดเดรส และตอ งทราบอเี มลแอดเดรสของ และใชถ้ ้อยคา� ที่สภุ าพ ผูร บั 3. พิมพ์ชือ่ เร่ือง 4. ขอ มลู ทไ่ี ดจ ะเปน สาธารณะ ทุกคนทมี่ ีอนิ เทอรเ น็ตสามารถ 4. เขียนรายละเอียด เห็นได เนื้อหาตามตอ้ งการ (วิเคราะหคําตอบ ขอมูลที่ไดรับทางไปรษณียอิเล็กทรอนิกส มคี วามเปน สว นตัว เนอ่ื งจากผใู ชจะมีรหสั สวนตัวในการใชบรกิ าร 5. คลิก สง่ ไปรษณียอิเล็กทรอนิกส จึงสามารถเลือกผูรับได ดังนั้น ขอ 4. จงึ เปน คาํ ตอบท่ีถูกตอ ง) การแทรกขอมูลในอเี มล 4 77 นาํ สอน สื่อ Digital 1 ครูใหน กั เรยี นเรยี นรเู กี่ยวกบั การแทรกขอ มูลในอีเมลเพมิ่ เติมจากสือ่ ดิจทิ ัล 79หนังเนสื้อือหเลามอนาี้อจมยีกูในารระปหรวับางปสรงุงตแกรไวขจพิจารณา โดยใหสแกน QR Code เรอื่ ง การแทรกขอ มลู ในอีเมล จากหนงั สือเรยี นหนา นี้ ซึ่งจะปรากฏคลปิ วิดโี อ ดงั ภาพตวั อยา ง สรปุ ประเมนิ T87 ขน้ั สอน อธบิ ายความรู 4. ครูใหนักเรียนศึกษาขั้นตอนการเขียนอีเมล เบ้ืองตน จากหนังสือเรียนหนาน้ี หรือให นักเรียนสแกน QR Code เร่ือง การแทรก ขอมูลในอีเมล เพื่อประกอบในการเรียน การสอน 5. ครอู ธบิ ายเพมิ่ เตมิ วา “การเขยี นชอื่ เรอื่ งในการ สงอีเมล ควรใชขอความท่ีกระชับไดใจความ เขาใจงาย และใชถอ ยคาํ ทีส่ ภุ าพ”

ประเมิน ตÑÇอ‹าง การà¢ÕยนอÕàมล ขอเชิญร่วมงาน ภาพ ีท่ 4.3 ตัวอ ่ยางการเ ีขยน ีอเมล ิกจกรรม ทาทาย สถานการ ์ณ : โ ป ้ตองการเชิญเพื่อนๆ มา ่รวมงานฉลอง ัวนค ้ลาย [email protected],[email protected],[email protected] 80 ค ูรให ันกเ ีรยนสืบ คนขอมูลเ ี่กยว ักบ ขอ ีดและ ขอจํา ักดของการ ัวนเ ิกดของตนเอง ีท่จะจัด ้ึขนในวันเสา ์ร ีน้ โ ป ึจงเ ีขยนอีเมลเพื่อเ ิชญชวน ขอเชิญร่วมงานวันเ ิกด สงไปรษ ีณ ย ิอเล็กทรอนิก ส ห ืรออีเมล (E-mail) จากน้ันนํา ขอ ูมล เ ืพ่อน ๆ ใ ้หมาร่วมงาน ่ทีไดมาจัด ํทาเปนแผน ัผงลงในกระดาษแ ็ขงแผนใหญ พรอม เ ืน่องจาก ัวน ี่ท 20 กันยายน เป็น ัวนคล้าย ัวนเกิดของผม ึซ่งผมได้ ัจด ตกแตงใ ห นาสนใจ แลวออกมา ํนาเสนอห นา ้ชันเรียน ¨ากʶานการ³์ ้¢าง ้ตน งานเ ี้ลยงข้ึน ่ีท ้บาน ต้ังแ ่ตเวลา 14.00 - 18.00 น. ึจงขอเชิญเพ่ือน ๆ มา ่รวมงานนี้ ÊาÁาร¶เ¢ÕÂน ÕอเÁÅä´้ หนังสือเลมเนนื้อี้อหยาูในอราะจหมวีกาางรสปงรตับรปวรจุงพแิจกาไรขณา เก ็รดแนะค ูร T88 แ ้ลวเจอ ักนนะครับ ัดงนéÕ โ ป ค ูรใหความรูความเขาใจกับ ันกเรียนเพิ่มเติมวา ไปรษ ีณย ิอเ ็ลกทรอ ินกส 78 ห ืรออีเมล (E-mail) หมายถึง การสงขอความห ืรอขาวสารจากบุคคลหนึ่งไป สรุป ยัง ีอก ุบคคลห ่นึง ผานทางคอม ิพวเตอรและระบบเค ืรอขาย เห ืมอนกับการสง จดหมายแตอยูใน ูรปแบบของสัญญาณขอมูลท่ีเปนอิเ ็ลกทรอ ินกส โดยเปลี่ยน สอน ้ัขนสอน การนําสงจดหมายจากบุรุษไปรษ ีณยมาเปนโปรแกรมและเป ่ลียนจากการใช เสนทางจราจรคมนาคมทั่วไปมาเปนชอง ัสญญาณรูปแบบตางๆ ท่ีเชื่อมตอ นํา อ ิธบายความ รู ระห วางเครือขาย 6. ครูใหนักเ ีรยนศึกษาตัวอยางการเขียนอีเมล จากสถานการ ณในหนังสือเรียนหนานี้ 7. ครูถาม ํคาถามนักเรียน วา “การเ ีขยนอีเมล ตอง ิพมพ สวนใดบาง” (แนวตอบ พิมพ ี่ทอ ูย ีอเมลของผูรับ ่ชือเรื่อง รายละเอียดเนื้อหา) 8. ครูใหนักเ ีรยนเ ีขยน ีอเมลในหัวขอเ ่รือง การ แนะ ํนาตนเอง แ ลว สงมา ัยง ีอเมลของค ูร

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ 2) โปรแกรมสนทนา (Chat) เปน็ การสนทนาออนไลนผ์ า่ น ขนั้ สอน Fเคaรcอื eขbา่oยoอk1นิ Mเทeอsรsเ์eนnต็g eโrด, ยSใชkyโ้ ปpรeแ เกปร็นมตสน้นทนาตา่ ง ๆ เชน่ Line, อธบิ ายความรู 9. ครูถามคาํ ถามนกั เรยี นวา “นกั เรยี นรจู กั การ ติดตอสือ่ สารแบบใดบาง” (แนวตอบ Line Facebook) 10. ครูนําบัตรภาพสัญลักษณของโปรแกรม สนทนาตางๆ มาใหนักเรยี นสังเกต 11. นักเรียนศึกษาตัวอยางการใชโปรแกรม สนทนาจากสถานการณที่กําหนดในหนังสือ เรียนหนา น้ี ตÇÑ อÂา‹ ง การ㪌âปรáกรมÊน·นา โป ^_^ สถานการณ ์ : ปตู ้องการ นัดหมายกับโปให้มาท�ารายงาน อา่ นแล้ว สวสั ดโี ป วิชาวิทยาศาสตร์ท่ีบ้านของตน 13.15 PM ปจู งึ นดั หมายกบั โปผ า่ นโปรแกรม สนทนาไลน์ เพื่อความสะดวก สวัสดีปู สบาย 13.17 PM อ่านแล้ว วนั เสารน์ ว้ี า่ งไหม 13.19 PM เราจะนดั โปม าทา� รายงาน วทิ ยาศาสตร์ที่บ้านเรา อา่ นแล้ว 13.20 PM เสาร์น ้ี เราวา่ ง 13.21 PM เจอกันประมาณสกั 9 โมงนะ 13.22 PM อ่านแลว้ 13.20 PM ภาพที่ 4.4 ตวั อยา่ งการใชโ ปรแกรมสนทนา หนั เงนื้สืออเหลามอนี้าจอมียูใกนารระปหรัวาบงปสรุงงแตกรไวขจพิจารณา 81 ขอสอบเนน การคิด เกร็ดแนะครู ขอใดกลาวไมถกู ตองเกี่ยวกบั Line ครสู ามารถหยบิ ใชบ ตั รภาพสญั ลกั ษณข องโปรแกรมสนทนาตา งๆ เชน Line 1. เราสามารถใชโ ปรแกรม Line โทรฟรไี ด Skype ไดจ ากแผนการจดั การเรยี นรทู ี่ 1 เรอ่ื ง การตดิ ตอ สอื่ สารผา นอนิ เทอรเ นต็ 2. ในขณะใชงานตอ งมีการเชอ่ื มตอ อินเทอรเนต็ หนว ยการเรยี นรูท ี่ 4 การใชอ ินเทอรเน็ตอยา งปลอดภัย 3. Line Sticker สามารถสง แทนการพิมพข อความได 4. ตอ งเสยี เงนิ สมัครสมาชกิ กอน จงึ จะใชงานได นักเรียนควรรู (วิเคราะหคําตอบ โปรแกรม Line สามารถดาวนโหลดไดฟรี 1 เฟซบุก (Facebook) เว็บไซตท่ีใหบริการเครือขายสังคมออนไลนผาน เพยี งแคส มคั รสมาชกิ และปฏบิ ตั ติ ามขอ กาํ หนดทรี่ ะบไุ วใ นแนวทาง อนิ เทอรเ น็ต ถกู กอตงั้ ข้ึนโดย มารก ซักเคอรเบิรก (Mark Zuckerberg) ซ่งึ การ ปฏิบัติ ก็สามารถใชโปรแกรม Line ได ดังน้ัน ขอ 4. จึงเปน ใชง านของเฟซบกุ มีขน้ั ตอน ดงั น้ี คาํ ตอบทถี่ กู ตอ ง) 1) ลงทะเบยี นเปน สมาชกิ ทาง www.facebook.com หรอื ผา นแอปพลเิ คชนั Facebook บนมือถือ 2) เร่ิมการใชงาน เชน เพ่ิมบัญชีเพ่ือน แสดงความคิดเห็น แชรโพสต Tกดไลก 89 79

ประเมิน 3) บ ็ลอก (Blog) เป็นการเ ีขยนเ ็วบไซต์รูปแบบห ึน่ง ภาพ ี่ท 4.5 ัตวอ ่ยางบ ็ลอก ขอสอบเ นน การคิด สามารถท�าไ ้ด ่งาย ้ดวยตนเองและไ ่มเ ีสย ่คาใ ้ช ่จาย เ ้นนการ �นาเสนอ ้ขอ ูมลเฉพาะ ้ดานตามความสนใจ ห ืรอความ ้ตองการของ ้ผูเขียน ุมม Com Sci ขอใดก ลาวไม ูถกตอง โดยผู้อ่านและ ูผ้เขียนสามารถแสดงความคิดเ ็หนแลกเป ่ีลยน 1. Blog ไมเสียคาใช จาย กันได้ เช่น บล็อกการท่องเ ่ีทยว บล็อกขายสินค้า บ ็ลอกท�า ้ผู ีท่มีความช�านาญในการเขียนบ ็ลอก ห ืรอ ู้ผ ่ทีเขียนบ ็ลอกเ ็ปนอา ีชพ เราจะเรียก ่วา 2. Instagram สามารถปรับภาพไ ดกอนแช ร อาหาร บล็อกการ ึศกษา เ ็ปนต้น ตัวอ ่ยางเว็บไซต์ ่ทีใ ้หบ ิรการ “บ ็ลอกเกอ ์ร (Blogger)” 3. E-mail เปนการรับสงจดหมายอิเล็กทรอนิก ส บล็อก เช่น www.blogger.com, www.bloggang.com, www. 4. Line เ ปนการ สงขอ ูมล ตางๆ ระหวางบุคคลเ ทา ้นัน medium.com, storylog.co เ ็ปนต้น 82 ( ิวเคราะห ํคาตอบ Line สามารถสงขอ ูมลไดระหวางบุคคลแต สามารถสรางก ุรปไล น ึ้ขนได เ ืม่อมีการ สงขอ ูมลเ ขาไปในกรุปไล น ทุกคนในก ุรปไลนนั้นจะเห็นขอมูลดังกลาวได ดัง ัน้น ขอ 4. ึจงเ ปน ํคาตอบ ี่ทถูกตอง) เรียน ูร คํา ัศพ ท 80 บ ็ลอก (Blog) คือ เ ็วบไซ ตรูปแบบห ึน่ง ที่สามารถ ับน ึทกเหตุการ ณในแ ตละวัน ส ุรป หนังสือเลมเนนื้อี้อหยาูในอราะจหมวีกาางรสปงรตับรปวรจุงพแิจกาไรขณา ประสบการณ ความคิดของ ูผเขียน ห ืรออ่ืนๆ โดยผูอ่ืนสามารถอานและ แสดงความเ ็หนได ่ซึงเ ปนที่ ินยมใชเนื่องจากสามารถใชงานไดฟรี สอน ้ัขนสอน เกร็ดแนะครู ํนา อ ิธบายความ รู เ ่ืมอนักเ ีรยน ึศกษาขอมูลเ ่กียว ักบบล็อก (Blog) จบแ ลว ค ูรอาจให ันกเรียน 12. ครูให ันกเรียน ึศกษาเ ่ีกยว ักบบ ็ลอก (Blog) ุทกคนเ ีขยนบล็อกเ ่ืรอง ี่ทตนเองสนใจ โดยเลือกใชเ ็วบไซตจากหนัง ืสอเรียน T90 จากห ันง ืสอเรียนห นาน้ี หนา ้ีน และค ูร ํทาหนาที่เ ปน ูผ ีช้แนะอยางใกล ิชด 13. ครูยก ัตวอยางเ ็วบไซต ีท่ใหบ ิรการบ ็ลอก เพื่อ ใ ห ันกเ ีรยนเขาใจมาก ่ยิงขึ้น 14. ครูอ ิธบายเ ่ิพมเติม วา “ผู ่ที ีมความ ํชานาญใน การเ ีขยนบ ็ลอก หรือ ูผ ีท่เ ีขยนบ ็ลอกเ ปนอา ีชพ เราจะเ ีรยกคนเห ลาน้ีวา บ ็ลอกเกอ ร”

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ตÇÑ อ‹าง การใชº้ Å็อก ขนั้ สอน สถานการณ ์ : คุณครูตอ้ งการสร้างสื่อการเรียนรูว้ ชิ าเทคโนโลยี อธบิ ายความรู (วทิ ยาการคา� นวณ) สา� หรบั นกั เรยี นชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี 5 โดยตอ้ งการ ใหน้ กั เรยี นสามารถเขา้ ไปแสดงความคดิ เหน็ หรอื สอบถามขอ้ สงสยั ได้ 15. ครใู หน กั เรยี นศกึ ษาตวั อยา งการใชบ ลอ็ กจาก คณุ ครูจงึ เขยี นบล็อกขึน้ เพื่อใช้เปน็ สอ่ื กลางการเรียนรู้ สถานการณท กี่ าํ หนดไวใ นหนงั สอื เรยี นหนา นี้ พรอมตอบคาํ ถามทาทายการคิดขัน้ สูง (แนวตอบ ครูสามารถใชบล็อกในการขยาย ความเขาใจในเน้ือหาตางๆ เพื่อเผยแพรให นักเรียนไดศึกษาและมีความเขาใจมากขึ้น นอกจากน้ี ยังสามารถเปนชองทางให นกั เรยี นไดแลกเปลีย่ นความรรู ว มกัน) ภาพที่ 4.6 ตวั อยา่ งการใชบลอ็ กหนั เงนื้สืออเหลามอนี้าจอมียูใกนารระปหรัวาบงปสรุงงแตกรไวขจพิจารณา ¤Ó¶ÒÁ·ŒÒ·Ò¡ÒäԴ¢¹éÑ Ê§Ù นอกจากการสรา้ งส่ือการเรียนการสอน นักเรียนคดิ ว่า บลอ็ ก สามารถนา� มาใช้ประโยชนใ์ นดา้ นการเรยี นการสอนได้อย่างไรบ้าง 83 กจิ กรรม สรา งเสริม เกร็ดแนะครู ใหนักเรียนแตละคนสืบคนขอมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการ ครอู าจจดั การเรยี นรู เพอื่ ใหน กั เรยี นชว ยกนั ศกึ ษาตวั อยา งการใชบ ลอ็ กจาก ใชงานบล็อก (Blog) จากน้ันนําขอมูลท่ีไดมาจัดทําเปนแผนผัง สถานการณท ก่ี าํ หนดไวใ นหนงั สอื เรยี น หนา 83 และการตอบคาํ ถามทา ทายการ แผนภาพ หรืออ่ืนๆ ลงในกระดาษ A4 พรอ มตกแตง ใหสวยงาม คิดขัน้ สูง โดยใชรปู แบบการเรยี นรแู บบรว มมอื เทคนคิ คูค ิด Think-Pair-Share แลว ออกมานาํ เสนอหนา ชน้ั เรยี น คอื กระบวนการสอนหนึง่ ของรปู แบบการเรยี นรแู บบรว มมอื โดยมีข้ันตอนการ จดั กิจกรรมการเรียนรู ดงั น้ี 1. ครูผสู อนตงั้ คําถามหรือกาํ หนดปญ หาใหแกผูเ รยี น 2. ผเู รยี นหาคาํ ตอบดว ยตนเองกอ น แลว จบั คกู บั เพอ่ื น เพอ่ื อภปิ รายคาํ ตอบ 3. ออกมานําเสนอคาํ ตอบที่ไดจากการอภปิ รายใหเพื่อนกลมุ อืน่ ฟง T91 81

นาํ สอน สรุป ประเมนิ ขนั้ สรปุ ¡Ô¨¡ÃÃÁ Com Sci ½¡ƒ ·¡Ñ ÉÐ ขยายความเขา ใจ ใหน้ กั เรียนพจิ ารณาคา� ถามตอ่ ไปน ้ี แล้วพูดคยุ แลกเปลี่ยนความ 1. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมฝกทักษะการติดตอ คดิ เห็นกบั เพอื่ นในหอ้ งเรยี น โดยใหบ้ ันทกึ ลงในสมดุ สอ่ื สารผา นอนิ เทอรเ นต็ จากหนงั สอื เรยี นหนา นี้ 1. อธบิ ายลักษณะของการตดิ ต่อสื่อสารผ่านอินเทอร์เนต็ 2. ครใู หน กั เรยี นทาํ ใบงานท่ี 4.1.1 เรอื่ ง โปรแกรม แต่ละประเภท สนทนาออนไลน เปนการบาน อีเมล บนั ทกึ ลงในสมุด โปรแกรมสนทนา บล็อก 84หนังสือเลมเนนื้อี้อหยาูในอราะจหมวีกาางรสปงรตับรปวรจุงพแิจกาไรขณา เกร็ดแนะครู กิจกรรม 21st Century Skills ครูสามารถหยิบใชใบงานที่ 4.1.1 เร่ือง โปรแกรมสนทนาออนไลน ได 1. ใหน กั เรียนแบง กลมุ กลมุ ละ 3-4 คน จากแผนการจัดการเรียนรูท่ี 1 เร่ือง การติดตอส่ือสารผานอินเทอรเน็ต 2. ชว ยกนั เลอื กและสบื คน ขอ มลู เกยี่ วกบั วธิ กี ารใชโ ปรแกรมสนทนา หนว ยการเรยี นรทู ี่ 4 การใชอนิ เทอรเ น็ตอยา งปลอดภยั ทีก่ ลุมตนเองสนใจ กลมุ ละ 1 โปรแกรม ใบงานที่ 4.1.1 3. นาํ ขอ มลู ทไ่ี ดม าจดั ทาํ เปน สอื่ การเรยี นรใู นรปู แบบทห่ี ลากหลาย เรอ่ื ง โปรแกรมสนทนาออนไลน์ คาช้ีแจง : ให้นกั เรยี นบอกโปรแกรมสนทนาออนไลน์ทน่ี ักเรยี นใช้เปน็ ประจา และวาดภาพสญั ลกั ษณ์ของ เชน แผนพับความรู ใบความรู พรอมตกแตง ใหสวยงาม โปรแกรมท่ีนกั เรียนใช้ พร้อมอธิบายวา่ โปรแกรมสนทนาออนไลน์นค้ี อื อะไร และมีประโยชนก์ ับ 4. นาํ เสนอผลงานหนา ชั้นเรยี นดวยวิธกี ารสอื่ สารที่นาสนใจ นักเรยี นอย่างไรบ้าง โปรแกรมสนทนาออนไลน์ท่ีนักเรียนใช้ คือ ............................................................................................................................................ สญั ลกั ษณ์ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… T92 82

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ 2. อธิบายล�าดบั ข้ันตอน ขนั้ ประเมนิ การเขา้ ใชง้ านอเี มล ตรวจสอบผล 1. ครูและนักเรียนสรุปรวมกันเกี่ยวกับการติดตอ สอื่ สารผานอนิ เทอรเนต็ 2. ครูตรวจสอบการทําแบบทดสอบกอนเรียน หนวยการเรยี นรูที่ 4 เร่ือง การใชอนิ เทอรเนต็ อยางปลอดภัย 3. ครูตรวจสอบการทําใบงานท่ี 4.1.1 เรื่อง โปรแกรมสนทนาออนไลน 4. ครูตรวจสอบผลการทํากิจกรรมฝกทักษะ การติดตอส่ือสารผานอินเทอรเน็ตในสมุด ประจําตวั 3. บอกขอ้ ดีของการติดตอ่ สอื่ สารดว้ ยโปรแกรมสนทนา บันทึกลงในสมุด 4. ยกตวั อย่างการน�ารูปแบบการตดิ ตอ่ ส่อื สารผา่ น อนิ เทอรเ์ น็ตมาใชใ้ นการเรียนการสอน ทกั ษะการเรยี นรูใ้ นศตวรรษท ี่ 21 2. ทักษะการสอื่ สาร 85หนั เงนื้สืออเหลามอนี้าจอมียูใกนารระปหรัวาบงปสรุงงแตกรไวขจพิจารณา 1. ทักษะการคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณ 3. ทักษะการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ ขอสอบเนน การคิด แนวทางการวัดและประเมินผล ขอใดคือโปรแกรมที่ใชในการติดตอส่ือสารผานอินเทอรเน็ต ครูสามารถสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนจากการตอบคําถาม การทํางาน ทั้งหมด รายบคุ คล การทาํ งานกลุม และการนําเสนอผลการทํากิจกรรมหนา ชั้นเรยี นได โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลที่แนบทายแผนการจัดการเรียนรูของ 1. Blog, Skype, Word หนวยการเรยี นรทู ่ี 4 การใชอ นิ เทอรเน็ตอยา งปลอดภัย ดงั ภาพตัวอยาง 2. Line, E-mail, PowerPoint 3. E-mail, Facebook, Skype แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ 4. Word, PowerPoint, Facebook (วเิ คราะหค าํ ตอบ Word ใชเ พ่อื จดั ทาํ เอกสาร PowerPoint ใช คาชี้แจง : ใหผ้ ูส้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ลงในชอ่ งท่ี คาช้แี จง : ให้ผูส้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ลงในช่องท่ี เพ่ือการนําเสนอขอมูล สวน Blog Skype E-mail Facebook และ Line คอื โปรแกรมทใี่ ชในการตดิ ตอ ส่ือสารผานอินเทอรเ นต็ ตรงกบั ระดบั คะแนน ตรงกบั ระดบั คะแนน ดงั นน้ั ขอ 3. จึงเปนคาํ ตอบท่ีถูกตอ ง) ลาดับที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1 การมี 32 การแสดง การทางาน ส่วนร่วมใน ความ การยอมรับ ตามทไ่ี ดร้ บั ความมี การ 1 การแสดงความคิดเหน็   ช่ือ–สกลุ คิดเห็น ฟงั คนอนื่ มอบหมาย นา้ ใจ รวม ของนกั เรียน ปรบั ปรุง 15 2 การยอมรับฟังความคดิ เห็นของผูอ้ ื่น   ลาดับท่ี 3 การทางานตามหนา้ ท่ีทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย   ผลงานกลมุ่ คะแนน 4 ความมีน้าใจ   321321321321321 5 การตรงต่อเวลา   รวม เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ลงชือ่ ................................................... ผ้ปู ระเมิน ลงชือ่ ................................................... ผู้ประเมนิ ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ ............/.................../................ ............./.................../............... ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครง้ั ให้ 3 คะแนน ให้ 3 คะแนน ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ เกณฑก์ ารให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครัง้ ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางคร้ัง 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ ต่ากว่า 8 ปรับปรุง ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ตา่ กวา่ 8 ปรบั ปรุง T93 83

นาํ นํา สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ นาํ (PBL) นักเรียนมวี ิธี 2. Íาªญา¡รรÁ·า§Í¹Ô à·Íรà ¹µç ปองกนั การเกิด ครูกระตุนความสนใจของนักเรียนโดยถาม อาชญากรรม อาชญากรรมทางอนิ เทอร์เนต็ คอื การ คาํ ถามวา “เครอื่ งคอมพวิ เตอรท กุ เครอ่ื งควรตดิ ตงั้ ทางอนิ เทอรเนต็ ใช้คอมพิวเตอร์และเครือข่ายคอมพิวเตอร์เป็น โปรแกรมสแกนไวรัสหรอื ไม เพราะเหตใุ ด” ที่อาจเกิดข้ึนกับ เครื่องมือในการกระท�าความผิด เพื่อให้ผู้อ่ืน (แนวตอบ เคร่ืองคอมพิวเตอรทุกเคร่ืองควรติดตั้ง ตนเองอยา งไร เกิดความเสียหายหรือเส่ือมเสียชื่อเสียง โดย โปรแกรมสแกนไวรัส เพราะเปนแนวทางปองกัน อาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ตที่เกิดข้ึนบ่อย ๆ การเกดิ ปญ หาอาชญากรรมทางอนิ เทอรเน็ต) แบง่ ออกไดเ้ ป็น 6 ประเภท ดังนี้ ขนั้ สอน 1. การกาํ หนดปญ หา การก่ออาªÞากรรม ภายãนâรงàรÕ ยน ครูถามคําถามนักเรียนวา “นักเรียนจะมีวิธี การปองกันการเกิดปญหาอาชญากรรมทาง 2. อินเทอรเน็ตไดอยางไร” การลÐàมดÔ ทาํ ความเขา ใจปญ หา ลÔ¢ÊÔ·¸Ôì ครูใหนักเรียนศึกษาเก่ียวกับอาชญากรรมทาง อนิ เทอรเ นต็ ทเ่ี กดิ ขนึ้ บอ ยๆ ในหนงั สอื เรยี นหนา น้ี ÍÒªÞÒ¡ÃÃÁ ·า§Í¹Ô à·Íรà ¹µç แนวตอบ คําถามสาํ คญั ประจําหัวขอ หนังสือเลมเนนื้อี้อหยาูในอราะจหมวีกาางรสปงรตับรปวรจุงพแิจกาไรขณา 6. 3. ตัดการเชื่อมตออินเทอรเน็ตทุกคร้ังหลังเลิก การกอ่ การราŒ ย การá¾รภ่ า¾ ใชง าน ตดิ ตงั้ โปรแกรมสแกนไวรสั ไมเ ปด เผยขอ มลู ทาง¤อÁ¾ิÇเตอร์ อนา¨าร·าง สวนตัวลงบนเวบ็ ไซตต า งๆ 5. 4. ออนäÅน์ การà¨าÐรÐบบ การกอ่ อาªÞากรรม ·างการàงÔน ภาพท่ี 4.7 ประเภทของ 86 อาชญากรรมทางอนิ เทอรเ นต็ เกร็ดแนะครู ขอสอบเนน การคิด ครูใหความรูค วามเขาใจกบั นกั เรียนเพ่มิ เติมวา แฮกเกอร (Hacker) เปน ใครไมไ ดกระทําผดิ เกีย่ วกบั คอมพิวเตอร ผูมีความรูและความสามารถทางคอมพิวเตอรสูงมาก สามารถลักลอบเขาไปดู 1. พิมพข โมยเงินของเพือ่ นท่ีวางอยูดา นขางคอมพิวเตอร ขอมูลของผูอ่ืนโดยไมไดรับอนุญาต แตอาจจะไมไดกอใหเกิดอันตราย แตใน 2. บใี ชโ ปรแกรมคอมพวิ เตอรเพอื่ ทําลายระบบคอมพิวเตอร บางครั้งอาจเปนประโยชน เชน หากมีระบบบกพรอง แฮกเกอรจะสามารถ 3. กา นเจาะระบบคอมพิวเตอรแลวนําขอมูลไปใชป ระโยชน คน หาและเจอสวนท่บี กพรอ งเพือ่ แจง ผูดแู ลใหม าแกไ ขได 4. ปูลกั ลอบ Copy ขอมลู ในคอมพิวเตอรของผอู นื่ โดยไมได รับอนุญาต สื่อ Digital (วิเคราะหคําตอบ การขโมยเงินของเพ่ือนเปนการหยิบเงินของ ครูอาจแนะนําใหนกั เรยี นศึกษา เร่อื ง พ.ร.บ. คอมพวิ เตอร ฉบบั ปรบั ปรุง เพ่ือนไปโดยไมไดรับอนุญาต ซ่ึงผิดศีลขอ 2 การไมลักทรัพย แกไข พ.ศ. 2560 เพมิ่ เตมิ จากแหลงการเรียนรูออนไลนต างๆ เชน คลปิ วดิ โี อ ไมเ กยี่ วขอ งกบั คอมพวิ เตอร ดงั นน้ั ขอ 1. จงึ เปน คาํ ตอบทถี่ กู ตอ ง) จาก Youtube เรือ่ ง พ.ร.บ. คอมพิวเตอร ฉบบั ปรบั ปรุงแกไข พ.ศ. 2560 โดย คน หาคําวา “พ.ร.บ. คอมพิวเตอร ฉบบั ปรบั ปรงุ แกไ ข” T94 84

(วิเคราะหคําตอบ น้ํา เพราะการติดต้ังโปรแกรมสแกนไวรัส 3. กา นและนํ้า 1. นํ้า 2. หนุยนกั เรียนคิดวา การกระทาํ ของใครถูกตอ งบาง อานขอมูล แลวตอบคาํ ถาม ผลประโยชนเ์ ปน็ การแลกเปลยี่ น ไปใช้ประโยชน์ หรอื น�ามาข่มขูเ่ พอ่ื เรียกรอ้ งเปน็ การเจาะระบบคอมพิวเตอรแ์ ลว้ นา� ขอ้ มลู อินเทอร์เน็ต ระบบคอมพวิ เตอร ์ หรอื นา� ขอ้ มลู ทอ่ี ยใู่ นระบบ5. การเจาะระบบ เป็นการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการท�าลายเกิดความเดือดร้อนของผู้อ่ืนไปใชป้ ระโยชนโ์ ดยไม่ไดร้ บั อนญุ าต แลว้ ท�าใหผ้ ้เู ป็นเจ้าของ4. การก่ออาชญากรรมทางการเงิน เป็นการน�าข้อมูลทางการเงินอินเทอร์เน็ตการเผยแพร่ภาพนิ่งหรือวิดีโอภาพเคลื่อนไหวลามกอนาจารลงบน3. การแพร่ภาพอนาจารทางออนไลน์ เป็นการใช้คอมพิวเตอร์ในรับอนญุ าตลขิ สทิ ธไิ์ ปใชป้ ระโยชน ์ โดยอาจจะนา� ไปจา� หนา่ ยหรอื เผยแพรโ่ ดยไมไ่ ด้2. การละเมิดลขิ สทิ ธ์ิ เป็นการคัดลอก และน�าผลงานของผูอ้ น่ื ท่มี ีโดยไมไ่ ดร้ ับอนญุ าต เป็นตน้โทรศพั ทม์ อื ถอื ถา่ ยรปู เพอ่ื น แลว้ สง่ ตอ่ ไปยงั บคุ คลอน่ื ผา่ นอนิ เทอรเ์ นต็ในทางท่ีไม่เหมาะสมของนักเรียนโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เช่น การใช้1. การก่ออาชญากรรมภายในโรงเรียน เป็นการใช้อินเทอร์เน็ต เปนแนวทางปองกันการเกิดปญหาอาชญากรรมทางอินเทอรเน็ต 1) หนุยแอบถายรูปเพื่อนตอนกําลังเผลอ แลวสงตอผานทาง คอมพวิ เตอรข์ องผู้อ่นื ออกมาใช้ ดงั นน้ั ขอ 1. จงึ เปนคําตอบท่ถี ูกตอง) 4. หนยุ และกาน อนิ เทอรเน็ต โดยไมไ ดขออนุญาต ขอ สอบเนน การคิด 2) กานสงภาพลามกอนาจรที่เจอทางอินเทอรเน็ตตอใหตุยท่ี 6. การกอ่ การรา้ ยทางคอมพิวเตอร ์ เปนเพ่ือนสนทิ นาํ สอน 3) น้าํ ตดิ ตง้ั โปรแกรมสแกนไวรัสไว 1 โปรแกรม ÁÇÕ ิ¸ÕอÐäรºา้ ง¤รºÑ ·Õè¨Ðª่Çยปอ‡ งกนั การàกÔด 85 อาªÞากรรม·าง เกร็ดแนะครู 87หนังเนสื้อือหเลามอนาี้อจมยีกูในารระปหรวับางปสรงุงตแกรไวขจพิจารณา ครูใหความรูกับนักเรียนเพ่ิมเติมโดยยกตัวอยางโปรแกรมสแกนไวรัส สรปุ ประเมนิ (Antivirus Program) ทส่ี ามารถดาวนโหลดมาใชฟรไี ด เชน ขน้ั สอน 1. Avast Free Antivirus 2. Panda Cloud Antivirus Free ดาํ เนนิ การศกึ ษาคน ควา 3. ZoneAlarm Free Antivirus + Firewall 4. Avira Free Antivirus 1. ครูอธิบายเก่ียวกับประเภทของอาชญากรรม 5. Bitdefender Antivirus Free Edition ทางอนิ เทอรเ นต็ ทง้ั 6 ประเภทจากหนงั สอื เรยี น หนา น้ี T95

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ สอน ในปจ จบุ นั ปญ หาอาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ นต็ มจี า� นวนเพม่ิ มากขนึ้ และเพอ่ื เปน็ การปอ งกนั ตนเองจากปญ หาดงั กลา่ ว เราจงึ ดาํ เนนิ การศกึ ษาคน ควา ควรปฏิบัติตนตามแนวทางปองกันการเกิดปญหาอาชญากรรม ทางอินเทอรเ์ นต็ ดังนี้ 2. นักเรียนศึกษาแนวทางปองกันการเกิดปญหา อาชญากรรมในหนังสือเรียนหนานี้ หรือให 1. ตัดการเชอ่ื มต่ออนิ เทอรเ์ นต็ ทุกครั้งหลงั เลิกใชง้ าน นักเรียนสแกน QR Code เร่อื ง การปอ งกัน 2. การดาวนโ์ หลดขอ้ มลู ไฟล ์ หรอื เอกสารตา่ ง ๆ จากอินเทอรเ์ นต็ อาชญากรรมทางอินเทอรเน็ต พรอมตอบ คําถามทา ทายการคดิ ข้ันสูง ควรดาวนโ์ หลดจากเวบ็ ไซตท์ เ่ี ชอื่ ถอื ไดเ้ ทา่ นน้ั (แนวตอบ การแสวงหาผลประโยชนอยาง ผิดกฎหมาย การขยายตัวของอาชญากรรม) 3. ตดิ ตง้ั โปรแกรมสแกนไวรสั 1 อยา่ งนอ้ ย 1 โปรแกรม ลงบน หนังสือเลมเนนื้อี้อหยาูในอราะจหมวีกาางรสปงรตับรปวรจุงพแิจกาไรขณา เครอื่ งคอมพวิ เตอร์ 4. ไมเ่ ปด เผยขอ้ มลู สว่ นตวั ลงบนเวบ็ ไซตต์ า่ ง ๆ หรอื ถา้ จา� เปน็ ตอ้ งเปด เผยควรเปด เผยเทา่ ทจี่ า� เปน็ เทา่ นนั้ 5. ต้ังรหัสผ่านในการเขา้ สู่เครอื่ ง- คอมพวิ เตอร์ให้คาดเดาได้ยาก และไมบ่ อก รหัสในการเขา้ เคร่ืองคอมพิวเตอรใ์ ห้กบั ผูอ้ ืน่ รวมทั้งเปล่ยี นรหสั ผ่านทกุ ๆ 2 - 3 เดือน ¤Ó¶ÒÁ·ŒÒ·Ò¡ÒäԴ¢é¹Ñ ʧ٠นกั เรียนคดิ ว่า อะไรเป็นสาเหตทุ ีท่ า� ให้เกดิ ปญหาอาชญากรรม ทางอนิ เทอรเ์ น็ต 88 การปอ งกันอาชญากรรมทางอินเทอรเน็ต นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคิด 1 โปรแกรมสแกนไวรัส (Antivirus Program) มีหนาท่ีชวยตรวจสอบและ จากการศึกษาเรือ่ ง อาชญากรรมทางอินเทอรเนต็ นกั เรยี นได ติดตามการบุกรุกของโปรแกรมที่เปนอันตรายตอคอมพิวเตอร เชน ไวรัส ประโยชนหรือไม อยา งไร หนอนอินเทอรเน็ต มาโทรจัน โดยจะแจงเตือนใหเจาของเครื่องทราบวา มโี ปรแกรมอันตรายแปลกปลอมเขา มา เพ่ือใหต ดั สินใจวา จะลบทง้ิ หรอื ไม (แนวคําตอบ ไดประโยชน โดยไดวิธีการปองกันการเกิด อาชญากรรมทางอินเทอรเน็ตหลายวิธี เชน ตัดการเชื่อมตอ ส่ือ Digital อนิ เทอรเ นต็ ทกุ ครง้ั หลงั ใชง าน ดาวนโ หลดขอ มลู ตา งๆ จากเวบ็ ไซต ท่ีนาเชื่อถือ ติดตั้งโปรแกรมสแกนไวรัส ไมเปดเผยขอมูลสวนตัว ครใู หน กั เรียนเรียนรูเ กย่ี วกบั แนวทางปอ งกนั อาชญากรรมทางอินเทอรเ นต็ ในเว็บไซตตางๆ ไมบอกรหัสผานในการเขาเครื่องคอมพิวเตอร เพม่ิ เติมจากสอื่ ดิจทิ ัล โดยใหสแกน QR Code เรือ่ ง การปอ งกนั อาชญากรรม กับผูอ ื่น) ทางอินเทอรเนต็ จากหนงั สอื เรยี นหนาน้ี T96 86

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ¡¨Ô ¡ÃÃÁ Com Sci ขนั้ สอน ½¡ƒ ·Ñ¡ÉÐ สงั เคราะหค วามรู ให้เรียนท�าเครื่องหมายถูก ✓หน้าข้อที่เปนการปองกันการเกิด อาชญากรรมทางอนิ เทอร์เนต็ และทา� เครือ่ งหมายผิด ✗ หน้าข้อที่ไมใ่ ช่ 1. ครูใหนักเรียนทุกคนทํากิจกรรมฝกทักษะ การปอ งกนั การเกดิ อาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ นต็ โดยใหบ้ นั ทกึ ลงในสมดุ อาชญากรรมทางอินเทอรเน็ตในหนังสือเรียน หนา นี้ ลงในสมุด ......................... 1. ในการใชง้ านเครอื่ งคอมพวิ เตอรส์ ว่ นตวั ไมจ่ า� เปน็ 2. ใหนกั เรยี นทําใบงานที่ 4.2.1 เรอ่ื ง การปองกนั ตอ้ งตั้งรหัสผา่ นเข้าเครอ่ื งเพื่อความสะดวก การเกิดอาชญากรรมทางอินเทอรเน็ต ......................... 2. ใช้งานคอมพิวเตอรโ์ ดยไมต่ ดิ ตง้ั โปรแกรม ขนั้ สรปุ 3 . บ..นั....ท....ึก....ล...ง...ใ..น...สมดุ สแกนไวรสั สรปุ และประเมนิ คา ของคาํ ตอบ เผยแพรท่ ีอ่ ยู่ของตนเองลงบนเวบ็ ไซต์ ครูสุมนักเรียน 2-3 คน ออกมาอภิปราย ......................... 4. ถา่ ยภาพจ�านวนเงินในบัญชขี องตนเอง ปญหาและแนวทางการปองกันอาชญากรรมทาง อินเทอรเนต็ แล้วสง่ ให้เพ่อื น ขน้ั ประเมนิ ......................... 5. ดาวน์โหลดข้อมูลจากแหล่งข้อมลู ทเี่ ชื่อถือได้ นาํ เสนอและประเมนิ ผลงาน ......................... 6. เมอ่ื ไม่ใชง้ านอนิ เทอร์เนต็ แล้ว ไม่จ�าเป็น 1. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปเนื้อหา เรื่อง อาชญากรรมทางอนิ เทอรเ น็ต 2. ครเู ปดโอกาสใหน กั เรียนซกั ถามขอสงสยั โดย ครใู หความรเู พ่มิ เตมิ ในสวนนัน้ 3. ครตู รวจสอบการทําใบงานที่ 4.2.1 เร่อื ง การ ปองกนั การเกิดอาชญากรรมทางอินเทอรเ นต็ 4. ครูตรวจสอบผลการทํากิจกรรมฝกทักษะ อาชญากรรมทางอนิ เทอรเ นต็ ในสมดุ ประจาํ ตวั ตอ้ งตัดการเช่อื มตอ่ อินเทอรเ์ น็ตเพ่ือ ความสะดวกในการใชง้ านครั้งตอ่ ไป ทักษะการเรยี นร้ใู นศตวรรษท่ี 21 89หนั เงนื้สืออเหลามอนี้าจอมียูใกนารระปหรัวาบงปสรุงงแตกรไวขจพิจารณา 1. ทกั ษะการคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณ 2. ทักษะการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ เกร็ดแนะครู ครสู ามารถหยบิ ใชใ บงานที่ 4.2.1 เรื่อง การปองกันการเกดิ อาชญากรรม ทางอินเทอรเน็ต ไดจากแผนการจัดการเรียนรูท่ี 2 เร่ือง อาชญากรรมทาง อนิ เทอรเน็ต หนวยการเรียนรทู ่ี 4 การใชอินเทอรเ น็ตอยา งปลอดภยั แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนจากการตอบคําถาม การทํางาน รายบคุ คล การทาํ งานกลุม และการนําเสนอผลการทํากจิ กรรมหนาชั้นเรียนได โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลท่ีแนบทายแผนการจัดการเรียนรูของ หนว ยการเรียนรูที่ 4 การใชอ ินเทอรเ น็ตอยางปลอดภัย T97 87

นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั นาํ การตดิ ตอ 3. ÁารÂา·ã¹¡ารµ´Ô µÍ‹ สÍè× สาร ส่อื สารผาน กระตนุ ความสนใจ อินเทอรเน็ต ¼า‹ ¹Í¹Ô à·Íรà ¹µç ควรทําอยา งไร ปจ จบุ นั การตดิ ตอ่ สอ่ื สารผา่ นอนิ เทอรเ์ นต็ ครถู ามคาํ ถามกระตนุ ความสนใจของนกั เรยี นวา ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก สามารถติดต่อ “ปจ จบุ นั เราติดตอ สอื่ สารกนั ผานชอ งทางใดบา ง” สื่อสารกันได้ท่ัวโลก ซ่ึงการติดต่อส่ือสารผ่าน อินเทอรเ์ นต็ อยา่ งมมี ารยาท สามารถทา� ได ้ เชน่ (แนวตอบ โทรศัพทมือถือ โปรแกรมสนทนา ตา งๆ เชน Facebook Line Twitter Skype) 1. ไม่สง่ ต่อข้อมูลสว่ นตวั ของผ้อู ื่น 2. ใชภ้ าษาสภุ าพ และใชค้ �าให้ถกู ต้องตามหลกั ไวยากรณ ์ หลีกเลยี่ ง ขนั้ สอน การใช้ภาษาที่ดูถูกเหยยี ดหยามผ้อู นื่ สาํ รวจคน หา 3. ใช้ขอ้ ความทสี่ น้ั กะทดั รดั และเขา้ ใจงา่ ย ครูใหนกั เรยี นสบื คนชอ งทางการตดิ ตอส่ือสาร 4. ไมพ่ ดู คยุ หรอื นนิ ทาผอู้ นื่ ใหไ้ ดร้ บั ความเสยี หายหรอื เสอื่ มเสยี ชอ่ื เสยี ง ในปจ จุบนั ผานทางอินเทอรเนต็ 5. ตรวจสอบขอ้ มูลให้ถูกตอ้ งก่อนสง่ ตอ่ ใหก้ ับผูอ้ ืน่ 6. ในการส่งข้อมลู ให้กับผอู้ น่ื ควรตรวจสอบชอื่ ผู้รบั อธบิ ายความรู ให้ถกู ตอ้ งก่อนสง่ ขอ้ มลู 1. นักเรียนศึกษามารยาทในการติดตอสื่อสาร ผา นอินเทอรเ น็ตในหนังสือเรียนหนา น้ี พรอ ม 7. ไมเ่ ผยแพร่ขอ้ ความ ภาพท่ผี ิดกฎหมาย ตอบคาํ ถามทาทายการคดิ ข้ันสูง (แนวตอบ การละเมิดสิทธิ์ของผูอื่น อาจเกิด หรือขัดกับศลี ธรรมอนั ดีงามของสังคมไทย การทะเลาะจนมกี ารฟอ งรอ งตามมา และทาํ ให ผูอ่ืนไดรับความเสียหาย เส่ือมเสียชื่อเสียง หรอื ขัดกบั ศีลธรรมอนั ดีงามของสงั คมไทย) ¤Ó¶ÒÁ·ÒŒ ·Ò¡Òä´Ô ¢¹éÑ Ê§Ù แนวตอบ คําถามสาํ คัญประจําหวั ขอ หนังสือเลมเนนื้อี้อหยาูในอราะจหมวีกาางรสปงรตับรปวรจุงพแิจกาไรขณา ถ้าทุกคนบนโลกไม่เข้าใจเร่ืองมารยาทในการใช้อินเทอร์เน็ต จะเปน็ อย่างไร ใชภาษาสุภาพและใชคําใหถูกตองตามหลัก ไวยากรณ หลกี เลย่ี งการใชภ าษาทดี่ ถู กู เหยยี ดหยาม 90 ผูอน่ื เกร็ดแนะครู ขอ สอบเนน การคิด ครอู าจใหนักเรยี นเลน เกม “คนหามารยาทในการใชอินเทอรเ น็ต” โดยมีวิธี อา นขอ มูล แลวตอบคาํ ถาม การเลนตามขัน้ ตอน ดังนี้ 1) เปแ อบสง ขอ มลู สว นตัวของปูใหก ับฟา ทเี่ ปนเพือ่ นสนิท 2) นุน เตอื นอนั๋ วา ไมค วรใชคาํ หยาบในการสง อีเมล 1. กาํ หนดใหแ ตละกลมุ มีเวลากลมุ ละ 10 นาที ในการเลน เกม 3) ตี๋แชตก ับดาวเพื่อนนิ ทาบี 2. ครูแจกบัตรขอความที่เปนการติดตอส่ือสารผานอินเทอรเน็ตอยาง จากขอ ความทก่ี าํ หนด นกั เรยี นจะปฏบิ ตั เิ หมอื นใคร เพราะเหตใุ ด มีมารยาท และบัตรขอความที่เปนการติดตอสื่อสารผานอินเทอรเน็ต 1. เป เพราะเปน เพอื่ นสนิทกัน อยา งไมมีมารยาทใหแ ตละกลุม กลุมละ 1 ชดุ 2. นนุ เพราะการใชค าํ หยาบเปน การใชภาษาที่ไมส ภุ าพ 3. ใหแ ตละกลุมจาํ แนกบัตรขอ ความทั้ง 2 ประเภท เปน 2 กลุม ภายใน 3. ตี๋ เพราะเปนการแชตค ุยกนั โดยไมไดเ ผยแพรสูสาธารณะ เวลาทค่ี รกู ําหนด 4. ไมปฏบิ ตั เิ หมือนใคร เพราะไมมีใครปฏิบัตถิ ูกตอ ง 4. ครูตรวจสอบความถูกตอง จากบัตรขอความท่ีแตละกลุมจําแนก (วิเคราะหคําตอบ นุน เพราะการติดตอสื่อสารผานอินเทอรเน็ต แลว มอบรางวัลใหกลมุ ที่ชนะ ควรใชภาษาสุภาพ ไมสงตอขอมูลสวนตัวของผูอ่ืน โดยไมไดรับ อนญุ าต ไมน นิ ทาผอู นื่ ดังนัน้ ขอ 2. จึงเปน คําตอบท่ถี ูกตอ ง) T98 88

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ตÇÑ อÂา‹ ง ÁารÂาทในการติ´ต‹อÊèอ× Êาร ขนั้ สอน ¼‹านเ¤ร× อ¢‹าÂอินเทอร์เน็ต อธบิ ายความรู สถานการณ ์ : โปแ ละปตู อ้ งการนา� เสนอขอ้ มลู เกยี่ วกบั การสบื พนั ธ์ุ แบบอาศยั เพศของพชื มดี อกลงบนบลอ็ กสว่ นตวั ของตนเอง โปก บั ปจู งึ 2. นักเรียนทุกคนศึกษาตัวอยางมารยาทในการ ตอ้ งศกึ ษาหาขอ้ มลู ของเรอื่ งทต่ี อ้ งการนา� เสนอ โดยการรวบรวมขอ้ มลู ติดตอสื่อสารผานเครือขายอินเทอรเน็ตจาก จากเอกสาร หนังสอื เรียน ต�ารา ข้อมลู จากอนิ เทอร์เน็ต และท�าการ สถานการณในหนงั สอื เรยี นหนา นี้ แลวรว มกัน สังเกตการสืบพันธขุ์ องพชื ดอกดว้ ยตนเอง วิเคราะหและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ สถานการณตัวอยา งจากหนงั สือเรียน การสืบพันธุ แบบอาศัยเพศ ของพชื มีดอก จากสถานการณข์ า้ งตน้ โปแ ละปไู ดท้ า� การศกึ ษาคน้ ควา้ หาขอ้ มลู หนั เงนื้สืออเหลามอนี้าจอมียูใกนารระปหรัวาบงปสรุงงแตกรไวขจพิจารณา จากแหลง่ ขอ้ มูลตา่ ง ๆ เพอื่ ให้ได้ข้อมูลที่ถกู ต้องและเป็นประโยชน์กับ ผูอ้ นื่ ดังน้ัน จงึ แสดงใหเ้ หน็ ไดว้ า่ โปและปูนนั้ มมี ารยาทในการติดต่อ ส่ือสารผ่านอนิ เทอร์เนต็ 91 กิจกรรม 21st Century Skills เกร็ดแนะครู 1. ใหนกั เรยี นแบง กลุม กลุม ละ 3-4 คน เม่ือเรียนจบบทนี้ ครูอาจใหนักเรียนตั้งคําถามท่ีอยากรูเพ่ิมเติมเก่ียวกับ 2. ชวยกันสืบคนขอมูลเกี่ยวกับมารยาทในการติดตอสื่อสารผาน บทนี้ คนละ 1-2 คําถาม จากนัน้ ครูสุมเรียกใหน ักเรยี นบอกคาํ ถามของตนเอง แลว ใหเ พอื่ นคนอน่ื ๆ ในชน้ั เรยี นชว ยกนั ตอบคาํ ถาม โดยครทู าํ หนา ทเ่ี ปน ผชู แี้ นะ เครอื ขายอนิ เทอรเ นต็ เพิ่มเตมิ และสังเกตการทํากิจกรรมของนกั เรยี นอยางใกลช ดิ 3. รวมกันแสดงความคิดเห็น จากน้ันชวยกันยกตัวอยาง สถานการณ เร่ือง มารยาทในการติดตอส่ือสารผานเครือขาย อินเทอรเนต็ มากลมุ ละ 1 สถานการณ 4. นําขอมูลที่ไดมาเขียนลงในกระดาษ A4 แลวตกแตงให นาสนใจ 5. นาํ เสนอผลงานหนาชน้ั เรยี นดว ยวธิ ีการสอ่ื สารท่ีนา สนใจ T99 89

นาํ สอน สรุป ประเมิน ขนั้ สรปุ ¡¨Ô ¡ÃÃÁ Com Sci ½ƒ¡·Ñ¡ÉÐ ขยายความเขา ใจ ใหน้ กั เรยี นสรา้ งผงั ความคดิ (Mind map) เกย่ี วกบั มารยาทในการตดิ ตอ่ 1. นักเรียนทํากิจกรรมฝกทักษะมารยาทในการ ส่อื สารผา่ นอินเทอรเ์ นต็ โดยใหบ้ ันทกึ ลงในสมดุ ติดตอส่ือสารผานอินเทอรเน็ตในหนังสือเรียน หนาน้ี ลงในสมุด บันทึกลงในสมุด 2. ครสู ุมนกั เรยี น 2-3 คนออกมานําเสนอผลงาน ของตนเอง โดยครูอธิบายรายละเอียดตางๆ เพมิ่ เติม ขน้ั ประเมนิ ตรวจสอบผล 1. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปเน้ือหาโดยภาพ รวมเก่ียวกับมารยาทในการติดตอสื่อสารผาน อนิ เทอรเนต็ 2. ครตู รวจสอบการทาํ กจิ กรรมฝก ทกั ษะมารยาท ในการติดตอสื่อสารผานอินเทอรเน็ตในสมุด ประจาํ ตัว หนังสือเลมเนนื้อี้อหยาูในอราะจหมวีกาางรสปงรตับรปวรจุงพแิจกาไรขณา ทกั ษะการเรียนรใู้ นศตวรรษที ่ 21 1. ทักษะการสอื่ สาร 2. ทักษะดา้ นความคดิ สร้างสรรค์ 92 3. ทกั ษะการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ แนวทางการวัดและประเมินผล ครูสามารถสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนจากการตอบคําถาม การทํางาน รายบคุ คล การทํางานกลุม และการนาํ เสนอผลการทาํ กจิ กรรมหนาช้ันเรียนได โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลที่แนบทายแผนการจัดการเรียนรูของ หนว ยการเรียนรูที่ 4 การใชอนิ เทอรเน็ตอยางปลอดภยั ดงั ภาพตัวอยาง แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม คาช้ีแจง : ให้ผสู้ อนสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ลงในชอ่ งที่ คาช้แี จง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ลงในชอ่ งท่ี ตรงกบั ระดับคะแนน ตรงกบั ระดบั คะแนน ลาดับที่ รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1 การมี 32 การแสดง การทางาน สว่ นร่วมใน ความ การยอมรบั ตามทีไ่ ด้รับ ความมี การ 1 การแสดงความคดิ เหน็   ช่ือ–สกลุ คิดเห็น ฟังคนอน่ื มอบหมาย นา้ ใจ รวม ของนกั เรยี น ปรบั ปรุง 15 2 การยอมรับฟังความคิดเหน็ ของผู้อน่ื   ลาดับที่ 3 การทางานตามหนา้ ท่ีทไ่ี ด้รบั มอบหมาย   ผลงานกลมุ่ คะแนน 4 ความมีน้าใจ   321321321321321 5 การตรงต่อเวลา   รวม เกณฑก์ ารให้คะแนน ลงชือ่ ................................................... ผปู้ ระเมนิ ลงชื่อ ................................................... ผูป้ ระเมนิ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ............/.................../................ ............./.................../............... ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครัง้ ให้ 3 คะแนน ให้ 3 คะแนน ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบางครั้ง 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ ต่ากวา่ 8 ปรับปรงุ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 14–15 ดีมาก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ากวา่ 8 ปรบั ปรงุ T100 90

แบบฝกหดั 01 02 06 03 รายวชิ าพ้ืนฐาน 04 เทคโนโลยี 05 (วทิ ยาการคาํ นวณ) ป.5ตามมาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ชวี้ ดั หลกั ตสัวูตอรยป่ารงบั ปรุง’60 กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 ทยาศาสตร แบบฝก หัด รายวชิ าพนื้ ฐานวิทยาศาสตร ำนวณ) ( วทิ ยาการคเทำคนโนวโณลย)ี ¤Ãº¤Ãѹ ป.5 ภมู ศิ าสตร์กลุมสาระการเรยี นรูวทิ ยาศาสตตารม ม(าฉตบรับฐปานรกบั าปรรเรุงียนพร.ูแศล.ะ2ต5ัว6ช0ี้วัด) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 ´ÇŒ ÂẺ½ƒ¡Ë´Ñ ¡Ô¨¡ÃÃÁ·è¹Õ Óä»ãªäŒ ´¨Œ ÃÔ§ ªéѹ»ÃжÁÈÖ¡ÉÒ»·‚ èÕ 5 áÅÐẺ·´Êͺ »Þ˜ ËÒ »ÃШÓ˹‹Ç¡ÒÃàÃÂÕ ¹ÃŒÙ à¾×Íè ÇÑ´¼ÅÊÑÁÄ·¸µÔì ÒÁµÇÑ ªÕÇé ´Ñ àÊÃÔÁÊÌҧ á¹Ç¤´Ô ¤ÇÒÁ¤Ô´·èÕËÅÒ¡ËÅÒÂ Ç¸Ô ¡Õ ÒÃá¡»Œ ˜ÞËÒ ´ÇŒ ¡Ԩ¡ÃÃÁ·ÁÕè Ø‹§à¹Œ¹ ¡Òþ²Ñ ¹Ò·¡Ñ ÉСÒä´Ô ¢Ñ¹é ʧ٠·ÁÕ ÇªÔ Ò¡Òà ͨ·. (Higher Order Thinking Skills) บฝ. เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.4 10200 www.aksorn.com 39.-8 8 5 8 6 4 9 1 3 7 3 5 7 ) แบบฝก หดั เลมจริงอาจมีขนาดตางไปจากตวั อยา งที่เสนอในเลมนี้ 91