ผู้นํา กับ เจ้านาย ต่างกันอย่างไร

ไลฟ์แฮ็ก

ผู้นํา กับ เจ้านาย ต่างกันอย่างไร

บทบาทหน้าที่การทำงานในองค์กรของแต่ละคน ขึ้นอยู่กับตำแหน่งงานและงานที่ได้รับมอบหมาย เชื่อว่าทุกคนเมื่อเริ่มทำงาน บทบาทการทำงานต้องเคยผ่านการเป็นลูกน้อง เมื่อเวลาผ่านไปสั่งสมประสบการณ์ทำงาน เกิดความเชี่ยวชาญในการงานนั้นมากขึ้น ทำให้อาชีพการงานก้าวหน้าได้โปรโมทขึ้นเป็น Boss มีลูกน้องอยู่ใต้บังคับบัญชา ซึ่งคำว่า Boss ก็ยังมีคำที่มีความหมายใกล้เคียงกันนั่นคือคำว่า Leader วันนี้เราจะมาขยายความถึง 2 คำนี้กันว่ามีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรค่ะ :)

ความแตกต่างระหว่าง "Leader" กับ "Boss"

Boss คือหัวหน้า | Leader คือผู้นำ

ผู้นํา กับ เจ้านาย ต่างกันอย่างไร
Cr. Pixabay1 , Pixabay2

- การให้คำปรึกษาแก้ไขปัญหา

ผู้นํา กับ เจ้านาย ต่างกันอย่างไร
Cr. Pixabay

Boss - เมื่อเราติดปัญหาในการทำงานที่ไม่สามารถแก้ไขได้ จำเป็นต้องขอคำปรึกษา Boss จะให้คำปรึกษาเฉพาะเรื่องที่ถามเท่านั้น หรือบางครั้งให้เราหาคำตอบด้วยตัวเอง

Leader - จะให้คำปรึกษาทั้งในเรื่องที่ถามและอธิบายนอกกรอบให้เราคิดตาม เป็นผู้นำคอยสอนให้วิเคราะห์ปัญหาและการแก้ไขปัญหา พร้อมรับฟังและติดตามผล

- การควบคุมทีม

ผู้นํา กับ เจ้านาย ต่างกันอย่างไร
Cr. Pixabay

Boss - ให้ความสนใจหรือมอบหมายงานสำคัญ ๆ ให้กับคนที่เก่งและโดดเด่นในทีม โดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของคนอื่น ๆ ในทีม  และมุ่งเน้นที่ผลลัพธ์ความสำเร็จมาก่อนเสมอ เพราะเมื่องานสำเร็จ ผลงานนั้นก็จะเป็นหน้าเป็นตาให้กับ Boss

Leader - กระจายงานให้กับทุก ๆ คนในทีมอย่างเท่าเทียมกัน ใส่ใจและสังเกตถึงศักยภาพของลูกน้องแต่ละคน มอบหมายงานตามแต่ละงานที่ลูกน้องถนัด พร้อมผลักดัน ให้คำปรึกษา จนงานประสบความสำเร็จ ความก้าวหน้าและผลงานเป็นของลูกน้อง โดย Leader เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง

- เมื่อเกิดข้อผิดพลาดในการทำงาน

ผู้นํา กับ เจ้านาย ต่างกันอย่างไร
Cr. Pixabay

Boss - จะตำหนิติเตียนและโยนความผิดให้กับลูกน้อง ไม่ให้คำแนะนำแนวทางแก้ไข มองว่าเป็นความผิดร้ายแรง

Leader - วิเคราะห์ถึงปัญหาและ Discuss กับลูกน้องถึงแนวทางแก้ไขข้อผิดพลาด มีภาวะผู้นำในการตัดสินใจแก้ไขปัญหา ติดตามผลกับลูกน้องจนกว่างานจะสำเร็จ

การบริหารงาน-บุคคล

ผู้นํา กับ เจ้านาย ต่างกันอย่างไร
Cr. Pixabay

ข้อดีและข้อเสียของ Leader VS Boss

ข้อดีของ Leader คือ การบริหารงานแบบ Leader จะทำให้ลูกน้องเคารพ บรรยากาศการทำงานในทีมมีความสุข ด้วยความใส่ใจ ให้คำปรึกษา ช่วยแก้ไขปัญหากับลูกน้อง ทำให้ลดอัตราการลาออก ลูกน้องมีแต่คนเก่งมีความสามารถ เนื่องจาก Leader คอย Support ส่งเสริมและสนับสนุน

ข้อเสียของ Leader คือ บางครั้งเจอลูกน้องไม่ดี อาจขัดคำสั่งหรือทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง Leader บางครั้งก็ต้องสวมบทบาทเป็น Boss

ข้อดีของ Boss คือ การบริหารงานแบบ Boss จะทำให้ลูกน้องยำเกรงและกลัว ทำให้งานออกมาสำเร็จ ตรงตามเป้าหมาย เพราะกลัวโดนว่าหรือโดนตำหนิ และด้วยความโหดและจู้จี้จุกจิก ทำให้ลูกน้องอยู่ในโอวาท ไม่กล้าขัดคำสั่ง

ข้อเสียของ Boss คือ การบริหารทีมด้วยการชอบออกคำสั่ง , มีความลำเอียงไม่เท่าเทียมกันของลูกน้องในทีม , ไม่ใส่ใจถึงความรู้สึกของลูกน้อง จะทำให้ลูกน้องที่เก่งและดีลาออก การเปลี่ยนลูกน้องบ่อย ๆ ก็จะทำให้ผลการปฏิบัติงานไม่ดีตามไปด้วย ไม่มีความสุขในการทำงานทั้ง Boss และลูกน้องในทีม

คำแนะนำในการเป็นผู้นำที่ดี

ผู้นํา กับ เจ้านาย ต่างกันอย่างไร

Cr. Pexels

การที่จะมีความสุขในการทำงานนั้น ปัจจัยหลักอยู่ที่หัวหน้างานและเพื่อนร่วมงาน ในบทบาทของหัวหน้า ควรเป็นแบบอย่างและผู้นำที่ดีให้กับลูกน้อง คอยรับฟัง แนะนำและช่วยแก้ไขปัญหา กล้าตัดสินใจ คอยติดตามผลการทำงาน ไม่ใช่แค่ในเรื่องงานเท่านั้น แต่ต้องสร้างความสัมพันธ์และบรรยากาศที่ดีในการทำงานภายในทีมด้วยเช่นกัน เพียงเท่านี้เราก็จะสามารถเป็นผู้นำที่มีความสามารถและเป็นผู้นำที่ดีได้แล้วค่ะ :)

Cr. ภาพปก Canva

ความคิดเห็น

ผู้นํา กับ เจ้านาย ต่างกันอย่างไร

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์

หลายคนคงมีความสับสนระหว่างคำว่า “ผู้นำ” กับ “หัวหน้า” ว่าแท้จริงแล้วมีความหมายเหมือนกัน หรือแตกต่างกันอย่างไร ดังนั้นเพื่อให้คลายข้อสงสัยดังกล่าว เรามาดูกัน 2 คำนี้ มีหน้าที่ และบทบาทในบริษัทอย่างไร

1.ผู้นำจะโฟกัสที่เป้าหมาย VS หัวหน้าจะโฟกัสที่งาน

ผู้นำจะมุ่งเน้นไปที่วิสัยทัศน์ และเป้าหมายของบริษัทเป็นหลัก โดยพวกเขาจะมองภาพรวม พร้อมหาวิถีทางใหม่ๆ เพื่อทำให้วิสัยทัศน์เหล่านั้นเป็นจริง เมื่อผู้นำลองทำอะไรใหม่ๆ สิ่งเหล่านั้นจะมาพร้อมกับไอเดียเพื่อทำภารกิจของบริษัทให้สำเร็จ ส่วนหัวหน้าจะโฟกัสไปที่งานเป็นหลักให้เป็นไปตามทิศทางของบริษัท อีกทั้งงานของพวกเขาที่ทำจะอยู่ภายใต้กรอบนโยบายของบริษัท เป็นไปตามแนวคิดของผู้นำ

2.ผู้นำขายเก่ง VS หัวหน้าอยู่ในกรอบนโยบาย

ผู้นำจะมีการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งสามารถโน้มน้าวใจให้คนอื่นทำตาม สนับสนุน ไอเดียที่คิด โดยมองเห็นถึงผลลัพธ์ออกมาว่าคุ้มค่ากับการลงแรงทำไป ส่วนคนเป็นหัวหน้า พวกเขาจะไม่ขายไอเดีย เพราะถูกกำหนดให้อยู่ในกรอบนโยบายของบริษัท หากใครสักคนออกนอกกรอบ หัวหน้าสามารถบอก ตำหนิ คนๆ นั้น เพื่อให้อยู่ในการควบคุม

3.ผู้นำกล้าเสี่ยง VS หัวหน้าลดความเสี่ยง

ทุกที่ทุกเวลาผู้นำจะคิดอะไรใหม่ๆ อยู่เสมอ หรือมองอีกมุมหนึ่ง คือมีความกล้าได้กล้าเสีย ให้มีความท้าทาย เกิดการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ส่วนหัวหน้าจะวางตัวเองอยู่ในพื้นที่เสี่ยงให้น้อยที่สุด สร้างความมั่นใจว่างานที่ทำเป็นไปตามแนวทางของบริษัท หากเกิดปัญหาขึ้นมาหัวหน้าจะรีบรายงานให้ผู้นำได้รับทราบ เพื่อหาแนวทางแก้ไขต่อไป

4.ผู้นำจะส่งเสริม VS หัวหน้าจะมอบหมาย

เส้นกั้นระหว่างผู้นำ และหัวหน้า จะขึ้นอยู่กับการทำตามหน้าที่ของแต่ละคน โดยผู้นำจะส่งเสริมให้พนักงานคิดนอกกรอบ และมองภาพกว้างเป็นหลัก ส่วนหัวหน้ามักจะมีแนวทางเกี่ยวกับงานต่างๆ ที่ทำอย่างชัดเจน โดยอาจจะให้กำลังใจพนักงานในทีมด้วยการบอกสิ่งที่ควรทำ เพื่อให้งานออกมาดีที่สุด

5.ผู้นำจะสร้างแรงบันดาลใจ VS หัวหน้าจะควบคุม

เมื่อเกิดการคิดอะไรใหม่ๆ ย่อมมีความเสี่ยงที่จะเกิดข้อผิดพลาดขึ้น ดังนั้น ผู้นำจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกๆ คน เพื่อให้ปฏิบัติตามวิสัยทัศน์ของบริษัท เมื่อบริษัทมีวิสัยทัศน์ที่แข็งแรงดีพอแล้ว ผู้นำก็จะกำหนดแนวทาง สร้างแรงบันดาลใจให้กับพนักงานได้ ส่วนหัวหน้าควบคุมการทำงานของผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นหลัก เพื่อดูว่าเป็นไปตามมาตรฐานของบริษัทหรือไม่

แม้ “ผู้นำ” กับ “หัวหน้า” จะมีความหมาย และหน้าที่ที่แตกต่างกัน แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันนั่นคือการร่วมกันขับเคลื่อนบริษัท หรือองค์กรก้าวไปข้างหน้าจนประสบความสำเร็จ

เรียบเรียงจาก lifehack