ประเภทของภาพกราฟิก แบ่งออกเป็น 2 ประเภท อะไรบ้าง

Skip to content

ประเภทของภาพกราฟิก แบ่งออกเป็น 2 ประเภท อะไรบ้าง

  • หน้าหลัก
  • ทำสติ๊กเกอร์
    • สติ๊กเกอร์น้ำพริก
    • สติ๊กเกอร์ติดขวด
    • สติ๊กเกอร์ขนม
    • สติ๊กเกอร์ไดคัท
  • นามบัตร
    • ตัวอย่างนามบัตร
  • ผลงานเรา
    • ตัวอย่างผลงาน
    • ราคาจำนวนฉลากสินค้า
  • บทความ
  • ติดต่อเรา

กราฟิก คืออะไร มีบทบาทอย่างไร?

  • View Larger Image
    ประเภทของภาพกราฟิก แบ่งออกเป็น 2 ประเภท อะไรบ้าง

กราฟิก คืออะไร มีบทบาทอย่างไร?

ในปัจจุบันมีการใช้ภาพ กราฟิก ในงานทุกๆ ด้านไม่ว่า ด้านธุรกิจ งานพิมพ์ งานศิลปะ การบันเทิง งานโฆษณา การศึกษา ซึ่งเห็นได้ชัดว่า คอมพิวเตอร์กราฟิก นั้นมีบทบาทสำคัญมากในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นเครื่องมือที่สามารถช่วยงานในด้านการออกแบบทางด้านกราฟิก ให้เป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็ว โดยใช้เพียงคอมพิวเตอร์เพียงเครื่องเดียว อีกทั้งผู้ออกแบบเองก็สามารถดูผลงานการออกแบบของตนเองได้โดยทันทีสะดวกมาก วันนี้ SGEPRINT ขอนำเสนอเกล็ดความรู้เกี่ยวกับกราฟิกมาให้ทุกคนได้ทราบกันค่ะ

ประเภทของภาพกราฟิก แบ่งออกเป็น 2 ประเภท อะไรบ้าง

ประเภทของภาพกราฟิก แบ่งออกเป็น 2 ประเภท อะไรบ้าง

— ประเภทของภาพกราฟิก มีอะไรบ้าง? —

คอมพิวเตอร์กราฟิก 2 มิติ 👉 คือภาพ 2 มิติ ที่สร้างขึ้นจากคอมพิวเตอร์ ซึ่งอาจประกอบด้วยภาพกราฟิกแบบแรสเตอร์ ภาพกราฟิกแบบเวกเตอร์ที่ไม่มีการคำนวณความลึก ลวดลายฟอนต์ ฯลฯ เป็นภาพที่พบเห็นโดยทั่วไป เช่น ภาพถ่าย รูปวาด ภาพลายเส้น สัญลักษณ์ กราฟ รวมถึงการ์ตูนต่างๆ ในโทรทัศน์ ตัวอย่างเช่น การ์ตูนเรื่องพิภพยมราช ชินจัง และโดเรมอน เป็นต้น ซึ่งการ์ตูนจะเป็นภาพกราฟิกเคลื่อนไหว(Animation) โดยจะมีกระบวนการสร้างที่ซับซ้อนกว่าภาพปกติ

คอมพิวเตอร์กราฟิก 3 มิติ 👉 คือภาพที่สร้างขึ้นจากการจำลองโมเดล 3 มิติทางคณิตศาสตร์ โดยใช้การคำนวณในด้านต่างๆ เช่น พีชคณิตเชิงเส้น ตรีโกณมิติ เพื่อหา Perspective เพื่อนำมาทำการจำลองภาพให้เหมือนจริง ซึ่งทำให้ได้ภาพมีสีและแสงเงาเหมือนจริง เหมาะกับงานด้านสถาปัตย์และการออกแบบต่างๆ รวมถึงการสร้างเป็นภาพยนตร์การ์ตูน หรือโฆษณาสินค้าต่างๆ เช่น การ์ตูนเรื่อง Nemo The Bug และ ปังปอนด์แอนิเมชัน เป็นต้น

ประเภทของภาพกราฟิก แบ่งออกเป็น 2 ประเภท อะไรบ้าง

— หลักการทำงานและการแสดงผลของภาพคอมพิวเตอร์กราฟิก —

ภาพที่เกิดบนจอคอมพิวเตอร์ เกิดจากการทำงานของโหมดสี RGB ซึ่งประกอบด้วย สีแดง สีเขียว และสีน้ำเงิน โดยใช้หลักการยิงประจุไฟฟ้าให้เกิดการเปล่งแสงของสีทั้ง 3 สี มาผสมกันทำให้เกิดเป็นจุดสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่เรียกว่าพิกเซล โดยพิกเซลจะมีหลากหลายสีเมื่อนำมาวางต่อกันจะเกิดเป็นรูปภาพมี 2 ประเภท คือแบบ Raster และแบบ Vector

  • ภาพกราฟิกแบบราสเตอร์ (Raster) หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า บิตแมพ (Bitmap) เป็นภาพกราฟิกที่เกิดจากการเรียงตัวของจุดสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ที่เรียกว่า พิกเซล (Pixel) มีการเก็บค่าสีที่เจาะจงในแต่ละตำแหน่งจนเกิดเป็นภาพในลักษณะต่าง ๆ เช่น ภาพถ่าย ในการสร้างภาพกราฟิกแบบ Raster จะต้องกำหนดจำนวนของพิกเซลให้กับภาพที่ต้องการสร้าง ถ้ากำหนดจำนวนพิกเซลน้อย เมื่อขยายภาพให้มีขนาดใหญ่ขึ้นจะทำให้มองเห็นภาพ เป็นจุดสี่เหลี่ยมเล็กๆ หรือถ้ากำหนดจำนวนพิกเซลมากก็จะทำให้แฟ้มภาพมีขนาดใหญ่
  • ภาพกราฟิกแบบเวคเตอร์ (Vector) เป็นภาพกราฟิกที่เกิดจากการอ้างอิงความสัมพันธ์ทาง คณิตศาสตร์ หรือการคำนวณซึ่งภาพจะมีความเป็นอิสระต่อกัน โดยแยกชิ้นส่วนของภาพ ทั้งหมดออกเป็นเส้นตรง เส้นโค้ง รูปทรง เมื่อมีการขยายภาพความละเอียดของภาพไม่ลดลง แฟ้มมีขนาดเล็กกว่าแบบ Raster ภาพกราฟิกแบบ Vector นิยมใช้เพื่องานสถาปัตย์ตกแต่ง ภายในและการออกแบบต่างๆ 

ประเภทของภาพกราฟิก แบ่งออกเป็น 2 ประเภท อะไรบ้าง

— หลักการใช้สีและแสงในคอมพิวเตอร์ —

  • RGBเป็นระบบสีที่ประกอบด้วยแม่สี 3 สี คือ สีแดง, สีเขียว และสีน้ำเงิน เมื่อนำมาผสมกันทำให้เกิดสีต่างๆ บนจอคอมพิวเตอร์มากถึง 16.7 ล้านสี ซึ่งใกล้เคียงกับสีที่ตาเรามองเห็นปกติ สีที่ได้จากการผสมสีขึ้นอยู่กับความเข้มของสี โดยถ้าสีมีความเข้มมากเมื่อนำมาผสมกันจะทำให้เกิดเป็นสีขาว จึงเรียกระบบสีนี้ว่าแบบ Additive หรือการผสมสีแบบบวก
  • CMYKเป็นระบบสีที่ใช้กับเครื่องพิมพ์ที่พิมพ์ออกทางกระดาษหรือวัสดุผิวเรียบอื่น ๆ ซึ่งประกอบด้วยสีหลัก 4 สีคือ สีฟ้า , สีม่วงแดง , สีเหลือง , และสีดำ เมื่อนำมาผสมกันจะเกิดสีเป็นสีดำแต่จะไม่ดำสนิทเนื่องจากหมึกพิมพ์มีความไม่บริสุทธิ์จึงเป็นการผสมสีแบบลด หลักการเกิดสีของระบบนี้ คือหมึกสีหนึ่งจะดูดกลืนแสงจากสีหนึ่งและสะท้อนกลับออกมาเป็นสีต่าง ๆ
  • HSBเป็นระบบสีแบบการมองเห็นของสายตามนุษย์ ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ Hue คือสีต่าง ๆ ที่สะท้อนออกมาจากวัตถุแล้วเข้าสู่สายตาของเรา Saturation คือความสดของสีโดยค่าความสดของสีจะเริ่มที่ 0 ถึง 100 แต่ถ้ากำหนดที่ 100 สีจะมีความสดมาก Brightness คือระดับความสว่างขอสีโดยค่าความสว่างของสีจะเริ่มที่ 0 ถึง 100
  • LAB เป็นระบบสีที่ไม่ขึ้นกับอุปกรณ์ใด ๆโดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ L เป็นการกำหนดความสว่างซึ่งมีค่าตั้งแต่ 0 ถึง 100 ถ้ากำหนดที่ 0 จะกลายเป็นสีดำแต่ถ้ากำหนดที่ 100 จะเป็นสีขาว A เป็นค่าของสีที่ไล่จากสีเขียวไปสีแดง B เป็นค่าของสีที่ไล่จากสีน้ำเงินไปเหลือง

By admin|2021-07-05T17:29:10+07:00February 11, 2021|Article|Comments Off on กราฟิก คืออะไร มีบทบาทอย่างไร?

ภาพคอมพิวเตอร์กราฟิกมี 2 แบบคือแบบใดบ้าง

คอมพิวเตอร์กราฟิก (Computer Graphics) คือการใช้คอมพิวเตอร์สร้างภาพโดย การวาดภาพกราฟิกหรือการใช้ซอฟต์แวร์เกี่ยวกับการวาดภาพต่าง ๆ ในคอมพิวเตอร์ รวมไปถึงการตกแต่งแก้ไขหรือการจัดการเกี่ยวกับรูปภาพโดยใช้เครื่องมือคอมพิวเตอร์ ในการจัดการ ประกอบด้วย เส้น สีแสง และเงาต่างๆ กราฟิกที่ใช้ในงานคอมพิวเตอร์ มี2 ชนิด คือ Vector และ ...

ข้อใดคือภาพกราฟิกประเภท 2 มิติ

ภาพกราฟิกแบบ 2 มิติ เป็นภาพที่พบเห็นโดยทั่วไป เช่น ภาพถ่าย รูปวาด ภาพลายเส้น สัญลักษณ์ กราฟ รวมถึงการ์ตูนต่าง ๆ ในโทรทัศน์ ยกตัวอย่างเช่น การ์ตูนเรื่องพิภพยมราช ชินจัง และ โดเรมอน เป็นต้น ซึ่งการ์ตูนจะเป็นภาพกราฟิกเคลื่อนไหว (Animation) โดยจะมีกระบวนการสร้างที่ซับซ้อนกว่า ภาพวาดปกติ

ประเภทของรูปภาพแบ่งออกเป็นกี่ประเภทอะไรบ้าง

รูปแบบชนิดของภาพแบ่งออกเป็น 2 ชนิดคือ ภาพแบบ บิตแมป( Bitmap ) หรือ ราสเตอร์( Raster ) คือภาพที่เกิดจากหน่วยภาพเล็กๆมารวมกันจนเป็นภาพใหญ่คล้ายจิ๊กซอร์สามารถดูได้โดยการซูมภาพเข้าไปกล่าวคือภาพเหล่านี้ยิ่งซูม(ขยาย)ยิ่งแตก จนดูไม่รู้เรื่อง เช่นภาพนามสกุล .JPEG, . TIFF,.GIF และ PNG เป็นต้น

การสร้างภาพกราฟิกด้วยคอมพิวเตอร์แบ่งเป็นกี่ประเภทอะไรบ้าง

การสร้างภาพกราฟิกด้วยคอมพิวเตอร์ มีวิธีการสร้าง 2 แบบ คือ แบบบิตแมพ (Bit Mapped) และแบบเวกเตอร์ (Vector) หรือสโตรก (Stroked) แต่ละแบบวิธีการสร้างภาพดังต่อไปนี้