ปัญหาการสื่อสารที่เกิดจากตัวเองมีอะไรบ้าง

"มีกี่ครั้งที่ท่านเกิดความรู้สึกเสียใจ หรือหงุดหงิด โมโห จากการสื่อสารแย่ๆของเจ้านายของท่าน ทั้งในอดีตและปัจจุบัน!?"

Part.2.การสื่อสารในยุคปัจจุบัน

ไม่ได้จำกัดเพียงแค่การสื่อสารแบบเจอหน้าเจอตา หรือการสื่อสารด้วยเสียงทางโทรศัพท์ หรือการสื่อสารด้วยข้อความทางe-mail แบบที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันเท่านั้น

แต่ยังรวมไปถึงการสื่อสานผ่านช่องทางอื่นๆ เช่น เสียง-รูป-ข้อความ-สติ๊กเกอร์ทางLine และ การสื่อสารด้วย เสียง-รูป-ข้อความ -สติ๊กเกอร์ -messengerของ facebook รวมไปถึงการสื่อสารผ่านหน้าจอมือถือและหน้าจอคอมพิวเตอร์ผ่านapp zoom หรือ ms team ในกรณี Work From Home และทุกช่องทางการสื่อสารผ่านSocial Media ระหว่างท่านกับลูกน้อง

มีข้อที่น่าสังเกต ที่ ท่านอ่านจะไม่เคยคิด หรือ มองข้าม ก็คือ....

Part.3.ช่องทางการสื่อสารพัฒนา แต่ วิธีการสื่อสารของผู้นำ ส่วนมากแทบไม่เคยพัฒนา!

ไม่ว่ารูปแบบของการสื่อสารผ่านช่องทางต่างๆจะมีพัฒนามาให้เลือกหลากหลายช่องทาง หลากหลายรูปแบบมากเพียงใดก็ตาม แต่ทำไมบรรดา ผู้จัดการ/ผู้บริหาร/ไปจนถึงผู้นำ จำนวนไม่น้อย ยังคงไม่ยอมพัฒนาการสื่อสารของตนเองซะที!

คนที่มีลูกน้อง ตั้งแต่ระดับหัวหน้างาน /ผู้จัดการ/ไปจนถึงผู้นำสูงสุดขององค์กร ยังคง เคยชินกับ 1.สื่อสารแบบเข้าใจเองคนเดียว 2.สื่อสารแบบคลุมเครือ / อ้อมค้อม 3.สื่อสารโดยการสั่ง 4.สื่อสารด้วยอารมณ์

มีน้อยคนมาก ที่จะสื่อสารด้วย “สติ” มีน้อยคนเช่นกันที่ “สื่อสารอย่างสร้างสรรค์!”

Part.4.สาเหตุไม่มีอะไรซับซ้อน...

ธรรมชาติของคนเราแทบทุกคน โดยเฉพาะคนที่เป็นผู้นำในทุกระดับ...จะไม่เคยสังเกตวิธีการสื่อสารของตนเอง" และไม่รู้ ไม่สนใจด้วยว่า การสื่อสารของตนเอง(ที่ไม่ดีนั้น) จะส่งผลกระทบอะไรบ้างกับทีมงานแล้วย้อนกลับมาหาตนเอง!

ตัวอย่างเช่น ลูกน้องมักจะสับสน ไม่เข้าใจ เวลาที่ผู้นำ สื่อสารแบบคลุมเครือ / อ้อมค้อม

และธรรมชาติของคนที่เป็นลูกน้องแบบไทยๆ มักจะพยักหน้าทั้งที่ไม่เข้าใจ! เดินออกไปหลังคุยกันเสร็จด้วยความงงๆ และบ่นพึมพำว่า “อะไรของมันแว๊!?”

ผู้นำที่ไม่ค่อยมีความมั่นใจในตนเอง หรือเป็นประเภทขี้เกรงใจคน ขี้เกรงใจทีมงาน มักจะ สื่อสารแบบคลุมเครือ อ้อมค้อม ไม่บอกให้ชัดเจนว่าต้องการอะไร ปล่อยให้ลูกน้องเข้าใจเอาเอง 

เพราะ “สื่อสาร" นิ่ม ติ๋มเกินไป สุดท้ายไม่มีใครรู้ว่าจริงๆ แล้วจะบอกอะไร!

ในทางตรงกันข้าม... ผู้นำประเภทที่มั่นใจในตนเองมากเกินไป ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานหรือในธุรกิจที่ทำ มักจะสื่อสารด้วยอารมณ์ ด้วยการสั่ง ใจเร็วใจร้อน ปากไว คิดอะไรได้ก็พูด ปากไวพอๆกับใจคิด

บ่อยครั้งสื่อสารแบบใส่อารมณ์ และอารมณ์ยิ่งขึ้นง่าย ถ้าไม่ได้ดังใจ ลูกน้องยิ่งกลัว เวลาไม่เข้าใจก็ยิ่งไม่กล้าถาม เพราะถามแล้วโดนด่าแน่ ได้แต่รับปากรับคำไปทำ ส่วนมากทำแล้วก็ไม่ได้ดังใจท่านผู้นำอีก เพราะไม่เข้าใจตั้งแต่แรก ทำเอาเร็วเอาด่วนลวกๆให้รีบเสร็จเพราะท่านใจร้อน!

ส่วนท่านผู้นำที่สื่อสารแบบเข้าใจเองคนเดียว ก็เพราะมีประสบการณ์มาก เข้าใจเห็นภาพเห็นรายละเอียดทุกอย่างในหัวตัวเองว่าต้องการอะไร แต่มักจะไม่รู้วิธีเรียบเรียง ย่อยก่อนสื่อสาร

เพื่อให้ลูกน้องที่มีพื้นเพต่างกัน ประสบการณ์ต่างกันเข้าใจ ทุกครั้งที่พูดอะไรไป ลูกน้องได้แต่นั่งหรือยืนฟังตาใสๆ...แต่ในหัวปวดตึ้บๆ ไมเกรนขึ้นหัวทุกทีเวลาฟังท่านพึมพำ!

Part.5.แล้วจะแก้ปัญหานี้ยังไงดีล่ะ!?

ปัญหาเหล่านี้ บรรดาท่านผู้นำมักจะเข้าใจผิด ว่าปัญหาทั้งหมดเกิดจากลูกน้อง ลูกน้องโง่ ฯลฯ

ปัญหาส่วนหนึ่งเกิดจากลูกน้องจริงๆ โดยเฉพาะลูกน้องแบบไทยๆ ที่เวลาไม่เข้าใจมักไม่กล้าถาม กลัวโดนท่านผู้นำตำหนิ หรือกลัวโดนเพื่อนร่วมงานมองว่าเซลส์สมองน้อยจังนิเธอ!

ต้องแก้ไขไปพร้อมๆกันระหว่างท่านผู้นำกับลูกน้อง โดย...

ท่านผู้นำต้องตั้งสติและสังเกตุวิธีการสื่อสารของตนเอง ถ้าจะให้ดี ถาม Feedback จากลูกน้องถึงวิธีการสื่อสารของท่านผู้นำ ว่าส่วนใดที่คิดว่าพอใช้ ส่วนใดที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน อย่าอายที่จะถาม และต้องขอบคุณลูกน้องที่กล้าบอก เพราะกำลังช่วยท่านผู้นำที่เป็นจุดเริ่มต้นของทุกสิ่งอย่าง!

เมื่อรู้ปัญหาการสื่อสารของตนเองแล้ว ค่อยปรับค่อยแก้ และถ้าจะให้ดี ต้องเรียนรู้เพิ่มเติมด้วยว่า ลูกน้องแต่ละคน ส่วนมากมีจริตและมีวิธีรับสารที่แตกต่างกัน ถ้าต้องคุยกับใครควรรู้ว่าจะพูดยังไง ถ้าต้องสื่อสารให้ลูกน้องฟังเป็นกลุ่มเล็กหรือกลุ่มใหญ่ ควรปรับวิธีสื่อสารของท่านผู้นำอย่างไร หลักคิดง่ายๆคือ“อย่าสื่อสารตามใจตนเอง และอย่าสื่อสารตามความเคยชิน!”

หลังจากนั้นค่อยปรับแก้ที่ลูกน้อง ย้ำให้ทุกคนถ้าไม่เข้าใจให้ถามทันที และตัวผู้นำต้องพยายามตรวจสอบความเข้าใจของลูกน้อง ด้วยการถามเป็นระยะในทุกการสื่อสาร เป็นต้น

Part.6.จะเห็นว่าไม่ใช่เรื่องยาก..

ถ้าจะแก้ให้ได้ผล ต้องเริ่มต้นแก้ที่ตัวผู้นำ เพราะกฎของธรรมชาติในก็คือ.. “จะประสบความสำเร็จ หรือล้มเหลว ในเรื่องใดก็ตาม ปัจจัยสำคัญอยู่ที่ตัวผู้นำ!”

ปัญหาการสื่อสาร พูดกันแต่เรื่องง่ายๆ แต่ทำไมเข้าใจไม่ตรงกัน

by besterlife · Published เมษายน 3, 2017 · Updated ตุลาคม 3, 2019

 

          การสื่อสารถือเป็นเรื่องสำคัญ หากการสื่อสารดีและมีคุณภาพ จะมีประโยชน์มากมายเช่น หากทำการค้าขาย จะทำให้การเจรจาทางการค้าการลงทุนประสบความสำเร็จ  หรือหากแม้ว่าการสื่อสารในสถานที่ทำงานมีประสิทธภาพ ก็จะทำให้การทำงานเกิดประสิทธิผล งานสำเร็จได้ตามเป้าหมาย  ตรงกันข้ามเมื่อมี  ปัญหาการสื่อสาร แม้จะพูดกันเพียงแค่สองคน แต่เมื่อสื่อสารกันคนละเรื่อง ก็ย่อมเข้าใจไม่ตรงกัน การสื่อสารเกิดความผิดพลาด บางครั้งเกิดรุนแรงจนกลายเป็นต้นเหตุของการทะเลาะวิวาท

ปัญหาการสื่อสารที่เกิดจากตัวเองมีอะไรบ้าง

ปัญหาการสื่อสาร Cr: mwitsverdeusteenprob.blogspot.com

          หากปัญหาการสื่อสารนั้น เกิดขึ้นในสถานที่ทำงาน มีการแปลความหมาย ในการสื่อสารที่ไม่ถูกต้อง จนกลายความล้มเหลวในการทำงาน  ถึงแม้ว่า องค์ประกอบของการสื่อสารนั้น  มันดูเหมือนว่าไม่ได้ซับซ้อน บางครั้งพูดกันแต่เรื่องง่ายๆ แต่ทำไมเข้าใจไม่ตรงกัน

 

         ซึ่งปัญหาการสื่อสาร เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้กับกลุ่มคนทั่วไป หรือสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทั่งโลก เพราะถึงแม้องค์ประกอบการสื่อสารที่มีอยู่น้อยนิด แต่มันมีสิ่งรบกวนมากมายเช่น ความยากของภาษาที่ใช้ในการสื่อ อีกทั้งยังมีทัศนคติ อารมณ์ความรู้สึกต่างๆ ที่จะทำให้การสื่อสารนั้นๆไม่ประสบความสำเร็จได้

ปัญหาการสื่อสารที่เกิดจากตัวเองมีอะไรบ้าง

 

 ปัญหาการสื่อสาร จากการสื่อข้อความระหว่างบุคคล มีทั้งหมด 7 ประการด้วยกัน

ปัญหาการสื่อสารที่เกิดจากตัวเองมีอะไรบ้าง

          1.มีการเปลี่ยนแปลง ในความหมายของคำ เช่น การใช้สัญลักษณ์ต่างๆ ซึ่งอาจแปลได้ หลากหลายความหมาย จึงเป็นไปได้ ที่แต่คนจะตีความหมายผิด ไม่ตรงตามที่ผู้สื่อต้องการ  หรือแม้แต่การพูดไม่เคลียร์ก็มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงความหมายของคำได้เช่น คำว่า “ บุคลากรที่จำเป็น ” สมมุติ CEO ประกาศก่อนการ ลดขนาดองค์กรว่า เขาจะเก็บคนที่เป็น บุคลากรที่จำเป็นไว้  ทำให้พนักงานไม่ทราบสถานะของตน  เกิดความสบสน  ในบางครั้งแสดงรู้สึกไม่พอใจและแสดงพฤติกรรมต่างๆ เพราะน้อยคนนัก ที่จะยอมรับข้อความที่ว่า ตนเป็นบุคลากรที่ไม่จำเป็น

          ดังนั้นการสื่อนสารที่ดี ต้องลดการใช้คำย่อ สารที่ใช้สื่อต้องชัดเจน อย่าทำให้ผู้รับสารต้องคิดต่อยอดและแปลความหมาย ที่ผิดไปจากสิ่งที่ผู้ส่งสารต้องการสื่อ

ปัญหาการสื่อสารที่เกิดจากตัวเองมีอะไรบ้าง

         2.การกรองข้อมูลเชิงลบ อุปสรรคของการสื่อสารขึ้นบนคือ การกรองหรือการเปลี่ยนข้อมูล เพราะเกรงว่า เจ้านายเมื่อรู้ข้อเท็จจริงแล้ว จะมีความไม่พอใจ  จึงทำให้พนักงานหลายคนทำการกรองข้อมูล ก่อนที่ส่งข้อเท็จจริงทั้งหมด  ให้กับหัวหน้าผู้บังคับบัญชาเช่น  สำหรับผู้บริหารระดับสูงมีประวัติว่า เคยทำโทษผู้ส่งข่าวร้าย เมื่อเวลาเวลาพนักงานอธิบาย ถึงรายได้ที่น้อยลง การกรองข้อมูลด้านลบก็มักจะเกิดขึ้น

         ดังนั้น การสื่อสารข้อมูลข้อเท็จจริงจะดีที่สุด เพราะนอกจากจะสร้างความน่าเชื่อถือแล้ว หัวหน้าผู้จัดการจะสามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง

ปัญหาการสื่อสารที่เกิดจากตัวเองมีอะไรบ้าง

        3.ผู้ส่งข้อมูลขาดความน่าเชื่อถือ  ถ้าผู้ส่งข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือมาก ก็มีความเป็นไปได้มากขึ้น ที่ข้อความที่ชัดเจนจะผ่านตลอดไปยังผู้รับสารปลายทาง ในทางตรงข้าม ถ้าผู้ส่งข้อความมีความน่าเชื่อถือต่ำ หลายครั้งก็จะถูกละเลย หรือ ข้อมูลหรือสารเหล่านั้นไม่ความหมาย หรือคุณค่าของสารต่ำลง ยกตัวอย่างดังภาพ คนที่ขาดความน่าเชื่อถือไปบอกเจ้านายว่าบนภูเขามีทอง เจ้านายก็เชื่อได้เพียงว่ามีแค่เถ้าถ่าน  เปรียบเสมือนคนเลี้ยงแกะ

        ดัวนั้น ผู้ส่งสารต้องสร้างความน่าเชื่อถือ พูดในในสิ่งที่เป็นข้อเท็จจริง อย่างถูกต้อง

ปัญหาการสื่อสารที่เกิดจากตัวเองมีอะไรบ้าง

        4.การใช้สัญลักษณ์ผสม  การใช้สัญลักษณ์ผสมมักกับการการสื่อสาร  มักจะทำให้การสื่อข้อความนั้นไม่ได้ผล ทำให้สารที่ส่งไปยังผู้ฟังที่แตกต่างกัน  สามารถแปลสื่อหรือข้อความที่แตกต่างกัน  ทั้งๆที่เป็นเรื่องเดียวกันตัวอย่าง เช่น บริษัทหนึ่งคุยโอ้อวด เกี่ยวกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ของตน แต่สำหรับในโรงงานและในสำนักงาน บริษัทได้บอกให้พนักงาน ลดระดับคุณภาพการผลิต เพื่อลดค่าใช้จ่าย  อีกตัวอย่างหนึ่งเช่น เวลาที่เราให้ข้อมูล เกี่ยวกับพฤติกรรมที่พึงปรารถนา แก่บุคคลหนึ่ง แต่เราประพฤติอีกอย่างหนึ่ง นี้คือ การใช้สัญลักษณ์ผสม

        ดังนั้น การสื่อสารต้องตรงกับสิ่งที่ได้กระทำจริง

ปัญหาการสื่อสารที่เกิดจากตัวเองมีอะไรบ้าง

       5.ใช้กรอบอ้างอิงที่แตกต่างกัน คนที่จะรับรู้คำพูดและแนวความคิดแตกต่างกันได้ ขึ้นอยู่กับกรอบอ้างอิงของแต่ละคน (frame of reference) ซึ่งหมายถึง มุมมองของแต่ละคน พื้นฐานความรู้ ลักษณะนิสัย ทรรศนคติและความคิด อันเกิดขึ้นจากประสบการณ์ในอดีตที่แตกต่างกัน

        ดังนั้น การใช้กรอบอ้างอิงต้องชี้ชัด มีแหล่งที่มาอย่างชัดเจน  เนื้อหาสาระที่มีทิศทางเดียวกัน

ปัญหาการสื่อสารที่เกิดจากตัวเองมีอะไรบ้าง

        6.การตัดสินคุณค่า คนเราตัดสินคุณค่า ก่อนการรับข้อความ ใช้ความรู้สึกอย่างอื่นเอียงแอน จากข้อเท็จจริงหรือความหมายของสารที่คนสื่อ  ต้องการให้เข้าใจความหมายอย่างที่ตั้งใจ  จะส่งข้อความให้รับฟัง การตัดสินคุณค่า เป็นความคิดเห็นของบางสิ่งบางอย่างที่ขัดขวางการรับรู้โดยเร็วเช่น คนเราจะรับรู้ในสิ่งที่ต้องการจะอยากได้ยินเท่านั้น ส่วนที่ไม่อยากได้ยิน ก็มักจะละเลยและไม่อยากรับฟัง

       ดังนั้น การเป็นผู้รับรับฟังที่ต้องรับฟังข้อมูล ข้อเท็จอย่างละเอียดถี่ถ้วนก่อน ที่จะตัดสินหรือตัดสินคุณค่าของข่าวสาร

ปัญหาการสื่อสารที่เกิดจากตัวเองมีอะไรบ้าง

      7. การสื่อสารที่มีข้อมูลมากเกินไป เมื่อบุคคลแบกรับข้อมูล ที่เขาไม่สามารถตอบสนองกับข้อความได้ อย่างมีประสิทธิภาพ ผลก็คือ ทำให้เกิดความเครียด ไม่สามารถจดจำข้อมูลได้ทั้งหมดและอาจจะถูกละเลย  ข้อมูลที่สำคัญไปก็เป็นไปได้

      ดังนั้นการสื่อสาร ต้องมีเนื้อหาที่มีความเหมาะสมกับความสามารถ ที่ผู้รับสารจะสามารถรับได้

 

ขอขอบคุณภาพ จากเว็บไซด์อินเตอร์เน็ท

บทความที่น่าสนใจ ภาษากาย เคล็ดลับเพิ่มประสิทธิภาพ การสื่อสาร ให้ประสบความสำเร็จ ในการเจรจา

วีดีโอคลิป เกิดมาทำไม https://www.youtube.com/watch?v=bGZRei9P6XE&t=328s

Related