1 วจิ ัยในชั้นเรียน การพัฒนาแบบฝกึ ทกั ษะ นายทศพล ลาภจรัสแสงโรจน์ ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2562 ก บทคดั ยอ่ นายทศพล ลาภจรัสแสงโรจน์ ข ประกาศคุณูปการ นายทศพล ลาภจรัสแสงโรจน์ สารบญั ค 1 บทท่ี 1 บทนํา ความเป็นมาและความสําคัญของปญั หา ภาษาไทยเป็นภาษาประจําชาติไทยมีที่ความเป็นเอกลักษณ์ซึ่งบ่งบอกถึงความเป็นไทย นอกจากน้ี การจัดการเรียนการสอนมีจุดมุ่งหมายเพื่อการพัฒนาให้นักเรียนเกิดทักษะการเรียนรู้ทั้ง 4 ด้าน คือ ภาษาถือว่าเป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่งและยังที่บ่งบอกว่าสังคมนั้นมีความเจริญแล้วทางวัฒนธรรม สรุ ีรัตน์ บํารงุ สขุ (2557, หน้า 15) กลา่ ววา่ การรับนา้ํ ตา่ งประเทศเข้ามาใชใ้ นภาษาเป็น ปรากฏการณ์ 2 ที่ประวัติศาสตร์ คือ สมัยแรกของกรุงสุโขทัยแล้ว ดังปรากฏว่ามีภาษาบาลี ภาษาสันสกฤต ภาษาเขมร ภาษา เมื่อมีการนําภาษาต่างประเทศมาใช้ในภาษาไทยจึงทําให้มีการบรรจุเนื้อหาการเรียนเกี่ยวกับ ทดสอบ นักเรยี นยงั ขาดทกั ษะในการจาํ แนกคำไทยแท้และภาษาตา่ งประเทศ ทาํ ให้ผู้วิจัยตอ้ งการท่ีจะ วัตถปุ ระสงคข์ องการวิจยั 1. เพอ่ื พัฒนาแบบฝึกทกั ษะเรื่อง คำภาษาตา่ งประเทศในภาษาไทย สาํ หรบั นกั เรยี นช้นั มัธยมศึกษาปี 2. เพือ่ เปรยี บเทยี บผลสมั ฤทธิ์การจําแนกภาษาต่างประเทศในภาษาไทย ของนกั เรียนชั้น มธั ยมศึกษา สมมติฐานของการวจิ ยั 1. แบบฝึกทักษะที่สรา้ งขึ้นจะมีประสิทธภิ าพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/7 ที่ได้ใช้แบบฝึกทักษะ เร่ือง คำภาษาต่างประเทศในภาษาไทย มี ขอบเขตการวิจยั ประชากรและกลมุ่ ตวั อยา่ งทใ่ี ชใ้ นการวจิ ยั ประชากรทใ่ี ชใ้ นการวจิ ัยคร้งั นี้ เปน็ นักเรยี นชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 3 กลมุ่ ตัวอย่าง ตัวแปรทศ่ี ึกษา ตัวแปรต้น คือ การจําแนกคําภาษาต่างประเทศในภาษาไทย โดยใช้แบบฝึกทักษะการจําแนก ตัวแปรตาม คอื ผลสมั ฤทธิ์ในการจาํ แนกภาษาตา่ งประเทศโนภาษาไทยของนักเรียนชน้ั มธั ยมศกึ ษาปี ประโยชน์ท่ีได้รับจากการวิจัย 1. แบบฝกึ ทักษะ เรอ่ื ง เร่ือง คำภาษาตา่ งประเทศในภาษาไทย สําหรับนกั เรยี นชั้นมัธยมศกึ ษาปี ที่ 3 2. นักเรยี นช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 3/7 มที กั ษะในการจําแนกภาษาต่างประเทศในภาษาไทยดีข้นึ 3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น หลังจากที่เรียนโดยการใช้แบบฝกึ ทักษะ เรื่อง เรื่อง คำภาษาต่างประเทศ นยิ ามศัพท์เฉพาะ ประชากร หมายถึง นักเรียนที่กําลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านบึง กลุ่มตัวอย่าง หมายถึง นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/7 โรงเรียนบ้านบึง “อุตสาหกรรมนุเคราะห์” คําภาษาต่างประเทศในภาษาไทย หมายถึง คําที่มาจากภาษาอื่นแล้วมีการนํามาใช้ในภาษาไทยใน
แบบฝึกทักษะ หมายถึง แบบฝึกทักษะที่ผู้วิจัยใช้สําหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/7 เพื่อให้ 4 แบบทดสอบ หมายถึง ชุดคำถามทใี่ ช้วดั ความรู้สําหรับการวจิ ยั กอ่ นเรียนและหลงั เรยี น เร่อื งสาเหตุท่ี ในการวจิ ัยนผี้ ู้วจิ ัยไดศ้ ึกษาตามกรอบแนวคิดดงั น้ี ตัวแปรต้น ตัวแปรตาม แบบฝกึ ทักษะการจาํ แนก ผลสมั ฤทธใ์ิ
นการจาํ แนกคำ ภาพท่ี 1 กรอบแนวคดิ ในการวิจัย 5 บทท่ี 2 การศึกษาเรอื่ ง การพฒั นาแบบฝึกทกั ษะการจาํ แนกภาษาตา่ งประเทศในภาษาไทยสําหรับนกั เรียนชั้น 1. เอกสารเกย่ี วข้องกบั การจําแนกภาษา 1. รูปภาษามีวิภัตติปัจจัย คือ ภาษาท่ีมีตั้งเดิมเป็นธาตุ (คำในบาลีสันสกฤตมีรากศัพท์ ซ่ึง ธาตุ (root) คอื รากศพั ท์ที่มีความหมายในตัว แตย่ ังนําไปใช้ไมไ่ ด้ ต้องนําไปปรงุ แต่ง
เสียก่อน เมื่อได้ “ศัพท์” แล้ว นําศัพท์มาประกอบวิภัตติให้เป็นบทแล้วนําบทไปเรียงเข้าประโยคใน 6 ประโยคแม้ ไม่มีตัวประธานปรากฏอยู่ ก็ยังสามารถรู้ได้ว่าใครเป็นประธาน เพราะว่าวิภัตติของกริยา จะช่วยบอกให้ เชน่ วันทติ (เขาผชู้ ายท้งั หลายใหว้) “ธาตุ” เป็นคําตั้งเดิมของวิภัตตปัจจัย โดยมากเป็นพยางค์เดียว สําหรับเอาปัจจัยเข้าไป ประกอบให้ เปน็ ศัพทข์ นึ้ (ธาตุ 4 ปัจจยั ศัพท)์ : ตัวอยา่ ง ธาตุ ปัจจยั กฤตได้ คําแปล ชน (เกิด) + กวี ช ผู้เกิด คร (ทํา) + กวี ก ผู้ทำ ปาล (เลยี้ ง) + กวี ป ผปู้ กครอง ข้อสังเกต : 1. คริ / ปจั จยั เม่อื ลงทา้ ยธาตุตวั โต ต้องลบ “คร"ิ ทิง้ ทัง้ หมด และตอ้ งลบตัวท้ายของธาตุ ออกด้วย ศพั ทท์ ไี่ ดแ้ ปลวา่ “ผู้” 2. กฤต / วิธีกฤต คือ การปรับปรุงหรือตกแต่งธาตุที่เกิดจากการลงปัจจัยโดยวิธีต่างกัน ให้มี ความหมายต่างออกไป 2. รปู ภาษาคำติดต่อ คอื ภาษาทีเ่ อาคำที่เรยี กในภาษาอังกฤษว่า affox คอื เตม็ อันได้แก่ ฟ้าเต็มหน้า หรอื อปุ สรรค (prefe) คำเต็มกลาง (infix) และคำเต็มหลังปจั จัย (Suffix) เขา้ ไปประกอบกับคำเตม็ ให้เกิดเป็น ค่าต่าง ๆ ขึ้นมาในภาษา เมื่อประกอบกันแล้วคำเดิมและคําเดิมยังคงรูปอยู่ ภาษาที่มีลักษณะ เช่นนี้ ได้แก่ ภาษาชวา มลายู ภาษาทมฬิ ภาษาตุรกี ภาษาเขมร ภาษาเกาหลีเปน็ ตน้ ตวั อย่าง ภาษามลายู (เต็มหน้า) เชน่ (สุธิวงศ์ พงศ์ไพบูลย์, 2536, หน้า 31) Gail = ขุด Pen+gail = pengail เครอ่ื งขดุ (เสียม) Churi = ขโมย สกั Pen+churi = penchuri ผ้ขู โมย โจร ภาษามลายู (เต็มหลงั ) เชน่ Makan = กิน Makan + an = กิน ภาษาเขมร เชน่ เรยี น = เรียน เตม็ อปุ สรรศ บง = ทําการเรียน คือการสอน เจรียง = ร้องเพลง 7 เต็ม - ํ (นฤศหิต) ตรงกลาง = จํเรียง หรือจมเรียง (จ็อมเรียง) เพลงท่ีร้องหรือนักร้อง (ไทยใช้ จําเรียง เป็นคาํ กริยา) 3. รูปภาษาคําควบมากพยางค์ มีลักษณะที่คล้ายติดต่อ แต่ใช้เอาหลายคำมาติดตอ่ ยาวยืด เท่ากันเป็นคําทั้งประโยค เช่น ภาษาชาวเม็กซิโก มีคําว่า achichitachogan แปลว่า ที่ซึ่งคนร้องให้ เพราะ นำ้ ตาแตง ประกอบดว้ ยคาํ วา่ (อนุมานราชธน (พระยา), 2517, หน้า 44) Alt แปลวา่ น้ำ Chichiltic แปลว่า แดง Tlacatl แปลวา่ คน Chorea แปลวา่ ร้องไห้ คำเหล่านี้เม่ือเอามารวมกนั บางเสียงหดหายไปบ้าง รูปภาษานี้ใชก้ ันในบรรดาชาว อินเดียนแดง ชาว เอสกโิ ม ภาษาอะลองควิน (Alonquin) และชาวเกาะทะเลใตบ้ างแหง่ ภาษาอะอองควิน (Alonquin) เปน็ ภาษ ชาวอนิ เดยี พวกน่ึง มีคำเชน่ wutappesittukqunnooweh tunkquoh Wussneuvuninnauhaan invierune wut ap sit tuk que Sun neo waht แ nk quch ร ว ม เป็นคำเดียว แปลวา่ เขาคกุ เขา่ แดงเคารพเฝา้ (He'Falling on his knees worsh knees worshipped him) 4. รปู ภาษาคําโตต คอื เอาคำตง้ั (Base word) หรอื มลู มาเรยี งลำดบั กันเข้าเป็น ประโยค คำ ตั้งเหล่านี้ เมื่อเรียงเข้าประโยคแล้วก็ยังคงรูปเต็ม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปไปเหมือนภาษามีวิภัตติ ปัจจัย หรือไม่มีการลงอุปสรรค (เต็มหน้า) เหมือนภาษาติตต่อบางภาษา คําที่อยู่ในประโยคทุกคําต่างก็มี อิสระใน ตัวเองไม่ผูกพันกับคำอื่น เช่น “ตํารวจยังโจร” มีความหมายอย่างหนึ่ง ถ้าเปลี่ยนตับในประโยคเป็น “โจร ยิ่งรวจ” ความหมายก็จะเป็นอีกอย่างหนึ่ง หรือในประโยค ฉันรักเธอ / เธอรักฉัน ความหมายก็จะไม่ เหมือนกนั และถ้าจะกล่าวว่า “รักเธอฉัน" ทส่ี อ่ื ความหมายไมเ่ ข้าใจ การแบ่งประเภทของภาษา นอกจากจะแบ่งตามรูปลักษณะภาษาหรือแบ่งโดยรูปแล้วยังมีวิธี อีกวิธีหนึ่ง คือ การแบ่งภาษาโดยอาศัยความสัมพันธ์ของภาษาเป็นหลัก การจําแนกภาษาด้วยวิธีนี้ ทําให้เกิด เป็นภาษาต่างๆ ขึ้นมา โดยตระกูลภาษาน้ีไม่เกี่ยวข้องกับเชื้อชาติ เช่น คนไทยมีภาษาไทยแต่ไปเกิดใน ภาษาองั กฤษ ยอมพูดภาษาอังกฤษ เพราะส่ิงแวดลอ้ มคือสังคม เปน็ ตัวกําหนดภาษา ไม่ใช่พนั ธุกรรม หลักเกณฑ์ในการจําแนกหรือจัดว่าภาษาอยู่ในตระกูลเดียวกันนั้นใช้วิธีเทียบเสียงภาษา ที่มี ความสัมพันธ์กันฉนั พี่น้อง หรือสืบทอดมาจากภาษาโบราณสิ่งศมเดียวกัน มีประวัติและวิวัฒนาการร่วมกันมา จะมีเสียงเปรียบเทยี บซึ่งเป็นเป็นไปอย่างมรี ะบบ การเทียบเสียงนั้นจะใช้คำเต็ม ในภาษาที่ไม่ใช่คํายืม หรือ ที่ เกิดขึ้นใหม่ ถ้าเป็นภาษาที่ไม่มีความสัมพันธ์กันแล้วเราจะหาเสียงเทียบไม่ได้ เช่น เสียง [b] ในภาษาไทย จะ บอกไมไ่ ดว้ ่า ตรงกับเสยี งอะไรในภาษาอังกฤษ แตจ่ ะบอกไดว้ ่า [b] ในภาษาไทย ตรงกับเสยี ง [m] ในภาษาได้ 8 ศท่ี (ไทยตํ่าท่ี ไตศที่ หรือ ไตศที่ เปน็ คนไทยในอสั สัม (ไทยใหญ่) บางหมู่ หมบู่ ้านแขวงเมือง Nefa (เนฟา) ที่ยัง การจําแนกภาษาออกเป็นตระกูล โดยอาศัยความสัมพันธ์ของภาษานี้ ยังมีความสมบูรณ์
คำไทยแท้และลกั ษณะของคำไทยแท้ อย่างหลากหลาย เกี่ยวกับคำในภาษาไทย จะทําให้เราบอกได้วา่ โตเป็นคาํ ไทยแท้ และคำมาจากภาษา อื่น จึง คําไทยแท้ หมายถึง ที่คนไทยหลาย ๆ ถิ่นใช้รวมกัน โดยอาจจะเปลี่ยนเสียงพยัญชนะ เสียง ในพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 ซึ่งทางราชการกำหนดให้ใช้เป็นบรรทัด คําไทยแท้ส่วนใหญ่มีพยางค์เดียว มีใช้อยู่ครบทั้ง 7 ชนิด ตามที่จําแนกทราบแน่ชัดว่าเป็นมา จาก นาม เชน่ แมว มา ไก่ จาน บา้ น ลม ไฟ ฯลฯ อยา่ งไร เป็น ยังไง 9 อย่างนี้ เป็น ยงั ง้ี 10 4. การเดิมพยางค์หน้าคำมูล เหล่านี้มักมีความหมายใกล้เคียงกัน
ทั้งที่เต็มแล้วและ คําที่ยัง ชดิ เปน็ ประชิด เอกสารเกย่ี วข้องกับคาํ ภาษาต่างประเทศในภาษาไทย ภาษาจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ตรงกันข้ามถ้าภาษาใดไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ภาษานั้นย่อมเป็นภาษา ภาษาไทยเป็นภาษาที่มีชีวิต ย่อมมีการหยิบยืมภาษาต่างประเทศมาใช้ปะปนกับภาของตนอยู่เสมอ คำภาษาต่างประเทศที่ไทยยืมมาใช้ที่นบั
วา่ มีอิทธิพลต่อภาษาไทยมาก ได้แก่ ภาษาบาลสี ันสกฤต เขมร 11 สาเหตทุ ี่ตอ้ งยืมภาษาต่างประเทศมาใช้ในภาษาไทยนัน้ กเ็ พราะว่า คา่ ในภาไทยมีไมพ่ อเพียง และ เพ่ือ ลักษณะความสัมพันธร์ ะหวา่ งภาษา การ ทภี่ าษาหนึ่ง เข้าไปปะปนกบั อีกภาษาหนงึ่ ซึง่ เป็นธรรมชาของภาษา เพราะเมื่อคนได้ติดต่อ มคี ามสัมพันธ์ 1. สภาพชั้นลึก (Substratum) สภาพนีเ้ กดิ จากการทีบ่ คุ คลกลุ่มหนึง่ เขา้ ไปปะปน 2.
สภาพชั้นผิว (Superstratum) เป็นลักษณะตรงกันข้ามกับในประการแรก 12 3. สภาพขั้นเตียง (Adstraturm)
สภาพนี้ไม่ได้เกิดจากการที่มีผู้บุกรุกเหมือนกับ จะกล่าวถึง “คนไทยอาหม”
เพื่อเพิ่มความเข้าใจทั้งนี้ สุธิวงศ์ พงศ์ไพบูลย์ (2536, มีหมู่บ้านคนไทยในอัสสัมบางหมู่ ยังพูดภาษาไทยอยู่ม 1) หมู่บ้าน Namphabia 2) ประเภทของการยมื วา่ จําแนกออกได้ 3 ประเภท คือ กลุ่มท่มี ี วัฒนธรรม และภาต่างกนั ไดม้ ีการติดต่อกัน กลุม่ ท่มี ลี ักษณะทางวัฒนธรรมต้อยความเจริญกว่าจะรับ 2. การยืมเนือ่ งจากความใกล้ชิด (Intimate Barrying) คือ การที่กลุ่มคน 2 กลุ่ม 13 มากใน ชีวิตประจําวัน ไดเ้ กิดการหยิบยืมภาษากันขึ้น โดยต่างฝ่ายต่างยืมซึ่งกนั และกนั หรือฝ่ายใดฝ่ายหน่ึงยืม 3. การยืมจากคนต่างกลุ่ม (Dialect Borroving) คือการยืมภาษาเดียวกันแตเ่ ป็น กลุม่ ชนของไทยในสงั คมชนบทและสงั คมในเมอื งจะใชภ้ าษาท่ีแตกต่างกนั เช่น คําว่า อทิ ธิพลของคํายืม จะมี มากน้อยเท่าใด สิ่งแรกที่ยืมทําให้ภาษาเปลี่ยนแปลงไปก็คือ ทําให้จํานวนคำในภาษาเพิ่มมากยิ่งขึ้น ใน 1. อิทธพิ ลทม่ี ีชอ่ื เสียง 14 4. อิทธิพลทีม่ ตี อ่ การเรยี ง 15 บทท่ี 3 ในการวิจัยครั้งนี้มุ่งศึกษาเรื่อง “การพัฒนาแบบฝึกทักษะเรื่อง คำภาษาต่างประเทศในภาษาไทย 1. ประชากรและกลมุ่ ตัวอยา่ ง ประชากรท่ใี ช้ในการวิจยั ครง้ั น้ี คอื แก่นกั เรียนช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 โรงเรียนบ้านบึง กลมุ่ ตัวอย่าง ภาคเรียน ที่ 1 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนบ้านบึง “อุตสาหกรรมนุเคราะห์” จํานวน 47 คน ซึ่งได้มาจากการ เคร่อื งมอื ที่ใชใ้ นการวจิ ยั สาํ หรบั นกั เรียนช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 3 16 ขน้ั ตอนการสร้างเครือ่ งมือทใ่ี ชใ้ นการวจิ ัย (ท่เี ปน็ แบบฝกึ ทักษะ) แบบฝึกทกั ษะสําหรับนักเรียน ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 โดยมขี ั้นตอนการสรา้ งดังนี้ 1. ศึกษาหลักสูตร เอกสาร ตรา ขอบขา่ ย สาระกลุ่มวิชาภาษาไทย ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 2. กําหนดจุดประสงค์การเรียนรู้ ให้สอดคล้องกับคําอธิบายรายวิชาและจุดประสงค์การเรียนรู้ใน หลกั สูตรและเน้ือหา 3. ดำเนนิ การสร้างแบบฝกึ เร่อื ง การจําแนกภาษาต่างประเทศในภาษาไทย 4. นำแบบฝึกทกั ษะ เร่อื ง คำภาษาตา่ งประเทศในภาษาไทย ท่สี ร้างขึ้นเสนอต่อผเู้ ชี่ยวชาญ จาํ นวน 3 ท่าน 1) ด้านนวัตกรรม 2) ด้านการสอน 3) ด้านการวัดและประเมินผล เพื่อขอคําแนะนํามาแก้ไข ในส่วนที่ บกพร่อง 5. ดำเนินการแก้ไขและปรับปรุงชุดแบบฝึกหัด ตามที่ปรึกษาแล้วนําไปให้ผู้เชี่ยวชาญด้านหลักสูตร เนื้อหา กระบวนการ ภาษาและวัดประเมินผลตรวจสอบ เพื่อตรวจสอบคุณภาพและความเที่ยงตรงเชงิ เน้อื หา โดยกาํ หนดเกณฑ์พจิ ารณาคอื +1 = เหน็ วา่ สอดคลอ้ ง 0 = ไม่แนใ่ จ -1 = เห็นว่าไม่สอดคลอ้ ง การวิเคราะห์ข้อมูลความเหมาะสมสอดคล้องของแบบฝึกทักษะ โดยใช้ดัชนีความสอดคล้อง (IOC) คํานวณตามสตู ร IOC = ∑ N แทน จาํ นวนผู้เช่ยี วชาญ นำข้อมูลที่รวบรวมจากความคิดเห็นของผู้เชียวชาญมาคํานวณหาค่า IOC โดยใช้ดัชนีความ สอดคล้อง ของผู้เชียวชาญมาคำนวณหาค่าดัชนีความสอดคล้อง แล้วเลือกค่าดัชนีความสอดคล้องตั้งแต่ 0.5 ขนึ้ ไป 6. หาประสทิ ธภิ าพของแบบฝึกทักษะ โดยทดลองใช้กับนกั เรียนชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 3/7 โรงเรียนบ้าน บึง “อุตสาหกรรมนุเคราะห์” จาํ นวน 47 คน โดยวิธกี ารเลือกแบบจับส่มุ สลากอยา่ งง่ายจากนักเรยี นช้ันสูงกว่า ใน อัตราสว่ นเท่าๆ กนั แล้วหา E1 เท่ากบั 81.62 และ E2 เทา่ กบั 80.85 เพอ่ื แก้ไขปรับปรงุ แบบฝกึ ทกั ษะ 80 ตวั แรก (E1) หมายถึง คา่ เฉล่ยี ร้อยละของคะแนนท่ีนักเรียนทําได้จากแบบทดสอบระหวา่ ง การใช้ แบบฝกึ ทักษะ 80 ตัวหลัง (E2) หมายถึง ค่าเฉลี่ยร้อยละของคะแนนที่นักเรียนทําได้จากแบบทดสอบ หลังการ ใช้ แบบฝึกทกั ษะ 17 ขัน้ ตอนในการสร้างเครือ่ งมือ (ทเ่ี ปน็ แผนการจัดการเรียนรู้) 3 มรี ายละเอียดดงั น้ี สาระการเรียนรู้ สาระสําคัญ หลักการ เนื้อหา ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง เพื่อเป็นแนวทางในการเขียนแผนการ 1.2 ศกึ ษาแนวทางการใชห้ ลกั สตู รของการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 18 ขัน้ ตอนการสร้างเคร่อื งมือ (ทีเ่ ป็นแบบทดสอบ) สาเหตทุ ่ีคำภาษาตา่ งประเทศเข้ามาปะปนในภาษาไทย ของนกั เรยี นช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้แบบฝึกทักษะ 1. ศึกษาโครงสร้างขอบเขต เนื้อหาในหลักสูตรขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และหลักสูตร 2. ศึกษาทฤษฎี งานวจิ ยั หลกั การ แนวคดิ วธิ กี ารสร้างแบบทดสอบ +1 แทน เหน็ ว่าสอดคลอ้ ง การเก็บรวบรวมขอ้ มูล ผูว้ ิจยั ไดเ้ ก็บรวบรวมข้อมลู จากการประเมินผลการจําแนกภาษาต่างประเทศในภาษาไทยของนักเรียน 1. ก่อนทดลองนําแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน การจําแนกภาษาต่างประเทศใน 19 2.ดำเนินการสอนตามแผนการเรียนรู้ จํานวน 2 แผนการเรียนรู้ เป็นเวลา 4 ชั่วโมง ฝึกทัก 3. ทบทวนการฝึกทักษะเรื่อง คำภาษาต่างประเทศในภาษาไทย
และทดสอบหลังเรียน การวิเคราะห์ข้อมลู ในการวเิ คราะห์ข้อมูลการจัดการเรียนร้ภู าษาไทยโดยใช้แบบฝึกทักษะสําหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา 1. หาประสิทธิภาพของแบบฝกึ เสริมทกั ษะ ให้มปี
ระสิทธภิ าพตามเกณฑร์ อ้ ยละ 80/80 สถติ ิทใี่ ช้ในการวิเคราะหข์ ้อมูล จากผลการศึกษาในครงั้ นี้ ผ้วู ิจยั เลอื กสตใิ นการวิเคราะห์ข้อมูล ดังต่อไปน้ี เมื่อ n แทน จํานวนท่ีต้องการเปรยี บเทียบ 2. ค่าเฉลี่ย (Mean) ใช้สัญลักษณ์ ( )
โปรแกรมการวัดผลการศึกษา 2556, หน้า 90) โดย X สตู ร = N X แทน ผลรวมของคะแนนทัง้ หมดประชากร N แทน จำนวนคะแนนประชากร 20 สตู ร S.D. = N X 2 − ( X )2 N (N −1) หรือสูตร S.D = n (x1 − x)2 ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน X แทน คะแนนแต่ละตวั N แทน จำนวนคะแนนในกลุ่ม X แทน ผลรวม 4. หาค่าความเที่ยงตรง ของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้สูตรดัชนีความ สอดคลอ้ ง IOC (สมนึก ภัททิยธนี. 2546 : 221) สตู ร IOC = R เมอื่ IOC แทน ดัชนีความสอดคล้องระหวา่ งข้อสอบกับจุดประสงค์ R แทน ผลรวมคะแนนความคิดเห็นของผเู้ ชย่ี วชาญท้ังหมด 5.การหาประสทิ ธภิ าพของแบบฝึกทักษะการอ่านวิเคราะห์ 80/80 โดยใช้สูตร E1/E2ดังน้ี X x100 สตู ร E1 = A เมอ่ื E1 แทน ประสิทธภิ าพของกระบวนการเรยี นการสอน X แทน คะแนนของแบบฝกึ หดั หรอื แบบทดสอบย่อย A แทน คะแนนเตม็ ของแบบฝึกทกั ษะทุกชุดรวมกนั X x100 สูตร E2 = B X แทน คะแนนรวมของแบบทดสอบหลงั เรียน B แทน คะแนนเต็มของแบบทดสอบหลังเรียน 21 6. การเปรียบเทียบคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียน (t-test Dependent) โปรแกรมการ วัดผลการศึกษา, 2556 หนา้ 103) โดยใชส้ ูตรดงั นี้ = ∑ D แทน ความแตกต่างของคะแนนก่อนเรียนและหลงั เรียนของนักเรยี นแต่ ละคน 2 แทน ผลรวมของความแตกต่างของคะแนนก่อนเรียนและหลงั เรยี นของ นักเรียนทุกคน ∑ 2 แทน ผลรวมความแตกตา่ งของคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียนของ นักเรยี นแต่ละคนยกกำลังสอง (∑ )2 แทน ผลรวมของความแตกต่างของคะแนนกอ่ นเรยี นและหลงั เรยี นของนกั เรียนแต่ละคนยกกำลงั สอง ∑ 2 แทน จำนวนนักเรียนคูณผลรวมของความแตกตา่ งของความ แตกตา่ งคะแนนกอ่ นเรยี นและหลงั เรียนของนักเรยี นแต่ ละคนยกกำลงั สอง 22 บทที่ 4 ผลการวเิ คราะห์ข้อมูล การศึกษาวิจยั เรื่องการจําแนกภาษาต่างประเทศในภาษาไทยของระดับชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 3 โรงเรียน บ้านบึง “อุตสาหกรรมนุเคราะห์” ผู้วิจัยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะเรื่องคำ ภาษาต่างประเทศในภาษาไทย สําหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีคุณภาพในระดับดี และมี ประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐานที่ 80/80 2) เพื่อศึกษาความสามารถในการจําแนกภาษาต่างประเทศใน ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์การจําแนกภาษาต่างประเทศใน ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้แบบฝึกทักษะเรื่อง คำภาษาต่างประเทศในภาษาไทย ผลการวิเคราะห์ขอ้ มลู ผู้วจิ ัยไดน้ าํ เสนอผลการวิเคราะหข์ อ้ มูล โดยแบ่งออกเปน็ 2 ตอน ดงั นี้ ตอนท่ี 1 ผลการหาคุณภาพและประสิทธภิ าพของแบบฝึกทักษะ เรือ่ ง แบบฝกึ ทักษะเร่ืองคำ ภาษาต่างประเทศในภาษาไทย สาํ หรับนกั เรยี นชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 ตอนที่ 2 ผลการเปรียบเทียบคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกับคะแนนทดสอบก่อนเรียน หลังจาก เรียนด้วยแบบฝึกทักษะ เรื่อง แบบฝึกทักษะเรื่องคำภาษาต่างประเทศในภาษาไทย สําหรับนักเรียน ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ภาษาตา่ งประเทศในภาษาไทย สาํ หรบั นกั เรียนชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 ผลการหาคุณภาพของแบบฝึกทักษะ โดยผู้เชี่ยวชาญพบว่า คุณภาพด้านเนื้อหามีค่าเฉลี่ย เทา่ กบั 4.44 อยใู่ นระดบั ดี คุณภาพด้านเทคนคิ มคี ่าเฉลี่ยเท่ากบั 4.35อยใู่ นระดบั ดี การหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะที่ทดลองกับนักเรียนกลุ่มตัวอยา่ งจํานวน 47 คนที่ได้ ศึกษา จากแบบฝึกทักษะ ผลการหา คุณภาพและประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะ เรื่อง คำภาษาต่างประเทศ ในภาษาไทย ผวู้ จิ ัยขอเสนอผลจากการหาประสทิ ธิภาพของแบบฝึกเสริมทกั ษะ ดงั ตาราง ตารางที่ 1 ผลการหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะ เรื่อง แบบฝึกทักษะเรื่องคำภาษาต่างประเทศใน ภาษาไทย จ ำ น ว น ก ลุ่ ม แบบฝึกทักษะ คะแนนเฉลยี่ แบบทดสอบหลังเรยี น ประสิทธภิ าพ 23 จากตารางที่ 1 ผลการหาประสทิ ธิภาพของแบบฝึกทักษะ เรอ่ื ง การจําแนกภาษาตา่ งประเทศ ตอนที่ 2 ผลการเปรียบเทียบคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกับคะแนนทดสอบก่อนเรียน และ หลังเรยี นด้วยแบบฝกึ ทักษะ เรอ่ื ง คำภาษาต่างประเทศในภาษาไทยสาํ หรับนกั เรยี นขึ้น มธั ยมศึกษาปีที่ 3 ผู้วิจัยทําการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อเปรียบเทียบคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกับคะแนนทดสอบ ก่อนเรียน ของกลุ่มตัวอย่าง จํานวน 47 คน จากการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะ เรื่อง การจําแนก ภาษาต่างประเทศใน ภาษาไทย สําหรับนกั เรยี นชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 ซึ่งผลการวเิ คราะห์ปรากฏตง้ั ตารางที่ 2 ตารางที่ 2 ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิท์ างการเรียนกบั คะแนนทดสอบก่อนเรียนที่เรยี นด้วยแบบฝึกทักษะ เร่อื ง การจําแนกภาษาตา่ งประเทศในภาษาไทย กลมุ่ ตัวอย่าง N df ค ะ แ น น ก่อนอบรม หลงั อบรม t นักเรียน เต็ม ̅ S.D. ̅ S.D. 32.51 *คา่ 6
มนี ัยสาํ คัญทางสถติ ิที่ระดบั .01 (ต่าวกิ ฤตของ t ที่ระดบั .01 33 เท่ากบั 32.51) 3251* และ หลังการใช้แบบฝึกทักษะการจําแนกภาษาต่างประเทศในภาษาไทยพบว่า เมื่อเปรียบเทียบค่า + ที่ 24 บทท่ี 5 สรปุ ผลอภิปรายผล และข้อเสนอแนะ การพฒั นาแบบฝกึ ทักษะการจาํ แนกภาษาต่างประเทศในภาษาไทย สาํ หรบั นักเรียนชน้ั มธั ยมศึกษา ปี 1. วตั ถปุ ระสงค์ของการวิจัย 25 2. แบบฝกึ ทักษะ เร่ือง
“คำภาษาต่างประเทศในภาษาไทย " สําหรบั นักเรียนชั้น มัธยมศกึ ษา 3. แบบทดสอบ เรื่อง คำภาษาต่างประเทศในภาษาไทย ใช้วัดการเรียนรู้ก่อนเรียนและหลัง สรปุ ผลการวิเคราะห์ขอ้ มลู มัธยมศึกษาปีที่ 3/7 โรงเรียนบ้านบึง “อุตสาหกรรมนุเคราะห์” ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีค่า E1/E2 เท่ากับ 2. คะแนนการทดสอบของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/7 ของโรงเรียนบ้านบึง “อุตสาหกรรมนุ การอภปิ รายผล ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยการใช้แบบฝึกทักษะการจําแนกคําภาษาต่างประเทศในภาษาไทย ในครั้งนี้พบว่า 1. Active Responding ให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการเรียนอย่างกระฉับกระเฉง
ไม่ว่าจะ 2. Minima! Error ในการเรียนแต่ละครั้งเราหวังว่า นักเรียนจะตอบคําถามได้ถูกต้องเสมอ 26 3. Knowledge of Results เมื่อนักเรียนสามารถตอบถูกต้องเขาควรได้รับเสริมแรง ถ้า 4. Small Step การเรียนจะต้องเปิดโอกาสให้นักเรียนได้เรียนรู้ไปทีละน้อยด้วยตนเอง โดย ผลการเปรียบเทียบคะแนนก่อนและหลังการใช้แบบฝึกทักษะการจําแนกภาษาต่างประเทศ ด้านการพัฒนาผู้เรียนผู้วิจัยได้ยึดหลักทฤษฎีพฤติกรรมนิยมของสกินเนอร์
ซึ่งมีความเชื่อว่า ข้อเสนอแนะ ข้อเสนอแนะในการนําไปใช้ การจาํ แนกภาษาต่างประเทศในภาษาไทยควรมีแบบฝึกที่หลากหลาย
เพราะทไี่ ทยยืมมาจาก ขอ้ เสนอแนะในการวจิ ยั คร้งั ต่อไป 1. ควรมีการวจิ ัยเกีย่ วกับการเปรยี บเทียบการสอนระหว่างสอนโดยใช้แบบฝึกทักษะ กับการ 27
2. ควรนำแบบทดสอบไปฝึกกับนักเรียนโรงเรียนอื่น เพื่อหาข้อสรุปผลของการศึกษาค้นคว้า 3. ควรทีจ่ ะมีการศึกษาพืน้ ฐานความสามารถในการเรียนรู้ของเดก็ ในห้องเรียนเพื่อนําข้อมูลท่ี 4. ควรมีการวจิ ัยเกย่ี วกับการสอนโดยใช้เทคนิคต่าง ๆ ในวิชาภาษาไทยต่อไป 28 ภาคผนวก 29 สาระ/มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชี้วัด สาระที่ ๔ หลกั การใชภ้ าษาไทย 30 สาระสำคญั /จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระสำคัญ ภาษาต่างประเทศทเี่ ขา้ มาปะปนในภาษาไทยดว้ ยสาเหตตุ ่าง ๆ มีอทิ ธพิ ลต่อภาษาไทย คือ ทำให้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑. อธบิ ายสาเหตทุ ่ภี าษาตา่ งประเทศเขา้ มาปะปนในภาษาไทยได้ 31 แบบทดสอบกอ่ นเรียน แบบฝกึ ทกั ษะเรอื่ งคำภาษาตา่ งประเทศในภาษาไทย คำชแี้ จง ให้นักเรียนทำเครื่องหมาย ทับในชอ่ งตัวอักษร ก, ข, ค, ง ที่เหน็ วา่ ถกู ท่ีสุด เพียง ๑. ข้อใดไม่ใชส่ าเหตทุ ท่ี ำให้ภาษาตา่ งประเทศเข้ามาปะปนในภาษาไทย ๒. “คนไทยมีเสรภี าพในการนบั ถือศาสนา เม่ือนับถือศาสนาใดกต็
ามย่อมไดร้ ับถ้อยคำภาษาทใ่ี ช้ ๓. “คนไทยท่ีอาศยั อยบู่ ริเวณชายแดนมคี วามเก่ยี วพันกับชนชาติต่างๆโดยปรยิ าย มีการเดินทางขา้ ม ๔. ดว้ ยเหตุทวี่ รรณคดีทำให้ภาษาสันสกฤตและภาษาชวาเข้ามาปะปนในภาษาไทยนนั้ มอี ิทธิพล มาจาก 32 ๕. ข้อใดเปน็ คำทเี่ กิดจากความก้าวหนา้ ทางวทิ ยาการและเทคโนโลยี ก. ปัญญา ศลี ข. ปฏกิ ิรยิ า เซียมซี ค. คอมพวิ เตอร์ ทฤษฎีบท ง. ทรพั ย์ หนุ้ ๖. ภาษาต่างปะเทศที่เข้ามาปะปนในภาษาไทยด้วยสาเหตุต่าง ๆ มีอทิ ธิพลต่อภาษาไทย คือ ทำให้ ข. เกดิ ความยงุ่ ยากในการใช้คำ ค. มคี ำควบกลำ้ ใช้มากขนึ้ ง. มคี ำไวพจนใ์ ช้มากข้ึน ๗. ขอ้ ใดคอื คำที่มีความหมายเหมอื นกนั ทง้ั หมด ก. นก ปักษา สกุณา วิหค ข. ม้า พาชี อาชา อัศวะ ค. ดอกไม้ กรรณิกา บปุ ผชาติ สุมาลี ง. นำ้ คงคา ธารา รัชนกี ร ๘. จากอิทธิพลของภาษาตา่ งประเทศที่มีตอ่ ภาษาไทย ทำให้ลกั ษณะของภาษาไทยเปล่ยี นไป จากเดมิ ก. โทรศพั ท์ ปรารถนา ข. อทุ กภยั จนั ทร ค. ยาตรา จกั รยาน ง. สาธารณ มารดา 33 ๙. จากอิทธิพลของภาษาต่างประเทศท่ีมีตอ่ ภาษาไทย ทำใหภ้ าษาไทยมีคำท่สี ะกดไม่ตรง ตาม ก. กาญจน์ สนุ ัข ข. ปาก กา้ น ค. ลาภ บาท ง. มงกุฎ เจรญิ ๑๐. จากอทิ ธิพลของภาษาตา่ งประเทศที่มตี อ่ ภาษาไทย ทำใหโ้ ครงสร้างของภาษาเปล่ียนไป ข้อใดไม่ ก. เขาพบตัวเองอยู่ในหอ้ งเรียน ข. นวนยิ ายเรอ่ื งน้เี ขียนโดยทมยนั ตี ค. ข้าพเจ้ามาถึงนครสวรรคเ์ มอ่ื เวลาบา่ ย ง. มนั เปน็ เวลาบ่ายเมอ่ื ขา้ พเจา้ มาถึงลพบรุ ี 34 ใบความรู้เรือ่ งสาเหตุท่ีคำภาษาตา่ งประเทศ สาเหตุท่ีภาษาต่างประเทศเข้ามาปะปนในภาษาไทย การตดิ ต่อสมั พนั ธ์กันทำใหภ้ าษาตา่ งประเทศเข้ามาปะปนอยู่ในภาษาไทย ดว้ ยสาเหตุ หลาย ๑. ความสัมพนั ธท์ างด้านสภาพภูมศิ าสตร์ สภาพภมู ศิ าสตร์ คอื ประเทศไทยมอี าณาเขตตดิ ต่อกบั ประเทศต่าง ๆ ไดแ้ ก่ พม่า ลาว เขมร ๒. ความสัมพันธท์ างด้านประวัติศาสตร์ ประวัติศาสตร์ชนชาตไิ ทยเปน็ ชนชาติทมี่ ปี ระวัติศาสตร์อนั ยาวนาน มีการอพยพโยกย้าย ของคน 35 ๓. ความสัมพนั ธ์ทางด้านศาสนา ศาสนาคนไทยมเี สรีภาพในการนับถือศาสนามาเปน็ เวลาช้านาน เมือ่ นับถือศาสนาใดก็ย่อมได้รับ ๔. ความสัมพนั ธ์ทางดา้ นการคา้ การคา้ ขายจากหลักฐานทางด้านประวตั ิศาสตร์ ชนชาติไทยมีการติดต่อคา้ ขายแลกเปลย่ี นสินค้ากับ ๕. ความสมั พนั ธ์ทางดา้ นวรรณคดี วรรณคดอี นิ เดียทีไ่ ทยนำเขา้ มา เช่น เร่อื งมหากาพย์รามายณะ และมหาภารตะแต่งขึ้น เปน็ ภาษา 36 ๖. ความสมั พนั ธท์ างดา้ นวัฒนธรรมและประเพณี ความสัมพนั ธ์ทางด้านวฒั นธรรมและประเพณี เมอื่ ชนชาติตา่ ง ๆ เข้ามาสมั พันธ์ติดต่อกับ ชนชาติ ๗. ความสมั พันธ์ทางดา้ นการศึกษาและวทิ ยาการดา้ นต่าง ๆ การศกึ ษาและวทิ ยาการด้านต่าง ๆ จากการท่คี นไทยเดนิ ทางไปศึกษายังต่างประเทศ ทำให้ ไดใ้ ช้ ๘. ความสมั พนั ธท์ างการทูต ความสัมพนั ธ์ทางการทูต การเจริญสมั พนั ธไมตรีทางการทูต ในการอพยพโยกย้ายหรอื ในการ 37 ๙. อพยพย้ายถิน่ ฐาน อพยพย้ายถิน่ ฐานมาจากสาเหตหุ ลายประการ เชน่ สภาพเศรษฐกจิ ต้องไปประกอบอาชีพ ยงั ๑๐. ความสมั พนั ธ์สว่ นตวั กับคนต่างชาติ คนไทยจำนวนมากท่ีคบหาสมาคมกับคนตา่ งชาตหิ รือทีส่ มรสกบั คนต่างชาติ ทำให้มกี ารถา่ ยทอด 38 คำภาษาไทยทีย่ ืมมาจากภาษาต่างประเทศ จากสาเหตขุ า้ งต้นไทยไดย้ ืมคำภาษาต่าง ๆ เข้ามาใช้ปะปนในภาษาไทยหลายภาษาด้วยกัน ดงั น้ี ภาษา คำ ภาษาที่มใี ช้ในภาษาไทยเปน็ จำนวนมาก คอื ภาษาบาลี สนั สกฤต เขมร จีน องั กฤษ โดยเฉพาะ 39 อทิ ธพิ ลของภาษาตา่ งประเทศทม่ี ตี ่อภาษาไทย ภาษาต่างปะเทศทเ่ี ขา้ มาปะปนในภาษาไทยดว้ ยสาเหตุต่าง ๆ ดงั กลา่ วข้างตน้ มีอิทธิพล ตอ่ คำมีพยางค์มากขึ้น ภาษาไทยเปน็ ภาษาตระกลู คำโดด คำสว่ นใหญเ่ ป็นคำพยางค์เดยี ว เช่น พ่อ - คำสองพยางค์ เช่น บิดา มารดา เชษฐา กนษิ ฐา ยาตรา ธานี จนั ทร เป็นตน้ มคี ำควบกล้ำใชม้ ากขนึ้ โดยธรรมชาตขิ องภาษาไทยจะไม่มีคำควบกล้ำเมื่อรับภาษาอนื่ เข้ามาเป็นเหตุ มคี ำไวพจนใ์ ช้มากข้ึน
(คำไวพจน์ คือ คำท่ีมีความหมายเหมือนกนั ) ซง่ึ สะดวกและสามารถเลอื กใช้ นก บุหรง ปักษา ปกั ษิน วหิ ค สกุณา มตี ัวสะกดไม่ตรงตามมาตรา คำไทยแท้สว่ นใหญ่มีตวั สะกดตรงตามมาตรา เมื่อไดร้ ับอิทธพิ ล ทำให้โครงสร้างของภาษาเปลีย่ นไป เชน่ สำนวนภาษาตา่ งประเทศ เขาพบตัวเองอย่ใู นห้อง 40 แบบฝึกทกั ษะเร่ืองคำภาษาต่างประเทศในภาษาไทย กิจกรรมที่ ๑ สาเหตุทีภ่ าษาต่างประเทศเข้ามาปะปนในภาษาไทย การตดิ ต่อสัมพันธก์ นั ทำให้ภาษาต่างประเทศเขา้ มาปะปนอย่ใู นภาษาไทย ด้วยสาเหตุ หลาย ก. ความสัมพันธ์ทางดา้ นสภาพภูมศิ าสตร์ 41 ๑. ประเทศไทยมีอาณาเขตตดิ ต่อกบั ประเทศต่าง ๆ คนไทยท่ีอยูอ่ าศัยบริเวณ ๘. การอพยพยา้ ยถน่ิ ฐานมาจากสาเหตุหลายประการ เช่น สภาพเศรษฐกจิ ๙. การเจริญสมั พันธไมตรีทางการทตู การติดต่อทางการทูต ย่อมทำให้ภาษา คนไทยมเี สรีภาพในการนบั ถือศาสนามาเปน็ เวลาชา้ นาน เม่ือนบั ถือศาสนาใด การนำวัฒนธรรมและประเพณที เ่ี คยยดึ ถือปฏบิ ตั ิ ถ้อยคำภาษาทเ่ี ก่ยี วข้อง 42 แบบฝกึ ทักษะเรื่องคำภาษาตา่ งประเทศในภาษาไทย กิจกรรมที่ ๒ คำภาษาไทยที่ยมื มาจากภาษาต่างประเทศ คำชี้แจง จงเลือกคำภาษาตา่ งประเทศท่ีเข้ามาปะปนในภาษาไทยด้วยสาเหตตุ ่างๆ มาเตมิ ในตาราง ให้ ศีล พาณิชย์ ปญั ญา อสัญแดหวา หนุ้ กงเตก๊ เทคโนโลยี กระยาหงนั เซียมซี ทฤษฎีบท ความสัมพันธ์ทางดา้ นศาสนา 43 แบบฝึกทกั ษะเรือ่ งคำภาษาตา่ งประเทศในภาษาไทย กจิ กรรมท่ี ๓ คำภาษาไทยที่ยืมมาจากภาษาตา่ งประเทศ วิชา สนั ติ กริช ปาหนนั เปิงมาง พลาย กิโมโน สุก้ียาก้ี กว๋ ยเต๋ียว เตา้ ฮวย บำเพ็ญ เสวย ครัวซองต์ บฟุ เฟต่ ์ โฆษณา ภรรยา กอลฟ์ นิวเคลียร์ หม่อง สว่ ย บาลี 44 แบบฝึกทักษะเร่ืองคำภาษาตา่ งประเทศในภาษาไทย กิจกรรมที่ ๔ อทิ ธิพลของภาษาตา่ งประเทศทม่ี ตี อ่ ภาษาไทย เครอื่ งหมาย ขอ้ ความ ๑. ภาษาไทยเปน็ ภาษาตระกูลคำโดด เม่ือยมื คำภาษาอน่ื มาใช้ 45 แบบทดสอบหลังเรียน แบบฝึกทักษะเรือ่ งคำภาษาต่างประเทศในภาษาไทย คำชี้แจง ใหน้ ักเรียนทำเครอื่ งหมาย ทับในช่องตัวอักษร ก,
ข, ค, ง ที่เห็นว่าถูกท่ีสุดเพยี งคำตอบ ๑. “คนไทยมีเสรภี าพในการนบั ถอื ศาสนา เมอ่ื นับถือศาสนาใดก็ตามย่อมไดร้ ับถ้อยคำภาษาท่ีใช้ ก. ความสัมพนั ธท์ างด้านประวตั ิศาสตร์ ก. ความสัมพนั ธ์กันทางเชอ้ื ชาติและถน่ิ ท่ีอยู่อาศยั ตามภูมศิ าสตร์ ก. ความสัมพนั ธ์กันทางเชอ้ื ชาติและถ่ินที่อยู่อาศัยตามภมู ิศาสตร์ ก. ความสัมพนั ธท์ างดา้ นวรรณคดี 46 ง. ความสัมพนั ธท์ างดา้ นประวตั ิศาสตร์ คือคำมีพยางค์มากข้นึ คำในขอ้ ใดมี ๓ พยางค์ทกุ คำ ก. โทรศัพท์ ปรารถนา ข. อุทกภัย จนั ทร ค. ยาตรา จกั รยาน ง. สาธารณ มารดา ๖. ข้อใดเป็นคำทเ่ี กดิ จากความก้าวหน้าทางวทิ ยาการและเทคโนโลยี ก. ปญั ญา ศลี ค. คอมพิวเตอร์ ทฤษฎบี ท ง. ทรพั ย์ ห้นุ ๗. ภาษาต่างปะเทศท่เี ขา้ มาปะปนในภาษาไทยดว้ ยสาเหตตุ ่าง ๆ มอี ทิ ธิพลตอ่ ภาษาไทย คอื ทำให้ ก. คำมีพยางค์มากขึน้ ข. เกิดความยงุ่ ยากในการใชค้ ำ ค. มคี ำควบกล้ำใชม้ ากข้ึน ง. มีคำไวพจน์ใช้มากข้ึน ๘. ข้อใดคอื คำที่มคี วามหมายเหมอื นกันทงั้ หมด ก. นก ปักษา สกณุ า วหิ ค ข. มา้ พาชี อาชา อศั วะ ค. ดอกไม้ กรรณกิ า บุปผชาติ สุมาลี ง. นำ้ คงคา ธารา รัชนีกร |