การบริหารจัดการผู้มีส่วนได้เสีย การบริหารจัดการผู้มีส่วนได้เสียนับเป็นเรื่องสำคัญ เพราะจะช่วยลดผลกระทบอันไม่พึงประสงค์ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและการดำเนินงานของ ปตท.สผ. ในการนี้ ปตท.สผ. ได้จัดทำเอกสารแนวทางการบริหารจัดการผู้มีส่วนได้เสียขึ้น เพื่อให้หน่วยงานนำไปปฏิบัติ ซึ่งการระบุและจัดลำดับความสำคัญของผู้มีส่วนได้เสียจะช่วยให้ ปตท.สผ. สามารถวางแผนงานเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีกับผู้มีส่วนได้เสียได้อย่างเหมาะสม และการจะได้มาซึ่งผลสัมฤทธิ์ดังกล่าวมีความจำเป็นที่จะต้องใช้แนวทางการดำเนินงานที่มีความเหมาะสมแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และสภาพแวดล้อมในแต่ละพื้นที่ปฏิบัติการ Show
การบริหารจัดการประเด็นปัญหาและผู้มีส่วนได้เสียหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ ปตท.สผ. เป็นองค์กรที่มั่นคงและยั่งยืนคือ การสร้างและดำรงความสัมพันธ์กับผู้มีส่วนได้เสียและความสามารถในการบริหารจัดการผลกระทบจากการปฏิบัติงานต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม ปตท.สผ. ได้พัฒนาระบบการบริหารประเด็นและผู้มีส่วนได้เสีย (Issue and Stakeholder Management System - ISMS) เพื่อประเมินความเสี่ยงด้านสังคมให้เป็นระบบมาตรฐานเดียวกันในทุกพื้นที่ปฏิบัติการทั้งในและต่างประเทศ โดย ISMS เป็นระบบเชิงรุกที่แนะนำวิธีวิเคราะห์ วางแผน วัดผล และติดตามผลกระทบทางสังคม มุ่งเน้นในเรื่องการวิเคราะห์ความเสี่ยงทางด้านสังคม ISMS จะแสดงให้เห็นถึงการบรรเทาความเสี่ยงทางสังคมโดยการควบคุมผลกระทบที่เกิดจากการปฏิบัติงานของบริษัท การริเริ่มหรือปรับเปลี่ยนโครงการพัฒนาสังคมตามควร และการปฏิบัติต่อผู้มีส่วนได้เสียอย่างเหมาะสม กรอบการดำเนินงานของ ISMS ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ได้แก่
ปตท.สผ. สนับสนุนให้ทุกพื้นที่ที่ ปตท.สผ. ดำเนินการนำระบบการบริหารประเด็นและผู้มีส่วนได้เสีย (ISMS) ไปใช้วิเคราะห์ความเสี่ยงทางด้านสังคมตั้งแต่เริ่มโครงการสำรวจและผลิตไปจนถึงการสละหลุม และได้นำ ISMS มาใช้ในการวิเคราะห์ความเสี่ยงทางด้านสังคมในทุกโครงการที่ ปตท.สผ. เป็นผู้ดำเนินการเองทั้งหมดตั้งแต่ปี 2558 โดยระบบดังกล่าวได้ช่วยให้ผู้บริหารสามารถตัดสินใจเรื่องการจัดการทางด้านสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้น ปตท.สผ. กำหนดให้ทุกโครงการทบทวนและทำการประเมินความเสี่ยงทางด้านสังคมผ่านระบบออนไลน์ (ISMS Report Online System) ในทุกปีอีกด้วย นอกจากนี้พนักงานชุมชนสัมพันธ์จะต้องส่งรายงานความก้าวหน้าและประเมินผลกิจกรรมต่าง ๆ ทุกเดือนให้กับสำนักงานใหญ่ โดยคาดหวังว่า ISMS จะแสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงทางสังคมที่เป็นหนึ่งในปัจจัยในการตัดสินใจทางธุรกิจ และการวิเคราะห์ผลกระทบทางสังคมด้วย ISMS จะนำไปสู่การพัฒนาแผนการลดผลกระทบและโครงการพัฒนาสังคมอย่างเหมาะสม ทำให้ ปตท.สผ. สามารถสร้างประโยชน์ให้กับผู้มีส่วนได้เสียและบริษัทได้อย่างสูงสุด การมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียเพื่อความชัดเจนในการบริหารจัดการ การติดต่อสื่อสาร การให้ความร่วมมือ ประสานงาน และการให้การสนับสนุนกิจกรรมและการปฏิบัติงานของกันและกันอย่างยั่งยืน ปตท.สผ. ได้จัดกลุ่มกิจกรรมการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมดที่มีความสำคัญและเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของบริษัท โดย ปตท.สผ. ได้แบ่งผู้มีส่วนได้เสียออกเป็น 9 กลุ่มหลัก ซึ่งประกอบด้วย
กิจกรรมสัมพันธ์กับผู้มีส่วนได้เสียกิจกรรมการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียเป็นช่องทางในการสื่อสารสองทาง ซึ่งเป็นโอกาสให้บริษัทได้รับฟังข้อคิดเห็น ข้อกังวล และความคาดหวัง และได้สื่อสารเพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองความคิด โดยบริษัทจะนำประเด็นต่าง ๆ ที่ได้ไปพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจของบริษัทให้ดียิ่งขึ้น ในปี 2564 ปตท.สผ. ได้รับการร้องเรียนจำนวน 1 เรื่องเกี่ยวกับผลกระทบด้านการขนส่ง อย่างไรก็ตาม ข้อร้องเรียนนั้นได้ถูกแก้ไขและปิดประเด็นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยไม่เกิดการบาดเจ็บและทรัพย์สินเสียหาย การมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียและประเด็นความคาดหวัง ปตท.สผ. ได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสียอย่างครอบคลุม (Stakeholder Inclusiveness) เป็นประจำทุกปี เพื่อรวบรวมข้อคิดเห็นต่อประเด็นด้านการพัฒนาความยั่งยืนของบริษัท ผ่านการสัมภาษณ์และตอบแบบสอบถาม ทั้งนี้ ผลที่ได้รับจากการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียเป็นปัจจัยที่สำคัญในการนำไปพิจารณาจัดลำดับประเด็นสำคัญและปรับปรุงการบริหารจัดการของบริษัท โดยในปี 2564 มีประเด็นสำคัญและข้อมูลการนำไปดำเนินการที่ได้จากการสำรวจความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสีย ดังนี้ การรับเรื่องร้องเรียนผู้มีส่วนได้เสียการรับเรื่องร้องเรียนปตท.สผ. ได้จัดหากลไกการรับเรื่องร้องเรียนที่หลากหลายเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้มีส่วนได้เสีย เช่น ในพื้นที่ปฏิบัติการ ผู้มีส่วนได้เสียสามารถส่งเรื่องร้องเรียนได้ที่เจ้าหน้าที่องค์กรสัมพันธ์ในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ หรือส่งมายังผู้รับผิดชอบในส่วนกลาง โดยกลไกการร้องเรียนมี 2 วิธีคือ 1. ระบบการจัดการเหตุการณ์ (i-SSHE System) เป็นระบบสำหรับรายงานเหตุการณ์และเรื่องร้องเรียน ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่ผ่านการฝึกอบรมจะรับและบันทึกคำร้องเรียนจากชุมชนเข้าระบบ 2. เว็บไซต์ของบริษัท ได้จัดช่องทางส่งคำร้องเรียนผ่าน "Contact Us" และเบอร์โทรศัพท์สายตรงที่เบอร์ +66 (0) 2537-4000 โดยช่องทางนี้เป็นการรวบรวมเรื่องร้องเรียนต่าง ๆ ไว้ที่ศูนย์เดียวกัน เพื่อให้แต่ละแผนกที่เกี่ยวข้องสามารถเข้ามาติดตามและแก้ไข โดยสามารถเข้าถึงได้จากการรับเรื่องร้องเรียนของกลุ่ม ปตท.สผ. นอกจากนี้ ปตท.สผ. ได้พัฒนาแนวทางการรับเรื่องร้องเรียนเพื่อสร้างระบบการรับเรื่องร้องเรียนที่แข็งแกร่ง เพื่อให้ชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของบริษัทสามารถแจ้งข้อร้องเรียน รวมถึงมีการติดตามสถานะและการบริหารจัดการประเด็นหรือข้อร้องเรียนในแต่ละพื้นที่ปฏิบัติการเป็นประจำทุกไตรมาส เพื่อให้แน่ใจว่าได้มีการจัดการแก้ไขข้อร้องเรียนดังกล่าวภายในเวลาที่เหมาะสม แบบการบันทึกข้อร้องเรียนจะใช้เพื่อติดตามข้อร้องเรียนจนกระทั่งปิดเรื่อง ในขณะที่ระบบการจัดการเหตุการณ์ (i-SSHE System) จะใช้เพื่อติดตามการบริหารจัดการเรื่องร้องเรียนดังกล่าว ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเข้าถึงได้จาก Grievance Handling Guideline การบริหารจัดการผลลัพธ์ทางสังคมด้วยสำนึกรับผิดชอบในการปฏิบัติงานภายใต้มาตรการความปลอดภัยในระดับสากล และความมุ่งมั่นที่จะเติบโตไปกับชุมชนและสังคมอย่างยั่งยืน ปตท.สผ. ทำการประเมินความเสี่ยง และผลกระทบต่อชุมชนอย่างรอบด้านในทุกขั้นตอนของการปฏิบัติงาน เพื่อกำหนดมาตรการและแผนการปฏิบัติงานที่ปลอดภัย ลดและขจัดความเสี่ยงและ/หรือผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงการระบุกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียที่อาจได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมจากการปฏิบัติงาน กำหนดแผนการสื่อสารกับผู้มีส่วนได้เสีย พัฒนาเอกสารประชาสัมพันธ์โครงการ เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากโครงการ มาตรการการป้องกัน/ลดผลกระทบ รวมถึง ระบุช่องทางการสื่อสาร สอบถาม และ/หรือการร้องเรียนที่ชัดเจน พร้อมทั้งรับฟังข้อห่วงกังวลและ/หรือข้อคิดเห็นจากชุมชน เพื่อนำมาปรับปรุงมาตรการและ/หรือแผนในการดำเนินโครงการ เพื่อให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุดกับชุมชนและผู้มีส่วนได้เสีย ในกรณีทีผู้มีส่วนได้เสีย ได้รับความเดือดร้อนรำคาญ และ/หรือความเสียหายที่เกิดจากการปฏิบัติงานของบริษัท ผู้มีส่วนได้เสีย/ผู้ได้รับผลกระทบสามารถแจ้งข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ของบริษัทและ/หรือผู้รับเหมาได้โดยตรง ผ่านช่องทางที่บริษัทได้แจ้งไว้ในเอกสารประชาสัมพันธ์โครงการ ซึ่งหลังจากได้รับการแจ้งข้อร้องเรียน ปตท.สผ. จะดำเนินการ ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าพื้นที่เพื่อสำรวจผลกระทบ/ความเสียหาย ประเมินความเสียหาย กำหนดแนวทาง และแผนการกำจัด/บรรเทาความเสียหาย/การจ่ายค่าชดเชย (ถ้ามี) และสื่อสารให้ผู้ร้องเรียนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ และให้การยอมรับแนวทางการแก้ไข/บรรเทาปัญหา รวมถึงค่าชดเชยความเสียหาย (ถ้ามี) และดำเนินการแก้ไขผลกระทบและ/หรือความเสียหายนั้นโดยไม่ชักช้า ตามแนวทางที่กำหนดไว้ในแนวทางการบริหารจัดการผู้มีส่วนได้เสีย (Stakeholder Management Guideline) การย้ายถิ่นในการดำเนินกิจกรรมของการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมบางครั้งไม่อาจเลี่ยงที่จะต้องเข้าใช้หรือผ่านเข้าพื้นที่สาธารณะและพื้นที่ส่วนบุคคล ในหลาย ๆ ครั้งการได้มาซึ่งสิทธิ์ในการใช้พื้นที่เพื่อปฏิบัติงานนั้น อาจทำให้เกิดการย้ายถิ่นฐาน อาทิ การย้ายถิ่นที่พักอาศัย หรือแหล่งประกอบสัมมาอาชีพ รวมไปถึงการสูญเสียทรัพย์สิน สิ่งปลูกสร้าง หรือการเข้าถึงทรัพย์ นำมาซึ่งการสูญเสียแหล่งรายได้ของกลุ่มผู้มีส่วนได้เสีย ในการให้ได้มาซึ่งพื้นที่ปฏิบัติการนั้นบริษัทมุ่งหวังที่จะได้รับความร่วมมือด้วยความเต็มใจจากเจ้าของพื้นที่หรือผู้ใช้พื้นที่ร่วมมากกว่าการบังคับใช้ตามกฎหมาย ดังนั้น ปตท.สผ. จึงได้พัฒนาคู่มือการลดผลกระทบจากการย้ายถิ่นฐาน (PTTEP Involuntary Resettlement Guideline) ดังแสดงในรูปภาพด้านล่างนี้ โดยใช้เป็นเครื่องมือในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการย้ายถิ่นฐานและรักษาความสัมพันธ์อันดีกับกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียในการให้ได้มาซึ่งพื้นที่ปฏิบัติการนั้น จนถึงปัจจุบัน ปตท.สผ. ไม่เคยต้องทำการย้ายถิ่นฐานของชุมชนใด ๆ เพื่อการปฏิบัติงาน อย่างไรก็ดี บริษัทได้จัดให้มีระบบรองรับเพื่อการบริหารจัดการและประเมินความมีประสิทธิภาพของการดำเนินการ ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเข้าถึงได้จาก Involuntary Resettlement Guideline การอนุรักษ์วัฒนธรรมและกลุ่มชนพื้นเมืองปตท.สผ. เคารพต่อสิทธิ ความเสมอภาคและความหลากหลายทางชาติพันธุ์ในทุกพื้นที่ที่บริษัทเข้าไปปฏิบัติงาน ในทุกขั้นตอนการปฏิบัติงาน ปตท.สผ. จะทำการระบุกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียต่อการปฏิบัติงาน การดำเนินโครงการ วิถีชีวิต ความเชื่อ วัฒนธรรม ประเพณี ของชุมชน รวมถึงกลุ่มชนพื้นเมือง เพื่อการวางแผนการสื่อสาร สร้างความเข้าใจ ให้ความรู้ ให้ความสนับสนุน และ/หรือสร้างการยอมรับให้กับชุมชน อันรวมถึง การกำหนดแผนการสื่อสารกับผู้มีส่วนได้เสีย พัฒนาเอกสารประชาสัมพันธ์โครงการ ในภาษาท้องถิ่นที่เข้าใจง่าย เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากโครงการ มาตรการการป้องกัน/ลดผลกระทบ รวมถึง ระบุช่องทางการสื่อสาร สอบถาม และ/หรือร้องเรียนที่ชัดเจน พร้อมทั้งรับฟังข้อห่วงกังวลและข้อคิดเห็นจากชุมชน เพื่อนำมาปรับปรุงมาตรการและ/หรือแผนในการดำเนินโครงการ เพื่อให้เกิดผลกระทบต่อวิถีความเป็นอยู่ของ ผู้มีส่วนได้เสีย ชุมชน และกลุ่มชนพื้นเมืองให้น้อยที่สุด ในกรณีที่กลุ่มชนพื้นเมืองได้รับความเดือดร้อนรำคาญ และ/หรือความเสียหายที่เกิดจากการปฏิบัติงานของบริษัท กลุ่มชนพื้นเมือง สามารถแจ้งข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ของบริษัท และ/หรือผู้รับเหมาได้โดยตรง หรือ ผ่านตัวแทนซึ่งมีทักษะในการสื่อสารด้วยภาษาท้องถิ่น ตามช่องทางที่บริษัทได้แจ้งไว้ในเอกสารประชาสัมพันธ์โครงการเช่นเดียวกับผู้มีส่วนได้เสียกลุ่มอื่น ๆ ซึ่งหลังจากได้รับการแจ้งข้อร้องเรียน ปตท.สผ. จะดำเนินการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าพื้นที่สำรวจผลกระทบ ความเสียหาย ประเมินความเสียหาย กำหนดแนวทาง และแผนการกำจัด บรรเทาความเสียหาย การจ่ายค่าชดเชย (ถ้ามี) และสื่อสารให้ผู้ร้องเรียนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ และให้การยอมรับแนวทางการแก้ไข บรรเทาปัญหา รวมถึงค่าชดเชยความเสียหาย (ถ้ามี) และดำเนินการแก้ไขผลกระทบและความเสียหายนั้นโดยเร็วที่สุด ตามที่กำหนดไว้ในแนวทางการบริหารจัดการผู้มีส่วนได้เสีย (Stakeholder Management Guideline) ผู้มีส่วนได้เสีย คืออะไรผู้มีส่วนได้เสียหลัก
เป็นผู้ใกล้ชิดองค์กรโดยตรง และได้รับประโยชน์หรือผลกระทบทางตรงจากการประกอบกิจการ เช่น พนักงาน ผู้บริหาร ผู้ถือหุ้น ลูกค้า คู่ค้า ผู้ส่งมอบ ครอบครัวพนักงาน นักลงทุน เจ้าหนี้ ชุมชนรอบถิ่นตั้งองค์กร เป็นต้น
ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียคือใคร ( Skateholder Management)ปตท.สผ. ให้ความสำคัญกับการบริหารผู้มีส่วนได้เสีย (Stakeholder Management) ซึ่งหมายถึง บุคคล หน่วยงานหรือองค์กรที่สามารถสร้างผลกระทบ และ/หรือ ได้รับผลกระทบจากการดำเนินธุรกิจของบริษัท รวมถึงมีความสนใจ หรือมีความเกี่ยวข้องต่อผลการดำเนินการของบริษัท
ใครถือเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียรองผู้มีส่วนได้เสียรอง (Secondary Stakeholders) คือกลุ่มผู้เกี่ยวข้องกับธุรกิจ 'โดยอ้อม' เป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์หรือผลกระทบทางอ้อมจากการประกอบกิจการ เช่นรัฐบาล หน่วยงานราชการ หน่วยงานของรัฐ สมาคมการค้า กลุ่มวิชาชีพ NGO ผู้ที่จะมาเป็นลูกค้าหรือพนักงานในอนาคต ชุมชนนอกถิ่นที่ตั้ง เป็นต้น
ข้อใดเป็น External Stakeholdersผู้มีส่วนเกี่ยวข้องภายนอกองค์การ (External Stakeholders) คือ ผู้คนหรือหน่วยงานที่ไม่ได้อยู่ในองค์การ แต่เป็นผู้สนใจหรือได้รับผลกระทบจากผลการปฏิบัติงานขององค์การ เช่น
|