ที่บ้านใช้ไฟ มิเตอร์ 5 แอมป์ ของเก่าใช้คัทเอาท์ 30 แอมป์ และฟิวส์ถ้วย 16 แอมป์ หากต้องการจะเปลียนเป็นแบบตู้สแควดี เราควรจะใช้เมนเบรคเกอร์กี่แอมป์ครับ เคยถามร้านที่ขายแถวคลองถม บอกว่าหม้อ 5 แอมป์ใช้เมนเบรคเกอร์ 15 แอมป์ก็พอ แต่อีกร้านบอกให้ใช้ 32 แอมป์ ตอนนี้ที่บ้านใช้ปั้มหอยโข่ง 2 แรงอยู่และติดเบรคเกอร์แบบกันไฟูด 20 แอมป์ไว้ ถ้าเราใช้แบบตู้สแควดี ตัวเซอกิตเบรคเกอร์ย่อยที่จะคุมปั้มหากเราใช้ขนาด 15 แอมป์ กรณีไฟดูดหรือลัดวงจร เซฟตี้เบรคเกอร์ 20 แอมป์จะตัดหรือเปล่าครับ เพราะขนาดแอมป์สูงกว่าเซอกิตย่อย ขอบคุณล่วงหน้าท่านที่ให้ความรู้ครับ ⚡️ การดูขนาดมิเตอร์ไฟฟ้าว่ามีกี่แอมป์ ⚡️ บิลค่าไฟฟ้า จะมีช่องหนึ่งที่เขียนว่า “รหัสเครื่องวัด” เพื่อนำรหัสนี้ไปหามิเตอร์ของบ้าน หลังจากนั้นเมื่อเจอมิเตอร์แล้ว ให้สังเกตตัวเลขในในช่องบนมิเตอร์ เช่น 5(15) A หมายความว่า เป็นมิเตอร์ขนาด 5 แอมป์ สามารถใช้ไฟได้มากถึง 15 แอมป์ ซึ่งก็จะตรงกับมาตรการค่าไฟฟ้าฟรีสำหรับประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ติดตั้งมิเตอร์ไม่เกิน 5 แอมป์นั่นเอง แต่ความจริงแล้วมิเตอร์มีหลายขนาด และผู้ใช้ไฟฟ้าต้องเลือกให้เหมาะกับบ้านและการใช้งาน โดย ขนาดมิเตอร์ที่เล็กที่สุด ที่เมื่อเวลาไปขอใช้บริการไฟฟ้ากับผู้ให้บริการ ไม่ว่าจะเป็นการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) หรือการไฟฟ้านครหลวง(กปน.) นั้น มักจะได้ขนาด 5(15) มาเบื้องต้น แต่หากคำนวณถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จะมีมากขึ้นในอนาคต ก็สามารถติดต่อขอเปลี่ยนขนาดมิเตอร์ไฟฟ้าได้ แต่จะต้องเสียค่าเงินประกันและค่าบริการขอใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นด้วย รวมถึงจะต้องยอมรับว่า ค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนนั้นจะแปรผันไปตามขนาดปริมาณไฟฟ้าที่ขอใช้เช่นกันทั้งนี้หากเลือกมิเตอร์ที่มีขนาดเล็กเกินไป จะทำให้เครื่องไฟฟ้าไม่สามารถทำงานได้ แต่หากเลือกขนาดใหญ่เกินความเหมาะสม ก็จะทำให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย 💡 แล้วมิเตอร์ขนาด 5 แอมป์ จะสามารถใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าอะไรได้บ้าง? เราสามารถคำนวณเบื้องต้นได้ด้วยตัวเอง เพื่อคำนวณกระแสไฟฟ้า โดยนำกำลังไฟฟ้าอุปกรณ์ไฟฟ้าชนิดนั้น (วัตต์) ซึ่งสามารถดูได้จากฉลากบนเครื่องใช้ไฟฟ้า หารด้วยความต่างศักย์ (โวลต์) และคูณด้วยจำนวนอุปกรณ์ไฟฟ้าชนิดนั้น และนำกระไฟฟ้าทั้งหมดมาบวกรวมกัน และคูณด้วย 1.25 เพื่อเผื่อปริมาณกระแสไฟฟ้าที่อาจจะใช้มากขึ้นในอนาคตด้วย ยกตัวอย่างเช่น หากนำกระแสไฟฟ้าจากเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมดมารวมกันจะได้เท่ากับ 10.94 แอมป์ แล้วนำมาคูณด้วย 1.25 เผื่อปริมาณกระแสไฟฟ้าที่อาจจะใช้มากขึ้นในอนาคต จะได้ประมาณ 13.68 แอมป์ (ทั้งนี้เป็นการคำนวณเบื้องต้นอย่างคร่าวๆ อาจมีการการเปลี่ยนแปลงตามขนาดของเครื่องใช้ไฟฟ้า) แน่นอนว่ายังไม่เกิน 15 แอมป์ แต่หากในอนาคตมีการเครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่มเข้ามา อาจต้องเปลี่ยนมิเตอร์ให้เป็นขนาดที่ใหญ่ขึ้นด้วย เพื่อความปลอดภัย รีเลย์ควบคุมระดับน้ำ GEYA GRL8-02 Level control relay ไฟ24Vac(dc)-240Vac ใช้ก้านอิเล็กโทรด3อันคุม2ช่วงระดับน้ำเพื่อ สั่งเติมน้ำ ถ่ายน้ำ ป้องกันน้ำแห้ง(อย่างใดอย่างหนึ่ง)ลักษณะการทำงานเหมือนลูกลอยซึ่งมีช่วงระดับที่สั่งทำงานและหยุดทำงาน สามารถปรับความไวของน้ำได้ เมื่อต่อ2เครื่องทำงานพร้อมกัน(ใช้5อิเล็กโทรดคุมน้ำ4ช่วงระดับ)เพื่อควบคุมน้ำในถัง สั่งให้เติมน้ำและหยุดดูดน้ำไปใช้เมื่อระดับต่ำเกินไปป้องกันปั๊มน้ำชำรุด สามารถใช้งานวัด1ระดับน้ำโดยใช้2ก้านอิเล็กโทรดเพื่อสั่งงานรีเลย์แบบหน่วงเวลา1-10วินาทีได้ เมื่อต่อพร้อมกันหลายๆเครื่องจะสามารถวัดระดับน้ำได้หลายๆระดับและสั่งงานผ่านรีเลย์เพื่อแจ้งสัญญาณหรือสั่งงานเครื่องจักร สามารถดีไอวายสร้างก้านอิเล็กโทรดด้วยลวดอลูมิเนียมหรือสเตนเลสได้เอง ไม่ต้องใช้ก้านและหัวใส่ก้านแบบมาตรฐาน --กำลังเขียนครับ 31/1/64 ดูคู่มือไปก่อนนะครับ -- 1 ลักษณะการทำงาน Feature -- 2 คุณสมบัติ Specification -- 3 คู่มือภาษาอังกฤษ สแกน [?jpeg] หน้า1 [?jpeg] หน้า2 -- 4 วิธีการตั้งค่า Setting -- 5 ตัวอย่างการต่อไฟใช้งาน Wiring example เข้าใจการทำงาน - สวิทช์ลูกลอยและสวิทช์แบบก้านอิเล็กโทรด สวิทช์ลูกลอยที่ใช้งานโดยทั่วไป จะสามารถสั่งสวิทช์เติมน้ำตอนระดับน้ำต่ำสุดและหยุดเติมน้ำในระดับน้ำสูงสุด โดยขณะใช้งานน้ำในถังเมื่อน้ำค่อยๆลดลงสวิทช์จะไม่สั่งให้เติมน้ำในถัง คือมีช่วงการทำงานที่สวิทช์สั่งเปิดหรือปิดน้ำ2ระดับ เนื่องจากอาศัยกลไกลที่สำคัญคือลูกลอยทำให้มีการทำงาน2จังหวะกดสั่งสวิทช์ธรรมดาให้ทำงาน ซึ่งส่วนใหญ่สวิทช์ภายในจะมีรูปร่างคล้ายลิมิตสวิทช์ที่ใช้ในเครื่องจักร รูปแสดงสวิทช์ลูกลอย 1สวิทช์ลูกลอยที่มีตุ้มถ่วงลอยได้สองตัว และ 2สวิทช์ลูกลอยแบบแช่ในน้ำ picture copy right ,CC-NC by pui108diy
ภาพอนิเมชั่นจำลองการทำงานของลูกลอยชนิด2ตุ้มถ่วง หรือสวิทช์ลูกลอย2ทุ่นถวง โดยมีสวิทช์ไฟฟ้าอยู่บนหัวถัง ไฟสีเขียวแสดงไฟเลี้ยงวงจรไฟควบคุมคือมีการเปิดเปิดเบรกเกอร์อยู่ ไฟสีแดงถ้าดับแสดงว่ามีการเติมน้ำถ้าไฟสีแดงขึ้นแสดงว่าหยุดเติมน้ำ โดยหลักการสั่งเติมน้ำหรือหยุดเติมน้ำขึ้นกับการต่อวงจรไฟฟ้าในสวิทช์ที่มีขั้ว3ขั้วคือ com no และ nc ข้อดี คือสวิทช์และสายไฟฟ้าจะไม่แช่น้ำ ต่อตรงปั๊มได้ไม่เกิน200วัตต์ อายุใช้งานเปิดปิดวันละสองครั้งไม่เกิน2-4ปีพัง แม้ต่อทดกับรีเลย์ที่กินไฟน้อยมากก็ยังชำรุดพังใน2-4ปี เหตุเนื่องมาจากกลไกสวิทช์จะมีการบอบช้ำเมื่อน้ำมีการกระเพื่อมในบ่อตอนเติมน้ำเมื่อมันสู้กับน้ำหนักของลูกลอยที่กระเพื่อมอยู่ในน้ำด้วยซึ่งจะให้มันอยู่ในสถานะกึงปิดกึ่งเปิดได้ง่ายเมื่อใช้งานไปสักพักหนึ่ง สรุปข้อเสียคือใช้ไม่ทน ----------------------------------------------- 2 สวิทช์ลูกลอยแบบแช่น้ำ(Float switch) หรือสวิทช์ลูกลอยแบบแช่สวิทช์ไฟฟ้าและสายไฟในน้ำ ประกอบด้วยสายไฟฉนวน2ชั้นพร้อมก้อนถ่วงปรับช่วงระดับน้ำ(ก้อนสีเหลืองเมื่อสวมกับสายไฟ)เพื่อกำหนดช่วงระดับน้ำสูงสุดและต่ำสุดได้ตามต้องการ และตัวบอดี้เป็นลูกลอยพลาสติกที่มีสวิทช์ภายในที่มีขนาดเล็ก(ไมโครสวิทช์) มีอากาศภายในแต่ทำการปิดซีลอย่างดีไม่ให้น้ำเข้าและภายในมีลูกเหล็กทำหน้าที่ถ่วงน้ำหนักและเป็นกลไก2จังหวะเตะสวิทช์ภายในเมื่อลอยอยู่ในน้ำ รูปแสดงกลไกภายในของลูกลอยแบบสวิทช์ไฟฟ้าแช่อยู่ในน้ำ ภายในเป็นกล่องพลาสติกที่ซีลอย่างดีกันน้ำเข้าข้างในมีสวิทช์ไฟฟ้า อากาศทำให้ลอยได้ และกลไกการปิดปิดสวิทช์เป็นลูกเหล็กและพลาสติกที่เป็นร่องเก็บกักลูกเหล็กให้อยู่ในสถานะคงตัวอยู่ที่สองตำแหน่งเวลาเคลื่อนที่ไปแล้วจะไม่หกกลับง่ายๆถ้ามุมไม่มากพอ Picture wikipeadia switch ON switch OFF , CC by Martin Meise , Modify by pui108diy ข้อดี คืออายุการใช้งานยาวนาน(เป็น10ปี เปิดวันละสองครั้ง)โดยต้องต่อทดกับรีเลย์ ข้อสำคัญคือต้องหาหม้อแปลงและรีเลย์12-24Vdcต่อเพิ่มและบางทีต้องมีแม็กเนติกหรือรีเลย์กำลังต่อเข้าไปในวงจรไฟฟ้า ซึ่งชาวบ้านทั่วๆไปต้องศึกษาพอควรกว่าจะทำเองได้ ข้อเสีย สำคัญคือไม่สามารถใช้งานแบบต่อตรงกับปั๊มได้เพราะสวิทช์มีขนาดเล็กและเล็กกว่าแบบสวิทช์หัวถังมาก ส่วนใหญ่เป็นชนิดไมโครสวิทช์มีขนาด10แอมป์ไม่ควรนำไปต่อตรงไฟปั๊ม220Vacตั้งแต่200วัตต์ขึ้นไปโดยตรงจะพังในไม่กี่เดือนเพราะสวิทช์เหล่านี้ไม่ได้รองรับการใช้งานมอเตอร์จะทำให้หน้าคอนแทกอาร์กติดกัน ส่วนใหญ่สวิทช์ภายในของลูกลอยที่ขายในไทยที่มาจากจีนมักไม่ได้ผ่านมาตรฐานการรับรองว่าต่อไฟได้กี่ม้าและใช้งานได้กี่ครั้งจึงไม่ควรนำไปต่อตรงใช้งาน แต่ถ้านำไปต่อทดรีเลย์220Vacที่หาได้ง่ายโดยไม่มีหม้อแปลงก็จะเสี่ยงกับไฟดูดถ้าฉนวนสายไฟขาดชำรุดหรือหมดอายุแต่ก็ยังถือว่าใช้งานได้ดีถ้าดูแลรักษาอย่างดีหรือมีเบรกเกอร์กันไฟรั่ว การปรับช่วงการเติมน้ำ จะต้องปรับความยาวสายไฟแช่น้ำและลูกตุ้มถ่วงสายไฟก้อนเหลือง ปรับแบบลองผิดถูกจนกว่าจะได้ระดับที่พอใจ ช่วงการทำงานระหว่างmin กับmaxขึ้นกับขนาดแท๊งก์ แคบไปหรือกว้างเกินไปก็ไม่ได้ส่วนใหญ่อยู่ในระยะ30-60เซนติเมตร ถ้งกว้างจะไม่มีปัญหา ถ้าเป็นบ่อน้ำที่มีความลึกมากและต้องการปรับช่วงระดับน้ำลึกมากเกิน60-70%ของความลึกบ่ออาจต้องผูกสายไฟเหนือตุ้มถ่วงเหลืองๆเข้ากับหลักที่ไม่เคลื่อนที่แทนซึ่งจะทำให้สายไฟงอแบบไม่เป็นธรรมชาติก็จะชำรุดได้ง่ายแต่ถ้าปล่อยตามธรรมชาติก็จะกินพื้นที่แกว่งมาก ซึ่งมันอาจไม่เหมาะกับถังทรงสูงแต่เส้นผ่าศูนย์กลางเล็ก
----------------------------------------------- 3 สวิทช์ลูกลอยแบบก้านอิเล็กโทรด (Floatless level switch) ซึ่งประกอบด้วยก้านวัดระดับน้ำหรือก้านอิเล็กโทรดทำด้วยสเตนเลส และกล่องควบคุมไฟฟ้าเรียกว่ารีเลย์ควบคุมระดับน้ำ(Level control relay) เนื่องจากมันไม่มีลูกลอยและไม่มีส่วนใดๆที่เป็นกลไกเคลื่อนไหวลอยอยู่ในน้ำตามจังหวะขึ้นลงของน้ำ จึงถูกเรียกอีกอย่างว่า โฟลทเลสสวิทช์ (Floatless switch) ภาพแสดงชุดก้านอิเล็กโทรดมาตรฐานแบบ5ก้านพร้อมหัวติดตั้ง ยี่ห้อ OMRON ซึ่งต้องติดตั้งบนเกลียวท่อตัวเมียขนาด2นิ้วบนแท๊งค์น้ำ ก้านเป็นสเตนเลส304 เมื่อก้านมีความยาวพอสมควรและน้ำในแท๊งค์เป็นน้ำที่มีการเคลื่อนที่หรือการแกว่งจึงจำเป็นต้องใส่แกนยึดเป็นพลาสติกสีขาวๆกันขั้วอิเล็กโทรดชนกัน ในรูปก้านอิเล็กโทรดถูกใช้งานนาน5ปีโดยไม่ได้ทำการล้างคราบใดๆถูกจุ่มอยู่ในแท๊งค์น้ำระบบปิด ภาพลิขสิทธิ์ถูกต้อง CC-NC by pui108diy ก้านอิเล็กโทรดแบบมาตรฐานจะทำด้วยแท่งสเตนเลส304 316 มันจะถูกจุ่มลงไปในน้ำอย่างน้อยสองก้าน ปรกติใช้3ก้านในงานสั่งเติมน้ำ (หรือใช้สายไฟที่ปลายเชื่อมกับชิ้นสเตนเลสซีลสายไฟกันน้ำเข้าสายทองแดง) ส่วนกล่องควบคุมจะเป็นตัวส่งไฟฟ้าที่มีขนาด5-24Vac ไปที่ก้านอิเล็กโทรดเพื่อวัดระดับน้ำและส่งการควบคุมการเปิดปิดปั๊มน้ำหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นออกมาให้ผู้ใช้งานเป็นรีเลย์เอาต่อไปใช้งานเอง เพื่อควบคุมการเติมน้ำ-ถ่ายน้ำ-ป้องกันน้ำขาดอันมีลักษณะการสั่งทำงานเหมือนสวิทช์ลูกลอย- ข้อดี คือมีความน่าเชื่อถือสูง สามารถควบคุม เช่นเติมน้ำในช่วงระดับน้ำแคบๆในแท๊งค์ทรงสูงในระยะ5-10เซนติเมตรก็ทำได้ คือมันมีความแม่นยำพอสมควร แต่ถ้าเป็นน้ำลึกๆมากกว่า2เมตร มักไม่นิยมใช้ก้านอิเล็กโทรดมาตรฐานซึ่งยาวเพียงก้านละ1เมตรต่อเชื่อมกันด้วยน็อต อาจใช้สายไฟที่มีปลายหุ้มด้วยสเตนเลสแทนในการวัดระดับน้ำตั้งแต่2เมตรลงไป มีอายุการใช้งานยาวนานถ้ายี่ห้อนั้นมีคุณภาพดีและต่อใช้งานอย่างถูกต้อง เช่นเมื่อต่อเข้ากับแม็กเนติกหรือรีเลย์กำลังนำมาเปิดปิดปั๊มน้ำ ถ้าเปิดปิดวันละ20ครั้งอายุการใช้งานยาวนานเป็น10ปีขึ้นไปเพราะไม่มีส่วนที่เป็นกลไกเคลื่อนไหวในน้ำ -- ข้อด้อย คือ การใช้งานและติดตั้งต้องอาศัยการศึกษาและทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ก่อนจึงจะติดตั้งใช้งานได้ดี ซึ่งแต่ละยี่ห้อและแต่ละรุ่นก็มีความสามารถแตกต่างกัน 1. ลักษณะการทำงาน Feature
ภาพแสดงไฟLEDสีเขียวบ่งสถานะแหล่งจ่ายไฟเข้า ไฟLEDสีแดงบ่งสถานะการทำงานของรีเลย์ ปุ่มหมุนบนสุดเป็นปุ่มเลือกโหมดการทำงานวัดคุม2ระดับหรือ1ระดับ ปุ่มหมุนอันกลางเป็นปุ่มปรับความไวของน้ำ ปุ่มหมุนอันล่างเป็นการหน่วงเวลาเมื่อมีการใช้โหมดวัดน้ำ1ระดับ
ภาพด้านซ้ายแสดงก้านอิเล็กโทรดมาตรฐานมักใช้ในงานอุตสาหกรรมซึ่งรูปซ้ายบนเป็นหัวใส่อิเล็กโทรดสเตนเลสแบบเคสพลาสติกสีดำซึ่งใช้ในแท็งค์ทั่วๆไป ภาพด้านซ้ายล่างแสดงหัวใส่อิเล็กโทรดชนิดเกลียวทองเหลือง(หรืออาจเป็นเกลียวสเตนเลสก็ได้)และมีก้านสเตนเลสซึ่งใช้ในหม้อต้มน้ำ พลาสติกสีขาวที่หุ้มระหว่างก้านและทองเหลืองคือเทฟล่อน ก้านอิเล็กโทรดมาตรฐานส่วนใหญ่จะให้ผลที่ถูกต้องเกือบทุกเครื่องของรีเลย์วัดระดับน้ำต่างยี่ห้อเนื่องจากมีก้านอิเล็กโทรดที่เปลือยระยะห่างระหว่างก้านที่นำไฟฟ้าได้ไม่เกิน5เซนติเมตร
รูปอนิเมชั่นแสดงการทำงานเติมน้ำอ้ตโนมัติของคอนโทรลเลอร์GEYA รุ่นGRL8-02 โหมด pump up2 โดยอาศัยการสั่งการจากรีเลย์ขาNOซึ่งเป็นโหมดที่มีลักษณะพิเศษต่างจากคอนโทรลโดยทั่วไปที่ใช้ขาNCในการสั่งการเติมน้ำ ซึ่งในกรณีถ้าต้องการระบบป้องกันที่ไม่ยอมให้เกิดน้ำล้นได้ การใช้ขาNOสั่งการจะไม่เกิดความผิดพลาดในกรณีที่คอนโทรลเลอร์เสียมันจะไม่สั่งให้รีเลย์ทำงานหรือไม่ให้มีการปั๊มน้ำเข้าจนล้นแท๊งค์ได้ picture copy right ,CC-NC by pui108diy
รูปอนิเมชั่นแสดงการอนุญาตให้สูบน้ำออกไปใช้อัตโนมัติแบบป้องกันปั๊มแห้งโดยอาศัยแหล่งสัญญาณจากภายนอกเช่นไทม์เมอร์ สั่งให้ปั๊มสูบน้ำหรือวาล์วไฟฟ้าจ่ายน้ำออกไปใช้ในการเกษตรได้ หรือปั๊มน้ำขึ้นแท็งค์ที่สูงได้ โดยการเติมน้ำในแท็งค์เพิ่มเป็นแบบวาล์วลูกลอย ซึ่งส่วนใหญ่จะต่อใช้งานในลักษณะนี้ , GEYA GRL8-02 โหมด pump down2, picture copy right ,CC-NC by pui108diy --- ถ่ายน้ำทิ้งอัตโนมัติ หรือสูบน้ำไปทิ้งอัตโนมัติ ใช้กับแท็งค์พักขนาดเล็กเพื่อสะสมน้ำให้มีมากพอ ก่อนจะสั่งถ่ายทิ้งไปที่บ่อบำบัดน้ำเสียเมื่อน้ำถึงระดับแท็งค์ โดยจ่ายไฟจากแหล่งจ่ายเข้าไปรอที่รีเลย์11comก่อน จากนั้นสวิทช์14-11จะแจะกันทำงานทันทีถ้ามีน้ำมากพอและหน้าสวิทช์จะจากกันเมื่อน้ำต่ำ --- การทำงานกี่งอัตโนมัติในการป้องกันน้ำขาดปั๊ม มักใช้ในแท๊งค์น้ำระบายความร้อน เช่นแท็งค์ชิลเลอร์ และนำน้ำวนกลับเข้าถัง จะทำงานในลักษณะอนุญาตให้ปั๊มสูบออกไปใช้ถ้าน้ำไม่ต่ำกว่าระดับ ถ้าน้ำต่ำจะสั่งตู้คอนโทรลหยุดการทำงานปั๊มทันทีและมีไฟเตือน ซึ่งเป็นระบบป้องกันน้ำต่ำที่ต้องมาใช้คนเข้าเปิดเครื่องใหม่หลังจากตรวจสอบความผิดพลาดต่างๆเช่นท่อแตกระบบเติมน้ำเข้าแท็งค์เสีย น้ำประปาไม่ไหล เป็นต้น ภาพแสดงไดอะแกรมการทำงานตามลำดับเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น ในการวัดและควบคุมน้ำ2ระดับ GEYA GRL8-02 แบ่งเป็นเฉพาะ2โหมดที่ควบคุมรีเลย์เฉพาะNO-comโดยเฉพาะ โดยมีโหมด up2.โหมดเติมน้ำ-pump up และ down2.โหมดสูบน้ำออก-pump downหรือถ่ายน้ำทิ้งหรือป้องกันปั๊มแห้งขณะสูบออกไปใช้ การต่อคอนแท็กที่นำไปใช้ส่วนใหญ่จะใช้11-14 หรือ NO-com ถ้าต้องการต่อแบบกลับไปใช้NCก็ทำได้เช่นกัน
การต่อสายไฟ ให้ต่อก้านระดับที่ต้องการวัดที่ MAX และก้านอิเล็กโทรดร่วมCซึ่งก้านจะยาวลึกลงไปในน้ำ เมื่อน้ำลดหรือน้ำขึ้นถึงmaxมันจะสั่งรีเลย์ทำงานโดยมีระบบเวลาหน่วง0.1-10วินาที การหน่วงเวลาถ้าระดับน้ำมีเปลี่ยนแปลงจากmaxเครื่องจะรีเซทการนับเวลาและเริ่มนับเวลาใหม่ทุกครั้งถ้าน้ำยังไม่ได้ระดับ ขณะหน่วงเวลาจะมีไฟรีเลย์กระพริบ แต่สถานะของรีเลย์จะยังไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อยังไม่ถึงเวลา เพื่อให้แน่ใจว่าน้ำได้ถึงระดับหรือลดระดับจริงไม่ใช่การกระเพื่อมขึ้นลงของน้ำ เช่นคลองแถวนี้มีเรือวิ่งผ่านมีคลื่นขึ้นลงตลอดเวลาเป็นต้น มีโหมดวัดหน่วงเวลา 4แบบ (เป็นการหน่วงเวลาสวิทช์รีเลย์ผ่านคอนแท็ก 14no-11com , normally opened - Delay function) ดังนี้ เตือนน้ำลงต่ำให้ช้าลง 1 . น้ำลงต่ำ->หน่วงเวลาทำงาน น้ำขึ้นสูง->หยุด เตือนน้ำลงต่ำทันที 2 . น้ำลงต่ำ->ทำงาน น้ำขึ้นสูง->หน่วงเวลาหยุด เตือนน้ำขึ้นสูงให้ช้าลง 3 . น้ำขึ้นสูง->หน่วงเวลาทำงาน น้ำลงต่ำ->หยุด เตือนน้ำขึ้นสูงทันที 4 . น้ำขึ้นสูง->ทำงาน น้ำต่ำ->หน่วงเวลาหยุด ตัวอย่างการต่อวงจร เตือนน้ำ2ระดับ
2. คุณสมบัติ Specification
--- --- --- --- --- --- --- --- --- 3. คู่มือภาษาอังกฤษ สแกน 4. การติดตั้งใช้งาน (กำลังเขียน 31/1/64) 4.1 การติดตั้งใช้งานอิเล็กโทรดวัดคุมระดับน้ำ -- การติดตั้งอิเล็กโทรดมาตรฐานหรือติดตั้งสายไฟอิเล็กโทรดที่ทำเอง สำหรับวัดคุมระดับน้ำทั่วๆไป นั้นจะมีหลักการดังนี้ ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้กับคอนโทรลเกือบทุกยี่ห้อ -- โดยหลักการติดตั้งอิเล็กโทรดมาตรฐานจะอิงยี่ห้อออมรอนเป็นหลักเนื่องจากมีดาต้าชีทที่มีความละเอียดดีสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากรุ่นสินค้า เช่น Electrode Holder รุ่น PS-3S หรือรุ่น PS-5S ซึ่งมีรายละเอียดมากมาหาอ่านได้ในpdf ของ OMRON และคอนโทรลคุมระดับน้ำเดี่ยวๆที่มักใช้กัน จะเป็นรุ่น 61F-G ซึ่งมีวิธีการติดตั้งและใช้งานอย่างถูกต้องจะอยู่ในคู่มือของออมรอน ส่วนการติดตั้งสายไฟอิเล็กโทรด ผมได้เรียบเรียงขึ้นมาเพื่อใช้แก้ปัญหาการวัดคุมระดับน้ำต่างๆ โดยอาศัยการแก้ปัญหาปรับใช้เทียบเคียงค่าจากชุดก้านอิเล็กโทรดมาตรฐานนั่นเองซึ่งมีข้อควรระวังต่างๆมากกว่าเดิมที่ต้องทำความเข้าใจก่อนสร้างเองแล้วทดสอบติดตั้ง โดยเฉพาะงานวัดคุมน้ำลึกซึ่งไม่สามารถใช้แบบก้านโลหะมาตรฐานได้ สรุปอุปกรณ์และวิธีการติดตั้งอิเล็กโทรดมาตรฐานเป็นรูปวาดดังข้างล่างนะครับ จะได้ซื้อไปใช้งานและติดตั้งได้อย่างถูกต้อง ซึ่งผมจะเขียนวิธีต่อวงจรของ 61F-G ในบทความอื่นๆต่อไป -- ส่วนประกอบชุดอิเล็กโทรดมาตรฐาน - ชุดอิเล็กโทรดมาตรฐาน 3ก้าน หรือ5ก้าน ซึ่งมีขายทั่วไปอาจไม่จำเป็นต้องซื้อยี่ห้อออรอนก็ได้ แต่ส่วนใหญ่จะมีลักษณะใกล้เคียงกัน ประกอบด้วย -- - หัวยึดก้าน Electrode Holder ซึ่งจะทำจากพลาสติกสีดำ และอุณหภูมิใช้งานไม่เกิน70 องศาเซลเซียส ปลายสำหรับยึดจะเป็นเกลียวท่อขนาด2นิ้วแบบตรงไม่มีลดมุมเหมือนเกลียวประปา โดยสามารถแยกชิ้นประกอบกันได้ดังรูป(ยี่ห้อออมรอน) มี2รุ่นคือ PS-3S และ PS-5S , - ก้านอิเล็กโทรด Electrode rod ทำจากสเตนเลส 304 (SUS 304) ยาวมาตรฐานก้านละ1เมตร ที่ขายกันตามท้องตลาด ขนาดก้านเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ5.5 มิล (7/32 นิ้วตามไซส์ฝรั่ง) และเกลียวจะถูกกลึงและรีดให้มีขนาดเกลียวมิลเป็น M6x1.0p ซึ่งก็คือเกลียวเดียวกับน็อต M6 ซึ่งถ้าเราต้องการสร้างก้านสเตนเลสยาวๆมากกว่า1เมตรเองอาจจะทำได้ยาก ตามท้องตลาดไทยส่วนใหญ่มีขายแท่งสเตนเลสเป็นหน่วยนิ้ว คือ 7/32 และ ใหญ่กว่าก็ 1/4 นิ้วหรือ6.35 มิล ซึ่งต้องเอาไปกลึงและต๊าปเกลียวเอง ถ้าซื้อไซส์ 7/32 มาต๊าปทั่วไปก็จะไม่เต็มเกลียว ส่วนหน่วยมิลน่าจะหายากสักหน่อย , - คอนเน็ตติ้งนัท Connecting Nut คือตัวต่อก้านให้ยาวขึ้นอีก1ท่อนเป็นไม่เกิน2เมตร เป็นนัททรงหกเหลี่ยมยาวทำจากสเตนเลส เกลียวM6x1.0p ,สุดท้ายคือ - ตัวแยกก้านกันช็อต Separator ทำจากเซรามิก หรือพลาสติก มีแบบ3รู และ5รู ส่วน2รูจะเป็นยี่ห้ออื่น ใช้สำหรับติดตั้งแยกก้านเวลาเราต่อก้านยาวๆเกิน1ท่อน มันจะเป็นก้อนและมีรูหลวมมากกว่า6มิล ซึ่งเวลาติดตั้งต้องหาอะไรมารัดที่ก้านเอาเองกันมันรูดลงมาเช่นใช้เคบิ้ลไทเป็นต้น ซึ่งตัวแยกกันช็อตจะสามารถทำงานได้ดีเฉพาะในน้ำสะอาด หรือน้ำที่มีความนำไฟฟ้าใกล้เคียงกับน้ำสะอาดและไม่มีลักษณะของโคลนหรือเมือกตะไคร่น้ำ ซึ่งในน้ำสะอาดseparatorจะไม่เป็นสื่อช็อตกันเมื่อน้ำมีระดับต่ำลง แต่ถ้าน้ำมีลักษณะโคลนหรือเมือกไม่ควรใช้separator หรือต้องให้มันอยู่เหนือน้ำหรือทำอิเล็กโทรดเฉพาะทางป้องกันไม่ให้มีของเหลวสามารถช็อตอิเล็กโทรดกันได้เวลาน้ำลง -- การยึดชุดก้านอิเล็กโทรดมาตรฐานในบ่อเปิดหรือแท๊งปิด -- การยึดตัวหัวยึดก้านนั้นต้องดัดแปลงหรือเลือกใช้สิ่งที่มีขายตามท้องตลาดไทยเอาเอง ตามบ่อปูนเปิดซึ่งอาจจะต้องทำแผ่นยึดเจาะรูขนาด65mmและประกอบกับBacking nut ซึ่งอาจเป็นพวกฟิ้ตติ้งpvcสีฟ้าๆ หรือPP หรือ HDPE หรือเกลียวสเตนเลส อะไรก็ได้ที่มีเกลียวตัวเมียขนาด2นิ้วมาดัดแปลงใส่จึงจะสามารถล็อกหรือยึดหัวยึดนี้ได้ ถ้าเป็นพวกบ่อปูนมีฝาปิดใช้อาจใช้socket ต่อตรงที่เป็น HDPE หรือ สเตนเลส ขนาด2นิ้ว(2นิ้วเกลียวประปา ศก.effective thread=58.135 mm ไม่ใช่2นิ้วจากไม้บรรทัดวัด)โดยต้องฝังลงไปตอนเทปูนก็ได้ ส่วนในงานถังสเตนเลสจะต้องให้ช่างเชื่อมซ็อกเก็ต2นิ้วบนถังก่อน จะเห็นได้ว่าการติดตั้งตัวยึดหัวอิเล็กโทรดต้องเตรียมงานสร้างก่อนการติดตั้ง ตามบ้านทั่วไปที่ใช้ถังน้ำสำรองสเตนเลสใหญ่ๆหรือพลาสติกจะติดตั้งในภายหลังค่อนข้างยากลำบากไม่มีรูหรือเกลียวให้ยึด มีรูแค่พอใส่สวิทช์ลูกลอยทุ่นและ สวิทช์ลูกลอยแบบตุ้มพอให้สายไฟลอดได้เท่านั้น มันจึงไม่เหมาะกับการใช้งานตามบ้านหรือถังเก็บน้ำสำเร็จ จึงมีการพัฒนาสายวัดอิเล็กโทรดแบบจุ่มมาใช้งานแทน ซึ่งอาจจะใช้งานได้หลากหลายกว่า-- การใช้ตัวแยกก้านกันช็อต และท่อป้องกันเศษในน้ำเสียทั่วไป --
ในงานบ่อน้ำลึก3-20เมตร ชุดก้านอิเล็กโทรดมาตรฐานจะไม่สามารถติดตั้งใช้งานได้ง่ายนัก จึงมีการใช้สายไฟปลายอิเล็กโทรดแทน ซึ่งในคู่มือของออมรอนก็มีพาร์ทขายแต่เข้าใจว่าในเมืองไทยน่าจะหายาก ซึ่งในกล่องคอนโทรลบางยี่ห้อก็มีขายพร้อมชุดสายวัดคุมปลายสเตนเลสด้วย แต่เมื่อซื้อเฉพาะสายวัดมาใช้กับคอนโทรลอีกยี่ห้อนึงกลับใช้งานไม่ได้ อาจเป็นเพราะเราไม่เข้าใจหลักการวัดของคอนโทรลยี่ห้อนั้นๆ ซึ่งในที่นี้ผมจะแนะนำการสร้างและติดตั้งสายไฟปลายอิเล็กโทรดแบบจุ่มด้วยตัวเองอย่างง่ายๆ ที่สามารถใช้งานได้(เกือบ)ทุกคอนโทรลเลอร์ โดยต้องเข้าใจหลักการเทียบเคียงกับชุดอิเล็กโทรดมาตรฐาน นำมาปรับปรุงใช้งานเฉพาะดังนี้ -- หลักคิดในการสร้างสายไฟปลายอิเล็กโทรด -- ระยะห่างการส่งสัญญาณวัดในน้ำ -- 1. สามารถใช้ separatorที่สร้างเองหรือตัวแยกกันสายไฟแจะกัน**เฉพาะในน้ำสะอาดไม่มีลักษณะของโคลนหรือเมือก ซึ่งเมือช่วงเวลาน้ำลงต่ำ น้ำจะไม่สะสมตามสายไฟและตัวแยก ทำให้ไฟฟ้าวิ่งจากขั้วด้านนึงไปที่ตัวแยกและกลับไปช็อตอีกขั้วของสายไฟได้ โดยต้องทดสอบน้ำที่จะวัดกับสายวัด ว่าคอนโทรลทำงานได้ถูกต้องหรือไม่ 2. คอนโทรลแต่ละยี่ห้อที่ใช้อิเล็กโทรดแบบสายไฟจุ่ม มีระยะห่างของการส่งและรับสัญญาณไม่เท่ากัน โดยทั่วไปอยู่ที่ไม่เกิน30-40เซนติเมตรหรือน้อยกว่าในน้ำสะอาด ระยะดังกล่าวคือระยะปลายขั้วจุ่มminหรือmaxอย่างใดอย่างหนึ่งกับอิเล็กโทรดร่วมC ซึ่งปลายโลหะที่นำไฟฟ้าทั้งสองควรห่างกันไม่เกิน5-10เซนติเมตร จะทำงานได้อย่างถูกต้องเกือบทุกคอนโทรล **บางยี่ห้อคอนโทรลมีระยะห่างการรับส่งสัญญาณระหว่างสองขั้วดังกล่าวในน้ำถึง1-1.5เมตร 3. ปลายอิเล็กโทรดชนิดสายไฟจุ่ม สามารถสร้างด้วยตนเองได้ ควรเลือกใช้วัสดุที่ทนต่อการกัดกร่อนแต่นำไฟฟ้าได้ดี ไม่ต้องดูแลมาก (**แนะนำเป็นลวดหรือน็อตสเตนเลส304 316** ) มายึดติดกับสายไฟ ด้วยห้วย้ำสายเช่นหางปลากลม หรือสลิปต่อตรง โดยใช้กาวหุ้มสายไฟและโลหะย้ำสายไฟ ทำให้กันน้ำไม่ให้น้ำเข้าสายไฟทองแดงฝอย (**แนะนำเป็นกาวซิลิโคน**) เหลือแต่เพียงปลายสเตนเลสโผล่ออกมาเท่านั้น เพื่อเอาไว้เป็นตัวรับส่งสัญญาณในน้ำ -- สายไฟขนาด0.75-1สแควร์มิล ควรใช้สายไฟอ่อน ชนิดTHWฝอย(VSFเดิม) หรือสายVCT สายแข็งTHWหรือVAFก็ใช้งานได้แต่ย้ำสายไฟกับหัวย้ำสายต้องทำให้ดี การต่อสายไฟที่สั้นไปในน้ำต้องมีการซีลจุดเชื่อมด้วยกาวหรือท่อหดกันน้ำด้วย วัสดุอิเล็กโทรดสเตนเลส ถ้าหาไม่ได้ง่าย อาจจะใช้อลูมิเนียม หรือปลายสายไฟแข็งเปลือยก็ได้ แต่ต้องหมั่นตรวจเช็กสภาพและทำความสะอาดคราบสกปรกยังให้นำไฟฟ้าได้ดีอยู่ตลอดการใช้งาน ถ้ามีการเก็บสายไฟหรือมีการเคลื่อนที่บ่อยๆควรตรวจสภาพฉนวนก่อนใช้งาน --- --- หลักคิดของการใช้ตัวแยกกันช็อตในน้ำสะอาด ตัวอย่างรูปแบบสายไฟอิเล็กโทรดใช้น้ำตื้น2เมตร และน้ำลึก20เมตร -- ด้านบนแสดงเพียงแนะนำการใช้งานตัวแยกเท่านั้น เราสามารถทำเป็นอย่างอื่นให้ง่ายกว่านี้ก็ได้ รูปมุมขวาบนแสดงว่าไม่ควรใช้นั้นถ้าเรามีกำสายไฟปลายอิเล็กโทรด4เส้นถูกทิ้งลงไปในน้ำ เมื่อน้ำลดลงนั้นน้ำอาจจะย้อนขี้นสายไฟไปช็อตกันระหว่างอิเล็กโทรดได้เนื่องจากแรงดูดในลักษณะแรงตึงผิวสะสมตามช่องว่างสายไฟ วิธีแก้ก็เพียงแค่เราเอาอะไรไปแยกให้ปลายอิเล็กโทรดสายไฟสีแดงออกห่างจากกำสายไฟก็ใช้งานได้แล้ว เช่นเอาอะไรมัดปลายขั้วให้ห่างออกจากกำสายไฟเป็นต้น --- กรณีน้ำโคลนมีเมือกสกปรก การใช้ตัวแยกต้องอยู่เหนือของเหลว กรณีน้ำ ที่มีลักษณะ มีเมือกหรือโคลนหรือน้ำมีความนำไฟฟ้าสูง น้ำกรดอ่อน หรือด่างอ่อน น้ำเกลือ น้ำทะเล ของเหลวพวกนี้อาจจะต้องทำสายไฟจุ่มแยกกันคนละสายในแนวดิ่งสายไฟแต่ละสายจะอยู่ห่างกัน10-20 เซนติเมตรโดยที่เส้นคอมม่อนควรอยู่ตรงกลาง และไม่ควรใช้ตัวแยกสายSeparator จุ่มลงในของเหลว เพราะน้ำทีอยู่ในเมือกหรือโคลนที่เกาะตามสายไฟอาจวิ่งลัดข้ามตัวแยกสายได้ อาจทำหลักยึดอยู่บนเหนือโคลนแล้วใช้แท่งโลหะห้อยลงล่างเป็นอิเล็กโทรดก็ได้หรือผูกสายไฟตามหลักที่เราสร้างห้อยหัวลงก็ได้ แต่หลักยึดไม่ควรใช้แบบปักลงโคลน3แท่งมันอาจจะช็อต3แท่งตลอดเวลา--- --- --- --- --- --- --- --- --- --- --- --- --- --- --- --- --- 5. ตัวอย่างการต่อไฟใช้งาน Wiring example --- --- --- --- --- เนื่องจากต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ......นำไปต่อใช้งานไฟบ้าน220VAC ผู้ที่มีความชำนาญด้านช่างไฟฟ้ามาก่อนไม่มีปัญหา แต่ผู้ที่ไม่เคยต่อปลั๊กไฟ ต่อหลอดไฟใช้งาน ซึ่งเป็นพื้นฐานไฟฟ้าระดับมัธยมต้นมาก่อนจะน่าเป็นห่วงมาก อันตรายจากไฟฟ้าดูด ไฟช็อต ไฟเกิน ที่เป็นอันตรายต่อคนและทรัพย์สินจึงไม่แนะนำให้ทำงานประเภทนี้สำหรับผู้ที่ไม่เคยมีความรู้เรื่องช่างไฟในหัวมาก่อน แต่ถ้าต้องการจะเรียนรู้ โดยค่อยๆเรียนรู้ไปจากพื้นฐานจริงๆ ต้องรู้ไฟฟ้าพื้นฐานทั่วไปในบ้านให้เข้าใจก่อน และต้องเคยลงมือปฏิบัติงานทั้งต่อปลั๊ก ต่อหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ใช้งาน โดยต้องทำความเข้าใจถึงอุปกรณ์ตัดตอนไฟประเภทต่างๆ รวมถึงเข้าใจอันตรายและความรุนแรงจากไฟดูดก่อน จึงค่อยแนะนำให้มาสนใจงานประเภทนี้ หาความรู้พื้นฐานไฟฟ้าบ้านก่อนนะครับที่ข้างล่างเลย อย่างไรก็ตามผมจะเขียน เรื่อง วงจรไฟของ.....แยกออกไปต่างหาก หนักไปทางบทความออกไปทางไฟฟ้าโรงงานแต่จะนำไปประยุกต์ใช้ในบ้านเรือนเกษตร ไร่ นา สวน ซึ่งจะเขียนให้ละเอียดและอธิบายวิธีการเดินสายไฟคอนโทรลอย่างถูกต้องปลอดภัย และสมความตั้งใจในการใช้งานประเภทต่างๆ เพียงแค่มีความรู้เรื่องไฟฟ้าพื้นฐานในบ้าน และรู้จักอุปกรณ์ตัดตอนไฟต่างๆ รู้จักรีเลย์ คอนแท็กเตอร์ ก็สามารถต่อวงจรไฟประเภทนี้ได้อย่างสบาย เพราะแต่ละที่แต่ละจุดความต้องการในงานจริงๆแตกต่างกันออกไปจึงไม่มีสูตรตายตัว ต่อไปนี้เป็นแนวทางการต่อวงจรควบคุม กับ ........ ใช่ครับเอาว่าพอเป็นแนวทางเท่านั้น ภาพการ์ตูนแสดงตัวอย่างการลากสายไฟ ไปยังตู้คอนโทรลขนาดเล็ก จาก LNG ตู้เมน ปลั๊ก --ลิขสิทธิ์ภาพถูกต้อง ท่านสามารถนำไปใช้งานได้ถ้าไม่เกี่ยวข้องกับการค้า โดยต้องระบุว่า CC-NC by pui108diystore |