โครงสรา้ งรายวชิ า ประวัติศาสตร์ ระดับชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรียนที่ 1/........................... เวลา 20 ช่วั โมง หนว่ ย ชื่อหน่วยการ มาตรฐานการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา น้ำหนกั 1 ยคุ สมยั ใน ความสำคญั ของเวลาและยคุ สหั สวรรษ เป็นการนั บ สามารถใชว้ ิธกี ารทาง 100ปี 1000ปี เพื่ อให้ ประวัตศิ าสตรม์ าวิเคราะห์ เกิดความสะดวกในการ เหตุการณ์ต่างๆอยา่ งเปน็ นบั ช่วงเวลา ระบบ ตัวชว้ี ดั ที่ ป. 4/1 นับช่วงเวลาเป็นทศวรรษ ศตวรรษ และสหสั วรรษ มาตรฐานที่ ส 4.1 การแบ่งยุคสมยั ทาง 4 20 เขา้ ใจความหมาย ประวตั ศิ าสตรแ์ บ่ง (ส.7-10) ความสำคัญของเวลาและยคุ ออกเปน็ 2สมัยคือ สมัยทางประวตั ิศาสตร์ สมัยกอ่ นประวตั ศิ าสตร์ สามารถใชว้ ธิ กี ารทาง และสมยั ประวตั ิศาสตร์ ประวัติศาสตรม์ าวิเคราะห์ เหตกุ ารณต์ ่างๆอยา่ งเปน็ ระบบ ตวั ช้ีวดั ที่ ป. 4/2 อธิบายยุคสมยั ในการศกึ ษา ประวตั ิของมนุษยชาติ โดยสังเขป สอบกลางภาคเรียนท่ี1/........................... 10 โครงสรา้ งรายวชิ า ประวตั ศิ าสตร์ ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรยี นที่ 1/.......................... เวลา 20 ชวั่ โมง หน่วย ช่ือหน่วยการ มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระสำคัญ เวลา
น้ำหนกั สมัยทางประวตั ิศาสตร์ เป็นสมัยก่อนสุโขทัย สมยั สามารถใช้วธิ กี ารทาง สุโขทยั สมยั อยุธยา สมยั ประวัตศิ าสตรม์ าวเิ คราะห์ ธนบรุ ี สมยั รตั นโกสินทร์ เหตกุ ารณ์ต่างๆอยา่ งเป็น ระบบ ตัวช้ีวดั ที่ ป. 4/2 อธิบายยคุ สมยั ในการศกึ ษา ประวตั ิของมนุษยชาติ โดยสังเขป มาตรฐานท่ี ส 4.1 การศกึ ษาเรอื่ งราว 2 10 เขา้ ใจความหมาย เกี่ยว (ส.14-15) ความสำคัญของเวลาและยคุ กับประวัตศิ าสตร์ สมัยทางประวัตศิ าสตร์ จำเปน็ ตอ้ งศกึ ษาจาก สามารถใช้วธิ กี ารทาง หลักฐานทาง ประวัตศิ าสตรม์ าวเิ คราะห์ ประวตั ศิ าสตรจ์ ากแหลง่ เหตุการณ์ตา่ งๆอย่างเป็น ข้อมูลตา่ งๆหรอื จากหลัก ระบบ ฐานชั้นตน้ และหลักฐานช้ัน ตวั ชี้วัดที่ ป. 4/3 รองเพอื่ ใหข้ อ้ มูลที่ไดม้ ี แยกแยะประเภทหลักฐานที่ ความถูกต้อง ใชใ้ นการศึกษาความเป็นมา ของท้องถ่นิ โครงสร้างรายวชิ า ประวตั ิศาสตร์ ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรียนท่ี 1/.......................... เวลา 20 ชัว่ โมง หนว่ ย ชื่อหน่วยการ มาตรฐานการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา น้ำหนกั 3 พฒั นาการของ มาตรฐานที่ ส 4.1 ดนิ แดนไทยเป็น 5 20 มนุษยชาตจิ ากอดตี จนถงึ มายาวนานการตงั้ ถ่ิน ปัจจบุ นั ในดา้ นความสัมพนั ธ์ ฐานและการดำเนนิ ชีวิต และการเปล่ียนแปลงของ ของมนุษยใ์ นอดีตจะ เหตกุ ารณ์อยา่ งต่อเน่ือง เคล่อื น ตระหนักถึงความสำคัญและ ยา้ ยไปตามแหล่งอาหาร สามารถวิเคราะหผ์ ลกระทบ จนพฒั นามาเปน็ การตั้ง ที่เกิดขึน้ ถ่ินฐานอาศัยอยู่รวมกัน ตวั ชี้วดั ที่ ป. 4/1 เปน็ ชุมชนขนาดใหญ่ อธิบายการตั้งหลักแหลง่ และ และเป็นอาณาจกั ไทยที่ พัฒนาการของมนษุ ย์ยุค สบื ทอดมาจนถึงปัจจุบนั กอ่ นประวัติศาสตร์และยคุ ประวัตศิ าสตรโ์ ดยสังเขป สอบปลายภาคเรียนที่1/.......................... 20 รวม 20 100 สัปดาหท์ ่ี 1-2 โรงเรียนขจรเกียรติพัฒนา แผนการจดั การเรยี นรู้ ภาคเรียนที่ 1/................... ช่ือผสู้ อน................................................. กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 4 จำนวน 2 คาบ 1. หมานต่วรยฐกานารกเารรยีเรนยี รนูท้ ร/ู้ี่ 1ตวั ชวี้ ัด เร่ือง การนบั ชว่ งเวลาเป็นทศวรรษ มาตรฐานท่ี ส 4.1 นับช่วงเวลาเปน็ ทศวรรษ ศตวรรษ และสหสั วรรษ 2. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด การนับชว่ งเวลาเป็นทศวรรษ ศตวรรษและสหสั วรรษเปน็ การนับช่วงเวลาโดยแบง่ เปน็ 10ปี 100ปี 1000ปี เพอื่ ใหเ้
กิด 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) นบั ชว่ งเวลาเปน็ ทศวรรษได้ (K) 4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรทู้ ้องถิ่น สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง พจิ ารณาตามหลักสตู รของสถานศกึ ษา 1) ความหมายและชว่ งเวลาของทศวรรษ ชว่ งเวลาที่ปรากฏในเอกสารต่างๆ เชน่ 5.
กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูนำภาพเหตุการณต์ ่างๆ ในโรงเรียน มาติดไว้ทปี่ ้ายนเิ ทศหรอื บอรด์ หนา้ หอ้ งเรียน เชน่ 2. ครูให้นกั เรยี นช่วยกนั เรียงภาพ วา่ ภาพใดเกิดกอ่ นและภาพใด เกิดทหี ลงั ตามลำดบั พรอ้ มให้ช่วยกันอธิบายเหตผุ ล ครูอธิบายเช่ือมโยงใหน้ ักเรยี นเห็นความสำคัญของเวลากับการดำเนนิ ชีวิต 3. ครแู บ่งนักเรียนเปน็ กลุ่ม กลมุ่ ละ 4 คน คละกันตามความสามารถ ครูช้แี จงใหน้ ักเรียนเห็นความสำคัญและปฏบิ ตั ติ นตาม 4. ครใู ห้สมาชิกแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั ศึกษาความร้เู ร่อื ง ทศวรรษในหวั ข้อ ความหมาย และตัวอยา่ งการใชท้ ศวรรษ
จากหนังสอื คาบที่2 1. สมาชกิ แต่ละคนคิดตวั อยา่ งเรอ่ื งราวหรอื เหตกุ ารณท์ นี่ ักเรียนมคี วามประทบั ใจในช่วงเวลา 1 ทศวรรษ แตล่ ะกล่มุ ช่วยกนั เลือกตัวอย่างทเ่ี หมาะสม โดยเรยี งตามลำดบั จากข้อ 1-4 แบบเล่าเรอ่ื งรอบวง พรอ้ มทั้งอธิบายเหตผุ ลว่าทำไมจงึ ตอบเชน่ นน้ั นกั เรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ 6. ครแู ละนกั เรียนช่วยกนั สรปุ ความหมายและความสำคญั ของ การนบั เวลาเป็นทศวรรษนกั
เรยี นตอบคำถามกระตนุ้ 6. การวัดและประเมินผล การวัดและประเมินผล วธิ กี ารวัดผล เครอ่ื งมือวัด เกณฑก์ ารประเมนิ ผล ทักษะ/ 1.จำแนกช่วงเวลาเป็นทศวรรษ 1. แบบสังเกต 70% ขน้ึ ไป ถอื ว่าผ่าน คุณลกั
ษณะนสิ ัย (A) 1. สงั เกตจากการเรียนมคี วาม 7. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ 1) หนงั สือเรียน พระพทุ ธศาสนา ป.4 7.2แหล่งการเรียนรู้ 8. กจิ
กรรมเสนอแนะ ลงช่ือ............................................ครูผู้สอน ลงชอ่ื ...................................................ฝา่ ยวชิ
าการ ลงชือ่ ................................................... ผบู้ ริหาร บตั รภาพ เหตกุ ารณ์ต่างๆ ในโรงเรียน ภาพที่ 1 ภาพท่ี 2 ภาพท่ี 3 ภาพที่ 4 ใบงานท่ี 1.1 เรื่องเวลากบั ทศวรรษ คำช้แี จง ใหน้ กั เรยี นอา่ นเรอ่ื ง หมู่บ้านแสงตะวนั แลว้ ตอบคำถาม หมบู่ า้
นแสงตะวัน คำถาม 2. การสร้างวดั ในหมูบ่ ้านแสงตะวนั ใช้เวลาก่ีทศวรรษ หลังจากกอ่ สร้างหมบู่ ้าน 3. มีการสร้างโรงเรยี นหลังจากกอ่ สร้างหมู่บา้ นกี่ทศวรรษ 4. มีการสร้างถนนลาดยางผา่ นหน้าหมบู่ า้ นหลงั จากก่อสร้างหมบู่ ้านกที่ ศวรรษ ใบงานที่ 1.1 เรอื่ ง เวลากับทศวรรษ เฉลย คำชแี้ จง ใหน้ กั เรยี นอ่านเร่ือง หมู่บ้านแสงตะวัน แลว้ ตอบคำถาม หมบู่ า้ นแสงตะวัน หมู่บ้านแสงตะวันเป็นหมู่บา้ นเก่าแกท่ เี่ รม่ิ ก่อสร้างมานานประมาณ 60 ปี มาแลว้ ตาชุ่มซ่งึ เป็นผ้ทู ี่ คำถาม 2. การสรา้ งวดั ในหม่บู ้านแสงตะวนั ใชเ้ วลากท่ี ศวรรษ หลงั จากกอ่ สรา้ งหมูบ่ า้ น 3. มีการสร้างโรงเรยี นหลังจากกอ่ สรา้ งหมู่บา้ นก่ีทศวรรษ 4. มกี ารสร้างถนนลาดยางผา่ นหนา้
หมบู่ ้านหลังจากกอ่ สรา้ งหมบู่ ้านกี่ทศวรรษ สัปดาห์ท่ี 3-4 โรงเรยี นขจรเกยี รตพิ ฒั นา แผนการจัดการเรียนรู้ ภาคเรยี นที่ 1/................... ชอ่ื ผู้สอน................................................. กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 4 จำนวน 2 คาบ 1. หมานตว่ รยฐกานารกเารรียเรนียรนทู้ รู้/ี่ 1ตวั ช้ีวัด เรอ่ื ง การนับช่วงเวลาเปน็ ศตวรรษ มาตรฐานที่ ส 4.1 2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การนบั ช่วงเวลาเปน็ ทศวรรษ ศตวรรษและสหัสวรรษเป็นการนับชว่ งเวลาโดยแบ่งเป็น 10ปี 100ปี 1000ปี เพ่อื ใหเ้ กิด ความสะดวกในการนับชว่ งเวลา 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) นบั ช่วงเวลาเปน็ ศตวรรษได้ (K) 4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ท้องถิน่ สาระการเรยี นร้แู กนกลาง พจิ ารณาตามหลกั สตู รของสถานศึกษา 3) ความหมายและช่วงเวลาของศตวรรษ ชว่ งเวลาทปี่ รากฏในเอกสารตา่ งๆ เช่น 5. กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ครทู บทวนความร้ขู องนกั เรยี นโดยให้นักเรยี นช่วยกนั เล่าเหตกุ ารณส์ ำคัญ หรอื กิจกรรมสำคญั
ของโรงเรียนในชว่ ง 2. นกั เรยี นกลมุ่ เดมิ (จากแผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1) ช่วยกันศกึ ษาความรูเ้ รือ่ ง ศตวรรษ ในหัวขอ้ ความหมาย และตัวอย่าง 3. สมาชกิ แตล่ ะคนในกล่มุ ชว่ ยกนั อธิบายความร้คู วามเข้าใจ (จากเรอ่ื งทศ่ี ึกษา ตามหัวข้อทคี่ รกู ำหนด) 4.
สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มนำความร้ทู ีไ่ ดจ้ ากการศกึ ษามาเป็นพ้นื ฐานในการทำใบงานท่ี 2.1 เร่ือง การใชศ้ ตวรรษ คาบท่ี2 1. สมาชกิ แตล่ ะคนในกลุ่มผลัดกนั อธิบายคำตอบในใบงานที่ 2.1 ของตนใหเ้ พื่อนฟงั โดยหมนุ เวยี นกนั เฉลยทีละขอ้ จนครบ 2. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกนั สรปุ และบนั ทกึ ความรทู้ ไ่ี ดร้ บั เกย่ี วกบั ศตวรรษ ในหวั ข้อทค่ี รกู ำหนด ดงั น้ี 3. ตวั แทนกลุ่มออกมานำเสนอผลงานทห่ี นา้ หอ้ งเรียน โดยมคี รู ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง เรยี น หนังสอื ค้นคว้าเพิ่มเติม และหอ้ งสมดุ นำมาวเิ คราะห์ แล้วบรรยายใตข้ อ้ ความที่แสดงถงึ การนับศตวรรษสง่ ครู 6. การวดั และประเมินผล การวัดและประเมนิ ผล วธิ ีการวัดผล เครอื่ งมือวัด
เกณฑก์ ารประเมินผล กระบวนการ (P) ศตวรรษ คณุ ลักษณะนิสยั (A) 1. สงั เกตจากการเรียนมคี วาม 1. แบบสงั เกต 70% ข้นึ ไป ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์ 7. สือ่ /แหล่งการเรียนรู้ 1) หนังสอื เรียน พระพทุ ธศาสนา ป.4 7.2แหล่งการเรียนรู้ 8. กจิ
กรรมเสนอแนะ ลงชอื่ ............................................ครูผู้สอน ลงชอ่ื ...................................................ฝา่ ยวิชาการ (....................................................) (....................................................) ลงช่ือ................................................... ผบู้ ริหาร ใบงานท่ี 2.1 เร่อื ง การใชศ้ ตวรรษ ตอนที่ 1 เหตุการณท์ ีก่ ำหนดให้ ชว่ งเวลากป่ี ี ตอนที่ 2 ขอ้ ความท่ี 1 คำถาม 2. ช่วงเวลาทพ่ี ่อขุนรามคำแหงมหาราชทรงประดิษฐ์อักษรไทยจนถงึ ปัจจุบนั เป็นเวลากศี่ ตวรรษ 3. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชโปรดเกลา้ ฯ ใหจ้ ดั ทำสมดุ ภาพไตรภมู ิในพุทธศตวรรษทเี่ ทา่ ไร 4. ระยะเวลาทีส่ มเดจ็ พระเจา้ ตากสินมหาราชโปรดเกล้าฯ ให้จดั ทำสมดุ ภาพไตรภมู หิ ่างจากการประดิษฐอ์ ักษรไทย ก่ี 5. การประดษิ ฐ์อกั ษรไทยกับการจดั ทำสมุดภาพไตรภมู ินั้น เหตกุ ารณใ์ ดเกิดภายหลงั ขอ้ ความท่ี 2 คำถาม คริสตศ์ ตวรรษที่เทา่ ไหร่ 2. การส่งดาวเทยี มไปโคจรรอบโลกและการส่งมนุษย์ไปยงั ดวงจันทร์ เหตุการณใ์ ดเกิดข้นึ กอ่ น 3. การสง่ ดาวเทยี มไปโคจรรอบโลกและการส่งมนษุ ย์ไปยงั ดวงจันทร์ จดั อยูใ่ นศตวรรษเดียวกนั หรือไม่ ใบงานที่ 2.1 เรอ่ื ง การใช้ศตวรรษ เฉลย ตอนที่ 1 เหตุการณ์ทก่ี ำหนดให้ ช่วงเวลากี่ปี ตอนท่ี 2 ข้อความที่ 1 คำถาม พุทธศตวรรษท่ี 19 2. ชว่
งเวลาทพ่ี ่อขุนรามคำแหงมหาราชทรงประดษิ ฐอ์ กั ษรไทยจนถงึ ปัจจุบัน เป็นเวลาก่ีศตวรรษ 3. สมเดจ็ พระเจา้ ตากสินมหาราชโปรดเกล้าฯ ให้จัดทำสมุดภาพไตรภูมิในพทุ ธศตวรรษทีเ่ ทา่ ไร 4. ระยะเวลาทส่ี มเดจ็ พระเจา้ ตากสินมหาราชโปรดเกลา้ ฯ ให้จดั ทำสมุดภาพไตรภูมหิ ่างจากการประดิษฐอ์ ักษรไทย ก่ี 5. การประดษิ ฐ์อักษรไทยกับการจัดทำสมดุ ภาพไตรภูมนิ น้ั เหตกุ ารณใ์ ดเกดิ ภายหลงั ข้อความที่ 2 คำถาม ครสิ ตศ์ ตวรรษท่เี ทา่ ไหร่ 2. การสง่ ดาวเทยี มไปโคจรรอบโลกและการส่งมนุษยไ์
ปยังดวงจนั ทร์ เหตุการณ์ใดเกดิ ขึน้ กอ่ น 3. การส่งดาวเทยี มไปโคจรรอบโลกและการส่งมนษุ ย์ไปยังดวงจนั ทร์ จดั อยู่ในศตวรรษเดยี วกันหรือไม่ สปั ดาห์ท่ี 5-6 โรงเรยี นขจรเกียรตพิ ฒั นา แผนการจดั การเรยี นรู้ ภาคเรียนที่ 1/................... ช่อื ผสู้ อน................................................. กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 จำนวน 2 คาบ 1. หมานตว่ รยฐกานารกเารรียเรนียรน้ทู รู/้ี่ 1ตัวชวี้ ัด เร่อื ง การนบั ช่วงเวลาเปน็ สหสั วรรษ มาตรฐานท่ี ส 4.1 2. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด การนับชว่ งเวลาเปน็ ทศวรรษ ศตวรรษและสหสั วรรษเป็นการนบั ช่วงเวลาโดยแบ่งเป็น 10ปี 100ปี 1000ปี เพ่ือให้เกดิ ความสะดวกในการนบั ชว่ งเวลา 3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1) นบั ชว่ งเวลาเป็นสหัสวรรษได้ (K) 4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถ่นิ สาระการเรียนรแู้ กนกลาง พจิ ารณาตามหลกั สตู รของสถานศกึ ษา 5) ความหมายและช่วงเวลาของสหัสวรรษ ช่วงเวลาทปี่ รากฏในเอกสารตา่ งๆ เช่น 5. กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครใู หน้ ักเรยี นเล่นเกมนบั ช่วงเวลา โดยครอู ธิบายขัน้ ตอนการ เล่นเกมให้นักเรยี นฟงั ว่า เมื่อครูกล่าวคำต่อไปน้ีให้ - ครูกล่าวคำวา่ “ทศวรรษ” ใหน้ กั เรยี นพดู วา่ “ทลี ะสิบ” แลว้ ปรบมอื สองคร้ัง พูดว่า “ทีละสบิ ” แลว้ ปรบมอื สองคร้ัง - ครูกลา่ วคำว่า “ศตวรรษ” ใหน้ ักเรียนพดู วา่ “ทีละร้อย” แล้วปรบมือสามครงั้ พูดวา่ “ทลี ะร้อย” แล้วปรบมือสาม - ครกู ลา่ วคำวา่ “สหสั วรรษ” ใหน้ ักเรยี นพูดว่า “ทีละพัน” แลว้ ปรบมือหา้ ครั้ง พูดวา่ “ทลี ะพัน” แล้วปรบมือหา้ ครั้ง - ครูกลา่ วคำวา่ ทศวรรษ ศตวรรษ และสหสั วรรษ สลับไปมาเพ่ือใหน้ กั เรยี นปฏิบตั ิ 2. ครใู ห้นักเรียนกลุ่มเดมิ (จากแผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 1) รว่ มมือกันศกึ ษาความร้เู รอ่ื ง สหัสวรรษ ในหวั ข้อ ความหมาย 3. นกั เรยี นแตล่ ะคนทำแบบฝกึ หดั หนา้ ท่ี 195- 196 คาบท่ี2 นกั เรียนช่วยกนั สรปุ ความหมายของสหัสวรรษและความสำคัญของการใช้ชว่ งเวลาเปน็ สหัสวรรษ • ครมู อบหมายให้นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ จัดทำโปสเตอร์ เร่ือง การนบั ชว่ งเวลาแบบทศวรรษ ศตวรรษ และสหสั วรรษ นกั เรยี นทำแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เรอ่ื ง เวลา ชว่ งเวลา และยคุ สมัยทางประวตั ิศาสตร์ 6. การวดั และประเมินผล วธิ ีการวัดผล เคร่อื งมือวดั เกณฑ์การ ทักษะ/กระบวนการ (P) 1.ใช้ทักษะการจำแนกช่วงเวลาเป็น 70% ขนึ้ ไป ถอื ว่า คณุ ลักษณะนิสยั (A) 1. สงั เกตจากการเรยี นมคี วาม 1. แบบสังเกต 70% ขึน้ ไป ถอื ว่า ตามที่กำหนด 2. สงั เกตจากการเรยี นใฝเ่ รยี นรู้ 3. สังเกตจากการมุง่ มนั่ ในการทำงาน 7. สือ่ /แหลง่ การเรียนรู้ 1) หนงั สือเรยี น พระพุทธศาสนา ป.4 7.2แหลง่ การเรยี นรู้ 8. กจิ
กรรมเสนอแนะ ลงชอื่ ............................................ครผู ู้สอน ลงช่ือ...................................................ฝา่ ยวิชาการ (...........................................................) (...........................................................) ลงชอ่ื ................................................... ผบู้ รหิ าร สัปดาห์ท่ี 7-9 โรงเรียนขจรเกยี รติพฒั นา แผนการจดั การเรยี นรู้ ภาคเรียนท่ี 1/................... ชื่อผู้สอน................................................. กล่มุ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 4 จำนวน 4 คาบ 1. หมานต่วรยฐกานารกเารรียเรนียรนทู้ รู้/ี่ 1ตัวชว้ี ดั เรอ่ื ง ยุคสมัยในการศกึ ษา ประวตัมาศิ ตารสฐาตนรท์ ี่ ส 4.1 เหตกุ ารณ์ตา่ งๆอย่างเปน็ ระบบ ตัวช้วี ดั ท่ี ป. 4/2 อธบิ ายยคุ สมยั ในการศึกษาประวัตขิ องมนุษยชาตโิ ดยสังเขป 2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด การแบง่ ยุคสมัยทางประวัติศาสตร์แบง่ ออกเปน็ 2 สมยั คอื สมยั ก่อนประวัตศิ าสตร์และสมยั ประวัติศาสตร์ 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1) อธบิ ายเกณฑ์ที่ใชใ้ นการแบง่ ยคุ สมยั ในการศกึ ษาประวตั ศิ าสตร์ได้ (K) 2) จำแนกยคุ สมยั ในการศกึ ษาประวัตศิ าสตร์ (P) 4. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถน่ิ สาระการเรยี นรู้แกนกลาง พจิ ารณาตามหลกั สตู รของสถานศกึ ษา 1. เกณฑ์การแบ่งยุคสมัยในการศกึ ษาประวัติ- 5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. ครนู ำภาพหลกั ฐานทางประวัติศาสตร์ มาให้นักเรยี นดู 2. ครูใหน้ กั เรียนตอบคำถามจากภาพ ดังนี้ 3.
ครูอธิบายเชอื่ มโยงให้นกั เรียนเห็นถึงความสำคัญของหลกั ฐานทางประวัตศิ าสตร์นกั เรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคิด คาบที่2 4. แบ่งกลมุ่ กลุม่ ละ 5-7 คน ตามความสมัครใจ แล้วใหแ้ ต่ละกลุ่มชว่ ยกนั ศกึ ษาความรเู้ ร่ือง การแบง่ ยุคสมยั ใน คาบที่3 5. สมาชิกแตล่ ะคนในกลมุ่ ร่วมกนั อธิบายความรู้เรอ่ื งการแบ่งยคุ
สมัยในการศึกษาประวัติศาสตร์ ในประเด็นตอ่ ไปนี้ คาบท่ี4 6. สมาชกิ แตล่ ะกลุ่มนำความรทู้ ไี่ ดจ้ ากการศึกษามาเป็นพ้นื ฐานในการทำใบงานท่ี 1.1 เรอื่ ง การแบ่งยคุ สมัยในการศกึ ษา 7. ครูเฉลยใบงานที่ 1.1 แลว้ ให้นกั เรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง และแก้ไขในสว่ นทีบ่ กพร่อง 6. การวดั และประเมินผล การวดั และประเมินผล วธิ กี ารวัดผล เคร่อื งมอื วดั เกณฑ์การประเมินผล 7. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน ประวตั ิศาสตร์ ป.4 7.2 แหลง่ การเรียนรู้ 8. กิจกรรมเสนอแนะ ............................................................................................................................................................................ . ลงชอ่ื ...................................................ฝ่ายวชิ าการ (.....................................................) ลงชือ่ ................................................... ผบู้ ริหาร บัตรภาพ หลกั ฐานทางประวัติศาสตร์ ภาพเครอ่ื งมอื เครื่องใช้สมัยสำริด ภาพเคร่อื งมอื เครือ่ งใชส้ มยั เหลก็ ภาพหลักศลิ าจารึก ภาพอกั ษรคนู ฟิ อร์ม ใบงานที่ 1.1 เร่ือง การแบ่งยคุ สมัยในการศึกษาประวตั ิศาสตร์ ตอนท่ี 1 1. 2. นกั เรยี นคิดวา่ มนษุ ยท์ อ่ี าศยั อยใู่ นถำ้ นเ้ี ปน็ มนุษย์ นกั เรยี นคิดวา่ มนษุ ยใ์ นภาพนอ้ี ยใู่ นยคุ สมยั ใด 3. จากภาพดังกลา่ วสนั นษิ ฐานวา่ เปน็ หลกั ฐานของมนษุ ย์ในยุคสมยั ใด อธบิ ายเหตุผล ตอนที่ 2 นายสุวิทย์ไปทำไรม่ ันสำประหลงั และไถพบหลกั ฐานทางประวัตศิ าสตรป์ ระเภทเครือ่ งมอื และเครอ่ื งใชท้ ท่ี ำดว้ ย หลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ทนี่ ายสุวิทยพ์ บนน้ั สันนษิ ฐานวา่ เป็นเครอ่ื งมอื เครอื่ งใช้ในสมัยใด 2. เด็กหญงิ ชาลิสาไปเทยี่ วชมพิพธิ ภัณฑสถานแห่งชาติ พบตใู้ บหน่ึงภายในมีเคร่ืองป้นั ดินเผาเขียนสี มลี วดลาย 2.1 หลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตร์ทเ่ี ด็กหญงิ ชาลสิ าเหน็ ไดแ้ กอ่ ะไรบ้าง 2.2 สนั นษิ ฐานวา่ น่าจะเป็นเครอื่ งมือเครอื่ งใช้ในสมยั ใด 3. ก้องและเพ่ือนๆ เดนิ สำรวจพพิ ิธภัณฑสถานในบรเิ วณหลุมฝังศพ พวกเขาสังเกตวา่ มีร่องรอยของการประกอบ สนั นษิ ฐานวา่ มนุษย์โบราณในบริเวณน้นั นา่ จะเป็นมนษุ ย์ในสมัยใด ใบงานท่ี 1.1 เรอ่ื ง การแบ่งยุคสมัยในการศึกษาประวัตศิ าสตร์ เฉลย ตอนท่ี 1 1. 2. นกั เรยี นคิดวา่ มนษุ ยท์ อ่ี าศยั อยใู่ นถำ้ นเ้ี ปน็ มนุษย์ นกั
เรยี นคิดวา่ มนษุ ยใ์ นภาพนอ้ี ยใู่ นยคุ สมยั ใด 3. จากภาพดงั กลา่ วสันนิษฐานวา่ เป็นหลักฐานของมนษุ ยใ์ นยคุ สมยั ใด อธบิ ายเหตผุ ล สมัยประวตั ิศาสตร์ ตอนที่ 2 1. หลกั ฐานทางประวัตศิ าสตรท์ น่ี ายสุวิทยพ์ บนั้นสนั นิษฐานว่าเป็นเครื่องมือเครือ่ งใชใ้ นสมัยใด 2. เด็กหญิงชาลสิ าไปเทย่ี วชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พบตใู้ บหนงึ่ ภายในมีเครอ่ื งปน้ั ดินเผาเขียนสี มลี วดลาย 2.1 หลกั ฐานทางประวัตศิ าสตร์ท่ีเดก็ หญงิ ชาลิสาเหน็ ได้แก่อะไรบา้ ง 2.2 สันนษิ ฐานวา่ น่าจะเป็นเคร่อื งมอื เครือ่ งใช้ในสมยั ใด 3. ก้องและเพือ่ นๆ เดินสำรวจพพิ ิธภณั ฑสถานในบรเิ วณหลมุ ฝงั ศพ พวกเขาสังเกตว่ามรี ่องรอยของการประกอบ สันนิษฐานว่ามนุษยโ์ บราณในบรเิ วณนนั้ นา่ จะเป็นมนุษยใ์ นสมัยใด สปั ดาห์ท่ี 11-13 โรงเรียนขจรเกียรตพิ ัฒนา แผนการจัดการเรียนรู้ ภาคเรยี นท่ี 1/................... ชอื่ ผู้สอน................................................. กล่มุ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 2 คาบ 1.หมนาว่ตยรฐกาานรกเรารียเนรยี รนู้ทร่ี 2้/ู ตวั ชวี้ ดั เรือ่ ง ยคุ สมยั ในการศกึ ษา เหตกุ ารณต์ ่างๆอย่างเป็นระบบ ตัวชวี้ ดั ที่ ป. 4/2 อธบิ ายยคุ สมยั ในการศกึ ษาประวตั ิของมนุษยชาตโิ ดยสังเขป 2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด ยุคสมัยท่ีใชใ้ นการศกึ ษาประวัติศาสตร์ไทยแบง่ ออกเปน็ สมัยก่อนสโุ ขทัย สมยั สุโขทยั สมัยอยธุ ยา สมัยธนบรุ ี 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1) อธิบายเกณฑท์ ใี่ ชใ้ นการแบ่งยุคสมัยที่ใชใ้ นการศกึ ษาประวัตศิ าสตร์ไทยได้ (K) 4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถ่ิน สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง พิจารณาตามหลักสตู รของสถานศึกษา 1.ยุคสมยั ท่ใี ชใ้ นการศกึ ษาประวัตศิ าสตรไ์ ทย - สมัยก่อนสุโขทยั 5. กิจกรรมการเรยี นรู้ คาบท่ี1 1.ครูนำภาพหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ มาให้นักเรยี นดู 2.ครใู ห้นักเรยี นตอบคำถามจากภาพ ดังนี้ 3.ครอู ธบิ ายเชื่อมโยงใหน้ กั เรียนเหน็ ถึงความสำคัญของหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตรน์ ักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด คาบท่ี2 4.นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ กลมุ่ ละ 5-7 คน ตามความสมัครใจ แลว้ ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ช่วยกนั ศึกษาความรเู้ ร่ือง การแบ่งยุคสมัยในการศึกษา 5.ครูนำจุดประสงคท์ ี่ทกุ คนสนใจสืบค้นหาคำตอบมาวางแผนเพอ่ื คน้ หาคำตอบซึ่งจะเป็นเรอื่
งราวเหตกุ ารณใ์ นสมัยต่างๆ - สมัยอาณาจักรรุ่นแรกๆ คาบท่ี3 1. สมาชิกแตล่ ะกลุ่มนำข้อมูลที่ไดจ้ ากการค้นควา้ มาวเิ คราะห์ สังเคราะห์ แล้วตอบคำถามลงในใบงานที่ 2.1 เรอ่ื ง ข้อมูลหรือภาพ 6. การวดั และประเมนิ ผล การวัดและประเมนิ ผล วิธกี ารวัดผล เครอ่ื งมอื วดั เกณฑ์การประเมนิ ผล ทกั ษะ/ 1.จำแนกยคุ สมัยในการศึกษาประวตั ศิ าสตร์ กระบวนการ (P) คณุ ลกั ษณะนสิ ัย (A) 1. สงั เกตจากการเรียนมคี วามรบั ผิดชอบตอ่ 1. แบบสังเกต 70% ข้ึนไป ถอื วา่ ผ่าน 7. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1) หนงั สอื
เรยี น ประวัตศิ าสตร์ ป.4 7.2แหลง่ การเรยี นรู้ 8. กจิ กรรมเสนอแนะ ............................................................................................................................................................................ ลงชอื่ ............................................ครูผู้สอน ลงชอ่ื ...................................................ฝา่ ยวิชาการ (.......................................................) (...........................................................) ลงช่อื ................................................... ผบู้ ริหาร บัตรภาพ เหตกุ ารณท์ างประวัติศาสตร์ ภาพยุทธหตั ถี ภาพคนชุมนมุ กันบรเิ วณอนสุ าวรยี ์ประชาธิปไตย ใบงานที่ 2.1 เรื่อง คำชแ้ี จง ใหน้ กั เรียนสืบคน้ ขอ้ มูลหรอื ภาพเหตกุ ารณท์ างประวตั ศิ าสตรท์ ป่ี ระทับใจ แลว้ ตอบคำถาม ภาพเหตกุ ารณ/์ ข้อความ 2. ขอ้ มูลหรือภาพเหตกุ ารณด์ งั กล่าวเกิดขนึ้ ในยคุ สมัยใด 3. ขอ้ มูลหรือภาพเหตุการณด์ ังกลา่ วมีความสำคญั อยา่ งไร 4. ขอ้ มลู หรือภาพเหตกุ ารณ์ดงั กล่าวไดม้ าจากแหลง่ ความร้ใู ด และมคี วามน่าเช่อื ถอื เพยี งใด สปั ดาหท์ ี่ 14-15 โรงเรยี นขจรเกยี รตพิ ัฒนา แผนการจดั การเรียนรู้ ภาคเรียนท่ี 1/................... ช่ือผสู้ อน................................................. กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 4 จำนวน 2 คาบ 1. หมานต่วรยฐกานารกเารรียเรนยี รนู้ทร/ู้่ี 2ตัวชวี้ ดั เรอื่ ง หลักฐานทางประวตั ศิ าสตร์ มาตรฐานท่ี ส 4.1 2. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด การศกึ ษาเร่ืองราวเกีย่ วกบั ประวตั ศิ าสตร์จำเป็นตอ้ งศึกษาจากหลกั ฐานทางประวัตศิ าสตร์ จากแหล่งข้อมูลตา่ งๆหรอื จากหลักฐานชนั้ ตน้ และหลกั ฐานชนั้ รองเพ่ือใหข้ อ้ มลู ท่ีไดม้ คี วามถกู ต้อง 3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1) อธิบายประเภทของหลกั ฐานทใ่ี ชใ้ นการศึกษาความเป็นมาของทอ้ งถิ่นได้ (K) 3) ผเู้ รียนมคี วามใฝ่รู้ ใฝ่เรียนม่งุ ม่ันในการทำงาน (A) 4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรทู้ ้องถิ่น สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศกึ ษา 1. ประเภทของหลักฐานทางประวตั ศิ าสตร์ที่ 5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ คาบที่1 1.
ครูนำภาพหลักฐานทางประวัติศาสตร์ มาใหน้ ักเรยี นดู เช่น 2. นกั เรยี นชว่ ยกนั แสดงความคดิ เหน็ เปรยี บเทยี บความแตกตา่ งของภาพดงั กลา่ วครอู ธบิ ายเชอ่ื มโยงใหน้ กั เรียนทราบ 3. นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ กลมุ่ ละ 6 คน ตามความสมคั รใจ ใหแ้ ตล่ ะกลุม่ รว่ มกนั ศกึ ษาความรเู้ รอ่ื ง ประเภทของหลกั ฐานเกย่ี วกบั 4. นกั เรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ คาบที่2 1. นกั เรยี นแตล่ ะคนในกลมุ่ ผลดั กนั อธบิ ายความรูท้ ไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษาเรอ่ื ง ประเภทของหลกั ฐานความเปน็ มาของทอ้ งถน่ิ 2. สมาชกิ แต่ละกลุม่ นำความรูท้ ไี่ ดจ้ ากการศึกษาคน้ คว้ามาเปน็ พื้นฐานในการทำใบงานที่ 1.1 เรอื่ ง
ประเภทของหลักฐาน 3. ครูเฉลยคำตอบในใบงานที่ 1.1 และให้สมาชกิ แต่ละกล่มุ ตรวจสอบความถูกตอ้ งและแกไ้ ขในสว่ นที่บกพร่อง 4. นกั เรยี นชว่ ยกนั สรปุ ประเภทของหลกั ฐานเก่ียวกบั ความเปน็ มาของทอ้ งถ่ิน 6. การวัดและประเมินผล วิธกี ารวดั ผล เครือ่ งมอื วดั เกณฑ์การประเมินผล 7. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้ 1) หนงั สือเรียน ประวตั ิศาสตร์ ป.4 (1) วณี า เอ่ยี มประไพ. 2535. หลกั ฐานทางประวัติศาสตร์. กรุงเทพมหานคร : โอเดยี นสโตร์. กรงุ เทพมหานคร : บรรณกจิ . 7.2แหล่งการเรียนรู้ 8. กจิ กรรมเสนอแนะ ............................................................................................................................................................................ ลงชอ่ื ............................................ครผู สู้ อน ลงชื่อ...................................................ฝา่ ยวิชาการ (.......................................................) (...........................................................) ลงชือ่ ................................................... ผบู้ รหิ าร บัตรภาพ หลักฐานทางประวตั ศิ าสตร์ ภาพเครอ่ื งป้นั ดนิ เผา ภาพหนังสอื แผนทป่ี ระวัตศิ าสตร์ ใบงานท่ี 1.1 เรอ่ื ง ประเภทของหลกั ฐานเก่ยี วกับทอ้ งถน่ิ ตอนที่ 1 1. 2. 3. 4. 5. 6. ตอนท่ี 2 หลักฐานชั้นตน้ หมายถึง หลกั ฐานชน้ั รอง หมายถึง ใบงานที่ 1.1 เร่ือง ประเภทของหลักฐานเกยี่ วกบั ทอ้ งถ่นิ เฉลย ตอนท่ี
1 1. 2. 3. หลกั ฐานช้นั ต้น หลักฐานชน้ั รอง หลกั ฐานชั้นต้น หลักฐานช้นั ตน้ หลักฐานชั้นต้น หลักฐานชน้ั รอง ตอนท่ี 2 หลักฐานชนั้ ต้น หมายถึง หลกั ฐานในชว่ งเวลาเดียวกบั เหตุการณ์ เชน่ บันทึกของผู้คนทอ่ี ยใู่ นเหตุการณ์ หนงั สือพิมพ์ หลักฐานช้ันรอง หมายถึง หลกั ฐานท่ีเขยี นหรือรวบรวมขน้ึ ภายหลงั เหตกุ ารณ์ โดยผูเ้ ขยี นเขยี นข้นึ จากการศึกษาหลักฐาน หลักฐานชัน้ รองสามารถใชค้ น้ คว้าได้สะดวกกว่าหลักฐานชั้นต้น เชน่ หนงั สือตา่ งๆ สปั ดาห์ท่ี 16-19 โรงเรยี นขจรเกยี รตพิ ัฒนา แผนการจัดการเรียนรู้ ภาคเรยี นท่ี 1/................... ชอ่ื ผู้สอน................................................. กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 4 จำนวน 3 คาบ 1. หมานตว่ รยฐกานารกเารรียเรนยี รนู้ทรู้/่ี 3ตัวชว้ี ดั เร่อื ง พฒั นาการของมนุษยใ์ นดินแดน ไทย มาตรฐานที่ ส 4.1 เข้าใจพฒั นาการของมนษุ ยชาติจากอดีตจนถงึ ปัจจบุ ันในดา้ นความสมั พนั ธ์และการเปลยี่ นแปลงของเหตกุ ารณอ์ ย่าง ต่อเนอ่ื งตระหนกั ถึงความสำคญั และสามารถวิเคราะหผ์ ลกระทบที่เกดิ ข้นึ ตัวชีว้ ัดท่ี ป. 4/1 อธิบายการต้ังหลักแหล่งและพฒั นาการของมนษุ ย์ยุคกอ่ นประวตั ศิ าสตร์และยุคประวตั ิศาสตรโ์ ดยสังเขป 2. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด ดินแดนไทยเป็นดินแดนทมี่ นษุ ยอ์ าศัยอยมู่ ายาวนานการตั้งถนิ่ ฐานและการดำเนนิ ชวี ติ ของมนุษย์ในอดตี จะเคลอ่ื นย้าย ไปตามแหล่งอาหารจนพัฒนามาเปน็ การตงั้ ถิ่นฐานอาศยั อยรู่ วมกันเป็นชมุ ชนขนาดใหญ่และเป็นอาณาจกั ไทยท่สี บื ทอดมาจนถึง 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1) บอกปัจจัยสำคัญท่ีมผี ลตอ่ การตง้ั ถน่ิ ฐานของมนษุ ยไ์ ด้ (K) 4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถิ่น สาระการเรียนรแู้ กนกลาง พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศกึ ษา 1.พัฒนาการของมนษุ ย์ยคุ กอ่ นประวัติศาสตร์และยคุ 5. กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครตู ั้งคำถามถามนักเรยี นวา่ ถา้ ให้นกั เรยี นเลอื กตง้ั ถิ่นฐานทีอ่ ยู่ นกั เรยี นจะเลอื กบรเิ วณใด
เพราะเหตใุ ด ซ่ึงนกั เรยี น 2. ครูแบง่ นักเรียนเปน็ กลุ่ม กลมุ่ ละ 4 คน คละกันตามความสามารถ คอื เก่ง ปานกลางค่อนข้างเก่ง ปานกลางคอ่ นขา้ งออ่ น - ทุกคนมีบทบาทเท่าเทยี มกัน คาบท่ี2 4. สมาชกิ ทกุ คนในกลุ่มร่วมมือกนั ตอบคำถามในใบงานที่ 1.1 เร่ือง ปจั จัยทม่ี ผี ลต่อการต้ังถิ่นฐานของมนษุ ย์ เม่ือทำใบงานเสรจ็ 5. ครสู มุ่ ตวั แทนของแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอคำตอบในใบงานที่ 1.1 กลมุ่ ละ1-2 คน ตามความเหมาะสมซ่งึ อาจจะซำ้ ขอ้ กัน 6. นกั เรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด ข้อ 1-2 6. การวัดและประเมินผล การวดั และประเมนิ ผล วธิ กี ารวัดผล เครอ่ื งมอื วดั เกณฑ์การประเมินผล กระบวนการ (P) ต้ังถ่นิ ฐานของมนุษย์ได้ 1. แบบสงั เกต 7. สือ่ /แหลง่ การเรยี นรู้ 1) หนังสือเรียน ประวัติศาสตร์ ป.4 (1) วฒุ ิชยั มลู ศลิ ป.์ 2547. ประวตั ิศาสตร์ชาตไิ ทย. กรงุ เทพมหานคร : มูลนธิ กิ ตเวทนิ ในพระบรม
สมาคมประวัตศิ าสตรใ์ นพระบรมราชูปถมั ภ์สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี. 7.2แหล่งการเรียนรู้ 8.
กิจกรรมเสนอแนะ ลงช่อื ............................................ครผู ้สู อน ลงชอ่ื ...................................................ฝ่ายวิชาการ (...........................................................) (...........................................................) ลงชือ่ ................................................... ผบู้ รหิ าร ใบงานที่ 1.1 เร่ือง ปัจจยั ท่มี ผี ลตอ่ การตัง้ ถนิ่ ฐานของมนุษย์ ตอนที่
1 1. เพราะเหตุใด มนษุ ย์ในสมัยหนิ จงึ มกั อพยพเรร่ อ่ นไปตามปา่ เขา 2. เพราะเหตุใด มนุษยใ์ นสมยั หินจึงชอบอาศยั อยตู่ ามถ้ำ เพงิ ผาในทีส่ ูง 3. เพราะเหตใุ ด มนษุ ยส์ ่วนใหญ่ชอบตง้ั ถิ่นฐานบริเวณทรี่ าบใกล้แหลง่ นำ้ 4. เพราะเหตุใด มนุษยจ์ งึ สามารถสรา้ งสรรคผ์ ลงานประเภทต่างๆ ได้ 5. เพราะเหตใุ ด มนุษยท์ ่ีอยใู่ นชุมชนใกล้นำ้ จงึ มีพัฒนาการมากกวา่ ชุมชนท่ีอย่หู ่างไกลแหลง่ นำ้ ตอนที่ 2 ใบงานท่ี 1.1 เรอ่ื ง ปจั จัยทมี่ ีผลตอ่ การตง้ั ถน่ิ ฐานของมนษุ ย์ เฉลย ตอนที่ 1 1. เพราะเหตใุ ด มนษุ ย์ในสมัยหินจึงมกั อพยพเรร่ อ่ นไปตามป่าเขา 2. เพราะเหตุใด มนุษย์ในสมยั หินจึงชอบอาศยั อยู่ตามถ้ำ เพงิ ผาในท่สี งู 3. เพราะเหตใุ ด มนษุ
ย์สว่ นใหญ่ชอบตัง้ ถิน่ ฐานบริเวณทีร่ าบใกล้แหล่งนำ้ 4. เพราะเหตใุ ด มนษุ ย์จึงสามารถสร้างสรรคผ์ ลงานประเภทตา่ งๆ ได้ 5. เพราะเหตใุ ด มนษุ ยท์ ี่อยใู่ นชุมชนใกล้นำ้ จงึ มพี ัฒนาการมากกวา่ ชมุ ชนที่อยูห่ า่ งไกลแหลง่ น้ำ ตอนที่ 2 (พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยให้อยู่ในดุลยพินจิ ของครูผู้สอน) |