เทคนิคสำคัญในการสร้างความสำเร็จในอาชีพการขายคือข้อใด

คุกกี้พื้นฐานที่จำเป็น เพื่อช่วยให้การทำงานหลักของเว็บไซต์ใช้งานได้ รวมถึงการเข้าถึงพื้นที่ที่ปลอดภัยต่าง ๆ ของเว็บไซต์ หากไม่มีคุกกี้นี้เว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้อย่างเหมาะสม และจะใช้งานได้โดยการตั้งค่าเริ่มต้น โดยไม่สามารถปิดการใช้งานได้

คุกกี้ในส่วนวิเคราะห์ จะช่วยให้เว็บไซต์เข้าใจรูปแบบการใช้งานของผู้เข้าชมและจะช่วยปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลและรายงานผลการใช้งานของผู้ใช้งาน

คุกกี้ในส่วนการตลาด ใช้เพื่อติดตามพฤติกรรมผู้เข้าชมเว็บไซต์เพื่อแสดงโฆษณาที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้งานแต่ละรายและเพื่อเพิ่มประสิทธิผลการโฆษณาสำหรับผู้เผยแพร่และผู้โฆษณาสำหรับบุคคลที่สาม

ไม่ว่าคุณจะทำอาชีพเกี่ยวกับการค้าขายใด ๆ ก็ตาม เทคนิคการขาย เป็นเรื่องสำคัญมากที่จะช่วยให้ยอดขายพุ่งสูงได้กว่าที่คิด ลำพังถ้าไม่รู้วิธีขายอย่างถูกต้องโอกาสที่ยอดขายจะดีขึ้นเป็นเรื่องยากมาก ๆ ยิ่งในยุคนี้มีธุรกิจเกิดขึ้นรอบตัว มีคู่แข่งขันสูงไปหมด จึงจำเป็นต้องเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา และนี่คือ เทคนิคการขาย แบบเทพ ๆ ที่การันตีว่าโอกาสได้ลูกค้ามากขึ้นกว่าเดิม

อ่านเพิ่มเติม : เจาะเทรนด์การตลาดออนไลน์

เทคนิคการขาย สุดเทพ เพิ่มยอดขายได้จริง

1. รู้วิธีปิดการขายอย่างถูกต้อง

เชื่อว่าบรรดาพนักงานขาย หรือ พ่อค้าแม่ค้า ทั้งหลาย ไม่รู้วิธีปิดการขายอย่างถูกต้องควรเปิดแบบไหน ใช้คำพูดอะไรเพื่อไม่เปิดโอกาสให้กับลูกค้าได้ไปมองร้านอื่น ๆ เทคนิคนี้ง่ายมาก ๆ เพียงแค่เลือกใช้คำถามปิดการขายอย่างถูกต้องโดยอาศัยคำพูดที่ลูกค้าปฏิเสธได้ยาก เช่น สรุปซื้อสีไหนดีคะ, ตกลงอยากได้รุ่นไหนมากกว่ากันคะ เป็นต้น วิธีปิดการขายแบบนี้เสมือนเป็นการให้ลูกค้าต้องเลือกว่าอยากได้แบบไหนมากกว่า เท่ากับคุณมีสิทธิ์ขายได้แน่นอน

2. กริยา ท่าทาง คำพูดสำคัญมาก

การเป็นผู้ขายเรื่องบุคลิกภายนอกก็ส่วนหนึ่ง แต่กริยา ท่าทาง คำพูดอันนี้สำคัญ พยายามทำให้สุภาพหรือเน้นเป็นกันเองก็จริงแต่ไม่ล่วงเกิน ไม่ดูหยาบคายกับลูกค้ามากนัก สีหน้าต้องมีอัธยาศัยดีเสมอ แม้จะบอกว่ากำลังหงุดหงิด เครียดกับอะไรก็ตาม แต่เมื่อคุณยังขายของอยู่ลูกค้าย่อมต้องการได้รับสิ่งที่ดีที่สุดในทุกรูปแบบ ดังนั้นอย่าเอาอารมณ์ส่วนตัวมาปะปนกับการทำงาน

3. เข้าใจธรรมชาติของลูกค้า

ลูกค้าแต่ละคนมีวิธีเลือกซื้อต่างกัน ตรงนี้ต้องมองหา เทคนิคการขาย ที่เข้าใจความเป็นธรรมชาติของลูกค้าด้วย เช่น ลูกค้าบางคนขอบมองหาคนขายแสดงว่าต้องการคำแนะนำแบบนี้ให้เข้าไปช่วยเหลือได้เลย ลูกค้าจะประทับใจมาก แต่ถ้าลูกค้าบางคนเดินนิ่ง ๆ ดูนั่นนี่ไปเรื่อยอาจแค่สอบถามเบื้องต้น หากลูกค้าไม่ต้องการข้อมูลก็ปล่อยให้เดินเอง เพราะเขาอาจชอบความเป็นส่วนตัวมากกว่า เป็นต้น

4. อย่าเน้นแต่ขายอย่างเดียวโดยไม่สนใจเรื่องอื่น

พ่อค้าแม่ค้าบางคนไม่เข้าใจ ต้องขายสิถึงจะได้ลูกค้า มียอดดี ๆ แต่การเน้นขายมากเกินไปจะทำให้ลูกค้าอึดอัดและไม่อยากกลับมาซื้ออีก ทางที่ดีคือให้เน้นการขายตามความเหมาะสม เช่น จังหวะนี้ลูกค้ากำลังสอบถามราคาก็บอกตามจริงและอาจเสริมโปรโมชั่นบางตัวที่ดูน่าสนใจ แต่ถ้าลูกค้าบางคนเข้ามาแล้วยังไม่ได้ถามอะไรก็อาจปล่อยให้เลือกไปก่อน ไม่ต้องเร่ง ไม่ต้องรีบร้อนจะพูดเสนอขายอย่างเดียว หรือถ้าเขาชวนคุยเรื่องอื่น ๆ ก็พูดคุยได้ ไม่ต้องวกเข้าเรื่องสินค้าเสมอไป

5. รู้วิธีสร้างสัมพันธ์อย่างถูกต้อง

การสร้างสัมพันธ์ที่ดีจะช่วยให้คุณได้ลูกค้าในระยะยาว เช่น พนักงานขาย เมื่อออกไปพบลูกค้าที่เคยคุยงานกันไว้อาจมีของฝากเล็ก ๆ น้อย ๆ แม้ราคาไม่ได้แพงมากแต่ทำให้ลูกค้าสัมผัสได้ถึงความมีน้ำใจ ความเอื้อเฟื้อ เวลามีงานหรือต้องการออเดอร์ก็มักนึกถึงคุณเป็นอันดับต้น ๆ เสมอ แค่นี้ก็ช่วยเพิ่มโอกาสในการทำยอดขายให้สูงขึ้นกว่าเดิมแถมยังได้รับการจดจำ กลายเป็นคนที่ลูกค้าชื่นชอบ ไว้วางใจอีกต่างหาก

6. ยอดน้อย ยอดมาก อย่าเกี่ยงรับงานเด็ดขาด

หลาย ๆ คนพอเห็นว่าลูกค้าคนนี้มียอดขายน้อยก็ไม่ค่อยอยากรับงาน มองว่าได้ไม่คุ้มเสีย แต่จริง ๆ สิ่งเหล่านี้ต้องประเมินความคุ้มค่า ยอดน้อยจริงแต่ขายได้บ่อย ขายง่าย ไม่เรื่องมากจุกจิกแบบนี้โอกาสได้ยอดขายเรื่อย ๆ ก็มีสูง บางคนซื้อครั้งหนึ่งเยอะจริงแต่วุ่นวาน เรื่องมาก ก็ต้องทำใจหน่อย สรุปคือ ไม่ควรเกี่ยวรับงานหรือขายสินค้ากับลูกค้าทุกประเภท นั่นถือเป็น เทคนิคการขาย ดี ๆ ที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จได้จริงตามเป้าหมายที่วางเอาไว้

เรื่องของ เทคนิคการขาย ปัจจัยสำคัญก็คงอยู่ที่ตัวผู้ขายเป็นหลัก หากเข้าใจพร้อมรู้ว่าสิ่งไหนควร ไม่ควรทำ ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ยอดขายสูงขึ้นได้ และอีกเรื่องที่ต้องห้ามลืมคือ ต้องมีใจรักในงานขายจริง ๆ แล้วทุกอย่างจะส่งผลให้ประสบความสำเร็จกับอาชีพนี้ตามที่ตั้งใจไว้นับแต่ครั้งแรกที่เริ่มต้น

การขาย ! เป็นหลักการตลาดที่อยู่คู่กับธุรกิจทุกอย่างไม่ว่าจะทำธุรกิจเล็กหรือใหญ่ก็ต้องสัมพันธ์กับการขาย เพราะนั่นคือเครื่องมือชี้วัดความอยู่รอด ขายดีมีกำไร ขายไม่ได้ทุนหายกำไรหด

ด้วยเหตุนี้ทฤษฏีการขายจึงมีให้เราเรียนรู้มากมายทั้งแบบโดยตรงและแบบประยุกต์ใช้ ซึ่งในทางจิตวิทยาแล้วมนุษย์เราไม่ได้กลัวเรื่องโฆษณาแต่ที่พอเห็นการขายโผล่ขึ้นมาแล้วเรารีบเบือนหน้าหนี

นั่นเพราะเรากลัวที่จะเสียเงินให้กับสินค้าเหล่านี้ และหลายคนมองว่าตัวเองไม่ได้ประโยชน์จากสินค้าเหล่านี้แต่คนที่ได้ประโยชน์คือธุรกิจนั้นๆที่มาดูดเงินจากกระเป๋าเราไปมากกว่า

www.ThaiSMEsCenter.com มองว่าการขายที่ดีที่สุดคือต้องทำให้ลูกค้าไม่รู้สึกถึงความอึดอัด ไม่รู้สึกรำคาญ โดยสัญชาติญาณแล้วมนุษย์เราจะซื้อของก็ต่อเมื่อตัวเองรู้สึกดี รู้สึกคุ้มค่า

รู้สึกว่าได้ประโยชน์ เป็นการซื้อที่เชื่อตัวเองไม่อยากซื้อเพราะเชื่อคำคนอื่น คำว่าทุกคนชอบการซื้อแต่ไม่ชอบการถูกขายจึงน่าจะเป็นนิยามสั้นๆแต่ชัดเจนที่สุด ทีนี้ในฐานะของคนทำธุรกิจจะต้องทำอย่างไรเพื่อทำให้การขายเป็นเรื่องไม่น่าเบื่อสำหรับลูกค้าลองมาดูวิธีการเหล่านี้ที่คัดมาให้ดูเผื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับการทำธุรกิจของทุกคน

1.สร้างจินตนาการให้ลูกค้าเห็นภาพตาม

โฆษณาบางชนิดจะสังเกตว่าแทบจะไม่ได้พูดถึงตัวสินค้า แต่คนกลับจดจำได้ดี นั้นเพราะการสร้างจินตนาการให้ลูกค้าเป็นสิ่งที่จำเป็นและเมื่อต้องการสินค้าก็จะนึกถึงเราก่อนเป็นอันดับแรก

ตัวอย่างสินค้าน้ำอัดลมไม่ว่าจะเป็นโค้ก เป๊บซี่ สิ่งที่นำเสนอคือความสนุกสนาน สีสันในการดื่มน้ำอัดลม กับแคมเปญสนุกๆที่ชวนให้คนจดจำ เมื่อถึงเวลาต้องการสินค้าเราก็จะหยิบเอาโค้ก หรือเป๊บซี่ มาก่อนบางทีหยิบตามสัญชาติญาณแบบเราก็ไม่รู้เหตุผลเหมือนกันว่าทำไมต้องสินค้าตัวนี้

นั้นเพราะการฝังจินตนาการและภาพจดจำในหัวได้เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าแบรนด์ที่จะขายในลักษณะนี้ได้ต้องมีระยะเวลาในการทำธุรกิจที่ยาวนาน สำหรับแบรนด์ใหม่ๆ วิธีนี้อาจยังใช้ไม่ได้ผลนัก

2.การขายที่เรารู้ข้อมูลลูกค้าล่วงหน้า

สำหรับแบรนด์ใหม่ๆ หากต้องการขายดี จำเป็นต้องสร้างฐานลูกค้าตัวเองให้เกิดขึ้นให้ได้ ก่อนอื่นเราต้องโฟกัสก่อนว่าสินค้าของเรากลุ่มเป้าหมายคือใคร และให้ทำตลาดที่เจาะไปยังกลุ่มเป้าหมายนั้น สำคัญสุดคือหากเรารู้ข้อมูลลูกค้าล่วงหน้าจะทำให้ปิดการขายได้ง่าย ยกตัวเองเช่นผลิตภัณฑ์ดับกลิ่นปาก กลุ่มเป้าหมายคือคนวัยทำงาน นักเรียน

ซึ่งหากเรามีข้อมูลว่าวันนี้จะมีเวทีสัมมนาซึ่งต้องใช้การพูดเป็นหลัก เราอาจเข้าไปตั้งบูธขายสินค้าในบริเวณนั้น ซึ่งจะทำให้คนหันมาสนใจผลิตภัณฑ์ของเราเพื่อเพิ่มความมั่นใจ ก็เป็นกลยุทธ์หนึ่งที่ใช้ได้ดีและสร้างลูกค้าใหม่ๆ ได้มากขึ้น

3.คอนเทนต์ที่ทำให้ลูกค้าโฟกัสที่ “คุณค่าของสินค้า”

เป็นวิธีการนำเสนอถึงสิ่งที่ลูกค้ากำลังจะได้รับหากตัดสินใจใช้ผลิตภัณฑ์ที่โฆษณาหรือว่าบริการของธุรกิจนั้นๆ เหตุผลหนึ่งที่คนปฏิเสธทันทีที่มีการขายบางทียังไม่ได้ฟังข้อมูลก็เบือนหน้าหนีเพราะเขาไม่รู้ว่าเขาจะใช้สินค้าเหล่านั้นไปเพื่ออะไร

สิ่งแรกที่ต้องทำคือให้ลูกค้าหยุดฟังเราสักครู่ให้ได้ หรือถ้าเป็นการโฆษณาทางโทรทัศน์ก็ต้องมีลูกเล่นที่ทำให้คนหยุดดู หันมาดู จากนั้นก็เป็นคอนเทนต์แสดงคุณค่าของสินค้าที่ทำให้คนดูคล้อยตามและรู้สึกว่าเป็นสินค้าที่ดีและมีประโยชน์จริงๆ

4.อย่าสร้างแรงกดดันให้ลูกค้าเด็ดขาด

ไม่มีใครชอบถูกบังคับ ไม่มีใครชอบความกดดัน การขายเองก็เช่นกัน หากลูกค้ารู้สึกว่าตัวเองเริ่มถูกกดดันสิ่งที่จะทำอย่างแรกคือพยายามตั้งการ์ดป้องกันการขาย ไม่ว่าจะพูดอย่างไรสุดท้ายลูกค้าก็จะตอบว่า “ไม่”

วิธีการเข้าหาลูกค้าจึงไม่ใช่ลักษณะของการจู่โจมหรือล้อมกรอบกันเข้ามา ควรจะทักทายแบบเป็นธรรมชาติและทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเหมือนได้คุยกับเพื่อน ซึ่งเราอาจขายสินค้าได้หรือไม่ก็ตาม แต่หากลูกค้ารู้สึกดีกับคนขายกับผลิตภัณฑ์ก็เท่ากับเป็นการสร้างโอกาสในอนาคตข้างหน้าได้ด้วย

5.ยิ่งคุ้มค่าคนยิ่งชอบ

การตลาดแบบ ลด แลก แจก แถม ยังเป็นวิธียอดฮิตที่ใช้ได้ผลในทุกธุรกิจ ยิ่งภาวะปัจจุบันที่ค่าครองชีพสูง การใช้จ่ายแต่ละครั้งเน้นที่ความคุ้มค่าเป็นหลัก ดังนั้นธุรกิจเองก็ควรจะมองที่ความจริงเรื่องนี้

ตั้งแต่วางแผนผลิตสินค้าที่ต้องให้มีต้นทุนที่ถูกแต่มีคุณภาพคุ้มกับราคา รวมถึงเป็นสินค้าที่คนส่วนใหญ่นิยมและมีความต้องการ อีกทั้งการตลาดยุคใหม่ควรผสมผสานเทคโนโลยีในทุกช่องทางจะช่วยปิดการขายได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

และจากผลงานการวิจัยของนักวิทยาศาสตร์อย่างMax Planck จาก Max Planck Institute for Human Cognitive and Brain Sciences ในปี 2008 สรุปได้ว่าคนเราใช้จิตใต้สำนึกตัดสินใจก่อนที่จะรู้ตัวว่าได้ตัดสินใจไปแล้วหลังจาก 7 วินาทีผ่านไป

นั้นหมายความว่าการตัดสินใจบางครั้งอยู่ที่อารมณ์ชั่ววูบ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับการนำเสนอที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกอึ้ง ทึ่ง และสนใจ ซึ่งหากธุรกิจมีนักการตลาดที่มีความสามารถในด้านเหล่านี้ถือเป็นผลดีที่ธุรกิจจะสร้างกำไรได้อย่างเป็นกอบเป็นกำมากขึ้น

SMEs Tips

1. สร้างจินตนาการให้ลูกค้าเห็นภาพตาม
2. การขายที่เรารู้ข้อมูลลูกค้าล่วงหน้า
3. คอนเทนต์ที่ทำให้ลูกค้าโฟกัสที่ “คุณค่าของสินค้า”
4. อย่าสร้างแรงกดดันให้ลูกค้าเด็ดขาด
5. ยิ่งคุ้มค่าคนยิ่งชอบ

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S