จากการที่ได้เข้าศึกษาที่ ม. บูรพา จึงศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับความเป็นมาของมหาวิทยาลัย และขอเสนอ ดังนี้ประวัติมหาวิทยาลัยบูรพาสุโข ปญฺญาปฏิลาโภ (ความได้ปัญญาทำให้เกิดสุข) Show วันสถาปนา 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2498 มหาวิทยาลัยบูรพา ตั้งอยู่ ณ เลขที่ 169 ถนนลงหาดบางแสน ตำบลแสนสุข อำเภอเมือง จังหวัด ชลบุรี มีเนื้อที่ทั้งสิ้น 638 ไร่ 2 งาน 35 ตารางวา เป็นมหาวิทยาลัยประจำภาคตะวันออก ซึ่งได้รับการยกฐานะจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตบางแสน โดยมีการประกาศใช้พระราชบัญญัติ มหาวิทยาลัยบูรพา พ.ศ.2533 ในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ.2533 ความเป็นมาก่อนที่จะก่อตั้งเป็น มหาวิทยาลัยบูรพานั้น ได้เริ่มในปี พ.ศ.2492 โดยมีการจัดตั้งโรงเรียนฝึกหัดครูชั้นสูงขึ้น ณ ซอยประสานมิตร อำเภอพระโขนง จังหวัดพระนคร ต่อมาในปี พ.ศ.2497 ได้รับการยกฐานะขึ้นเป็น วิทยาลัยวิชาการศึกษาชื่อว่า "วิทยาลัยวิชาการศึกษา ประสานมิตร" ในปี พ.ศ.2498 ได้ขยายวิทยาเขตออกไปอีก 2 แห่ง ได้แก่ วิทยาลัยวิชาการศึกษาปทุมวัน และวิทยาลัยวิชาการศึกษา บางแสน เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ.2498 ได้ก่อตั้ง วิทยาลัยวิชาการศึกษา บางแสน ขึ้นซึ่ง ชาววิทยาลัยวิชาการศึกษาบางแสนถือว่า วันที่ 8 กรกฎาคม หรือเรียกว่า "แปดกรกฎ" ของทุกปีเป็นวันคล้าย วันสถาปนามหาวิทยาลัย จัดเป็นสถาบันอุดมศึกษาแห่งแรกของประเทศ ที่ตั้งอยู่ส่วนภูมิภาคกำหนดหลักสูตร 4 ปี ผู้เรียนสำเร็จตามหลักสูตรได้รับปริญญาการศึกษาบัณฑิต (กศ.บ.) ต่อมาในวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ.2499 ได้รับโอนโรงเรียนพิบูลบำเพ็ญ ต.แสนสุข ชลบุรี เพื่อปรับปรุงให้เป็นโรงเรียนสาธิตของมหาวิทยาลัย โดยใช้ชื่อโรงเรียนใหม่ว่า โรงเรียนสาธิต"พิบูลบำเพ็ญ" วิทยาลัยวิชาการศึกษาบางแสน ในปี พ.ศ.2501 บัณฑิตรุ่นแรก จำนวน 35 คน สำเร็จการศึกษา ต่อมาในปี พ.ศ.2505 ได้เปิดรับนักศึกษาบุคคลภายนอก ผู้มีวุฒิ ป.ม. หรือ พ.ม. หรือ อ.กศ. ป.กศ.สูง หรือเทียบเท่าเข้าศึกษาภาคสมทบในหลักสูตร การศึกษาบัณฑิต (กศ.บ.) ในปี พ.ศ. 2512 ได้มีการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์สัตว์และสถานเลี้ยงสัตว์น้ำเค็มขึ้น และเปิดให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไปเข้าชมเป็นครั้งแรก ในปี พ.ศ.2515 กรมสามัญศึกษาได้โอนอาคารเรียน ที่ดินและสิ่งก่อสร้างของวิทยาลัยบางแสนให้เป็นส่วนหนึ่งของวิทยาลัยวิชาการศึกษา ในวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2517 วิทยาลัยวิชาการศึกษาได้รับการเปลี่ยนฐานะเป็นมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ โดยพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ดังนั้น วิทยาลัยวิชาการศึกษา บางแสน จึงมีฐานะเป็น มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตบางแสนและได้มีการปรับปรุงกิจการดำเนินการของมหาวิทยาลัย ขึ้นตามลำดับ ในปี พ.ศ. 2531 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ยกฐานะมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตบางแสน เป็นมหาวิทยาลัยเอกเทศ ต่อมาในปี พ.ศ. 2532 คณะรัฐมนตรีรับหลักการร่างพระราชบัญญัติ มหาวิทยาลัยบูรพา สภาผู้แทนราษฎรได้ประชุมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยบูรพา ลงมติรับหลักการและส่งให้คณะกรรมาธิการการศึกษาสภาผู้แทนราษฎรดำเนินการจนกระทั่ง ในวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2533 จึงได้รับ การยกฐานะเป็น “มหาวิทยาลัยบูรพา” โดยประกาศในพระราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 107 ตอนที่ 131 ที่มา : จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรีBurapha University (BUU) ก่อตั้ง : พ.ศ. 2498 ประวัติ นับว่าเป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่แห่งหนึ่ง ก่อตั้งตั้งแต่ปี 2498 ในชื่อ วิทยาลัยวิชาการศึกษา บางแสน ต่อมาในปี 2517 ได้รับการยกฐานะเป็นมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตบางแสน และเมื่อปี 2533 ก็ได้รับการยกฐานะอีกครั้ง คราวนี้ในชื่อที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน คือ มหาวิทยาลัยบูรพา ซึ่งชื่อนี้ใช้มาเป็นเวลา 15 ปีแล้ว นอกจากมีหลายชื่อแล้ว
ม.บูรพายังเป็นสถาบันอุดมศึกษาแห่งแรกที่ตั้งอยู่ในส่วนภูมิภาคของประเทศ และชึ้นชื่อด้านผลงานโครงงานวิทยาศาสตร์ระดับประเทศ และเนื่องจากมีสถานที่ใกล้กับบางแสนซึ่งเป็นสถานที่พักผ่อนหลักของคนไทยสมัยก่อน คณะวิทยาศาสตร์ทางทะเลของที่นี่จึงมีชื่อเสียงโด่งดัง โดยมีทั้งพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำอันเป็นสถานที่พักผ่อนและหาความรู้ของครอบครัว และมีอาจารย์ที่คณะนี้ทำวิจัยเกี่ยวกับการรักษาพันธ์สัตว์ และเป็นที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ทางทะเลและวิทยาศาสตร์การประมงในภูมิภาคชายฝั่งทะเลตะวันออกอีกด้วย
นอกจากนั้นแผนกศิลปกรรมของคณะมนุษยศาสตร์ก็เป็นที่รู้จักและบัณฑิตที่จบจากที่นี่ก็มีสถิติหางานทำได้ดีเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศด้วย สัญลักษณ์ สัญลักษณ์เป็นรูปเลข 9 ไทย (๙) มีนกเปลวเพลิงล้อมรอบพร้อมรัศมี 8 แฉก ด้านล่างเป็นเส้นโค้ง ทั้งหมดบรรจุในวงกลมซ้อน 2 วง ภายในวงกลมวงนอกเบื้องบนมีคำว่า "สุโข ปญญา ปฏิลาโภ" ซึ่งแปลว่า ความได้ปัญญาทำให้เกิดสุข เบื้องล่างมีคำว่า "มหาวิทยาลัยบูรพา" รูปเลข 9 ไทยนั้น หมายถึง รัชกาลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช กนกเปลวเพลิงล้อมรอบ หมายถึง ความรุ่งโรจน์และรุ่งเรือง เส้นโค้งด้านล่างหมายถึง ความมีเคลื่อนไหวและการพัฒนาไม่สิ้นสุด สีประจำมหาวิทยาลัยคือ "สีเทา-ทอง" สีเทาหมายถึง ความเจริญทางสติปัญญา สีทอง หมายถึง คุณธรรม สีเทา-ทอง จึงหมายถึง บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยบูรพาเป็นผู้กอปรด้วยสติปัญญา และมีคุณธรรม และเนื่องจากอยู่ใกล้ทะเล ต้นไม้ประจำวิทยาลัยที่นี่จึงเป็น "ต้นมะพร้าว" มีอะไรเรียนบ้าง 1.
คณะพยาบาลศาสตร์ 2. คณะแพทยศาสตร์ 3. คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ 4.คณะวิทยาศาสตร์ 5. คณะวิศวกรรมศาสตร์ 6. คณะศิลปกรรมศาสตร์ 7. คณะศึกษาศาสตร์ 8.
คณะสาธารณสุขศาสตร์ 9. คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา 10.
คณะการจัดการและการท่องเที่ยว 11. คณะการแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร 12.
คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ 13. วิทยาลัยการขนส่งและโลจิสติกส์ 14. คณะศิลปะศาสตร์ (วิทยาเขตสารสนเทศ จันทบุรี) 15. คณะเทคโนโลยีทางทะเล (วิทยาเขตสารสนเทศ จันทบุรี) 16. วิทยาลัยอัญมณี (วิทยาเขตสารสนเทศ จันทบุรี) 17.
คณะสังคมศาสตร์ (วิทยาเขตสารสนเทศ สระแก้ว) 18. วิทยาลัยนานาชาติ 19. วิทยาลัยการบริหารรัฐกิจ 20. วิทยาลัยพาณิชยศาสตร์ 21. วิทยาลัยวิทยาการวิจัยและวิทยาการปัญญา ค่าใช้จ่าย ในการเรียนของมหาวิทยาลัยบูรพา สามารถจำแนกคณะต่างๆ ออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 ได้แก่ คณะวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ เทคโนโลยีทางทะเล วิทยาศาสตร์และศิลปะศาสตร์ แพทยศาสตร์ วิทยาลัยการขนส่งและโลจิสติกส์ วิทยาลัยอัญมณี กลุ่มที่ 2 ได้แก่ คณะพยาบาลศาสตร์ สาธารณสุขศาสตร์ ศิลปกรรมศาสตร์ มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ (เฉพาะสาขาวิชาเทคโนโลยีทางการศึกษา และเทคโนโลยีอุตสาหกรรมศึกษา) วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การกีฬา และกลุ่มที่ 3 ได้แก่ คณะศึกษาศาสตร์ (ยกเว้นสาขาวิชาเทคโนโลยีทางการศึกษา และเทคโนโลยีอุตสาหกรรมศึกษา) และสำหรับระดับปริญญาตรี หลักสูตรปกติ ค่าลงทะเบียนรายวิชาบรรยายทุกกลุ่มวิชา หน่วยกิตละ 100 บาท รายวิชาปฏิบัติการ 200-400 บาท รายวิชาฝึกงาน 200-500 บาท รายวิชาโครงงาน 300-1,000 บาท แตกต่างกันตามกลุ่มวิชา นอกจากนั้นก็ยังมีค่าบำรุงคณะที่แตกต่างกันอีกด้วย ส่วนหลักสูตรนานาชาติ ค่าธรรมเนียมตลอดหลักสูตร 4 ปี สาขาด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ คนละ 490,000 บาท และสาขาด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์สุขภาพ คนละ 540,000 บาท ส่วนหลักสูตรต่อเนื่องด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ คนละ 250,000 บาท และด้านวิทยศาสตร์เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์สุขภาพและด้านพยาบาลศาสตร์ คนละ 280,000 บาท สิ่งอำนวยความสะดวกในการเรียน * มีหอสมุด
มีบริการคอมพิวเตอร์ เหมือนมหาวิทยาลัยทั่วๆไป และทุกตึกเรียนจะมีบริการร้านถ่ายเอกสาร ทุนการศึกษา มีทุนการศึกษาหลากหลายประเภท ได้แก่ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ทุนการศึกษาต่างประเทศ ทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา และทุนส่งเสริมการศึกษา เป็นต้น ชีวิตนักศึกษา หอพักเป็นเสมือนบ้านของนักศึกษา ดังนั้นส่วนใหญ่เวลาว่างระหว่างคาบ
นักศึกษามักจะกลับไปที่หอเพื่อนอนหรือรอเวลาแล้วค่อยกลับมาเรียนใหม่ เนื่องจากหอพักอยู่ไม่ไกลจากบริเวณตึกเรียน |