การปฐมพยาบาลเบื้องต้นมีเรื่องอะไรบ้าง

การปฐมพยาบาลเบื้องต้นมีเรื่องอะไรบ้าง

แผลไฟใหม้

  • ถอดเสื้อผ้าออกจากตัวผู้ป่วย หากไหม้ติดกับผิวหนังควรใช้กรรไกรตัด
  • ใช้น้ำสะอาดล้างแผล เพื่อทำความสะอาด
  • ห้ามใช้โลชัน ยาสีฟัน หรือยาปฏิชีวนะทาบนแผลไฟไหม้
  • ทายาและปิดแผลด้วยผ้าสะอาด หากเป็นตุ่มน้ำใส ให้ปิดแผลหลวม ๆ
  • หากสงสัยว่าแผลใหม้ลึกถึงเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง ไม่ควรให้แผลโดนน้ำ ปิดบาดแผลของผู้บาดเจ็บด้วยผ้าสะอาดหรือผ้าก๊อซ และพบแพทย์โดยเร็ว

2. แผลใหม้จากสารเคมี

  • ใช้น้ำสะอาดชำระล้าง โดยให้น้ำไหลผ่านบาดแผลนั้น เพื่อลดความเข้มข้นของสารเคมี ห้ามใช้การแก้พิษโดยสารเคมี และรีบไปพบแพทย์

บาดแผลฉีกขาด

  • บาดแผลฉีกขาดทั่วไป
    ใช้น้ำสะอาดล้างแผล และใช้ผ้าสะอาดหรือผ้าก๊อซปิดปากแผลเพื่อห้ามเลือด
  • แผลจากวัตถุหักคาแผล
    ห้ามดึงวัตถุที่หักคาออกจากบาดแผล ยึดวัตถุที่หักคาให้อยู่นิ่งก่อนนำผู้ป่วยมาโรงพยาบาล
  • แผลอวัยวะถูกตัดขาด
    ห้ามแช่อวัยวะที่ถูกตัดขาดลงไปในน้ำแข็งโดยตรงเด็ดขาด ควรเก็บอวัยวะที่ขาดใส่ถุงพลาสติกสะอาด รัดปากถุงให้แน่นแล้วนำถุงไปแช่ในภาชนะที่มีน้ำผสมน้ำแข็ง รีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลโดยเร็ว

ข้อมูล ณ วันที่ 8 กรกฎาคม 2564
ที่มา : อ. นพ.ธนดล โรจนศานติกุล

การปฐมพยาบาลเบื้องต้น คือการดูแลผู้ป่วยหรือผู้บาดเจ็บที่เผชิญกับวิกฤต การเรียนรู้พื้นฐานของการปฐมพยาบาลจะช่วยให้คุณรู้สึกพร้อมมากขึ้นในกรณีฉุกเฉิน การอ่านบทความช่วยให้คุณได้ข้อมูลแต่การเลือกพิจารณาเข้ารับการฝึกอบรมการปฐมพยาบาล ถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเตรียมตัวสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉิน

หากพบเห็นคนได้รับบาดเจ็บนอนอยู่

ตบที่ไหล่ของผู้ประสบภัยพร้อมพูดกับเขา
หากไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ให้ขอให้คนที่อยู่ใกล้ๆแจ้งไปที่หมายเลข 119 และขอให้นำส่ง AED และตรวจสอบลมหายใจโดยไม่ต้องเปิดทางเดินหายใจให้โล่ง (ดูการเคลื่อนไหวของหน้าอกและบริเวณท้องประมาณ 10 วินาที)

การช่วยฟื้นคืนชีพ

การปฐมพยาบาลเบื้องต้นมีเรื่องอะไรบ้าง

หากไม่สามารถหายใจได้ตามปกติ ให้กดหน้าอก 30 ครั้ง

การปฐมพยาบาลเบื้องต้นมีเรื่องอะไรบ้าง

เมื่อกดหน้าอกเสร็จแล้ว ให้ดัดคางขึ้นร่วมกับการกดหน้าผากให้หน้าแหงนเพื่อเปิดทางเดินหายใจให้โล่งแล้วจึงทำการผายปอด 2 ครั้ง
หลังจากนั้นให้กดหน้าอก 30 ครั้งและทำการผายปอด 2 ครั้งโดยทำซ้ำไปมา

กรณีที่เกรงว่าจะติดโรคจากเลือดหรืออาเจียน ให้กดหน้าอกต่อไปโดยไม่ต้องผายปอด

ในช่วงเทศกาล วันหยุดยาว หลายๆ คนวางแผนไปเที่ยวต่างจังหวัด เที่ยวป่า เที่ยวภูเขา น้ำตก แม่น้ำ ฯลฯ ซึ่งอาจมีกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการเกิดการบาดเจ็บได้ ดังนั้นการเตรียมตัวก่อนเดินทางและการเรียนรู้วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นแก่ผู้บาดเจ็บอย่างถูกวิธีถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยว เพื่อให้อาการบาดเจ็บบรรเทาลง และสามารถส่งต่อผู้ป่วยแก่แพทย์ผู้ชำนาญการได้ทันท่วงที ส่งผลให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัยให้สมกับความตั้งใจแต่แรก  สำหรับอาการบาดเจ็บที่พบบ่อยในขณะเดินทางมีไม่กี่สาเหตุด้วยกัน อาทิเช่น บาดเจ็บจากเป็นแผลถลอก ไฟไหม้ เลือดกำเดาไหล กระดูกหัก เคล็ด ขัดยอก ฟกช้ำ ห้อเลือด เลือดไหล แมลงสัตว์กัดต่อย ลมพิษ ฯลฯ โดยอาการเหล่านี้มีตั้งแต่อาการบาดเจ็บเล็กน้อย ถึงอาการบาดเจ็บขั้นรุนแรง ต้องรีบนำตัวผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลโดยด่วน ทั้งนี้ ตัวผู้ป่วยเองและผู้พบเห็นเหตุการณ์ควรตั้งสติให้ดี และควรขอความช่วยเหลือจากสถานพยาบาลที่ใกล้ที่สุดเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการพยาบาลโดยเร็วที่สุด. 

 

การปฐมพยาบาลเบื้องต้นมีเรื่องอะไรบ้าง

อุปกรณ์ปฐมพยาบาล (First Aid Kit)

 

 การปฐมพยาบาลเบื้องต้นในบาดแผลแบบต่างๆ 

1 การปฐมพยาบาลบาดแผลถลอก (Abrasion wounds)

บาดแผลถลอกหมายถึงการเป็นบาดแผลที่เกิดจากการถูกขีดข่วน ถูกถูหรือถูกครูด บาดแผลชนิดนี้จะตื้นเพียงแค่ผิวหนังชั้นนอกเท่านั้น และมีเลือดออกเล็กน้อย อันตรายของบาดแผลอยู่ที่การติดเชื้อ บาดแผลถลอกที่พบได้เสมอ คือ การหกล้ม เข่าถลอก ดังนั้นเมื่อเกิดบาดแผลขึ้นต้องรีบปฐมพยาบาล  เพื่อลดอาการเจ็บปวดและป้องกันไม่ให้แผลติดเชื้อ

อุปกรณ์

1. ชุดทำแผล ได้แก่ ปากคีบ ถ้วยใส่สารละลาย สำลี ผ้าก๊อส และพาสเตอร์ปิดแผล

2. สารละลาย ได้แก่ น้ำยาฆ่าเชื้อ และ น้ำเกลือล้างแผล

3. แอลกอฮอล์ 70%

4. เบตาดีน หรือ โปรวิดี ไอโอดีน

* ท่านสามารถซื้อชุดทำแผลดังกล่าว ได้ตามร้านขายอุปกรณ์ทางการแพทย์ทั่วไป

วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น

1. ให้ชำระล้างบาดแผลด้วยน้ำสบู่และน้ำสะอาด ถ้ามีเศษหิน ขี้ผง ทราย อยู่ในบาดแผลให้ใช้น้ำสะอาดล้างออกให้หมด

2. ใช้ปากคีบสำลีชุบแอลกอฮอล์ 70%  พอหมาดๆ เช็ดรอบๆ บาดแผลเพื่อฆ่าเชื้อโรครอบๆ (ไม่ควรเช็ดลงบาดแผลโดยตรง เพราะจะทำให้ เจ็บแสบมาก เนื่องจากยังเป็นแผลสด)

3. ใช้สำลีชุบเบตาดีนหรือโปรวิดี ไอโอดีน ใส่แผลสด ทาลงบาดแผล แล้วปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ต้องปิดบาดแผล ยกเว้นบาดแผลที่เท้าซึ่งควรปิด ด้วยผ้าก๊อซสะอาด เพื่อป้องกันฝุ่นละออง

4. ระวังอย่าให้บาดแผลถูกน้ำ

5. ไม่ควรแกะหรือเกาบาดแผลที่แห้งตกสะเก็ดแล้ว เพราะทำให้เลือดไหลอีก สะเก็ดแผลเหล่านั้นจะแห้งและหลุดออกเอง

 

 

 

 

 

 

2 การปฐมพยาบาลบาดแผลฟกช้ำ (Contusion)

บาดแผลฟกช้ำหรือบาดแผลเปิด เป็นบาดแผลที่ไม่มีร่องรอยของผิวหนัง แต่มีการฉีกขาดของเนื้อเยื่อและหลอดเลือดบริเวณที่อยู่ใต้ผิวหนังส่วนนั้น มักเกิดจากแรงกระแทกของแข็งที่ไม่มีคม เช่น ถูกชน หกล้ม เป็นต้น ทำให้เห็นเป็นรอยฟกช้ำ  บวมแดงหรือเขียว

อุปกรณ์  

1. น้ำเย็น

2. ผ้าขนหนูผืนเล็ก

3. ผ้าพันแผลชนิดเป็นม้วน

วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น

1. ให้ประคบบริเวณนั้นด้วยความเย็น เพราะความเย็นจะช่วยให้เลือดใต้ผิวหนังบริเวณนั้นออกน้อยลง โดยใช้ผ้าชุบน้ำเย็นประคบหรือใช้ผ้า ห่อน้ำแข็งประคบเบาๆ ก็ได้

2. ถ้าบาดแผลฟกช้ำเกิดขึ้นกับอวัยวะที่ต้องมีการเคลื่อนไหวอยู่เสมอ เช่น ข้อมือ ข้อเท้า ข้อศอก เป็นต้น ให้ใช้ผ้าพันแผลชนิดเป็นม้วนที่ยืดหยุ่นได้พันรอบข้อเหล่านั้นให้แน่นพอสมควร เพื่อช่วยให้อวัยวะที่มีบาดแผลอยู่นิ่งๆ และพยายามอย่างเคลื่อนไหวผ่านบริเวณนั้น รอยช้ำค่อยๆ จางหายไปเอง

 

 

 

 

 

 

3 การปฐมพยาบาลบาดแผลถูกของมีคมบาด (Incision wounds)

บาดแผลแยกหรือบาดแผลเปิด  เป็นบาดแผลที่เกิดจากการฉีกขาดของผิวหนังหรือเนื้อเยื่อจากการถูกของมีคมบาด แทง  กรีด  หรือถูกวัตถุกระแทกแรงจนเกิดบาดแผล  มองเห็นมีเลือดไหลออกมา   

อุปกรณ์ เช่นเดียวกับการปฐมพยาบาลแผลถลอก

วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น

 1.  ใช้สำลีเช็ดเลือด และกดห้ามเลือด

2.  ใช้แอลกอฮอล์เช็ดทำความสะอาดรอบๆ แผล

3.  ใช้สำลีชุบเบตาดีน หรือ โปรวิดี ไอโอดีนใส่แผลสดทารอบๆ แผล

4.  ใช้ผ้าพันแผล หรือพลาสเตอร์ปิดแผล

5. รีบน้ำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลให้กรณีบาดแผลรุนแรง

 

 

 

 

 

 

4 การปฐมพยาบาลบาดแผลกระดูกหัก (Fracture)

กระดูกหัก คือ การที่กระดูกแยกออกจากกัน ก่อให้เกิดความเจ็บปวด บวม เคลื่อนไหวไม่ได้หรือเคลื่อนไหวผิดปกติ เนื่องจากอุบัติเหตุ เช่น ถูกรถชน หกล้ม ตกจากที่สูง หรือกระดูกเป็นโรคไม่แข็งแรงอยู่แล้ว กระดูกเปราะเมื่อถูกแรงกระทบกระเทือนเพียงเล็กน้อยก็อาจหักได้