ภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ (IR) โดยพื้นฐานจะเรียนเกี่ยวกับศาสตร์ด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับรัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ผ่านการศึกษาความซับซ้อนและโครงสร้างในระบบระหว่างประเทศ โดยที่ ปี 1-2 จะเรียนวิชาทั่วไปที่เป็นพื้นฐานเหมือนกันทุกสาขา และจะเริ่มเข้าภาคในช่วง ปี 2 โดยจะเริ่มจาก Intro to IR ซึ่งแบ่งออกเป็นหลายเซค (ตอนเรียน)
ซึ่งแต่ละเซคอาจารย์จะสอนเนื้อหาต่างกัน เช่น ในกระแสหลัก อาจารย์จะสอนเกี่ยวกับ IR ตามแบบตะวันตก เน้นทฤษฎี ประวัติศาสตร์ แนวคิดต่าง ๆ ขณะที่ กระแสรองอาจารย์จะสอนไปในเชิงของ Critical theory เป็นการตั้งคำถามในสิ่งที่กระแสหลักบอก เน้นวิพากษ์ตั้งแต่ ทุนนิยม เสรีนิยมใหม่ ระบบรัฐปิตาธิปไตย เป็นต้น โดยรวมวิชาเรียนในภาคจะเน้นไปในเชิงของภูมิภาคศึกษา เช่น อเมริกา ยุโรป เอเชียใต้ ยุโรปตะวันออก ซึ่งจะมีวิชาบังคับภาคได้แก่ การเมืองระหว่างประเทศในช่วงศตวรรษที่ 19 และ 20, เอเชียตะวันออกในการเมืองโลก
เป็นต้น นอกจากนี้ หากใครสนใจอยากศึกษาในเชิงลึกเกี่ยวกับภูมิภาคไหนก็สามารถลงเลือกลงสัมมนาหรือนโยบายใดก็ได้ในภาควิชา โดยการเรียนสัมมนามีไว้เป็นทางเลือกให้แก่นิสิตที่ต้องการหาความรู้เพิ่มเติม โดยรูปแบบการเรียนจะเป็นการสนทนาถึงความเป็นไปของภูมิภาคนั้น ๆ ที่เราต้องการจะศึกษา จะเป็นการหาข้อมูลหรืออ่านบทความมาก่อนเข้าคลาสเรียนและมาถกกันภายในชั่วโมงสอน ซึ่งสัมมนาที่เปิดสอนในภาควิชา อาทิ สัมมนาการต่างประเทศจีน สัมมนาการต่างประเทศของสหภาพยุโรปและรัสเซีย และนอกจากวิชาด้านภูมิภาคศึกษาแล้ว ก็ยังมีรายวิชาอื่น
ๆ ที่จำเป็นต่อการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเช่นกัน เช่น องค์การระหว่างประเทศ กฎหมายระหว่างประเทศ เศรษฐกิจการเมืองโลก ความมั่นคงในการเมืองโลก เป็นต้น นอกจากนี้ ภาค IR ยังขึ้นชื่อเรื่องการเขียน “เปเปอร์” ซึ่งจะเริ่มเขียนตั้งแต่ ปี 1-4 ภาควิชานี้ไม่มีโปรเจคจบหรือการทำวิทยานิพนธ์ใด ๆ โดยอาจารย์จะเริ่มปูพื้นฐานในการเขียนเปเปอร์ให้ตั้งแต่ ปี 1 ดังนั้น หากใครไม่เคยมีประสบการณ์ในการเขียนเปเปอร์ หรือไม่รู้วิธีการอ้างอิง ก็ไม่ต้องกังวลไป
เนื่องจากอาจารย์จะคอยช่วยสอนวิธีเขียนและแนะนำการเขียนอ้างอิงให้เราหลังจากเข้ามาในคณะรัฐศาสตร์ *หมายเหตุ: การเปิดสอนรายวิชาต่าง ๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ เช่น ในบางภาคการศึกษา วิชา Intro to IR เปิดสอนแต่ตอนเรียนกระแสรอง เป็นต้น แนวทางการประกอบอาชีพเนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นศาสตร์ที่กว้าง ทำให้ผู้ที่จบการศึกษาในศาสตร์นี้สามารถประกอบอาชีพใด ๆ ก็ตามที่เกี่ยวข้องกับรัฐ สังคม และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยสามารถประกอบอาชีพในตำแหน่งต่าง ๆ ในองค์การทั้งภาครัฐและภาคเอกชน องค์การระหว่างประเทศ และองค์การไม่แสวงหาผลกำไร สำหรับอาชีพที่ตรงสายงาน สามารถประกอบอาชีพ เช่น นักการทูต นักวิชาการ เจ้าหน้าที่ในองค์การระหว่างประเทศ เจ้าหน้าที่ในบริษัทที่ดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังสามารถเข้ารับราชการที่เกี่ยวกับการบริหารรัฐกิจ เช่น เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน หรือเจ้าหน้าที่ด้านปกครองอื่น ๆ อาทิ หน่วยงานจำพวก กระทรวง ทบวง กรม เป็นต้น อย่างไรก็ตาม หากใครไม่อยากรับราชการก็สามารถสมัครเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจและบริษัทเอกชนได้เช่นกัน แต่ตำแหน่งงานในสายงานด้านรัฐวิสาหกิจอาจมีความคล้ายคลึงกับตำแหน่งงานในราชการอยู่บ้าง เนื่องจากเป็นหน่วยงานที่ร่วมบริหารกันกับภาครัฐและเอกชน ในส่วนของเอกชน ตำแหน่งงานที่เปิดรับค่อนข้างกว้าง เช่น เจ้าหน้าที่ HR นักวิเคราะห์โครงการ นักวิเคราะห์ระบบ ไกด์นำเที่ยว พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน เลขาฯ เป็นต้น แนะนำรายวิชาในภาคความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
: ศึกษาลักษณะของระบบระหว่างประเทศในแต่ละยุคสมัยที่มีความแตกต่างกัน นับตั้งแต่การสิ้นสุดสงครามนโปเลียน การกำเนิดขึ้นของสภาเวียนนา สงครามโลกครั้งที่ 2 และสงครามเย็น เป็นการศึกษาประวัติศาสตร์ เพื่อให้เข้าใจถึงพัฒนาการ การเปลี่ยนแปลงของระบบระหว่างประเทศ และปัจจัยที่มีผลต่อการเมืองระหว่างประเทศ ในศตวรรษที่ 19 และ 20
: ศึกษาประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งแต่ประวัติศาสตร์ยุคอาณานิคมจนถึงปัจจุบัน เพื่อให้เข้าใจถึงบริบท ปัจจัยทั้งภายในและภายนอกที่มีผลต่อประเทศในภูมิภาค เช่น ภูมิรัฐศาสตร์ การสร้างชาติ ระบบการปกครองที่แตกต่างกัน บทบาทของกองทัพ บทบาทของศาสนา และการเข้ามามีอิทธิพลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของมหาอำนาจอย่างจีนและสหรัฐอเมริกา เป็นต้น
: ศึกษาทฤษฎีการเมืองสำนักต่าง ๆ ตั้งแต่สมัยโบราณมาจนถึงสมัยใหม่ เช่น ปรัชญาการเมืองกรีกโบราณ สัจนิยม เสรีนิยม อนุรักษ์นิยม สาธารณรัฐนิยม มาร์กซิสม์ เฟมินิสม์ ทฤษฎีชีวอำนาจ เป็นต้น โดยในแต่ละสัปดาห์ นิสิตจะได้รับมอบหมายให้อ่านงานต้นฉบับของนักคิดต่าง ๆ พร้อมกับการเรียนในลักษณะ Lecture-based ผสมกับการเปิดให้นิสิตได้อภิปราย ถกเถียงในชั้นเรียน
: ศึกษาประเด็นการเมืองโลกผ่านภาพยนตร์ โดยผู้เรียนจะได้ใช้ทฤษฎีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งกระแสหลักและกระแสรองในการวิเคราะห์ว่าภาพยนตร์ต่าง ๆ ที่ได้รับชมในชั้นเรียนนั้นสะท้อนอุดมการณ์ทางการเมืองหรือค่านิยมแบบใด และภาพยนตร์มีบทบาทอย่างไรในการสร้างความเข้าใจและการรับรู้ในประเด็นการเมืองต่าง ๆ โดยจะมี Theme ภาพยนตร์ที่แตกต่างกันไปในแต่ละภาคการศึกษา การเรียนวิชานี้ประกอบไปด้วยการดูภาพยนตร์ การฟังบรรยายจากผู้สอน และถกเถียงอภิปรายในชั้นเรียน
: ศึกษาแนวคิดด้านเพศสภาพ ประเด็นเพศสภาพกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ผ่านปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ส่งอิทธิพล หรือครอบงำการสร้างความเข้าใจในประเด็นปัญหาด้านเพศสภาพ เช่น ชนชั้น จักรวรรดินิยม สิทธิมนุษยชน การค้าประเวณี โลกาภิวัตน์ กองทัพ ทฤษฎีการเมืองระหว่างประเทศ เป็นต้น ในการเรียนแต่ละสัปดาห์ จะเป็นการอ่านงานเขียนในประเด็นที่เกี่ยวข้อง การฟังบรรยายจากผู้สอน และถกเถียงอภิปรายในชั้นเรียน สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทํางานอะไรนักการฑูต. ทำงานองค์กรสหประชาชาติหรือองค์กรระหว่างประเทศ. ทำงานรับราชการ. ทำงานบริษัทเอกชนเกี่ยวกับธุรกิจระหว่างประเทศ. นักการเมือง. นักพัฒนาสังคม หรือเกี่ยวกับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร. เรียนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพื่ออะไรความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นสาขาหนึ่งของวิชารัฐศาสตร์ ในปัจจุบันนี้นักวิชาการได้ให้ความสำคัญของการศึกษาแขนงวิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทั้งนี้ เพราะเป็นที่ยอมรับกันว่ารัฐจะสามารถธำรงความเป็นรัฐอย่างมีเกียรติในการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้นั้น จำเป็นต้องใช้ศิลปะในการชักจูงใจให้รัฐอื่น ๆ ปฏิบัติการหรืองดเว้น ...
คณะรัฐศาสตร์เรียนเกี่ยวกับอะไรบ้างการศึกษาในสาขานี้ มุ่งทำความเข้าใจกับปรากฎการณ์ทางการเมืองและสังคมที่แวดล้อมตัวเราอยู่ โดยจะเรียนเกี่ยวกับปรัชญาและความคิดทางการเมืองต่าง ๆ เช่น รัฐธรรมนูญ รัฐสภา พรรคการเมือง การเลือกตั้งและปัญหาทางการเมือง และสังคมที่สำคัญ ๆ เช่น ธุรกิจกับการเมือง ทหารกับการเมือง การเมืองของผู้ใช้แรงงาน ชาวนา ฯลฯ
วิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศประกอบไปด้วยวิชาหลักๆ กี่สาขาการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในฐานะเป็นวิชาการเริ่มต้นในช่วงก่อนมหา สงครามโลกครั้งที่ 1 (1914-1918) และมีวิวัฒนาการโดยแบ่งออกเป็น 4 ช่วง โดยการ พิจารณาประเด็นหลัก ๆ ได้แก่ 1) การศึกษาเชิงประวัติศาสตร์การทูต 2) การพิจารณาเชิง เหตุการณ์ปัจจุบัน 3) กฎหมายระหว่างประเทศ และ 4) การเมืองระหว่างประเทศ
|