คดีดังในอดีต "บุกรุกป่าสงวน" ไม่รอดสักรายถูกดำเนินคดี หนักหน่อยติดคุก เบาหน่อยรอลง อาญา แต่เคส "ปารีณา" ยังไม่รู้จะหมู่หรือจ่า พฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน 2562 เวลา 18.15 น. กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์กันทั้งประเทศ สำหรับกรณีการครอบครองที่ดินของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ เนื่องจากการตรวจสอบพบว่า มีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน 46 ไร่ ในพื้นที่หมู่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี แต่ภายหลังมีการร้องจาก น.ส. ปารีณา ให้ทำรังวัดใหม่ จนกลายเป็นว่าจากการบุกรุกที่ป่าสงวน กลายเป็นบุกรุกที่ ส.ป.ก.แทน ซึ่งมีโทษแค่ฟ้องแพ่งไม่มีโทษอาญา หากย้อนไปดูในอดีตเคยปรากฎคดีลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง "เดลินิวส์ออนไลน์" ขอยกเรื่องราวที่ผ่านมาว่ามีเหตุการณ์อะไรบ้าง เมื่อปี 2553 นายอุดม และ นางแดง ศิริสอน สองสามีภรรยา ถูกจำคุกในคดีบุกรุกเข้าไปยึดถือครอบครองและทำประโยชน์ในป่าสงวนแห่งชาติดงระแนง จ.กาฬสินธุ์ จนโด่งดังเป็นที่รู้จักกันดีในคดีสองตายายเก็บเห็ด
ต่อมาในปี 2558 ก็มีคดีนายทอง และนายสมปอง กุลหงษ์ ที่รอลงอาญา 2 ปี ปรับคนละ 4,000 บาท ในคดีบุกรุกและทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติสวนป่าโคกยาว จ.ชัยภูมิ ในปี 2560 นางสุภาพ คำแหล้ อายุ 67 ปี ศาลฎีกามีคำพิพากษาจำคุก 6 เดือน ไม่รอลงอาญา ในคดีบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติภูซำผักหนาม จ.ชัยภูมิ
ทั้งยังมีความขัดแย้งของชาวบ้าน กับ อุทยานแห่งชาติไทรทอง จังหวัด ชัยภูมิ ที่ คสช. ได้ออกคำสั่งฉบับที่ 64/2557 และ 66/2557 หรือเรียกกันว่า “นโยบายทวงคืนผืนป่า” ที่ให้อำนาจทหารร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ เข้าจับกุมและดำเนินคดีคนที่อยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่ป่า ส่งผลให้มีชาวบ้านหลายพันคนถูกขับไล่ออกจากที่ดินของตนเอง และบางส่วนถูกดำเนินคดี
นอกจากนี้ยังมีกรณีของปู่คออี้ และกะเหรี่ยงที่แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ที่โดนเจ้าหน้าที่เข้าไปรื้อถอนเผาทำลายสิ่งปลูกสร้างและทรัพย์สินของกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง รวมแล้วมีบ้านพักอาศัย และยุ้งฉางถูกจุดไฟเผาจำนวน 98 หลัง หลายครั้งที่เกิดเหตุบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน ซึ่งล้วนแต่ถูกดำเนินคดีทั้งสิ้น งานนี้ให้จับตามองกรณีบุกรุกที่ป่าสงวนของ น.ส.ปารีณา สุดท้ายแล้วบทสรุปจะออกหัวหรือก้อย. คุณเห็นด้วยกับข่าวนี้หรือไม่
ความคิดเห็นข่าวล่าสุดพระราชบัญญัติป่าสงวานแห่งชาติ พุทธศักราช 2507 บทบัญญัติทั่วไป พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่าโดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองและสงวนป่า จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้ โดยคำแนะนำและยินยอมของสภาร่างรัฐธรรมนูญในฐานะรัฐสภา ดังต่อไปนี้ หมวด 1 มาตรา ๖ บรรดาป่าที่เป็นป่าสงวนอยู่แล้วตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองและสงวนป่าก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้เป็นป่าสงวนแห่งชาติตามพระราชบัญญัตินี้ หมวด 2 มาตรา ๑๔(๒)
ในเขตป่าสงวนแห่งชาติห้ามมิให้บุคคลใดยึดถือครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดินก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ เก็บหาของป่าหรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติเว้นแต่ หมวด 3 มาตรา ๓๑(๖) ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๑๔ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงห้าปี และปรับตั้งแต่ห้าพันบาทถึงห้าหมื่นบาท บทเฉพาะกาล มาตรา ๓๖ บรรดาป่าที่เป็นป่าคุ้มครองอยู่แล้วตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองและสงวนป่า ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ถือว่าเป็นป่าสงวนแห่งชาติตามพระราชบัญญัตินี้
จนกว่าจะมีกฎกระทรวงออกตามมาตรา ๖ วรรคสอง หรือมาตรา ๗ ซึ่งต้องออกภายในห้าปี นับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ข้อใดเป็นโทษหนักที่สุดของ พ.ร.บ. ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507อนึ่ง ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14, 31 วรรคหนึ่ง ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 3 เดือน นั้น เป็นการไม่ถูกต้อง เพราะความผิดตามบทบัญญัติในมาตรา 31 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงห้าปี หรือปรับตั้งแต่ห้าพันบาทถึงห้า ...
บุกรุกป่า ผิดกฎหมายอะไรผู้บุกรุกป่าที่ถูกจับในกรณีแผ่วถ้างหรือเผาป่า เพื่อที่จะได้ครอบครองที่ดินนั้นในเขตอุทยานแห่งชาติ หรืออุทยานต่างๆ ของประเทศไทยจะต้องโทษจำคุกไม่เกิน 20 ปี หรือปรับสูงถึง 2 ล้านบาท ภายใต้พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติฉบับใหม่ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ 180 วันนับจากนี้ หลังได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ข้อหาบุกรุกที่ดิน มีโทษอย่างไร- ความผิดตามมาตรา 362 ผู้ใดเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นเพื่อครอบครองอสังหาริมทรัพย์นั้นทั้งหมดหรือแต่บางส่วน หรือเข้าไปกระทำการใด ๆ อันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของเจ้าของ โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ที่ป่าสงวน ขายได้ไหมการซื้อขายที่ดินมือเปล่า ที่ดินป่าสงวน ที่ดินที่ไม่มีเอกสารสิทธิ สามารถซื้อขายกันได้ แต่ที่ดินเหล่านั้นยังเป็นที่ดินของรัฐ เมื่อซื้อไปแล้ว หากรัฐมาไล่ที่โดยอ้างว่าบุกรุก ผู้ซื้อก็ต้องคืนให้รัฐ แม้จะซื้อมาโดยจ่ายเงินแล้วก็ตาม
|