คดี เมา แล้ว ขับ เป็นคดีอะไร

ตั้งแต่ภาครัฐ ได้มีการ “เปิดประเทศ” และผ่อนคลายมาตรการป้องกันโรคโควิดมากขึ้นในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะอนุญาตให้ร้านอาหาร เริ่มเปิดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ ส่งผลให้หลายคนเริ่มออกมาปาร์ตี้สังสรรค์ จนบางครั้งอาจลืมไปว่า เมาแล้วขับ มีโทษปรับและติดคุก ซึ่งเทศกาลสงกรานต์ 2565 เป็นอีกวันหยุดยาวที่หลายคนเตรียมตัวสังสรรค์กัน ดังนั้นจึงควรรู้ข้อกฎหมายเมาแล้วขับไว้ด้วย

ทางกรมการขนส่งทางบก จึงได้รวบรวม "กฎหมายเมาแล้วขับ” มีโทษอย่างไร และต้องปรับเป็นเงินเท่าไหร่บ้าง มาฝาก แต่แนวทางที่ดีที่สุดคือต้อง “ดื่มไม่ขับ” เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยต่อตนเอง และเพื่อนร่วมทางบนท้องถนน 

  • เปิดเทคนิคขับรถปลอดภัย เดินทางไกลไม่สะดุด ช่วงท่องเที่ยว "ปีใหม่ 2565"

เช็ค "กฎหมายเมาแล้วขับ" มีอะไรบ้าง

กฎหมายเมาแล้วขับ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับ 5,000 - 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมทั้งพักใช้ใบอนุญาตขับรถไม่ต่ำกว่า 6 เดือน สำหรับผู้ที่มี

ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ สำหรับผู้ขับขี่มีอายุน้อยกว่า 20 ปีบริบูรณ์ หรือ ผู้ขับขี่ที่มีใบอนุญาตขับรถชั่วคราว (ใบอนุญาตแบบ 2 ปี) ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 21 พ.ศ. 2550 ออกความในพ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 ถือเป็น “ผู้เมาสุรา”

ปริมาณเแอลกอฮอล์ในเลือด 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถูกพักใช้ใบอนุญาตขับรถไม่น้อยกว่า 6 เดือน 

บทลงโทษ "เมาแล้วขับ" ตามกฎหมาย

เมาแล้วขับ หรือ การปฏิเสธเป่า มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับ 10,000 - 20,000 บาท ระงับใบอนุญาตขับรถไม่น้อยกว่า 6 เดือน และศาลสามารถสั่งพักใบอนุญาตขับรถ หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ และสามารถยึดรถไว้ไม่เกิน 7 วัน

เมาแล้วขับจนทำให้ผู้อื่น “บาดเจ็บ”

  • จำคุกตั้งแต่ 1-5 ปี ปรับ 20,000-100,000 บาท และถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับรถไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ

เมาแล้วขับจนทำให้ผู้อื่น “บาดเจ็บสาหัส”

  • จำคุก 2-6 ปี ปรับ 40,000-120,000 บาท ระงับใบอนุญาตขับรถไม่น้อยกว่า 2 ปี 

เมาแล้วขับจนทำให้ผู้อื่น “ถึงแก่ความตาย” 

  • จำคุก 3-10 ปี ปรับตั้งแต่ 60,000-200,000 บาท และเพิกถอนใบอนุญาตขับรถทันที

เมาแล้วขับ ประกันรถยนต์จ่ายไหม

แบ่งออกเป็น 2 แนวทางเนื่องจาก ประกันรถยนต์มีทั้ง พ.ร.บ.รถยนต์ หรือ ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ (ประกันชั้น 1, ประกันชั้น 2+ และประกันชั้น 3+) แต่ละประเภทมีเงื่อนไขในการคุ้มครองที่แตกต่างกัน


กรณีที่ 1 พ.ร.บ.รถยนต์ คือคุ้มครองผู้เอาประกันรถยนต์และคู่กรณี โดยไม่พิสูจน์ความถูกหรือผิด ซึ่งจ่ายเป็นค่าสินไหมทดแทนสำหรับค่ารักษาพยาบาลเพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที แต่ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ของผู้เอาประกัน พ.ร.บ.รถยนต์ จะไม่คุ้มครอง


กรณีที่ 2 ถ้าแอลกอฮอล์ในเลือดไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ประกันรถยนต์จะคุ้มครองทั้งผู้เอาประกันและฝ่ายเสียหาย แต่ถ้าแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ประกันรถยนต์จะไม่คุ้มครองผู้เอาประกัน แม้จะซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่มีเบี้ยสูงสุดก็ตาม

แม้บางคนคิดอาจว่า มีเงินจ่ายค่าปรับตามกฎหมายในกรณีที่เมาแล้วขับ แต่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ไม่คุ้มค่ากับการจ่ายเงินเลยสักนิด และร้ายแรงที่สุดอาจทำให้ผู้อื่นพิการหรือเสียชีวิตได้ ทางที่ดีที่สุดคือ ดื่มไม่ขับ ช่วยลดอุบัติเหตุและความปลอดภัยบนท้องถนน

ข้อมูลจาก สำนักสวัสดิภาพการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบก , Tidlor 

--------------------

เกาะติดสถานการณ์โควิด-19  ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก

คดี เมา แล้ว ขับ เป็นคดีอะไร

จากกรณี ของนายนวชาติ ราษฎร์นิยม ที่ขับรถยนต์หลุดโค้งเข้าพุ่งชนประตูเหล็กของศูนย์อาหารจนสภาพด้านหน้ารถพังยับเยิน ซึ่งในที่เกิดเหตุมีผู้เคราะห์ร้ายถูกรถคันดังกล่าวชนจนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บรวม 2 ราย เป็นสามีภรรยาที่ยืนขายหมูปิ้ง เจ้าหน้าที่จึงรีบประสานตำรวจจราจรนำเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์มาให้ผู้ต้องหาเป่า ผลปรากฏว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายสูงถึง 170 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์  วันนี้เราจะพาทุกคนมาดูบทลงโทษ "เมาแล้วขับ" ตามกฎหมาย กัน

เมาแล้วขับ หรือ การปฏิเสธเป่า มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับ 10,000 - 20,000 บาท ระงับใบอนุญาตขับรถไม่น้อยกว่า 6 เดือน และศาลสามารถสั่งพักใบอนุญาตขับรถ หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ และสามารถยึดรถไว้ไม่เกิน 7 วัน

  • ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์สำหรับผู้ขับขี่มีอายุน้อยกว่า 20 ปีบริบูรณ์ หรือผู้ขับขี่ที่มีใบอนุญาตขับรถชั่วคราว (ใบอนุญาตแบบ 2 ปี) ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 21 .. 2550 ออกความในพ...จราจรทางบก.. 2522 ถือเป็นผู้เมาสุรา
  • ปริมาณเแอลกอฮอล์ในเลือด 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีปรับ 5,000-20,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับและถูกพักใช้ใบอนุญาตขับรถไม่น้อยกว่า 6 เดือน 

โทษ เมาแล้วขับ ตามกฎหมาย

  • เมาแล้วขับ หากถูกตรวจพบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกำหนดผู้ที่ขับขี่ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือปรับตั้งแต่ 5,000-20,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับและถูกสั่งพักใช้ใบขับขี่ไม่น้อยกว่า 6 เดือนหรือยกเลิกใบอนุญาตขับขี่
  • เมาแล้วขับ จนทำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจผู้ที่ขับขี่ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-5 ปีปรับตั้งแต่ 20,000-100,000 บาทและถูกสั่งพักใช้ใบขับขี่ไม่น้อยกว่า 1 ปีหรือยกเลิกใบอนุญาตขับขี่
  • เมาแล้วขับจนทำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ผู้ที่ขับขี่ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2-6 ปีปรับตั้งแต่ 40,000-120,000 บาทและให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้นั้นมีกำหนดไม่น้อยกว่า 2 ปีหรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
  • เมาแล้วขับจนทำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายถึงแก่ความตาย ผู้ที่ขับขี่ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3-10 ปีและปรับตั้งแต่ 60,000-200,000 บาทพร้อมถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ทันที

เพราะการขับรถบนท้องถนน เป็นสิ่งที่ทุกคนควรรับผิดชอบต่อตนเองและผู้อื่น เราต้องไม่ประมาท ระมัดระวัง ตั้งสติ เมาแล้วไม่ขับรถนะคะ

เมาแล้วขับมีโทษอะไรบ้าง

เมาแล้วขับ.. โทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับ 5,000 ถึง 20,000 บาท กฎหมายใหม่หากทำผิดข้อหาเมาแล้วขับซ้ำภายใน 2 ปี อัตราโทษเพิ่มเป็น จำคุกไม่เกินสองปีปรับ 50,000 ถึง 100,000 บาท และศาลจะลงโทษจำคุก และปรับด้วยเสมอ ย้ำนะครับว่าด้วยเสมอคือมีโทษจำคุกแน่ พักอนุญาตใบขับขี่ไม่น้อยกว่าหนึ่งปี หรือถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่

เมาแล้วขับมีคดีติดตัวกี่ปี

เมาแล้วขับ จนทำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ ผู้ที่ขับขี่ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-5 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000-100,000 บาท และถูกสั่งพักใช้ใบขับขี่ไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือยกเลิกใบอนุญาตขับขี่

คดีเมาแล้วขับเป็นคดีประเภทอะไร

ในคดีเมาแล้วขับเป็นคดีอาญาอย่างหนึ่งนั้น เมื่อศาลพิพากษาว่าจำเลยกระทำความผิดแล้ว เมื่อศาลพิเคราะห์ถึงพฤติการณ์ต่างๆของจำเลย ศาลอาจจะไม่ลงโทษจำคุกจำเลยก็ได้ โดยศาลอาจมีคำสั่งรอการลงโทษไว้(รอลงอาญา)หรือจะมีคำสั่งรอกำหนดโทษก็ได้ เช่นกัน

เมาแล้วขับ ผิดกฎหมายอะไร

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งกฎหมายจราจรทางบกฉบับใหม่ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน 2565 เป็นต้นไป โดยเพิ่มโทษผู้ขับขี่ที่กระทำผิดซ้ำข้อหา เมาแล้วขับ กรณีทำผิดครั้งแรกจะมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 5,000 – 20,000. -บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ