ประเทศคู่แข่งด้านอุตสาหกรรมก้าวหน้าในยุโรป คือประเทศ ใด

We’ve updated our privacy policy so that we are compliant with changing global privacy regulations and to provide you with insight into the limited ways in which we use your data.

You can read the details below. By accepting, you agree to the updated privacy policy.

Thank you!

View updated privacy policy

We've encountered a problem, please try again.

ประเทศคู่แข่งด้านอุตสาหกรรมก้าวหน้าในยุโรป คือประเทศ ใด

มหาอำนาจด้านปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ของโลกในปัจจุบันคืออเมริกาและจีน บริษัทเทคขนาดใหญ่ทั้งสองสัญชาติได้ทำการรวบรวมเครื่องปรุงที่สำคัญในการสร้างและพัฒนาการให้บริการ AI ( ได้แก่- ข้อมูล ทรัพยากรมนุษย์ที่มีความสามารถ และมีระบบ computing cloud) การครอบงำของทั้งสองมหาอำนาจในด้านนี้ทิ้งให้สหภาพยุโรปตกอยู่เบื้องหลัง แม้สหภาพยุโรปเป็นเบอร์สองในด้านเศรษฐกิจโลก

แต่สหภาพยุโรปก็ไม่ได้นิ่งนอนใจในสภาพดังกล่าว สหภาพยุโรปได้ดำเนินการและทำการวางแผนที่จะปิดช่องว่างทางเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง มีการวางแผนนโยบายและการให้ทุนสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมเช่น Horizon 2020 แต่อย่างไรก็ตาม ปัญญาประดิษฐ์นั้นมีนัยะมากกว่าการ เป็นเทคโนโลยี buzz word ของ Silicon Valley และเป็นมากกว่าผลิตภัณฑ์เช่น สมาร์ทโฟน

ในมุมมองหนึ่ง เราสามารถมองปัญญาประดิษฐ์ให้เป็นทรัพยากร ที่สามารถสมมุติได้ว่ามีลักษณะคล้ายไฟฟ้า ทรัพยากรดังกล่าวสามารถมีผลกระทบต่อทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจและสังคม ผู้คนจำนวนมากมีความรู้สึกกังวลและกลัวว่าหากบริษัทหรือประเทศของตนไม่มีการวิจัยที่ทันสมัย หรือผู้เชี่ยวชาญด้าน AI แล้ว ตลาดแพลตฟอร์มดิจิทัลขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในประเทศอื่น จะทำการดึงดูดกำไรและงานออกไป ส่งผลให้สหภาพยุโรปยากจนกว่าที่เป็นอยู่ในอนาคต นอกจากนี้ยังมีการคาดว่าเทคโนโลยี AI จะส่งผลกระทบต่อการวางแผนทางทหาร หนึ่งในการพัฒนาของจีนที่เกี่ยวกับ AI เป็นการพัฒนาด้านอาวุธ  อเมริกาก็มีแนวโน้มที่จะเดินตามเส้นทางเดียวกัน และในบริบทปัจจุบันความกังขาว่าอเมริกาจะเต็มใจที่จะเข้ามาช่วยป้องกันยุโรปหากเกิดภัยสงครามหรือไม่ การใช้จ่ายเงินลงทุนในด้านดังกล่าวสามารถมองได้ว่าเกี่ยวกับความมั่นคงของชาติเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตามการดำเนินการที่ผ่านมาของยุโรปแสดงผลที่ไม่น่าพึงพอใจเท่าที่ควร สหภาพยุโรปเองก็มีประวัติที่น่าอับอายในด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมที่มีเทคโนโลยีสูง ยกตัวเอย่างเช่น Quaero โครงการพัฒนาที่คาดว่าจะเป็นคู่แข่งของ Google หรือโครงการ Human Brain Project ที่ได้รับงบประมาณกว่า 1 พันล้านยูโรแต่ยังไม่ได้ผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจ อีกทั้งแนวโน้มการเกิด AI nationalism ที่แต่ละประเทศสมาชิกเก็บข้อมูลและองค์ความรู้ของตัวเองไว้

บทความของ Economist ได้เสนอสองแนวทางนโยบายด้าน AI ของสหภาพยุโรปแทนการให้ความสำคัญกับการจัดการเงินทุนให้แต่ละโครงการ สหภาพยุโรปควรจะสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการเติบโตของอุตสาหกรรม AI รวมทั้งเปลี่ยนแนวคิดการกีดกันผู้ให้บริการจากนอกยุโรปเป็นการควบคุมการดำเนินการของบริษัทเหล่านี้แทน

การสร้างสภาวะที่เหมาะสมสำหรับบริษัทเหล่านี้หมายถึงการเอาชนะความแตกแยกและแตกต่างที่เกิดขึ้นภายในยุโรป ยุโรปเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพในการเป็นเนื้อเดียวกัน (homogeneous) เฉกเช่น ตลาดของอเมริกาและจีนที่ทำให้การ scale up ของกิจการต่าง ๆ เป็นไปได้อย่างราบรื่น มีการประเมินว่าประเทศสัญชาติจีนจะครอบครองข้อมูลกว่าร้อยละ 30 ของข้อมูลในโลกนี้ภาคในปีค.ศ. 2030 คาดว่าอเมริกาจะครอบครองสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน สหภาพยุโรปเองก็มีข้อมูลของตน แต่ต้องมีการแบ่งปันและรวมศูนย์ข้อมูลและทรัพยากรดังกล่าว

ตระหนักถึงความจำเป็นในกรณีนี้ คณะกรรมาธิการยุโรปได้ทำการถกเถียงแนวทางการสร้างตลาดข้อมูลในช่วงที่ผ่านมา แต่การดำเนินการดังกล่าวยังไม่เพียงพอ ยังต้องมีการวางกฎระเบียบเกี่ยวกับการแชร์ข้อมูลระหว่างบริษัท กิจการและหน่วยงานรัฐต่าง ๆ อีกด้วย

การดำเนินการความร่วมมือในระดับประเทศยังเป็นอีกหนึ่งความท้าทายในกรณีของสหภาพยุโรป เยอรมนีได้ทำการปรับลดแผนในการร่วมมือกับฝรั่งเศสด้านการวิจัย AI อีกทั้งการดำเนินการระบบวิจัยของสหภาพยุโรปมีประสิทธิภาพที่ต่ำ ทำให้สูญเสียงบประมานโดยใช่เหตุ แทนที่จะนำเอางบประมาณดังกล่าวไปสนับสนุนการสร้างโครงข่ายระดับรากหญ้าเช่น CLAIRE และ ELLIS ที่มุ่งสร้างโครงข่ายระหว่างศูนย์วิจัยในสหภาพยุโรป ฝรั่งเศสได้ทำการจัดตั้ง JEDI (Joint European Disruptive Initiative) ซึ่งคล้ายกับ หน่วยงานวิจัยขั้นสูงของกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ (DARPA) โอกาสรูปแบบใหม่ ๆ เหล่านี้ เป็นแรงดึงดูดนักวิจัย AI ที่สำคัญ ที่มักจะตัดสินใจไปอเมริกาหรือจีน

นักวางนโยบายในสหภาพยุโรปจะต้องพยายามสร้างจุดแข็งของตนในด้านนี้ให้เพิ่มขึ้น โดยอาจจะมุ่งเน้นไปในส่วนที่สหภาพยุโรปมีความชำนาญเช่นการสร้างมาตรฐานในด้านดังกล่าว หรือการมุ่งเน้นไปที่ตลาดของสหภาพยุโรปที่มีขนาดใหญ่และมูลค่าสูงที่จะดึงดูดบริษัทต่าง ๆ ให้มาสู่ยุโรปและปฎิบัติตามข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง อาทิ General Data Protection Regulation หรือ GDPR ที่เป็นข้อบังคับด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป ข้อบังคับดังกล่าวได้ถูกใช้เป็นเกณฑ์มาตรฐานด้านข้อมูลนอกสหภาพยุโรป

ที่มา https://www.economist.com/leaders/2018/09/22/how-europe-can-improve-the-development-of-ai