ที่มา ครั้งหนึ่งพระรามได้ส่งให้องคตไปเป็นทูตเจรจาขอตัวนางสีดาคืนจากทศกัณฐ์ องคตเมื่อเข้าไปยังกรุงลงกามีแต่ฝ่ายยักษ์ ก็ไม่มีใครต้อนรับ Show ไม่มีแม้แต่เก้าอี้ให้นั่ง องคตจึงเดินไปหน้าทศกัณฐ์อย่างองอาจ แล้วม้วนหางของตนเองขึ้นมาจนเสมอเทียบเท่าที่นั่งของทศกัณฐ์ (เอาหางคดพดนั่งเข้าต่างเตียง ให้สูงเพียงอาสน์องค์เจ้าลงกา) ตอนนี้เป้ยชอบมากกกก กล้าหาญมากค่ะ วันนี้เราจะมาดูกันว่าสำนวนไทยนั้นมีที่มาจากอะไรกันได้บ้าง ซึ่งสำนวนไทยมีจำนวนมากมายและมีที่มาที่หลากหลายประเภท ผมได้รวบรวมประเภทที่มาและตัวอย่างไว้ให้ในบทความนี้ ไปดูกันเลย
ที่มาของสำนวนไทยมาที่ของสำนวนไทยต่าง ๆ โดยแบ่งเป็นหลายลักษณะดังต่อไปนี้ 1. มีที่มาจากธรรมชาติเป็นสำนวนที่เทียบเคียงมาจากสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ดังตัวอย่าง สำนวน ที่มา ความหมาย กาฝาก ต้นไม้ที่เกาะเบียดเบียนอาศัยอาหารจากต้นใหญ่ เลี้ยงตัวแฝงกินอยู่กับผู้อื่นโดยไม่ได้ทำประโยชน์อะไรให้ก่อหวอด การวางไข่ของปลา ปลาจะพ่นน้ำเป็นฟองเรียกว่า หวอด เพื่อให้ไข่ปลาอาศัยจน เป็นลูกปลาเริ่มจับกลุ่มเพื่อนทำการ อย่างใดอย่าง หนึ่งเข้าไต้เข้าไฟเวลาใกล้ค่ำต้องจุดไต้ ให้แสงสว่างเวลาพลบค่ำคลื่นกระทบฝั่งทะเลมีคลื่นวิ่งเข้าหาฝั่งตลอดเวลา เรื่องราวที่ครึกโครมขึ้นแล้วกลับเงียบ หายไปคืบก็ทะเล ศอกก็ทะเลแสดงถึงความน่ากลัวของทะเลสอนให้อย่าประมาทเพราะทะเล มีอันตรายทุกเมื่อต้นไม้ตายเพราะลูกธรรมชาติของต้นไม้บางชนิดเมื่อออกผลแล้วจะตาย พ่อแม่ยอมเสียสละแม้ชีวิตเพื่อลูกติดร่างแหเวลาจับปลาด้วยแห ปลาน้อยใหญ่ก็จะติดแหมาด้วย พลอยรับเคราะห์ไปด้วยตื่นแต่ไก่โห่ธรรมชาติของไก่ย่อมขัน ในเวลาเช้ามืดเสมอ ตื่นแต่เช้ามืดฟ้าสูงแผ่นดินต่ำฟ้าอยู่สูงแผ่นดินอยู่ที่ต่ำ คนมีทั้งที่สูงและที่ต่ำสนตะพายการสนตะพายที่จมูกวัวควาย เพื่อชักจูงไปได้สะดวก ยอมให้ชักจูง
2. ที่มาจากวัฒนธรรมการดำรงชีวิตเช่น ปัจจัยสี่ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย พาหนะ เป็นต้น ดังตัวอย่าง สำนวน ที่มา ความหมาย ก้นหม้อไม่ทันดำการหุงข้าวกว่าก้นหม้อจะติดเขม่าดำกินเวลานาน เลิกกันง่ายชุบมือเปิบการกินข้าวด้วยมือ ก่อนจะกิน อาหารจะเอา มือลงชุบน้ำ เพื่อล้างมือให้สะอาด และไม่ให้ข้าว ติดมือ คนที่ไม่ช่วยทำพอถึงเวลา มารับประทาน คนที่ฉวยประโยชน์จากคนอื่นโดยไม่ลงทุน ลงแรงนุ่งเจียมห่มเจียมการแต่งกาย แต่งตัวพอสมกับฐานะจุดไต้ตำตอเวลาพลบค่ำจะจุดไต้เป็นเครื่องตามไฟ พูดหรือทำสิ่งใดกับเจ้าของเรื่อง โดยผู้นั้น ไม่รู้ตัวบ้านเมืองมีขื่อมีแปเรือนต้องมีขื่อสำหรับยึดหัวเสาเรือนตามขวาง ส่วนแปเป็นไม้ยึดหัวเสาตามยาว บ้านเมืองมีกฎหมายคุ้มครองติเรือทั้งโกลนการทำเรือสมัยโบราณ จะเหลาซุงทั้งต้นให้ เป็นรูปร่างก่อน เรียกว่า โกลนตำหนิสิ่งที่ยังทำไม่เสร็จ
3. ที่มาจากวัฒนธรรมทางสังคมเช่น การทำมาหากิน การกระทำ ประเพณี การละเล่น การศึกษา การเมืองการปกครอง เป็นต้น ดังตัวอย่าง สำนวน ที่มา ความหมาย ไกลปืนเที่ยงในรัชกาลที่ 5 เริ่มยิงปืนใหญ่เวลา 12.00 นาฬิกาในพระนคร ให้ได้รู้กันว่าเป็นเวลาเที่ยงคนที่อยู่ไกลออกไป คนบ้านนอกทำนาบนหลังคนอาชีพการทำนาการแสวงหาผลประโยชน์ ใส่ตนโดยขูดรีดผู้อื่นฝังรก ฝังรากการทำขวัญทารกที่เกิดได้สามวัน เอารกกับ มะพร้าวตั้งถิ่นฐานประจำคนตายขายคนเป็นการจัดงานศพการจัดงานศพใหญ่โตทั้ง ๆ ที่ลูกหลานยากจน ต้องไปกู้เงินมาทำศพ หลังงานศพ ต้องใช้หนี้ ได้รับ ความลำบากไม่ดูตาม้าตาเรือการเล่นหมากรุกไม่พิจารณาให้รอบคอบความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอดการศึกษามีความรู้มากแต่ไม่รู้จักใช้ให้เป็นประโยชน์เจ้าถ้อยหมอความโวหารของนักกฎหมาย หรือหมอความ(ทนายความ)ผู้ที่ใช้โวหารพลิกแพลงเช่นเดียวกับผู้ที่เป็น หมอความ(ทนายความ)นอนหลับทับสิทธิ์การเมืองการปกครองไม่ไปใช้สิทธิ์ที่ตนเองมีอยู่เมื่อถึงคราวที่จะใช้สู้จนเย็บตาการชนไก่ ไก่ถูกแทงจนหน้าตาฉีกก็เย็บ แล้วให้สู้อีกสู้จนถึงที่สุด สู้อย่างไม่ย่อท้อ สู้ไม่มีถอย
4. ที่มาจากวัฒนธรรมทางจิตใจเช่น ทางศาสนาและความเชื่อ ดังตัวอย่าง สำนวน ที่มา ความหมาย กรวดน้ำคว่ำขันเวลาไปทำบุญแล้วกรวดน้ำอุทิศ ส่วนกุศลตัดขาดไม่ขอเกี่ยวข้องด้วยผีซ้ำด้ำพลอยการนับถือผีบรรพบุรุษถูกซ้ำเติมเมื่อพลาดพลั้งลงหรือ เมื่อคราวเคราะห์ร้ายปิดทองหลังพระทำเนียมการปิดทองคำเปลว ที่พระพุทธรูปทำความดีแต่ไม่ได้รับการ ยกย่องเพราะไม่มีใครเห็นคุณค่าขนทรายเข้าวัดการทำบุญก่อพระเจดีย์ทราย ที่วัดการหาประโยชน์ให้ส่วนรวมบุญทำกรรมแต่งการทำบุญ สร้างกรรมบุญหรือบาปที่ทำไว้ในชาติก่อนเป็นเหตุให้รูปร่าง หน้าตาหรือวิถีชีวิตของคนเราในชาตินี้ สวยงาม ดี ชั่ว
5. ที่มาจากวัฒนธรรมทางศิลปะเช่น การแสดง ดนตรี เป็นต้น ดังตัวอย่าง สำนวน ที่มา ความหมาย ประสมโรงการตั้งคณะละครโดยเอาตัวละครจากที่ต่าง ๆ มารวมกันเป็นโรงพลอยเข้าร่วมเป็นพวกด้วยชักใยการเล่นหุ่นและหนังตะลุงบงการอยู่เบื้องหลังนอกจอการเล่นหนังใหญ่ดีแต่เก่งอยู่ข้างนอกคลุกคลีตีโมงการเล่นดนตรีปี่พาทย์คลุกคลีพัวพันอย่างใกล้ชิดตลอดเวลาโจ๋งครึ่มสำเนียงการตีตะโพนการกระทำสิ่งใดอย่างเปิดเผย
6. ที่มาจากวัฒนธรรมทางภาษา วรรณคดี ตำนาน นิทาน ประวัติศาสตร์ดังตัวอย่าง สำนวน ที่มา ความหมาย งอมพระรามเรื่อง รามเกียรติ์ พระรามต้องผจญกับความทุกข์ยาก ลำบากต่าง ๆ นานา มากมายมีความทุกข์ลำบากเต็มที่ชักแม่น้ำทั้งห้าเรื่องมหาเวสสันดรชาดก ชูชกกล่าวขอสองกุมาร ต่อพระเวสสันดรพูดจาหว่านล้อมยกยอบุญคุณ เพื่อขอสิ่งที่ประสงค์เนื้อถ้อยกระทงความการใช้ภาษาเนื้อความที่แยกแยะออก เป็นข้อ ๆ อย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง ที่เท่าแมวดิ้นตายนิทานเรื่องศรีธนญชัย ที่ขอพระราชทานที่เท่า แมวดิ้นตาย โดยเอาแมวมาผูกและ ใช้ไม้ตีแมวให้วิ่ง ไปมาจนแมวตาย ทำให้ได้ที่ดินจำนวนมากมีที่ดินที่เนื้อที่น้อยเพียง ตัวแมว ดิ้นตายปล่อยม้าอุปการเรื่องรามเกียรติ์ พระรามทำพิธีปล่อยม้าอุปการ แล้วให้ หนุมานตามไป ผู้ใดบังอาจจับม้าขี่ ก็จะถูกปราบการกระทำที่ใช้คนออกไปเที่ยว พาลหาเรื่องหรือทำให้เกิดเรื่อง ขึ้นเพื่อ ประโยชน์ตนเองว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเองวรรณคดีเรื่องอิเหนา ท้าว กะหมังกุหนิง ยกทัพมาประชิดเมืองดาหาเพื่อชิงนางบุษบา อิเหนาก็มาช่วยปราบศึกและเมื่อได้พบ นางบุษบา ก็ลุ่มหลงออกอุบายแต่งทัพปลอม เป็นทัพกะหมังกุหนิงเข้าเผาเมือง แล้วปลอมเป็นจรกาพา นางบุษบา ไปซ่อนไว้ในถ้ำตำหนิผู้อื่นเรื่องใดแล้วตนก็กลับทำในเรื่องนั้นเสียเอง
จะเห็นได้ว่าที่มาของสำนวนไทยนั้นมาจาก 6 ประเภทด้วยกัน หวังว่าน่าจะพอแยกที่มาได้เมื่อไปเห็นสำนวนไทยอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากที่ผมยกตัวอย่างมาให้ หากสงสัยหรืออยากได้ตัวอย่างเพิ่มเติมก็คอมเมนต์ด้านล่างนี้ได้เลย หรืออยากค้นหาสำนวนไทยอื่น ๆ ก็สามารถไปค้นหาเพิ่มเติมได้ที่ สํานวนไทย และความหมาย รวมสำนวนไทยใกล้ตัว สำนวนไทย ก-ฮ |