งานวิจัย ทัศนคติในการทํางาน

ทัศนคติที่สำคัญในการทำงาน

  การที่คนเรามีพฤติกรรมแสดงออกที่ต่างกัน มีความสำเร็จในชีวิตที่ต่างกันล้วนมาจากทัศนคติที่ต่างกัน เช่น ถ้าเรามีทัศนคติว่าการได้ทำงานที่ไม่เคยทำ งานใหม่ๆ คือ ความท้าทาย การเรียนรู้และโอกาสในการก้าวหน้า เราก็จะกระตือรือร้นที่จะอาสาทำโปรเจกต์ใหม่ๆ ในขณะที่คนที่มีทัศนคติว่าทำงานเท่าที่สั่งพอ ก็จะทำแค่เท่าที่สั่ง และอาจพยายามหลีกเลี่ยงที่จะรับงานเพิ่ม

  การมีทัศนคติที่ดีทำให้เรากระตือรือร้นในการทำงาน ทำงานอย่างสนุกและมีความสุข ส่งผลให้มีผลงานที่ดี แล้วเราจะมีทัศนคติที่ดีได้อย่างไร วันนี้ อ.ภญ.ธันยพร (ก้อย) อยากจะแบ่งปันเรื่องนี้ เพื่อให้ท่านผู้อ่านได้ปรับทัศนคติที่ดีอยู่แล้ว ให้ดียิ่งขึ้น เพื่อมีแรงบันดาลใจ มีพลังในการทำงานค่ะ

ทัศนคติที่สำคัญในการทำงานมีดังนี้

1. รักในงานที่ทำและองค์กรที่ทำงานอยู่

   ลองนึกถึงความรู้สึกตอนที่เราได้เข้ามาทำงานที่บริษัทที่เราอยู่ใหม่ๆ ตอนนั้นเราดีใจแค่ไหนที่เราได้รับเลือกเข้ามาทำงาน อะไรทำให้เราตัดสินใจมาทำงานที่นี่ งานนี้ให้อะไรกับเรา นอกจากรายได้ สวัสดิการ เช่น งานนี้ให้เราได้ทำสิ่งใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำ ได้ใช้ศักยภาพของเราอย่างเต็มที่ งานทำให้เรารู้สึกมีคุณค่า รู้สึกภาคภูมิใจ มีโอกาสในการเติบโต ได้สนับสนุนลูกน้องให้เติบโต หรือสนับสนุนให้บริษัทมีผลงานที่ดี เป็นต้น

   อีกมุมหนึ่ง คือ งานที่เราทำ ส่งผลดีต่อใครบ้าง ทั้งในองค์กรและชีวิตส่วนตัวค่ะ เช่น ถ้าเราอยู่แผนกบัญชีก็ช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายให้บริษัทมีกำไรมากขึ้น ส่งผลให้พนักงานได้รับโบนัสที่ดีค่ะ หรือต่อครอบครัว เช่น ถ้าเราเป็นลูก งานที่เราทำก็ให้ความมั่นคงกับครอบครัว และเราเป็นลูกที่พ่อแม่ภาคภูมิใจ เป็นต้น ค่ะ

   สิ่งสำคัญในการทำงาน คือ เราได้ประสบการณ์ มีความสามารถเพิ่มขึ้น มีทักษะทั้งด้านงานและคนที่เก่งขึ้น ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสิ่งที่อยู่กับเรา และสามารถนำไปต่อยอดได้ในอนาคตค่ะ

2. ทุกคนมีศักยภาพมากกว่าที่เราเห็น

   คนเราทุกคนล้วนมีศักยภาพมากกว่าที่เราเห็น ตัวอย่างที่ได้ยินกันบ่อยๆ เช่น เวลาไฟไหม้ คนเราจะยกของมีค่าที่หนักๆ ได้ เช่น ยกตู้เย็น เป็นต้น หรือ ตัวเราเองก็มีเหตุการณ์ต่างๆ ในชีวิตที่ตอนแรก เรายังไม่รู้ว่าจะก้าวข้ามปัญหานั้นไปได้อย่างไร แต่เมื่อเรามีความมุ่งมั่น ไม่ยอมแพ้ ค่อยๆ ทำไปทีละขั้นทีละตอน ปรึกษา/สอบถามผู้รู้ ท้ายที่สุดเราก็จัดการเรื่องนั้นๆ ได้ดี ชีวิตเรามีเรื่องแบบนี้อยู่บ่อยครั้งใช่ไหมคะ สิ่งนี้ก็เป็นเครื่องยืนยันว่าเรามีศักยภาพมากกว่าที่เราคิด รวมถึงคนอื่นก็มีศักยภาพมากกว่าที่เราคิดเช่นกันค่ะ ถ้าเรามีทัศนคตินี้จะช่วยให้เราเชื่อมั่นในศักยภาพของผู้อื่น เกิดความให้เกียรติและไว้ใจกัน บรรยากาศการทำงานก็ดีขึ้นด้วยค่ะ 

3. ทุกคนทำดีที่สุดภายใต้ทรัพยากรที่มีในขณะนั้น

   บางครั้งเรารู้สึกไม่พอใจกับการกระทำของผู้อื่น เช่น ลูกน้องทำงานไม่เรียบร้อย ถ้าเราเชื่อว่าเขาทำดีที่สุดภายใต้ทรัพยากร (เช่น ความสามารถ พรสวรรค์) ที่เขามี เราก็จะพูดคุยกับเขาว่างานที่ทำยังไม่ค่อยเรียบร้อยตรงจุดไหน และต้องการให้เราช่วยสนับสนุนอย่างไร เป็นต้น แทนที่เราจะเอาแต่บ่น แล้วไม่เกิดการแก้ปัญหา เป็นต้น

4. คนเราสามารถเปลี่ยนแปลง/พัฒนาได้

   หากเรามีความเชื่อว่าเราสามารถเปลี่ยนแปลงและพัฒนาได้ เราก็จะศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม และกล้าอาสารับงานใหม่ๆ เพื่อเรียนรู้ เพิ่มเติมทักษะ ประสบการณ์ของเรา และเราจะไม่กลัวว่ายังทำได้ไม่ดี เพราะรู้ว่าเราสามารถพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นได้

ในมุมมองต่อผู้อื่น หากเรามองว่าคนอื่นสามารถเปลี่ยนแปลงและพัฒนาได้ เราก็จะไม่ตัดสินผู้อื่น เพราะเรามองว่าเค้าก็อยู่บนเส้นทางของการพัฒนาตนเองเหมือนเราค่ะ  

5. ทุกเรื่องในชีวิต คือ การเรียนรู้ ไม่มีความล้มเหลว

   บางครั้งผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่ตรงกับความคาดหวังของเรา แทนที่เราจะจมกับอารมณ์เชิงลบ เช่น หงุดหงิด เศร้า ท้อแท้ เราก็ตั้งสติ ดูว่าอะไรที่ขาดหายไปที่ทำให้ยังไม่ได้ตามที่คาดหวัง ปรับแผนการ วิธีการ กลยุทธ์ หรือหากพิจารณาแล้วว่าความรู้เราไม่มากพอ ก็ปรึกษาผู้รู้จริง แล้วตั้งใจลงมือทำใหม่ ยิ่งเรามีสติ เริ่มต้นใหม่ได้เร็วเท่าไหร่ ความสำเร็จก็อยู่ใกล้ขึ้นเท่านั้นค่ะ เราแค่เรียนรู้วิธีการ หนทางใหม่ที่ใช่เพิ่มเติมค่ะ ท้ายที่สุดเราก็เรียนรู้ เติบโต และมีประสบการณ์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นค่ะ

ทัศนคติต่างๆ ทีเล่ามานี้จะช่วยให้เรามีมุมมองที่ดีต่อตัวเอง ต่องานและต่อผู้อื่น ทำให้เราทำงานได้อย่างมืออาชีพเพิ่มขึ้นค่ะ

อ.ก้อย หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาตนเอง เพื่อให้ท่านผู้อ่านประสบความสำเร็จในการทำงาน และมีความสุขกับการทำงานเพิ่มขึ้นนะคะ  

หลักสูตรที่เกี่ยวข้อง: หลักสูตรการทำงานอย่างมืออาชีพ