ขออนุญาต พูดภาษาอังกฤษ กับคุณ

May I come in please?

คุ้นๆ กันมั้ยล่ะค้ากับประโยคเด็ดนี้

สมัยประถมมัธยมเวลาไปเข้าห้องน้ำ ชั่วโมงภาษาอังกฤษทีไร

จะขออนุญาตเข้าห้องต้องพูดภาษาอังกฤษตลอด

ก็แน่นอนล่ะใช่มั้ยคะ เพราะมันคือมารยาทที่ดีนั่นเอง

แต่เอ๊ะ ภาษาอังกฤษนี่การพูดขออนุญาตมีอะไรบ้างน้า

ลองตามน้องมายด์ไปดูกันเลยค่า

Check Also

ขออนุญาต พูดภาษาอังกฤษ กับคุณ

6 ทักษะที่เซลส์ต้องตอบ ตอนสอบสัมภาษณ์

Persuasion เพอส-เว้-ฉึ่น คนจะเป็นเซล ทีมขายทั้งทีจะไม่มีทักษะนี้ได้ยังไง นั่นก็คือ ทักษะในการโน้มน้าว การตอบคำถามเวลาสัมภาษณ์งานเซลส์ งานขาย เพื่อให้คนที่สัมภาษณ์เราเค้ารู้ว่าเราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ก็ต้องลองพูดประโยคเด็ด ประโยคนี้เลย บอกเลยว่าเซลส์ตัวจริงห้ามพลาดดด . I can get …

การขออนุญาตก็เช่นเดียวกับการขอร้อง คือมีหลายระดับ การขอ อนุญาตตรงกันข้ามกับการขอร้อง คือการขอร้องเป็นการให้ผู้อื่นทำให้ส่วนการขออนุญาตผู้พูดจะทำเอง การขออนุญาตใช้รูปประโยคหลายชนิดเช่นเดียวกับการขอร้อง ฉะนั้นประโยคต่างๆ ที่ใช้ในการขออนุญาตจำแนกได้ดังต่อไปนี้
1. ประโยคคำสั่ง (Command) ประโยคคำสั่งที่ใช้ในการขออนุญาต ได้แก่ Let me เป็นการขออนุญาตที่พูดขึ้นลอยๆ ไม่ต้องการคำตอบ แม้จะเป็นรูปคำสั่งก็ตาม แต่มีความหมายเป็นการขออนุญาตขั้นธรรมดา ดังนั้น โครงสร้างของประโยคจึงมีดังนี้
Let me….. (ฉันขอ……นะ)
ตัวอย่าง
Let me sit here.
ฉันขอนั่งนี่นะ
Let me sleep alone.
ปล่อยฉันนอนคนเดียวเถอะ
Let me see.
ฉันขอดูหน่อย
Let me see the red one.
ฉันขอดูอันสีแดงด้วย
Let me take this one.
ฉันขอถือเอาอันนี้นะ
2. ประโยคบอกเล่า (Statement) การใช้ประโยคบอกเล่าเพื่อเป็น การขออนุญาตนั้น เป็นการกล่าวขึ้นมาเพื่อแสดงความต้องการของตนเอง แต่เพื่อเน้นให้เห็นเป็นการขออนุญาตจริงๆ แล้วเติม Excuse me ข้างหน้าประโยคนั้น โดยมีรูปประโยคดังนี้
Excuse me, I want to……
(ขอโทษ, ฉันต้องการที่จะ…..)
I would like to………………..
(ขอโทษ, ฉันต้องการที่จะ……..)
ตัวอย่าง
Excuse me, I want to go out.
ขอโทษ ฉันอยากจะออกไปข้างนอก
Excuse me, I want to see that one.
ขออนุญาต, ฉันต้องการจะดูอันนั้น
Excuse me, I want to sleep alone.
ขออนุญาต, ฉันอยากจะนอนคนเดียว
Excuse me, I would like to speak to Vichai.
ขอโทษ, ฉันขอพูดกับวิชัยด้วย
Excuse me. I would like to borrow this book.
ขอโทษ, ฉันอยากจะขอยืมหนังสือเล่มนี้
3. ประโยคคำถาม (Question) เช่นเดียวกับการขอร้อง การขอ อนุญาตใช้รูปประโยคคำถามหลายชนิด และถือเป็นการขออนุญาตโดยอ้อม ซึ่งนิยมใช้มากและถือว่าสุภาพและเกรงใจกว่าชนิดอื่น ประโยคคำถามที่ใช้ในความหมายนี้มีชนิดต่างๆ ดังโครงสร้างต่อไปนี้
Yes/No Question:     May I………?
Can / Could I……..?
Could I possibly…….?
Would you let me……?
Do / Would you mind if I…..?
Is it all right if I…….?
Tag Question:         I can…….., can’t I?
I will……,won’t I?
Indirect Question :    I wonder if I could………….
ตัวอย่าง
May I sit here?
ฉันนั่งนี่ได้ไหม
Can I come in?
ฉันขอเข้าไปข้างในได้ไหม
Could I open the window?
ฉันขอเปิดหน้าต่างได้ไหม
Could I possibly borrow your calculator?
ฉันขอยืมเครื่องคิดเลขคุณได้ไหม
Would you let me take a seat?
คุณอนุญาตให้ฉันนั่งลงได้ไหม
Do you mind if I sleep in this room?
คุณจะรังเกียจไหมถ้าฉันจะนอนในห้องนี้
Would you mind if I turned the light off?
ฉันขออนุญาตปิดไฟได้ไหม (คุณจะรังเกียจไหมถ้าฉันจะปิดไฟ)
Is it all right if I close the window?
ฉันขอปิดหน้าต่างได้ไหม
I can come in, can’t I?
ฉันขอเข้าข้างในได้ไหม
I wonder if I could use your camera.
ไม่ทราบว่าฉันจะขอใช้กล้องคุณได้หรือเปล่า
I wonder whether I could play records in the room?
ไม่ทราบว่าฉันจะเล่นแผ่นเสียงในห้องได้หรือเปล่า
ที่นิยมใช้มากที่สุดคือ Yes/No Question และที่ถือเป็นธรรมดาที่สุดก็คือ May I…? ที่เป็นรูปคำถาม Tag Question แม้จะไม่นิยมใช้กันก็ตาม แต่ก็มีความหมายเป็นการขออนุญาตเช่นกัน มีความหมายอย่างเดียวกับคำถาม Yes/No Question.
ข้อสังเกต
-Would you mind if I นิยมตามด้วยกริยารูปอดีต แต่ความหมาย เป็นปัจจุบัน
-Do / Would you mind ที่ใช้สำหรับการขอร้องและขออนุญาต แตกต่างกัน คือ ในการขอร้องนั้น ตามด้วยกริยาเติม ing ส่วนการขออนุญาต ตามด้วย if I เช่น
Would you mind opening the window?
คุณจะรังเกียจไหมถ้าจะกรุณาเปิดหน้าต่างด้วย
Would you mind if I opened the window?
คุณจะรังเกียจไหม ถ้าฉันจะเปิดหน้าต่าง
-I wonder if ถ้าใช้ในการขอร้อง ตามด้วย you แต่ถ้าใช้ขออนุญาตตามด้วย I เช่น
I wonder if you could close the door
ฉันไม่ทราบว่า คุณจะกรุณาปิดประตูได้หรือเปล่า
I wonder if I could close the door
ฉันไม่ทราบว่า ฉันจะขออนุญาตปิดประตูได้หรือเปล่า
-การขออนุญาตในรูปของคำถามแตกต่างจากคำถามธรรมดา เช่นเดียวกับการขอร้อง คำถามธรรมดามีความหมายเป็นคำถามทั่วๆ ไป ต้องการคำตอบรับหรือปฏิเสธ (yes/no) เท่านั้น ส่วนการขออนุญาตเป็นการขอโอกาส หรือความยินยอมให้ตามที่ขอ ดังการเปรียบเทียบต่อไปนี้

คำถาม

ขออนุญาต

Can I speak Thai?

ฉันพูดภาษาไทยได้หรือเปล่า

Yes, you can.

ได้, คุณพูดได้

No, you can’t.

เปล่า, คุณพูดไม่ได้

Can I speak Thai with you?

ฉันขอพูดภาษาไทยกับคุณจะได้ไหม

All right.

ตกลง

I’m sorry, I can’t speak Thai.

ขอโทษ, ฉันพูดภาษาไทยไม่ได้

การตอบรับ (Accepting) การตอบรับการขออนุญาต ก็คือการ อนุญาตให้ตามที่ขอนั้นเอง ใช้คำอย่างเดียวกันกับการตอบรับการขอร้อง ซึ่งมีดังนี้
Yes, of course
ตกลง, แน่นอน
Certainly
ตกลง, ได้
All right ตกลง, ได้เลย
Go ahead
ได้เลย
O.K.
ตกลง
Not at all
ไม่เป็นไร
No, of course not / Certainly not
ไม่เป็นไร, ตกลง
ตอบปฏิเสธ (Refusing) ใช้คำเช่นเดียวกับการขอร้องคือ
Sorry, ….
ขอโทษ, ….
I’m afraid, ….
ขอโทษ,…….
แบบฝึกหัด
จงสร้างข้อความต่อไปนี้ให้เป็นประโยคขออนุญาต
1. Go out
2. Check something
3. Turn off the light
4. Play the recorder
5. Know her address
6. Tell the truth
7. Borrow something
8. Take a rest for a minute
9. Sleep in your room
10. Park a car for a few minutes
ตัวอย่าง
Let me go out
Excuse me, I want to go out
May I go out
Can I go out
Could I possibly go out?
Would you let me go out?
Would you mind if I went out?
Do you mind if I go out?
Is it all right if I go out?
I can go out, can’t I?
I wonder if I could go out.
โครงสร้างประโยคสำหรับการขออนุญาต มีดังนี้
Let me………
Excuse me,     I want to……………..
I would like to…………..
May/Can/Could I…………..?
Could I possibly……………?
Would/Could you let me ……………..?
Do/Would you mind if I……………….?
Is it all right if I…………….?
I can………………..can’t I?
I will…………………….won’t I?
I wonder if I could…………….
ที่มา:ดร.สวาสดิ์  พรรณา   

(Visited 35,236 times, 4 visits today)