Mies van der rohe ผล งาน

มีส แวน เดอร์โรห์ ( 1886-1969 )
american architect & industrial designer
เกิดที่ aachen ในเยอรมันนี 27 เดือนมีนาคม 1886
เป็นบุตรของผู้รับเหมาก่ออิฐพื้นฐานการศึกษาระดับมัธยมแล้ว
ออกฝึกงานกับสถาปนิกพื้นบ้านและนักออกแบบ ตั้งแต่อายุได้ 15 ปี
พออายุได้ 19 ปี ก็ไปเป็นช่างออกแบบเฟอร์นิเจอร์ในเบอร์ลิน
ในปี 1908-1911 ไปเป็นผู้ช่วยของ peter behrens
ซึ่งมีสำนักงานอยู่ในเบอร์ลิน เบเรนส์เป็นสถาปนิกชั้นนำของเยอรมัน
ในขณะนั้น ส่วนมีสได้รับอิทธิพลของไรท์ เวลาทำงานก็ได้นำเอา
concept ของไรท์ไปใช้และเมื่อทำงานกับเบเรนส์
ในต้นปี 1911 ได้ออกแบบ steel skyscraper
ใช้เหล็กกับกระจกทั้งอาคาร นอกจากนั้นมีอาคารอื่นๆเช่น อาคารสำนักงาน
และบ้านพักอาศัย โดยยึดหลักเปิดช่องว่าง ( open space ) มีสเห็นว่าเหล็กกับกระจกให้ความงดงามจากการสะท้อนภาพนอกเหนือจากแสงเงา ภาพจากธรรมชาติได้ความเร้าใจที่ภาพเปลี่ยนไปตามเวลา เกิดความงามแบบดราม่า ซึ่งในข้อนีต้องยกประโยชน์ให้ผลจากการพัฒนาทางเทคนิคของเยอรมัน อีกสิ่งหนึ่งที่มีสใช้เป็นหลักคือการพยายามให้การก่อสร้างที่เป็น art กลายเป็นวิทยาศาตร์ที่เข้าใจได้โดยทั่วไป การใช้เทคโนโลยีเข้าประในอาคารจะนำหน้าโดยยึดถือสัจจะในการก่อสร้างเป็นความหมายที่แท้จริง

มีส มีความเห็นว่า ระบบโครงสร้างของเหล็ก กระจก คอนกรีต มีธรรมชาตที่ต่างกันควรสะท้อนออกมาให้เห็นความงาม มีสพิถีพิถันเกี่ยวกับเรื่องการใช้วัสดุมากบางครั้งถึงกับไปควบคุมถึงเตาเผาอิฐ เพื่อให้ได้คุณภาพตามต้องการ งานก่อสร้างของมีสมักคิดเป็นระยะเป็นเซ็นติเมตร เพื่อให้ระเอียดมากขึ้นเพราะเขามักใช้วัสดุมาตรฐานจากการผลิตเป็นหน่วยพิกัด

ภาพผลงานการออกแบบ

งานของมีส ส่วนใหญ่เรียบง่าย แต่มีความซับซ้อนอยู่ภายใน ก็เนื่องด้วยความพิถีพิถันความหมายที่ซ่อนอยู่ในความเรียบง่ายนี้ต้องพิจารณาด้วยปัญญาเพราะศิลปะที่แท้จริงหาใช่ความงาม แต่เป็นสัจจะที่แสดงออกมาเป็นตัวชี้นำการใช้ partiition ของมีส นั้นจะเห็นว่าไม่ตายตัว ตัวอาคารสร้างขึ้นมาแล้วคงที่อยู่ แต่ภายในนั้นสามารถเปลี่ยนแปลง ยืดหยุ่น ขยับขยายได้ทั้งสิ้น ภายใน space นั้นๆการกั้นห้องก็ต้องเป็นไปตาม function ที่ต้องกา ร “ one room theory “ หมายถึงทฤษฎีที่มอง space เป็น universal space ที่ใช้เป็นสากลขเาใจกันได้ เป็น space ที่เปิดโล่งแต่อยู่ในขอบเขตจำกัด ( semi open ) มีสให้ความสนใจทุกส่วนของอาคารเท่าๆกัน ตั้งแต่แบบทั้งหมดของอาคารไปจนถึงการติดตั้งบานพับ ประตู ป้าย ฯลฯ

ความหมาย less is more คือการใช้ element ที่น้อยแต่ได้ผลมาก ทั้งนี้คำว่า element น้อยไม่ได้หมายความว่าใช้วัสดุน้อยเพราะงานของมีสนั้นนับว่าใช้วัสดุมาก

ปี 1927 ออกแบบเก้าอี้ tubular steel chair เป็นเก้าอี้ที่มีชื่อเสียงมาก

ปี 1929 มีงานดีเด่นเช่น german pavillion ในงาน intetnational exposition at barcelona

ปี 1930-1933 ไปเป็นผู้อำนวยการบาวเฮาส์ ที่เดซเซา

ปี 1937 หลบไปอยู่อเมริกา

ปี 1938 ได้เป็นศาสตราจารย์ทางสถาปัตยกรรม ที่ armour institute of technology in chicago จนกระทั่งสถาปนาขึ้นเป็น illinois institute of technology

ปี 1940 ได้เป็นหัวหน้าแผนกสถาปัตยกรรม ได้ออกแบบและจัดกลุ่มอาคารของแผนกนี้ให้เป็นไปอย่างง่ายๆโดยใช้กระจกแผ่นใหญ่โชว์โครงสร้างเหล็ก ผนังใช้อิฐสี่เหลี่ยมผืนผ้า

ปี 1944 โอนสัญชาติเป็นอเมริกัน

ปี 1948-1951 ได้สร้างอพาร์ตเมนต์เป็นอาคารหอสูงเช่น promontory apartment , withe concrete frame lake shore drive ในชิคาโก

ปี 1956-1959 อาคารธุรกิจที่มีชื่อเสียงคือ seagram bldg. ในนิวยอร์ค กรุด้วยบรอนซ์และหินอ่อน

มีส แวน เดอร์โรห์ เสียชีวิตเมื่อ 17 สิงหาคม 1969

Google เปลี่ยนหน้าเว็ปไซต์เป็นรูปสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ เพื่อร่วมรำลึกถึง Mies van Roheสถาปนิกชาวเยอรมัน ผู้บุกเบิกแห่งวงการสถาปัตยกรรมสมัยใหม่

Google เปลี่ยนหน้าเว็ปไซต์เป็นรูปสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ เพื่อร่วมรำลึกถึง Mies van Roheสถาปนิกชาวเยอรมัน ผู้บุกเบิกแห่งวงการสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ ซึ่งเกิดในวันที่ 27 มีนาคม ค.ศ.1886

Ludwig Mies van der Rohe(ลุดวิก มีส ฟาน เดอร์ โรห์) นักสถาปนิกที่มีชื่อเสียงชาวเยอรมัน หรือที่เขามักรู้จักในชื่อนาม “มีส ฟาน เดอร์ โรห์” เป็นบุตรของผู้รับเหมาก่ออิฐ เกิดเมื่อวันที่ 27 มีนาคม ค.ศ. 1886 Ludwig Mies van der Rohe ได้รับการนับถืออย่างกว้างขวางว่าเป็นผู้บุกเบิกแห่งวงการสถาปัตยกรรมสมัย ใหม่ เขาสร้างสรรค์รูปแบบสถาปัตยกรรมในศตวรรษที่ 20 ที่เห็นชัดถึงความโปร่งและความเรียบง่าย อาคารออกแบบของเขาจะใช้วัสดุสมัยใหม่ อย่างเช่น เหล็ก แผ่นกระจก เพื่อแสดงขอบเขตสถาปัตยกรรมภายใน เขามุ่งมั่นในการสร้างสรรค์สถาปัตยกรรมที่ใช้โครงสร้างน้อยชิ้นในการจัด ระเบียบโครงสร้างอย่างสมดุล ต่อพื้นที่เปิดโล่งอิสระ เขาเรียกอาคารของเขาว่า สถาปัตยกรรม “ผิวหนังและกระดูก” เขายังเสาะหาเหตุผล ในการออกแบบที่เป็นแนวทางกับขั้นตอนการออกแบบทางสถาปัตยกรรม ที่เป็นที่รู้จักในวิธีที่เรียกว่า “น้อยดีกว่ามาก” (less is more) และ God is in the details

Ludwig Miesเสียชีวิตเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ค.ต 1969 ด้วยวัย 83 ปี หลังจากที่เผาศพ ขี้เถ้าของเขาถูกฝังอยู่ใกล้กับสถาปนิกที่มีชื่อเสียงของชิคาโกอื่น ๆ ในชิคาโกของเกรซแลนด์สุสาน หลุมฝังศพของเขาถูกทำเครื่องหมายโดยแผ่นหินสีดำที่เรียบง่ายของหินแกรนิตและ ฮันนี่ต้นไม้ขนาดใหญ่ปาทังกา

ผลงาน

Ludwig Mies van der Roheเริ่มออกฝึกงานกับสถาปนิกพื้นบ้านและเป็นนักออกแบบ ตั้งแต่อายุได้ 15 ปี พออายุได้ 19 ปี Ludwig Mies van der Rohe ก็ไปเป็นช่างออกแบบเฟอร์นิเจอร์ในเบอร์ลิน ในปี 1908-1911 ไปเป็นผู้ช่วยของ peter behrens ซึ่งมีสำนักงานอยู่ในเบอร์ลิน เบเรนส์เป็นสถาปนิกชั้นนำของเยอรมัน ในต้นปี 1911 Ludwig Mies van der Rohe ได้ออกแบบ steel skyscraper ใช้เหล็กกับกระจกทั้งอาคาร นอกจากนั้นมีอาคารอื่นๆ เช่น อาคารสำนักงานและบ้านพักอาศัย โดยยึดหลักเปิดช่องว่าง ( open space )