การดูให้ประสบความสําเร็จต้องปฏิบัติอย่างไร

1. ตั้งเป้าหมายในการเรียน

การตั้งเป้าหมายต่อการกระทำนั้นจะช่วยให้กิจกรรมเหล่านั้นเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นได้ กับการเรียนก็เช่นเดียวกัน ก่อนอื่นเลยเราต้องไม่ดูถูกตัวเองมากเกินไป และลองตั้งเป้าหมาย (ที่ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน) ว่าเราเรียนไปเพื่ออะไร เราต้องทำอย่างไรถึงจะประสบผลสำเร็จตามที่ตั้งไว้ ถ้าคุณคิดว่าเป้าหมายนั้นโอเคสำหรับคุณแล้ว ขั้นต่อไปก็คือ การลงมือทำและพัฒนาตนเองไปสู่เป้าหมาย

2. วางแผนการเรียน

เวลาเป็นสิ่งมีค่า และคงจะไม่ดีนักถ้าคุณเป็นคนที่มาเร่งอ่านหนังสือในคืนก่อนสอบ เพราะมันสายไปเสียแล้ว สิ่งนึงที่จะช่วยคุณได้ก็คือ การวางแผนให้กับการเรียนของคุณ เพราะมันจะทำให้คุณจัดระเบียบตัวเองได้ ทำให้ทุกอย่างราบรื่นตามเป้าหมาย และทำให้คุณมั่นใจในการทำข้อสอบมากขึ้นด้วย

3. หยุดพักบ้าง

เราไม่ใช่ยอดมนุษย์ มันจึงสำคัญมากที่จะรู้ตัวเองอยู่เสมอว่าเราไม่สามารถทำอะไรติดต่อกันเป็นระยะเวลานานได้ดีพอ เพราะสมองมนุษย์มักจะจดจ่อกับอะไรได้ไม่นาน ดังนั้นคุณควรจะหยุดพักเป็นครั้งคราวเพื่อผ่อนคลายจากงานหรือการเรียน เช่น การไปเดินเล่น ออกกำลังกาย คุยกับเพื่อนๆ หรือดื่มอะไรร้อนๆ สักแก้ว จากนั้นก็ค่อยกลับเข้าสู่การเรียนต่อไป (อย่าลืมที่จะพักเมื่อถึงเวลาที่สมควรล่ะ)

4. ลองใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ

เราไม่ได้อยู่ในยุคที่การจดบันทึกต้องใช้แค่ปากกาหรือดินสอ เพราะว่ามีเทคโนโลยีมากมายที่จะช่วยคุณในเรื่องการเรียน เช่น อินเทอร์เน็ต วิดีโอ แอพลิเคชั่นบนมือถือ ลองหาตัวช่วยที่เหมาะสมกับคุณ เพราะมันมีประโยชน์มากทีเดียว เช่นเว็บไซต์การศึกษา GoConqr หรือแอพช่วยบันทึกและวางแผนอย่าง Evernote และ Easystudy เป็นต้น

5. ทดสอบตัวเอง

คุณเคยทำข้อสอบในห้องเรียนเสร็จ แล้วก็ลืมสิ่งที่เรียนมาไปหมดบ้างหรือเปล่า (แน่สิ…ก็มันไม่ได้ใช้แล้วนี่ จริงไหม?) นั่นเป็นเรื่องปกติทั่วไป แต่มันก็ไม่ได้ดีต่อการเรียนของคุณสักเท่าไหร่หรอกนะ ดังนั้น ทางแก้ก็คือ ลองหาวิธีเรียนรู้ในทางที่คุณถนัด สนใจ และมีความสุข จากนั้นก็ลองทดสอบว่าตัวเองมั่นใจหรือรู้สิ่งเหล่านั้นได้ดีพอหรือยัง ด้วยการฝึกทำควิซด้วยตัวเอง และฝึกทำซ้ำไปซ้ำมาจนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่พอใจ ไม่ต้องกังวลถ้าครั้งแรกยังไม่ได้ผลที่ดีพอ เพราะการฝึกฝนครั้งต่อๆ ไปต่างหากที่จะช่วยให้คุณเก่งขึ้นได้

6. อย่าละเลยเรื่องสุขภาพ

คุณอาจจะนอนหลับไม่เพียงพอ หรือกินแต่อาหารที่ไม่มีประโยชน์ (เพราะไม่ค่อยมีเวลา) ถ้าเป็นแบบนั้นก็จงเปลี่ยนแปลงมันด้วยล่ะ แล้วชีวิตคุณจะอยู่ในจุดสมดุลทั้งร่างกายและจิตใจ ซึ่งมันส่งผลต่อการเรียนที่ดีด้วยนะ

7. คิดบวก

ทัศนคติของคุณคือปัจจัยสำคัญในการเรียน เพราะมันจะส่งผลต่อการกระทำของคุณ ถ้าคุณมัวแต่คิดว่าตัวเองทำไม่ได้ คุณก็จะไม่ลงมือทำเพราะกลัวผิดพลาด ดังนั้นจงคิดบวกเข้าไว้ และประเมินตัวเองว่าคุณมีจุดแข็งอะไรบ้างเพื่อที่จะประสบความสำเร็จในการเรียน นอกจากนี้การคิดบวกยังทำให้คุณวิตกกังวลน้อยลงด้วย

8. เรียนรู้ร่วมกันกับเพื่อนๆ

เพื่อนร่วมชั้นคือคนที่คุณควรทำความรู้จักไว้ให้มาก เพราะคุณจะได้รู้ว่าใครที่คุณสามารถทำงาน หรือเรียนด้วยได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้การมีเพื่อนเรียนยังช่วยกระตุ้นซึ่งกันและกัน ให้อีกฝ่ายกระตือรือร้นกับการเรียนได้ด้วยนะ

9. ลองเปลี่ยนบทเรียน เป็นเรื่องราว

ทุกคนชอบอ่านหรือฟังเรื่องราวดีๆ กันทั้งนั้น และเรื่องราวดีๆ ก็มักจะเป็นที่จดจำ ดังนั้นลองประยุกต์สิ่งที่เรียนมาตั้งใจให้มันกลายเป็นเรื่องเล่าดีๆ สักเรื่อง มันจะทำให้คุณภูมิใจและหวนนึกถึงความรู้สึกนั้นไปตลอดเลยล่ะ

10. สร้างกิจวัตรในการเรียน

การวางแผนการเรียนอาจจะยังไม่พอ การสร้างสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมก็เป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งสำหรับการเรียน ลองหาที่ที่เหมาะสมสำหรับตัวคุณ เช่นที่เงียบ ๆ หรือไม่ค่อยมีสิ่งล่อตาล่อใจนัก แล้วทำให้มันเป็นที่ประจำของคุณดูสิ ที่ๆไม่ว่าจะมากี่ครั้งก็ทำให้คุณเรียนรู้ได้มีประสิทธิภาพอยู่เสมอ

11. สร้างความท้าทายเล็กๆ

ความท้าทายจะช่วยให้คุณไม่เบื่อเวลาที่ต้องเรียนบทเรียนยาวๆ หรือยากๆ ลองหาความท้าทายระหว่างที่เรียนเพื่อกระตุ้นผลักดันตัวคุณเองดู

12. ปรึกษาอาจารย์

ถ้าคุณมีข้อสงสัยในการเรียน หรือสงสัยข้อสอบที่คุณทำไป ลองเข้าไปปรึกษาผู้สอนดูสิ เพราะเขาจะช่วยอธิบายข้อสงสัยให้คุณได้อย่างชัดเจน ทั้งยังแสดงให้เห็นว่าคุณนั้นใส่ใจและสนใจวิชานั้น ๆ มากแค่ไหนด้วยนะ

เผลอแปบเดียวก็ผ่านมาครึ่งปีแล้ว หลายๆ คนคงมีเป้าหมายที่อยากทำให้สำเร็จหรืออยากปรับเปลี่ยนนิสัยให้ดีกว่าในปีก่อนๆ ที่ผ่านมา วันนี้มีเคล็บลับในการสร้างนิสัยให้เหมือนคนที่ประสบความสำเร็จ ทั้ง 7 นิสัยที่เราควรมี ถ้าอยากประสบความเร็จจะมีอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ

1. ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน

คนที่ประสบความสำเร็จมักจะรู้ว่าต้องการสิ่งใด และจะโฟกัสอยู่กับสิ่งนั้น จะไม่ลังเลหรือวอกแวกกับสิ่งอื่นๆ ที่ผ่านเข้ามาที่ไม่ใช่เป้าหมาย

• การมีเป้าหมายที่ชัดเจนมีส่วนช่วยให้เกิดความเข้มแข็งทางจิตใจ
• มีการกำหนดเวลาที่จะไปให้ถึงความสำเร็จ
• สามารถไปยังจุดหมายปลายทางที่ต้องการได้สำเร็จในที่สุด

2. โฟกัสทีละอย่าง

พลังของแสงเลเซอร์สามารถตัดวัตถุที่แข็งแรงที่สุดได้เกือบทุกอย่างจากความสามารถในการรวบรวมการโฟกัสทั้งหมด ไปที่จุดหนึ่งของวัตถุจนกระทั่งวัตถุนั้นเริ่มละลาย

• คนที่ประสบความสำเร็จเป็นเหมือนแสงเลเซอร์
• พวกเขาตั้งเป้าหมายอันท้าทายและโฟกัสที่เป้าหมายนั้น
• ทุ่มเทความพยายามและความสามารถทั้งหมดจนกว่าจะสำเร็จ

3. รู้จักปฏิเสธให้เป็น

Warren Buffett สุดยอดนักลงทุนในตลาดหุ้นฉายาพ่อมดการเงิน กล่าวว่า “ความแตกต่างของคนที่ประสบความสำเร็จทั่วไปกับคนที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงคือ คนประเภทหลังรู้จักปฏิเสธเกือบทุกอย่าง”

• สิ่งที่จำเป็นในชีวิตเรามีอยู่ไม่กี่อย่าง แต่เรามักจะรับสิ่งต่างๆ เข้ามาจนชีวิตรุงรัง
• ลดทอนสิ่งที่ไม่จำเป็นลงไปบ้าง
• นำแรงกายแรงใจไปใช้กับการพุ่งเป้าไปสู่ความต้องการที่แท้จริง

4. การลงมือทำแบบไม่รีรอ

Elon Musk แห่งเทสล่าเคยกล่าวไว้ว่า “เราจะเฝ้าดูให้มันเกิดขึ้น หรือไม่ก็เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของมัน” การที่ฝันหรือคิดโดยปราศจากการลงมือทำ จะทำให้คุณไม่ได้ก้าวไปไหนเลย

• คนที่ประสบความสำเร็จมักมีนิสัยชอบลงมือทำ
• บางครั้งจะยังรู้สึกว่าไม่พร้อมเต็มที่ก็ตาม แต่ก็ขอลงมือทำก่อน

5. รู้ความต้องการตัวเอง

เราไม่จำเป็นต้องเก่งไปทุกอย่าง แต่เราต้องมีสิ่งที่เก่งหรือถนัด แค่เพียงอย่างเดียวก็ได้ แต่ต้องเป็นสิ่งที่เก่งจริง รู้จริงแล้วทำให้สุด

• ต้องรู้ก่อนว่าเราเป็นใคร งานแบบไหนเราทำได้ดี จุดแข็งของเราคืออะไร
• ถ้ายังไม่รู้ ให้หาเวลาอยู่กับตัวเองเงียบๆ แล้วสำรวจตัวเอง
• คนที่รู้จักตัวเองเป็นอย่างดี จะสามารถพัฒนาตัวเองได้อย่างตรงจุด

6. เป็นนักอ่านตัวยง

ไม่ใช่ทุกคนที่อ่านมากแล้วจะเป็นผู้นำ แต่ผู้นำทุกคนเป็นนักอ่านตัวยง คุณจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายของคุณได้เลยถ้าหากคุณไม่ยอมที่จะเรียนรู้สิ่งต่างๆ เพราะคนที่ประสบความสำเร็จมักจะอ่านและเสาะแสวงหาความรู้เพิ่มอยู่เสมอ

• สิ่งที่สำคัญของการอ่านคือการที่ได้เรียนรู้จากประสบการณ์ของคนอื่น
• เรียนรู้จากความผิดพลาดของคนอื่น
• อ่านและนำไปปรับใช้เพื่อพัฒนาชีวิตของเรา

7. เรียนรู้จากความผิดพลาด

Thomas Alva Edison ผู้สามารถประดิษฐ์หลอดไฟได้สำเร็จเป็นคนแรกของโลกกล่าวไว้ว่า “I haven’t failed, I’ve found 10,000 ways that don’t work” ผมไม่เคยล้มเหลว ผมแค่พบ 10,000 วิธีที่ใช้การไม่ได้เท่านั้น ดังนั้น ทุกครั้งที่ล้มเหลวขอให้รีบลุกขึ้นใหม่อีกครั้งแล้วก้าวต่อไป

• อย่ามัวคร่ำครวญถึงความผิดพลาดที่ผ่านไปแล้ว
• เรียนรู้จากความผิดพลาดของผู้อื่นไว้บ้างจะได้ไม่ทำผิดซ้ำ
• ควรผิดพลาดตั้งแต่อายุยังน้อยเพราะยังมีเวลาให้แก้ตัวอีกเยอะ

นอกจากนี้ คนที่ประสบความสำเร็จทุกคนมักเป็นคนที่หลงใหลในสิ่งที่ตัวเองทำอยู่เสมอ พวกเขาจะไม่ทำอะไรง่ายๆ เพียงเพื่อให้ได้เงิน แต่จะทำสิ่งที่รักแล้วสนุกไปพร้อมกับมันมากกว่า เพราะการทำในสิ่งที่รักจะเป็นแรงขับเคลื่อนทำให้สามารถก้าวไปสู่ความสำเร็จได้อย่างมีความสุขในทุกๆ วันค่ะ