หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ย่อมาจากคำว่า Electronic Book หมายถึง หนังสือที่สร้างขึ้นด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ มีลักษณะเป็นเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ โดยปกติมักจะเป็นแฟ้มข้อมูลที่สามารถอ่านเอกสารผ่านทางหน้าจอคอมพิวเตอร์ ทั้งในระบบออฟไลน์ และออนไลน์ Show
วิวัฒนาการของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book)แนวความคิดเกี่ยวกับหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เกิดขึ้นภายหลัง ปี ค.ศ. 1940 โดยปรากฏในนวนิยายวิทยาศาสตร์ต่อมาได้มีการพัฒนาโดยนำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยสแกนหนังสือจัดเก็บข้อมูล เป็นแฟ้มภาพตัวหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ และนำแฟ้มภาพตัวหนังสือมาผ่านกระบวนการแปลงภาพเป็นข้อความด้วยการทำ OCR (Optical Character Recognition) โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อแปลงภาพตัวหนังสือให้เป็นข้อความที่สามารถแก้ไขเพิ่มเติมได้การถ่ายทอดข้อมูลจะถ่ายทอดผ่านทางแป้นพิมพ์ และประมวลผลออกมาเป็นตัวหนังสือ และข้อความด้วยคอมพิวเตอร์ ดังนั้น หน้ากระดาษจึงเปลี่ยนรูปแบบไปเป็นแฟ้มข้อมูลแทนทั้งยังมีความสะดวกต่อการเผยแพร่และจัดพิมพ์เป็นเอกสาร (Documents printing) ทำให้รูปแบบ ของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ยุคแรก ๆ มีลักษณะเป็นเอกสารประเภทไฟล์ .doc .txt .rtf และ .pdf ประเภทของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ แบ่งออกเป็น 10 ประเภท ดังนี้ คือ 1. หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ หรือแบบตำรา (Textbook) 2. หนังสืออิเล็กทรอนิกส์แบบหนังสือเสียงอ่าน 3. หนังสืออิเล็กทรอนิกส์แบบหนังสือภาพนิ่ง หรืออัลบั้มภาพ (static Picture Book) 4. หนังสืออิเล็กทรอนิกส์แบบหนังสือภาพเคลื่อนไหว (Moving Picture Book) 5. หนังสืออิเล็กทรอนิกส์แบบหนังสือสื่อประสม (Multimedia Book) 6. หนังสืออิเล็กทรอนิกส์แบบหนังสือสื่อหลากหลาย (Polymedia book) 7. หนังสืออิเล็กทรอนิกส์แบบหนังสือเชื่อมโยง ( Hypermedia Book) 8. หนังสืออิเล็กทรอนิกส์แบบหนังสืออัจฉริยะ (Intelligent Electronic Book) 9. หนังสืออิเล็กทรอนิกส์แบบสื่อหนังสือทางไกล (Telemedia Electronic Book) 10. หนังสืออิเล็กทรอนิกส์แบบหนังสือไซเบอร์สเปซ (Cyberspace book) โครงสร้างทั่วไปของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ลักษณะโครงสร้างของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์จะมีความคล้ายคลึงกับหนังสือทั่วไปที่พิมพ์ด้วยกระดาษ หากจะมีความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนก็ คือ กระบวนการผลิต รูปแบบ และวิธีการอ่านหนังสือลักษณะโครงสร้างของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์จะมีความคล้ายคลึงกับหนังสือทั่วไปที่พิมพ์ด้วยกระดาษ หากจะมีความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนก็คือกระบวนการผลิต รูปแบบ และวิธีการอ่านหนังสือ สรุปโครงสร้างทั่วไปของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ประกอบด้วย 1. หน้าปก (Front Cover) 2. คำนำ (Introduction) 3. สารบัญ (Contents) หมายถึง ตัวบ่งบอกหัวเรื่องสำคัญที่อยู่ภายในเล่มว่าประกอบด้วยอะไรบ้าง อยู่ที่หน้าใดของหนังสือ สามารถเชื่อมโยงไปสู่หน้าต่างๆ ภายในเล่มได้ 4. สาระของหนังสือแต่ละหน้า (Pages Contents) หมายถึง ส่วนประกอบสำคัญในแต่ละหน้า ที่ปรากฏภายในเล่ม ประกอบด้วย 4.1 หน้าหนังสือ (Page Number) 4.2 ข้อความ (Texts) 4.3 ภาพประกอบ (Graphics) .jpg, .gif, .bmp, .png, .tiff – เสียง (Sounds) .mp3, .wav, .midi – ภาพเคลื่อนไหว (Video Clips, flash) .mpeg, .wav, .avi – จุดเชื่อมโยง (Links) 5. อ้างอิง (Reference) 6. ดัชนี (Index) 7. ปกหลัง (Back Cover) ประโยชน์ของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ e-Bookสำหรับผู้อ่าน 1. ขั้นตอนง่ายในการอ่าน และค้นหาหนังสือ สำหรับห้องสมุด 1. สะดวกในการให้บริการหนังสือ สำหรับสำนักพิมพ์และผู้เขียน 1. ลดขั้นตอนในการจัดทำหนังสือ ข้อดีและข้อเสียของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ข้อดีของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ มีดังต่อไปนี้ 1. อ่านที่ไหน เมื่อไหร่ ได้ตลอดเวลา เนื่องจากพกไปได้ตลอดและได้จำนวนมาก ข้อเสียของ e-Book มีดังต่อไปนี้ 1. ต้องอาศัยพลังงานในการอ่านตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้าหรือแบตเตอรี่ ความแตกต่างของหนังสือ E-book อีบุ๊คกับหนังสือทั่วไปหนังสืออิเล็กทรอนิกส์หนังสือทั่วไปไม่ใช้กระดาษ (อนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้)1. ใช้กระดาษสามารถสร้างให้มีภาพเคลื่อนไหวได้2. มีข้อความและภาพประกอบธรรมดาสามารถใส่เสียงประกอบได้3. ไม่มีเสียงประกอบสามารถแก้ไขและปรับปรุงข้อมูล (update) ได้ง่าย4. สามารถแก้ไขปรับปรุงได้ยากสามารถสร้างจุดเชื่อมโยง (links) ออกไปยังข้อมูลภายนอกได้5. มีความสมบูรณ์ในตัวเองมีต้นทุนในการผลิตหนังสือต่ำ6. มีต้นทุนการผลิตสูงไม่มีขีดจำกัดในการจัดพิมพ์ สามารถทำสำเนาได้ง่ายไม่จำกัด7. มีขีดจำกัดในการจัดพิมพ์สามารถอ่านผ่านคอมพิวเตอร์ และสั่งพิมพ์ผลได้8. สามารถเปิดอ่านจากเล่ม อ่านได้อย่างเดียวหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ 1 เล่ม สามารถอ่านพร้อมกันได้จำนวนมาก (ออนไลน์ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต)9. สามารถอ่านได้ 1 คนต่อหนึ่งเล่มสามารถพกพาสะดวกได้ครั้งละจำนวนมากในรูปแบบของไฟล์คอมพิวเตอร์ และสามารถเข้าถึงโดยไม่จำกัดเรื่องสถานที่และเวลา10. สามารถพกพาลำบาก และต้องเดินทางไปใช้ที่ห้องสมุดและศูนย์สารนิเทศต่าง ๆโปรแกรมที่ใช้สร้างหนังสืออิเล็กทรอนิกส์โปรแกรมสำหรับสร้างหนังสืออิเล็กทรอนิกส์มีหลายแบบหลายประเภท ความยากง่ายซับซ้อนในการใช้งานก็ต่างกันไป ขึ้นอยู่กับลักษณะของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องการสร้างทั้งโปรแกรมสร้างหนังสืออิเล็กทรอนิกส์แบบ pdf และโปรแกรมสำหรับสร้าง e-book แบบ ePub หรือ Filp เช่น แนวโปรแกรมที่ใช้สร้างเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆไม่ว่าจะเป็น Microsoft Word Microsoft Power Point และอื่นๆ ภาพตัวอย่าง โปรแกรม Microsoft Word3ภาพตัวอย่าง โปรแกรม Microsoft Power Pointโปรแกรม desktop author โปรแกรม Flip Album โปรแกรม Flash Album Deluxe เป็นซอฟต์แวร์ในโปรแกรมสำหรับการสร้างอัลบั้ม ภาพดิจิตอลที่มีเครื่องมือต่างๆ ที่สามารถสร้างได้อย่างรวดเร็ว มีอัลบั้มที่สวยงามโดยไม่ต้องใช้ เวลามากเกินไป สามารถเลือกรูปแบบไฟล์ที่หลากหลาย เช่น ไฟล์ swf ไฟล์ html และปฏิบัติการอัลบั้มออกมาวางสามารถใช้ร่วมกันในเว็บไซต์ที่บันทึกในคอมพิวเตอร์ของคุณหรือใช้เป็นโปรแกรมรักษาหน้าจอ โปรแกรม Flip pdf Professional เป็นโปรแกรมสำหรับสร้างหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ซึ่งสามารถพิมพ์ข้อความ ใส่รูปภาพ ภาพเคลื่อนไหวไฟล์ swf วีดีโอและยังสามารถนำเข้าไฟล์ PDF ได้ ทั้งยังสามารถสร้างไฟล์หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ได้หลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นรูปแบบเว็บเพจ html การทำแผ่นซีดีที่เปิดอัตโนมัติ (Autorun CD) ข้อใดคือหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (Eหนังสืออิเล็กทรอนิกส์หรือ e-Book ย่อมาจากคาว่า electronic book หมายถึง หนังสือที่สร้างขึ้นด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ มีลักษณะคล้ายหนังสือจริง สามารถเปิดอ่านได้ในเครื่องคอมพิวเตอร์และมีลักษณะพิเศษคือสามารถสื่อสารกับผู้อ่าน ในลักษณะของมัลติมีเดียได้ได้แก่ข้อความ ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และเสียง แต่ยังคงรักษารูปแบบความเป็น ...
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ eความแตกต่างของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์กับหนังสือทั่วไป
1. หนังสือทั่วไปใช้กระดาษ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ไม่ใช้กระดาษ (อนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้) 2. หนังสือทั่วไปมีข้อความและภาพประกอบธรรมดา หนังสืออิเล็กทรอนิกส์สามารถสร้างให้มีภาพเคลื่อนไหวได้ 3. หนังสือทั่วไปไม่มีเสียงประกอบ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์สามารถใส่เสียงประกอบได้
ประโยชน์ของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E1. อ่านที่ไหน เมื่อไหร่ ได้ตลอดเวลา เนื่องจากพกไปได้ตลอดและได้จำนวนมาก 2. ประหยัดการตัดไม้ทำลายป่า เพราะไม่ต้องตัดไม้มาทำกระดาษ 3. เก็บรักษาได้ง่าย ประหยัดเนื้อที่ในการจัดเก็บ ประหยัดค่าเก็บรักษา 4. ค้นหาข้อความได้ ยกเว้นว่าอยู่ในลักษณะของภาพ
เนื้อหาที่สามารถนำเสนอในหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (Eผู้อ่านสามารถเลือกชมศึกษาข้อมูลได้ ส่วนใหญ่นิยมนำเสนอข้อมูลที่เป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ หรือเหตุการณ์สำคัญ เช่น ภาพเหตุการณ์สงครามโลก ภาพการกล่าวสุนทรพจน์ของบุคคลสำคัญ ๆ ของโลกในโอกาสต่าง ๆ ภาพเหตุการณ์ความสำเร็จหรือสูญเสียของโลก
|