อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน 2565

กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน รับสมัครบุคคลเข้ารับราชการ จำนวน 20 อัตรา สมัครตั้งแต่วันที่ 1 - 25 กุมภาพันธ์ 2565

ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง รับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

ตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร

1. ตำแหน่งนิติกรปฏิบัติการ (สังกัดส่วนภูมิภาค)     จำนวน  6  อัตรา

2. ตำแหน่งนักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ (สังกัดส่วนกลาง)     จำนวน  1  อัตรา

3. ตำแหน่งนักวิชาการเงินและบัญชีปฏิบัติการ (สังกัดส่วนกลาง)     จำนวน  1  อัตรา

4. ตำแหน่งนักจัดการงานทั่วไปปฏิบัติการ (สังกัดส่วนกลางและส่วนภูมิภาค)     จำนวน  4  อัตรา

5. ตำแหน่งเจ้าพนักงานการเงินและบัญชีปฏิบัติงาน (สังกัดส่วนกลางและส่วนภูมิภาค)     จำนวน  8  อัตรา

วัน เวลา และสถานที่รับสมัคร

ผู้ประสงค์จะสมัครสอบสามารถสมัครได้ทางอินเทอร์เน็ตเท่านั้น ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 ถึงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เว้นวันหยุดราชการ โดยเปิดเว็บไซต์ http://labour.thaijobjob.com 

รายละเอียดเพิ่มเติม

คลิกเพื่ออ่าน : ไฟล์ประกาศรับสมัคร / สมัครออนไลน์

24 มกราคม 2565

ผู้ชม 1127 ครั้ง

กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ประกาศนโยบายเร่งด่วนเน้นป้องกันและแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงานอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อมุ่งสู่ระดับ Tier 1 นำเทคโนโลยีดิจิทัล สร้างนวัตกรรมมาใช้บริหารงานเพื่อประชาชน

6/10/2564 | 854 |

นายนิยม สองแก้ว อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวในฐานะประธานการแถลงนโยบายและแนวทางปฏิบัติราชการของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ประจำปี 2565 ว่า ปัจจุบันประเทศไทยและทั่วโลกกำลังเผชิญกับวิกฤตโควิด-19 นำมาซึ่งผลกระทบต่อโครงสร้างเศรษฐกิจและตลาดแรงงานไทย โดยเฉพาะหลังมาตรการล็อกดาวน์การเปลี่ยนแปลงของสภาพการจ้างงานเป็นผลทำให้ภาคธุรกิจต้องปรับตัว เพื่อเสริมสภาพคล่องทางธุรกิจให้ดำเนินต่อไปได้ ซึ่งส่งผลให้แรงงานกลุ่มเปราะบาง เช่น แรงงานทักษะต่ำ แรงงานผู้หญิง แรงงานข้ามชาติในประเทศ เป็นกลุ่มแรงงานที่กรมต้องเข้ามาดูแลโดยด่วน โดยเน้นบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมขับเคลื่อนโครงการสำคัญตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงแรงงานให้บรรลุเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้กรอบแนวคิด “คนสำราญ งานสัมฤทธิ์ผล ประชาชนพึงพอใจ” เน้นย้ำการทำงานเชิงรุก ได้แก่ 1) สานงานต่อ 2) ก่องานเพิ่ม และ3) เติมงานใหม่ ซึ่งการสานงานต่อโครงการที่ทำแล้วมีผลเชิงบวกต่อองค์กรและประชาชน พร้อมเร่งรัดการช่วยเหลือผู้ใช้แรงงานที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิดอย่างรวดเร็ว ครอบคลุมและทั่วถึง ส่วนการก่องานเพิ่ม เน้นที่นโยบายเร่งด่วนด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อมุ่งสู่ Tier 1 โดยพุ่งเป้าการตรวจสถานประกอบกิจการที่เสี่ยงต่อการใช้แรงงานเด็ก แรงงานบังคับ แรงงานขัดหนี้ และการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน พร้อมส่งเสริมให้สถานประกอบกิจการกลุ่มเสี่ยงนำแนวปฏิบัติการใช้แรงงานที่ดี (GLP) ไปใช้ในการบริหารจัดการแรงงาน ดำเนินมาตรการเชิงรุกด้านความปลอดภัยในการทำงาน เพื่อลดอัตราการประสบอันตรายจากการทำงานให้ลดลงร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา พร้อมส่งเสริมแรงงานสัมพันธ์เชิงรุกในภาวะวิกฤต รวมทั้งปรับปรุง พัฒนากฎหมายให้มีความเหมาะสมกับบริบททางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ และสอดคล้องกับมาตรฐานสากลและพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศให้เป็นระบบ Big Data 

        อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวต่อไปว่า ในปีงบประมาณ 2565 นี้ กรมจะพัฒนาขีดความสามารถการทำงานของบุคลากร องค์กร ตลอดจนการบริหารจัดการและการให้บริการให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วยโครงการที่เป็นงานใหม่ ในส่วนเติมงานใหม่ มุ่งเน้นขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล นโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เช่น โครงการ Factory Sandbox การส่งเสริมระบบแรงงานสัมพันธ์ของสหภาพแรงงาน การพัฒนาเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย (จป.) ให้มีความเข้มแข็ง การเทียบเคียงมาตรฐานแรงงานไทยกับมาตรฐานอื่น ๆ เช่น ISO 45001 ระบบมาตรฐานการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย เป็นต้น นอกจากนี้กรมจะมุ่งพัฒนาการให้บริการ การอนุมัติ การอนุญาต เป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์และอยู่ในแพลตฟอร์มเดียวกัน เพื่ออำนวยความสะดวกให้สถานประกอบกิจการลดต้นทุนหรือเวลาในการดำเนินงาน

ที่มา  https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG211006104624580