26 ต.ค. 2564 เวลา 12:06 น. 5.2k เลิกขบวน อัญเชิญพระเกี้ยว ลาม งานฟุตบอลประเพณีจุฬา-ธรรมศาสตร์ ล่าสุด องค์การนักศึกษา มธ. ซาวด์เสียง เมื่อสังคมขยับ งานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ควรมีต่อ หรือ พอแค่นี้?26 ต.ค.2564 - ยังเป็นประเด็นถกเถียงของสังคม ศิษย์เก่า - ศิษย์ใหม่อย่างต่อเนื่อง หลังจากองค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (อบจ.) ออกแถลงการณ์ คณะกรรมการบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรื่อง ยกเลิกกิจกรรมขบวนอัญเชิญพระเกี้ยวในงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ – ธรรมศาสตร์ โดยอ้างเรื่องความเท่าเทียม ขณะต่อมา สมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ออกแถลงการณ์ ขอเลื่อนกำหนดการแข่งขันฟุตบอลประเพณีฯจุฬา-ธรรมศาสตร์ ปี 2564 ออกไปก่อน เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อโคโรน่ไวรัส 2019 ที่ยังต้องเฝ้าระวังอยู่ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ในครั้งต่อๆไปยังคงจะสืบสานให้มีการอัญเชิญพระเกี้ยว อันเป็นสัญลักษณ์ที่ได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระปิยมหาราชและสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้าสืบไป กระแสยกเลิกขบวนพระเกี้ยวดังกล่าว มีผู้แสดงความเห็นอย่างหลากหลายในหลายแง่ ทั้งเห็นด้วยกับการยกเลิกขบวนอัญเชิญพระเกี้ยว เนื่องจากมีการสืบค้นว่าที่ผ่านมา สร้างความอึดอัดทางใจและทางกายให้กับผู้ที่ทำหน้าที่แบกหาม มิใช่การสมัครใจอย่างในอดีต ขณะอีกฝั่ง มอง การอัญเชิญพระเกี้ยวไม่เกี่ยวศักดินา โดยเฉพาะ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ออกมาระบุ ว่า แถลงการณ์ของ อบจ. จุฬาฯ นั้น เต็มไปด้วยการตีตรา คิดแบบติ้นเขิน และใช้เสรีภาพแบบผิดๆ ยืนยัน ประเพณีการแห่พระเกี้ยว เป็นความงดงามที่คนไทย นิสิตไทย มีความกตัญญูต่อพระผู้สถาปนามหาวิทยาลัยที่ใช้พระปรมาภิไธยเป็นมงคลนามของมหาวิทยาลัย ทั้งนี้ จากประเด็นดังกล่าว ทำให้ แฮชแท็ก #พระเกี้ยว ยังคงติดเทรนด์ทวิตเตอร์อย่างต่อเนื่อง
งานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ควรมีต่อหรือพอแค่นี้? ล่าสุด เพจเฟซบุ๊กองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดประเด็นร้อน โดยมีการโพสต์ข้อความและภาพประกอบ ในหัวข้อ งานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ควรมีต่อหรือพอแค่นี้? เพื่อต้องการสำรวจความคิดเห็น ชาวธรรมศาสตร์ พร้อมระบุ ข้อสรุปดังกล่าวจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในอนาคต โดยมีใจความสำคัญดังนี้
“เมื่อสังคมขยับ วัฒนธรรมต้องปรับ คนต้องเปลี่ยน" วัฒนธรรมศักดินา อภิสิทธิ์ชน และค่านิยมความงาม คือ ภาพที่ยังคงสะท้อนและฉายซ้ำแฝงตัวอยู่ในปัจจุบัน หนึ่งในนั้นคือ “งานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ - ธรรมศาสตร์” กิจกรรมและวัฒนธรรมระหว่างสองมหาวิทยาลัยที่ได้ร่วมกันสืบสานมาอย่างเนิ่นนาน ซึ่งยังคงสะท้อนและฉายซ้ำภาพของสิ่งเหล่านี้ ถึงแม้จะมีความพยายามปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับบริบทปัจจุบันเสมอมา แต่การปรับเปลี่ยนนั้นทำให้งานฟุตบอลประเพณีฯ เป็น “งานของทุกคน” และ “แบบอย่าง” ของสังคมปัจจุบัน แล้วจริงหรือ? ขอเชิญชาวธรรมศาสตร์ร่วมแสดงความคิดเห็นต่อ เพราะงานฟุตบอลประเพณีฯ ควรมาจากเจตนารมณ์ของประชาคมธรรมศาสตร์ทุกคน เราได้รวบรวมประเด็นที่น่าสนใจจากการถกเถียงในวงสังคมมาให้ทุกท่านร่วมแสดงความคิดเห็น ดังนี้ งานฟุตบอลประเพณีฯ ควรมีต่อไปหรือไม่?
ในข้อความยังระบุว่า หากท่านมีประเด็นที่น่าสนใจอื่น ๆ ก็สามารถเสนอแนะและแสดงความคิดเห็นเข้ามาได้ โดยเราจะรวบรวมความคิดเห็นเหล่านี้ เพื่อนำไปสู่การสร้างความเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรมต่อไป หมายเหตุ: ข้อมูลส่วนบุคคลของนักศึกษาใช้เพื่อยืนยันตัวตนของนักศึกษาเท่านั้นและจะไม่ถูกนำไปเผยแพร่หรือใช้ประโยชน์อื่น เปิดผลโหวตประชาคมธรรมศาสตร์ “งานบอลประเพณี” ควรมีต่อหรือไม่?เผยแพร่ 4 พ.ย. 2564 ,14:30น. ผลสำรวจประชาคมธรรมศาสตร์เบื้องต้น "งานฟุตบอลประเพณีฯ ควรมีต่อหรือพอแค่นี้" เสียงส่วนมากยังให้จัดต่อ แต่ต้องปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัย จากกรณีเมื่อช่วงปลายเดือน ต.ค. ที่ผ่านมาได้เกิดกระแสดราม่า คณะกรรมการบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เผยแพร่แถลงการณ์พร้อมคำอธิบาย ผ่าน องค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (อบจ.) เรื่อง “ยกเลิกกิจกรรมขบวนอัญเชิญพระเกี้ยวในงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ – ธรรมศาสตร์” ดราม่าดังกล่าวนอกจากจะเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์และการถกเถียงถึงความเหมาะสมแล้ว ภายในประชาคมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ยังได้ตั้งคำถามที่ไปไกลกว่านั้นว่า “งานฟุตบอลประเพณีควรไปต่อหรือพอแค่นี้” "ความเป็นจุฬาฯ" เปิดคุณสมบัติ "ผู้อัญเชิญพระเกี้ยว" ปมร้อนน้อง - พี่ สีชมพู แจงเลื่อนบอลประเพณีฯ นิสิตจุฬาฯ เสียงแตกยกเลิกอัญเชิญพระเกี้ยว โดยล่าสุด องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยผลสำรวจความเห็นเบื้องต้นจากประชาคมธรรมศาสตร์ทั้งศิษย์เก่าและนักศึกษาปัจจุบันจากจำนวนกว่า 4,000 คน พบว่า ส่วนใหญ่ 78.60% โหวตไปในทิศทางเดียวกันว่า “งานฟุตบอลประเพณีควรมีต่อไป” โดยเหตุผลคือ เนื่องจากเป็นกิจกรรมที่ทำให้เกิดความสามัคคี สะท้อนภาพสังคมได้อย่างสร้างสรรค์ เป็นการแสดงออกทางการเมือง ถือเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของความเป็นธรรมศาสตร์ แต่หากต้องมีการเปลี่ยน ประชาคมส่วนใหญ่ให้ความเห็นว่า ควรเปลี่ยนแปลงในบางจุด โดยข้อเสนอ 5 อันดับแรกที่มีการโหวตมากที่สุดที่งานฟุตบอลประเพณีฯ ควรเปลี่ยนแปลง ได้แก่ 1. 88.10% โหวตให้งานฟุตบอลประเพณีฯ เป็นพื้นที่ปลอดภัยในการแสดงออกอย่างอิสระ 2. 83.10% โหวตให้ควรใช้วิธีอื่นแทนการใช้คนแบกเสลี่ยงในขบวนตรามหาวิทยาลัย 3. 80.20% โหวตให้นักศึกษาปัจจุบันต้องมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางการจัดงานฟุตบอลประเพณีฯ 4. 79.40% โหวตให้เพิ่มพื้นที่การแสดงออกทางการเมืองในขบวนพาเหรดและการแปรอักษร 5. 79.30% โหวตให้ทบทวนประเด็น Beauty Privilege (สิทธิพิเศษที่ได้จากรูปลักษณ์ภายนอก) และ Beauty Standard (มาตรฐานความสวยความหล่อ) อย่างจริงจัง “หมอบุญ” รับอยู่ในรถวีไอพี ปัด ตร.นำขบวน แจงถนนเป็นวันเวย์ ไม่ได้สวนเลน มาแล้ว! ศูนย์บางซื่อ เปิดลงทะเบียนจองวัคซีนสูตรไขว้ใหม่ AP แอสตร้า + ไฟเซอร์ เริ่ม 4 พ.ย. นี้ นอกจากนี้ มีเสียงโหวตกว่า 19.30% ที่โหวตให้ยกเลิกการจัดงานฟุตบอลประเพณีฯ โดยให้ความเห็นว่า เป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณ เป็นกิจกรรมที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำสูง และไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ สำหรับการสำรวจความเห็นนี้ยังไม่สิ้นสุดลง ประชาคมธรรมศาสตร์สามารถร่วมใช้สิทธิแสดงความคิดเห็นได้จนถึงวันที่ 6 พ.ย. 2564 ภาพจาก องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร Add friend ได้ที่ @PPTVOnline |