Bootcamp แบ่ง partition ไม่ได้

ในการรวม partition ต้องบูทจากเเผ่นเพื่อเข้า disk utility ครับ ถึงจะสามารถรวมได้

วิธีการคือ
1.ใส่แผ่น osx เข้าไปแล้ว restart
2.ขณะที่เครื่องกำลังบูท ก่อนได้ยินเสียง "ผ่าง" ให้กด C ค้างไว้
3. รอสักครู่ (นานสักพักฮะ)
4. เมื่อเข้ามาเค้าจะให้เราเลือกภาษา ให้กด continue (หรือ next) ผ่านไปได้เลย (เพราะ default เป็น eng)
5. รอสักพัก จะมีหน้าต่างข้อความ เขียนเกี่ยวกับว่า "จะถามว่าเราต้องการ install osx มั้ย" ตรงนี้ ไม่ต้องสนใจ และ "อย่าไปกดเชียวล่ะ"
6. ให้กดที่ tab Menu bar ด้านบน เลือก tab Utilities แล้วเลือก Disk Utility

7.เลือกที่ชื่อ ยี่ห้อของ Harddisk ครับ (อันบนสุดเลย) ถึงจะมี tab Partition โผล่มา

** อันนี้ผมไม่ค่อยแน่ใจนะครับ ไม่ได้ทำมานานแล้ว **
8. เมื่อเข้ามาที่ Partition ให้เรา click ที่ partition ที่เราต้องการจะลบ (คือ bootcamp ถ้ามี) เสร็จแล้วไปกดที่เครื่องหมายลบ แล้วกด apply

เค้าจะ ลบ partition นั้นทิ้งไปแล้วจะได้ พื้นที่ (free space) ขึ้นมา
9. ให้กดที่ Macintosh HD แล้ว ตรง size ให้เราใส่ พื้นที่ทั้งหมดลงไป (เช่น hdd ของผมมีพื้นที่ 160gb ผมจะใส่ 160 ลงไป ถ้าเกินเค้าจะปรับให้เป็นขนาดที่ใหญ่ที่สุด) จากนั้นกด apply เค้าจะคืนพื้นที่ให้ macintosh hd ครับ
10. จากนั้นกด quit ออก

ปล. ผมก็ไม่ค่อยชัวร์นะครับ เกรงว่าถ้าบอกผิดไป อาจจะได้ลง osx ใหม่เลย ถ้าเอาชัวร์ยกไปให้ที่ร้านทำน่าจะดีกว่าครับ

10285
posts

By ikok | on 04 May 10, 22:48

ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมนะครับ

ผมก็เพิ่งทราบเหมือนกันว่าต้องเข้า safe mode ไปลบเอาเอง ขอบคุณครับ

#11

• Login to post comments

3876
posts

By minemind | on 05 May 10, 5:59

เคยมั่วมาก่อน

มันก็ลบ ใน disk utility ได้นะพี่ แต่มันจะไม่คืนพื้นที่ให้ จะเป็น พื้นที่เปล่าๆ ต้องไป resize เอาใน safeboost

คือตอนแรกต่ายก็ไม่เข้าใจหรอก ตอนนั้นมันแบ่ง partition ใน bootcamp ไม่ได้ต่ายก็เลยลองแบ่งเองเลยโดยใช้ disk utility แล้วเล่นไปเล่นมาอยากจะลบออก แล้วมันไม่ยืมคืน space มาให้ก็ไปอ่านเจอ วิธีรวม partition พี่ก๊อกนี่แหละถึงได้รู้ว่ามันรวมกันแบบนี้

แต่มันก็มีข้อควรระวังเลยคือ ห้ามกด quit ขณะที่รวม หรือ แบ่ง partition ไม่งั้น มันจะไปทั้ง HDD ครับ แต่ถ้ามีแผ่น OSX version เดียวกับที่เครื่องใช้ก็คิดว่า น่าจะ repair มาลงได้

#12

• Login to post comments

ฉันติดอยู่กับความท้าทายนี้เมื่อคืนนี้เช่นกัน หลังจากผ่านไป 10 ชั่วโมงในที่สุดฉันก็ได้แก้ไขเรื่องนี้แล้ว ตามที่ปรากฏออกมา OSX ทั้งหมดนั้นไม่เหมือนกัน ตัวอย่างเช่นฉันมี Macbook Pro Retina, iMac และ Mac Pro โซลูชันของ ClaitonLovatoJr ทำงานบน Macbook Pro Retina แต่ไม่ใช่ iMac หรือ Mac Pro

นี่คือเหตุผล:

iMac (2014) และ Mac Pro (2014) มีฮาร์ดไดรฟ์ชนิดต่าง ๆ จนถึงตอนนี้ฉันยังไม่ได้ใช้ Mac Pro เพราะมันเป็นฮาร์ดไดรฟ์ชนิดพิเศษที่สุดบางที Windows ก็ไม่รองรับ แต่อีกครั้งฉันไม่ได้ลองมานาน

บน iMac นี่คือวิธีที่คุณสามารถติดตั้ง Windows 8.1 (Professional)

ตั้งแต่ปลายปี 2555 iMac มีฟิวชั่นไดรฟ์ซึ่งหมายความว่าฮาร์ดไดรฟ์นั้นรวมกับ SSD และฮาร์ดไดรฟ์ทั่วไป ดังนั้น Apple มีวิธีจัดการที่น่าสนใจ ฉันจะไม่ไปดูรายละเอียด ในระยะสั้น EFI จะไม่ทำงานกับฮาร์ดแวร์ดังนั้นเราต้องผ่าน Boot Camp ของ Apple

สิ่งแรกที่ต้องทำคือค้นหา USB แฟลชไดรฟ์ หลายคนรวมถึงฉันล้มเหลวเพราะเราพยายามใช้การ์ด SD สิ่งนี้จะไม่ทำงานเนื่องจากการ์ด SD นั้นล้ำหน้าเกินไปสำหรับสิ่งที่เราทำ มันจะโหลดโปรแกรมติดตั้ง แต่หลังจากโหลดมันจะกลายเป็น Windows ทั้งหมดแล้วมันจะล้มเหลวในการติดตั้ง ดังนั้นสิ่งที่เราต้องการคือแฟลชไดรฟ์แบบเก่า ฉันลองใช้อะแดปเตอร์การ์ด SD มันก็ล้มเหลวเช่นกัน อาจมีบางอย่างเกี่ยวกับประเภทของอะแดปเตอร์ที่ฉันมี แต่เพื่อความปลอดภัยเราควรใช้แฟลชไดรฟ์

จากนั้นเราจะสร้างการติดตั้งด้วย Boot Camp Assistant ตรวจสอบให้แน่ใจว่าใช้เวอร์ชัน 5.1 ล่าสุด และเราจะต้องตรวจสอบการดาวน์โหลดจาก Apple เพราะจะให้ไดรเวอร์ที่คุณต้องการเพื่อทำการติดตั้งให้เสร็จ หากการดาวน์โหลดล้มเหลวด้วยเหตุผลบางประการเราสามารถดาวน์โหลดไฟล์ได้ที่นี่:

http://supportdownload.apple.com/download.info.apple.com/Apple_Support_Area/Apple_Software_Updates/Mac_OS_X/downloads/031-3384.20140211.Xcc3e/BootCamp5.1.5621.zip

จากนั้นวางไฟล์ลงในดิสก์การติดตั้งด้วยตนเอง

ฉันไม่แนะนำให้ตรวจสอบการติดตั้งในกรณีที่คุณต้องวางไฟล์ด้วยตนเอง

ตอนนี้เราสามารถใช้ Boot Camp Assistant ติดตั้ง Windows ได้แล้ว เราต้องใช้เพราะ Boot Camp เป็นแอปพลิเคชั่นเดียวที่สามารถสร้างพื้นที่ดิสก์ที่ใช้งานได้สำหรับการติดตั้ง Disk Utility หรือแอปพลิเคชันประเภทอื่นจะไม่ทำงาน Apple มีการออกแบบที่พิเศษมากสำหรับระบบไฮบริด EFI-MBR สำหรับไดรฟ์ฟิวชั่นของ iMac

จากนั้นคอมพิวเตอร์ควรรีสตาร์ทและมีแนวโน้มที่จะติดอยู่ในหน้าจอสีดำ อย่าตกใจเพราะนี่เป็นข้อผิดพลาดในระบบการโหลด Boot Camp ของ Apple เวลารอสั้นเกินไปหากคุณมีอุปกรณ์หลายเครื่องที่เชื่อมต่อจะไม่สามารถโหลดได้อย่างถูกต้อง เราสามารถปิดเครื่องคอมพิวเตอร์โดยกดปุ่มเปิดปิดค้างไว้แล้วเปิดเครื่องในขณะที่กดปุ่มตัวเลือกค้างไว้

ตอนนี้เราไม่สามารถเลือก EFI-Windows เมื่อบูทขึ้นเราต้องเลือก Windows EFI เร็วขึ้นและก้าวหน้ายิ่งขึ้น แต่เราไม่สามารถใช้งานได้

ตอนนี้เราน่าจะสามารถบูทเข้าสู่ส่วนต่อประสานการติดตั้งได้ หากคุณเห็นอินเทอร์เฟซไฮเรสมันหมายความว่าไปที่ EFI ปิดเครื่องแล้วลองอีกครั้ง หากคุณไม่เห็นอินเทอร์เฟซ lowres มีบางอย่างผิดปกติ บูตเข้าสู่ OSX และลบ Windows ผ่าน Boot Camp Assistant (จริง ๆ แล้วจะฆ่าพาร์ติชันใหม่) จากนั้นทำซ้ำทุกอย่าง

หากคุณอยู่ในอินเตอร์เฟส lowres ก็ยังไม่เสร็จทั้งหมด คุณยังต้องฟอร์แมตพาร์ติชันใหม่โดยเพียงแค่คลิกที่ฟอร์แมตหรือใช้ศูนย์คำสั่ง ตอนนี้คุณน่าจะสามารถติดตั้งได้!

หลังจากการติดตั้งเราสามารถติดตั้ง Windows แต่มันจะตายและรีบูต อย่าตกใจเพราะ iMac ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับ Windows Windows คิดว่ามันมีความล้มเหลวของฮาร์ดแวร์ จากนั้นเราจะสามารถเข้าสู่ระบบได้หลังจากรีบูตเครื่อง แต่มันจะติดอยู่เป็นเวลานาน - เช่น 20 ถึง 30 นาที นี่เป็นเพราะมันจำเป็นต้องดาวน์โหลดและตั้งค่าไดรเวอร์บางอย่างสำหรับสภาพแวดล้อมคี่ที่พบ ในที่สุดเราจะเห็นป๊อปอัปเพื่อสนับสนุนให้เราติดตั้ง Boot Camp บน Windows เราไม่จำเป็นต้อง เราสามารถใช้ปุ่มตัวเลือกทุกครั้งที่เริ่มต้นคอมพิวเตอร์ แต่มันก็ขึ้นอยู่กับคุณ

เมื่อปิดระบบ Windows บางครั้งมันจะล้มเหลวและทำให้คุณเกิดข้อผิดพลาดนี่เป็นเพราะ Windows ไม่สามารถทำงานร่วมกับไดรเวอร์ของ Apple ได้เป็นอย่างดี (ฟิวชั่นไดรฟ์หรือฮาร์ดแวร์อื่น ๆ ) ไม่ต้องกังวลเพียงกดปุ่มเปิดปิดค้างไว้

หวังว่าความช่วยเหลือนี้! :)