ความเป็นจริงเสริมในปัจจุบันสามารถจำแนกได้ 2 ประเภท

Virtual reality หรือ VR คือการจำลองสภาพแวดล้อมจริงเข้าไปให้เสมือนจริง โดยผ่านการรับรู้จากการมองเห็น เสียง สัมผัส แม้กระทั้งกลิ่น โดยจะตัดขาดเราออกจากสภาพแวดล้อมปัจจุบันเพื่อเข้าไปสู่ภาพที่จำลองขึ้นมาตัวอย่างเช่น การจำลองสถานที่ google street view

ความเป็นจริงเสริมในปัจจุบันสามารถจำแนกได้ 2 ประเภท

Augmented reality หรือ AR คือ การรวม สภาพแวดล้อมจริง กับ วัตถุเสมือน เข้าด้วยกันในเวลาเดียวกัน โดยวัตถุเสมือนที่ว่านั้น อาจจะเป็น ภาพ, วิดิโอ, เสียง, ข้อมูลต่างๆที่ประมวลผลมาจากคอมพิวเตอร์, มือถือ, เทปเล็ต, หรืออุปกรณ์สวมใส่ขนาดเล็กต่างๆ และทำให้เราสามารถตอบสนองกับสิ่งที่จำลองนั้นได้
ตัวอย่างของการใช้งาน AR ก็คือ เกม Pokemon Go ถือเป็นปรากฎการณ์ครั้งสำคัญของนักเล่นเกมทั่วโลก

ความเป็นจริงเสริมในปัจจุบันสามารถจำแนกได้ 2 ประเภท

หรือจะเป็นด้านสื่อโฆษณา และด้านการศึกษา

ความเป็นจริงเสริมในปัจจุบันสามารถจำแนกได้ 2 ประเภท

โดยทุกวันนี้เราสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีเล่านี้ได้ง่ายๆเพียงงแค่มีสมาร์โฟน ซึ่งแบรนด์ดังในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับ Social Network ต่างก็ให้ความสนใจและนำมาใช้อย่างทุกวันนี้ที่เราได้เห็นกันในรูปแบบ 360°

อันดับแรกเชื่อว่าเทคโนโลยีนี้ในปัจจุบันมีอยู่ในสมาร์ทโฟนแทบทุกเครื่อง ยิ่งเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ๆ แล้วนั้นเรียกได้เลยว่าเทคโนโลยีความจริงเสริม หรือ AR เป็นจุดขายเลยก็ว่าได้

เทคโนโลยีความจริงเสริมคืออะไร

มาจาก Augmented Reality ซึ่งคำว่าAugmented แปลว่าเสริม ส่วนReality แปลว่าความเป็นจริง

คราวนี้เราจะมาเสริม อะไรและมันจะเป็นจริงได้ยังไง จะอธิบายสั้น ๆ ได้แบบนี้ครับ คือการที่เรานำเอาภาพจริง ๆ จากกล้อง ไม่ว่าจะเป็นกล้องวีดีโอ หรืออื่นใดที่สามารถส่งภาพของจริงมาได้ และประมวลผลร่วมกันกับภาพกราฟิก หรือ เรียกว่าภาพดิจิตอลซ้อนทับกันเข้าไปในภาพจริง เราจึงเรียกการกระทำแบบนี้ได้ว่า AR หรือความเป็นจริงเสริมนั้นเองครับ ซึ่งจะว่าไปแล้วในอดีตจนถึงปัจจุบันการใช้เทคโนโลยีนี้ก็มีมานานพอสมควร แต่อาจจะไม่ได้แพร่หลายแบบในปัจจุบัน เราลองมาย้อนดูกันก่อนดีกว่าครับว่าเจ้าเทคโนโลยี AR เราเริ่มใช้จากอะไรกันบ้าง

เทคโนโลยีความจริงเสริมช่วง ปี 1950-1960

ความเป็นจริงเสริมในปัจจุบันสามารถจำแนกได้ 2 ประเภท
1957: Morton Heilig นักภาพยนตร์ได้ประดิษฐ์ Sensorama ซึ่งเป็นอุปกรณ์มัลติมีเดียแบบตู้สำหรับโรงละครที่ให้ผู้ชมได้สัมผัสประสบการณ์แบบอินเทอร์แอกทีฟ

ความเป็นจริงเสริมในปัจจุบันสามารถจำแนกได้ 2 ประเภท

1961: Comeau และ Bryan วิศวกรของ Philco Corporation สองคนนี้ได้สร้างจอแสดงผลแบบ สวมศีรษะ (HMD) ตัวแรกที่เรียกว่า Headsight จอแสดงผลมีหน้าจอวิดีโอสองหน้าจอสำหรับดวงตาแต่ละข้าง และอุปกรณ์ติดตามแม่เหล็ก

เทคโนโลยีความจริงเสริมช่วง ปี 1960-1970
ความเป็นจริงเสริมในปัจจุบันสามารถจำแนกได้ 2 ประเภท

1968: Ivan Sutherland ศาสตราจารย์และนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ของฮาร์วาร์ดได้ประดิษฐ์จอแสดงผลแบบสวมศีรษะ VR / AR เครื่องแรกที่เรียกว่า ‘The Sword of Damocles’

1978: พัฒนาโดย MIT Aspen Movie Map ใช้รูปถ่ายที่ถ่ายจากรถในเมือง Aspen รัฐโคโลราโดเพื่อมอบสิ่งที่พวกเขาเรียกว่าประสบการณ์ “Surrogate Travel” แก่ผู้ชม

1985: ไมรอน ครูเกอร์ นักวิจัยและศิลปินด้านคอมพิวเตอร์ได้สร้างห้องปฏิบัติการที่มหาวิทยาลัยคอนเนตทิคัต โดยตั้งชื่อว่า “Videoplace” ซึ่งสร้างใช้งานด้านเทคโนโลยีความจริงเสริม

เทคโนโลยีความจริงเสริมช่วง ปี 1990-2000

ความเป็นจริงเสริมในปัจจุบันสามารถจำแนกได้ 2 ประเภท

1991: The Virtuality Group เปิดตัวอุปกรณ์เล่นเกม และเครื่องอาร์เคดที่นำเทคโนโลยี VR สู่สาธารณชนโดยทั่วไป ผู้เล่นจะสวมแว่นตาเสมือนจริงและเล่นเกมที่สมจริงแบบเรียลไทม์ วิดีโอเกม VR บางส่วนเชื่อมต่อเข้าด้วยกันเพื่อประสบการณ์การเล่นเกมเสมือนจริงแบบหลายผู้เล่น

1995: Nintendo Virtual Boy เปิดตัวเป็นคอนโซลพกพาเครื่องแรกที่สามารถแสดงกราฟิก 3 มิติได้ มันเป็นความล้มเหลวเนื่องจากราคาที่แพง และขาดกราฟิกที่ยังไม่ดีพอ

ความเป็นจริงเสริมในปัจจุบันสามารถจำแนกได้ 2 ประเภท

1999 : NASA สร้างระบบการมองเห็นสังเคราะห์แบบไฮบริดของยานอวกาศ X-38 ระบบนี้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AR เพื่อช่วยในการนำทางที่ดีขึ้นในระหว่างเที่ยวบินทดสอบ ระบบการมองเห็นสังเคราะห์แบบไฮบริดโดยใช้ AR ที่ NASA องค์ประกอบความเป็นจริงยิ่งแสดงข้อมูลแผนที่บนหน้าจอของนักบิน

2009 : นิตยสาร Esquire ใช้ความเป็นจริงเสริมในสื่อสิ่งพิมพ์เป็นครั้งแรก เพื่อพยายามทำให้มีชีวิตชีวา เมื่อผู้อ่านสแกนหน้าปกนิตยสารที่มีเทคโนโลยีความจริงเสริมนี้

ในปัจจุบัน

ในปัจจุบันเทคโนโลยีความจริงเสริมได้ก้าวเข้ามามีบทบาทอย่างมากในทุกวงการ ไม่ว่าจะเป็นวงการบันเทิง, การศึกษา, กีฬา, ศิลปะ และอื่น ๆ อีกมากมายยกตัวอย่าง ตามวีดีโอด้านล่าง

ความเป็นจริงเสริมในปัจจุบันสามารถจำแนกได้กี่ประเภท อะไรบ้าง

ในการตัดสินว่าเทคโนโลยี AR ประเภทใดที่คุณต้องการสำหรับธุรกิจของคุณ ก่อนอื่น คุณต้องระบุชนิดของ AR ที่จะใช้ก่อน โดยความเป็นจริงเสริมนั้นมีอยู่ด้วยกันสองประเภท ได้แก่ ประเภท Marker-based และ Marker-less การเลือก AR ประเภทใดประเภทหนึ่งนี้จะเป็นตัวระบุวิธีการที่คุณจะสามารถแสดงรูปภาพและข้อมูลของคุณ

ความเป็นจริงเสริม คือ ข้อใด

ความเป็นจริงเสริมหรือความเป็นจริงแต่งเติม (อังกฤษ: AR : Augmented Reality Technology) เป็นเทคโนโลยีที่ผสมผสานระหว่างความเป็นจริง และ โลกเสมือนที่สร้างขึ้นมาผสานเข้าด้วยกันผ่านซอฟต์แวร์และอุปกรณ์เชื่อมต่อต่าง ๆ ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างข้อมูลอีกข้อมูลหนึ่งที่เป็นส่วนประกอบบนโลกเสมือน (virtual world) เช่น ภาพกราฟิก วิดีโอ ...

Augmented Reality (AR) มีกี่ประเภท

เทคโนโลยี AR มีรูปแบบหลักๆ อยู่ 3 ประเภทได้แก่ Marker-Based : เป็นการนำโค้ดต่างๆ ไปพิมพ์ไว้บนวัตถุ เมื่อมีการนำเครื่องมืออย่างสมาร์ทโฟนไปแสกน โปรแกรม AR ในสมาร์โฟนนั้นก็จะแสดงภาพสามมิติ คลิปวิดีโอ หรือสื่ออื่นๆ ที่อยู่ในโค้ดนั้นออกมา

เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม มีอะไรบ้าง

เทคโนโลยี AR (Augmented Reality) คือ การผสานโลกเสมือนให้ทำงานอยู่บนโลกแห่งความเป็นจริง ผ่านอุปกรณ์ซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น แว่นตา AR, โทรศัพท์สมาร์ตโฟน หรือกล้องวิดีโอเว็บแคม เป็นต้น โดยหลักการทำงานเบื้องต้นของเทคโนโลยี AR นั้น คือการเพิ่มภาพกราฟิกหรือวัตถุ 3 มิติ ลงบนภาพที่ถ่ายจากกล้องวิดีโอ กล้อง ...