ค่าเสื่อมราคา/ค่าเสื่อมราคาสะสม ปี 2565(2022)รายละเอียดการคิดคำนวนค่าเสื่อมราคาสินทรัพย์ไม่ระบุรายละเอียด (แบบที่ 2)(ก่อนปี พ.ศ.2548 เป็นข้อมูลยกยอดเข้าในระบบ GFMIS) ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2565 Show
* หมายเหตุ สำหรับ เขต1-12 เอกสารดาวน์โหลดเป็นไฟล์ Zip รายละเอียดการคิดคำนวณค่าเสื่อมราคาสินทรัพย์ปีปัจจุบันจากระบบ GFMIS (แบบที่ 3)(ตั้งแต่ พ.ศ.2548 - พ.ศ.2565) ข้อมูล ณ วันที่ 25 กันยายน 2565
* หมายเหตุ สำหรับ เขต1-12 เอกสารดาวน์โหลดเป็นไฟล์ Zip รายละเอียดครุภัณฑ์บริจาค (ภาพรวมกรม ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2564)
- ปี 2553 - 2554 ครุภัณฑ์บริจาคเฉพาะหน่วยงานส่วนกลางเท่านั้น - ปี 2555 เป็นต้นไป รวมครุภัณฑ์บริจาคทั้งหน่วยงานส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ค่าเสื่อมราคาคืออะไร เมื่อลงทุนทำธุรกิจเจ้าของกิจการย่อมต้องรู้จักความหมายของคำนี้ เพราะเกี่ยวเนื่องถึงการคำนวณผลประกอบการของบริษัท ว่าสามารถทำกำไรในแต่ละปีได้จำนวนเท่าไหร่ และขาดทุนในแต่ละปีจำนวนเท่าไหร่ ค่าเสื่อมราคา หรือ (Depreciation) เป็นค่าใช้จ่ายที่จะต้องถูกคำนวณจากสินทรัพย์ถาวรของบริษัทที่ถูกจัดซื้อเข้ามาเพื่อใช้ประโยชน์ในแต่ละปี ซึ่งส่วนมากสินทรัพย์ถาวรจะเป็นอุปกรณ์มูลค่าสูงและมีระยะใช้งานที่นานในแต่ละ เช่น คอมพิวเตอร์ เครื่องจักร รถยนต์ ซึ่งสินทรัพย์เหล่านี้หากนำมูลค่าทั้งหมดมาคำนวณรวดเดียวจะทำให้ค่าใช้จ่ายของบริษํทในรอบบัญชีนั้นสูง จึงต้องมีการคำนวณค่าเสื่อมราคาตามระยะเวลาการใช้งานตั้งแต่แรกเริ่มจนถึงปัจจุบัน เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าในการลงทุน วิธีคำนวณค่าเสื่อมราคาคิดอย่างไรการคำนวณค่าเสื่อมราคาทำให้บริษัทได้ทราบถึงงบประมาณที่ใช้ไปในแต่ละรอบบัญชีและผลกำไรที่สามารถสร้างได้ในแต่ละปี เช่น บริษัทซื้อความพิวเตอร์สำหรับให้พนักงานใช้ทำงานมา 1 เครื่อง เงินที่ถูกจ่ายไปเพื่อซื้อคอมพิวเตอร์จะไม่ถูกคำนวณเป็นค่าใช้จ่ายในปีนั้นแค่งวดเดียว แต่จะนำราคาเต็มไปคำนวณค่าเสื่อมราคาเฉลี่ยตามอายุการใช้งานของอุปกรณ์นั้นนั่น มาถึงวิธีคำนวณค่าเสื่อมราคา สามารถคำนวณหลัก ๆ ได้ 4 วิธี คือ 1. วิธีเส้นตรง 2. วิธียอดลดลงทวีคูณ 3. วิธีผลรวมจำนวนปี 4. วิธีจำนวนผลผลิต และวิธีที่นิยมนำมาใช้คำนวณค่าเสื่อมราคามากที่สุด ก็คือวิธีเส้นตรงนั่นเอง สูตรการคำนวณค่าเสื่อมราคาวิธีเส้นตรงการคำนวณค่าเสื่อมราคาแบบวิธีเส้นตรงสามารถคำนวณด้วยการนำราคาต้นทุนของอุปกรณ์ ลบด้วยมูลค่าซาก หารด้วยอายุการใช้งาน จะทำให้ได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นค่าเสื่อมราคาเท่ากันทุกปี ค่าเสื่อมราคา = (ราคาต้นทุน – มูลค่าซาก) ÷ อายุการใช้งาน ตัวอย่าง : สมมติว่าบริษัทสั่งซื้อรถขนสินค้า 1 คัน ราคา 500,000 บาท มีมูลค่าซาก 50,000 บาท มีอายุการใช้งาน 10 ปี สมารถตั้งสูตรคำนวณได้ ดังนี้ ค่าเสื่อมราคา = (5,000,000 -50,000) ÷ 10 ปี = 45,000 บาท ค่าเสื่อมราคารายปีที่คำนวณออกมาได้จะถือเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในรอบบัญชีปัจจุบัน ช่วยให้การทำบัญชีของธุรกิจของคุณมีความถูกต้องและน่าเชื่อถือ แถมยังประเมินสถานการณ์ได้ล่วงหน้าอีกด้วยว่า เครื่องจักรหรืออุกรณ์ที่คุณจะลงทุนซื้อเข้ามาใช้งานคุ้มค่ากับการลงทุนหรือไม่ ทำให้บริษํทคุณมียอดเงินเหลือนในแต่ละงวดเนื่องจากเป็นการหักค่าใช้จ่ายย่อยจากราคาเต็ม ทำให้คุณมีเงินนเหลือไปลงทุนในส่วนอื่นหรือนำเงินไปใช้ในการขยายธุรกิจ เสริมความแข็งแกร่งพร้อมต่อกรกับคู่แข่งได้อีกด้วย อ่านเพิ่มเติม : ยอดขายน้อยส่งเก็บเงินปลายทางได้ไหม เสริมประสิทธิภาพธุรกิจแบบไม่ต้องคำนวณค่าเสื่อมราคาด้วย ระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ Fillgoods ยกศักยภาพธุรกิจแบบไม่มีค่าใช้จ่าย ใช้งานได้ทุกฟีเจอร์ รู้จักฟีเจอร์ของเรา ค่าเสื่อมราคาสินทรัพย์ คิดยังไงยอดเงินค่าเสื่อมราคาจะเหมือนกันทุกปี: (ต้นทุนการซื้อสินทรัพย์ – มูลค่าซาก) ÷ จำนวนปีของอายุการบริการ
ค่าเสื่อมราคาสินทรัพย์กี่ปีค่าเสื่อมราคา (Depreciation) คือ ค่าใช้จ่ายที่ทยอยตัดจากมูลค่าของสินทรัพย์ที่กิจการใช้ประโยชน์และเกินกว่า 1 ปีขึ้นไป สินทรัพย์เหล่านี้ได้แก่สินทรัพย์ถาวร โดยส่วนใหญ่มีมูลค่าสูง ซึ่งกิจการต้องประมาณการอายุการใช้ประโยชน์ของสินทรัพย์แต่ละรายการ เพื่อที่จะทยอยตัดเป็นค่าใช้จ่ายในแต่ละงวด
ค่าเสื่อมราคาสินทรัพย์ มีอะไรบ้างค่าเสื่อมราคา = (ราคาทุน – มูลค่าคงเหลือ) / อายุการใช้งาน ราคาทุน คือ ราคาที่ซื้อมาของสินทรัพย์ถาวร มูลค่าในส่วนนี้จะรวมถึงต้นทุนในการทำให้สินทรัพย์ดังกล่าวมีสภาพพร้อมใช้งานด้วย เช่น ค่าขนส่ง ค่าติดตั้งเครื่องจักร เป็นต้น
ค่าเสื่อมราคาอยู่ในหมวดใดค่าเสื่อมราคาสะสม เป็นบัญชีหมวดสินทรัพย์ แต่เป็นตัวลดยอดของสินทรัพย์นั้น ๆ เพราะเมื่อกิจการซื้อสินทรัพย์มา ก็จะบันทึกเป็นสินทรัพย์ แต่สินทรัพย์นี้เมื่อมีการใช้งานแล้วจะเสื่อมค่าลง ดังนั้นทุกสิ้นปีจึงต้องบันทึกค่าเสื่อมราคา เพื่อลดยอดสินทรัพย์ลง
|