เฉลย แบบฝึกหัด เครื่องวัดไฟฟ้า ป ว ช 1

14.แอมมเิ ตอรเ์ ครอื่ งหนงึ่ เม่ือนาไปวดั คา่ กระแสไฟฟา้ ขนาด 10 A ปรากฏวา่ วดั ค่าได้ 12 A จงหาคา่ ความ

ถกู ต้อง ( A ) ของแอมมิเตอรเ์ ครือ่ งนี้

ก. -2.0 A ข. -2.0 ค. 2.0 A ง. 2.0

15. จากขอ้ 14 จงหาค่าเปอร์เซน็ ตค์ วามถูกต้อง (A) ของแอมมิเตอรเ์ ครื่องน้ี

ก. -2.0 A ข. -20.0 % ค. 0.2 % ง. 20.0 %

16.ความเท่ยี งตรง หมายถงึ ความสามารถในการ

ก.เกิดซา้ ค่าเดิมของการวดั ปริมาณไฟฟ้าหลายๆ ครงั้

ข.ไมเ่ กิดซ้าคา่ เดมิ ของการวดั ปรมิ าณทางการไฟฟ้าหลาย ๆ ครั้ง

ค.วดั ปริมาณไฟฟ้าค่าที่ถกู ต้องของการวดั ปริมาณทางไฟฟ้าหลาย ๆ ครงั้

ง.วัดปรมิ าณไฟฟา้ ค่าท่ีไม่ถกู ต้องของการวดั ปริมาณทางไฟฟ้าหลาย ๆ ครัง้

17.โวลตม์ เิ ตอร์ไฟฟ้า A , B และC แตล่ ะเครือ่ งนาไปวดั คา่ แรงดันไฟฟา้ ขนาด 20 V จานวน 3 ครง้ั ไดค้ า่

แรงดันไฟฟา้ ดังนี้

โวลตม์ เิ ตอร์ A : 19V. 19V. 19V โวลต์มิเตอร์ B : 19V, 18V, 17V โวลตม์ เิ ตอร์ C : 20 V , 20 V , 20 V

จากข้อมลู สรุปไดว้ า่ โวลต์มเิ ตอรท์ ีม่ ีความเที่ยงตรง แตไ่ มม่ ีความถกู ตอ้ งได้แก่

ก.โวลต์มเิ ตอร์ A : ข.โวลต์มเิ ตอร์ B : ค.โวลต์มิเตอร์ C: ง.โวลตม์ ิเตอร์ A : และ C

18.แอมมิเตอรเ์ คร่อื งที่ 1 มยี า่ นวัดสงู สดุ เท่ากับ 10 mA และเคร่ืองที่ 2 มยี ่านวดั สูงสดุ เท่ากับ 50 mA ขอ้ ใด

กลา่ วถกู ต้อง

ก.เครอ่ื งที่ 1 มวี ามไวสูงกวา่ เครอื่ งท่ี 2 ข.เครอื่ งที่ 2 มคี วามไวสงู กวา่ เคร่ืองท่ี 1

ค.เครอื่ งท่ี 1 มคี วามไวเท่ากับเครอ่ื งที่ 2 ง.ยังสรปุ ไม่ได้

19.โวลตม์ เิ ตอร์เครือ่ งหน่ึงมีความตา้ นทานไฟฟา้ รวมเทา่ กับ 500 K ท่ยี ่านวดั แรงดนั ไฟฟา้ คา่ สงู สดุ เทา่ กบั

100 V จงหาคา่ ของความไวของโวลตม์ เิ ตอรเ์ คร่ืองน้ี

ก. 0.2 โอม ข. 5 โอม ค. 500 โอม ง. 5,000 โอม

20.ผลกระทบของแอมมิเตอร์เกดิ จากสาเหตุใด

ก.ความตา้ นทานไฟฟ้าภายในของแอมมิเตอร์

ข.ความตา้ นทานไฟฟา้ ท่ีใชใ้ นการขยายยา่ นวัดของแอมมเิ ตอร์

ค.ความต้านทานไฟฟ้าของขดลวดเคล่อื นท่ขี องแอมมเิ ตอร์

ง.ความตา้ นทานไฟฟ้าของภาระไฟฟา้ ที่กระแสไฟฟา้ ไหลผา่ น

21.วงจรที่มีตวั ต้านทานไฟฟา้ ขนาด 1 โอม ต่อเขา้ กบั แหล่งจ่ายไฟฟา้ 1 V เมือ่ นาแอมมิเตอร์ทมี่ ีความ

ตา้ นทานไฟฟ้าภายในขนาด 1 โอม มาวดั คา่ กระแสไฟฟ้าของวงจร จงหาค่าความคลาดเคลอ่ื น

ก. 0.091 A ข. -0.091 A ค. 0.05 A ง. -0.50 A

22. วงจรทม่ี ีตวั ตา้ นทานไฟฟ้าขนาด 1 โอม ต่อเข้ากับแหล่งจา่ ยไฟฟ้า 1 V เมือ่ นาแอมมิเตอรท์ ม่ี ีความ

ตา้ นทานไฟฟ้าภายในขนาด 0.1 โอม มาวัดค่าไฟฟ้าของวงจร จงหาค่าความคลาดเคล่อื น

ก. 0.091 A ข. -0.091 A ค. 0.05 A ง. -0.50 A

23.การแก้ไขผลกระทบของแอมมิเตอร์สามารถทาไดโ้ ดย

ก. เลือกใชย้ ่านวัดกระแสไฟฟ้าท่ีมคี า่ ต่า ข. เลอื กใชย้ า่ นวดั กระแสไฟฟา้ ที่มีค่าสูง

ค.เลอื กวดั กระแสไฟฟ้าที่มีค่าตา่ ง.เลือกวัดกระแสไฟฟา้ ทีมีคา่ สูง

24.ข้อใดเป็นสาเหตขุ องผลกระทบของโวลต์มเิ ตอร์

ก.ความต้านทานไฟฟ้าภายในของโวลตม์ เิ ตอร์

ข.ความตา้ นทานไฟฟ้าที่ใช้ภายในขยายยา่ นวัดของโวลต์มิเตอร์

ค.ความตา้ นทานไฟฟา้ ของขดลวดเคล่อื นท่วี ดั โวลต์มเิ ตอร์

ง.ความต้านทานไฟฟ้าของภาระไฟฟ้าทตี ้องการวัดแรงดนั ไฟฟา้

25.การแก้ไขผลกระทบของโวลตม์ ิเตอรส์ ามารถทาไดโ้ ดย

ก. เลอื กใช้ยา่ นวดั แรงดันไฟฟ้าทม่ี ีคา่ ต่า ข. เลอื กใชย้ ่านวดั แรงดนั ไฟฟ้าที่มคี ่าสงู

ค.เลือกวัดแรงดนั ไฟฟ้าทม่ี คี า่ ตา่ ง.เลอื กวดั แรงดันไฟฟา้ ทีมคี ่าสูง

26.ข้อใดเป็นส่วนประกอบของโอห์มมเิ ตอร์แบบอนุกรม

ก.เครื่องวัดไฟฟา้ ชนิดขดลวดเคล่ือนท่ีและมีแหลง่ จ่ายไฟฟา้ กระแสตรงต่อเข้าด้วยกนั แบบอนุกรม

ข.เครือ่ งวดั ไฟฟา้ ชนิดแกนเหล็กเคลื่อนท่ีและแหล่งจา่ ยไฟฟ้ากระแสตรงต่อเขา้ ดว้ ยกันแบบอนุกรม

ค.เครื่องวดั ไฟฟ้าชนดิ ขดลวดเคล่ือนท่ี ตวั ต้านทานไฟฟา้ ที่ปรบั ค่าได้และแหล่งจา่ ยไฟฟ้ากระแสตรง

ตอ่ เข้าดว้ ยกนั แบบอนกุ รม

ง.เครือ่ งวัดไฟฟา้ ชนิดแกนเหล็กเคล่ือนที่ ตวั ต้านทานไฟฟ้าทป่ี รับคา่ ไดแ้ ละแหลง่ จ่ายไฟฟา้ กระแสตรง

ตอ่ เขา้ ด้วยกนั แบบอนุกรม

27.ข้อใดอธบิ ายการทางานของโอหม์ มิเตอร์แบบอนุกรมเม่ือเปิดปลายสายวัด

ก.ไม่เกิดอานาจแมเ่ หลก็ ไฟฟา้ ที่มแี กนเหล็กอ่อยจึงไม่มีแรงผลกั เข็มชี้จงึ อยู่ทางดา้ นซ้ายมือ

ข.เกิดอานาจแม่เหลก็ ไฟฟา้ ที่มแี กนเหล็กอ่อนจงึ มแี รงผลัก เขม็ ชจ้ี ึงเคลอ่ื นท่ไี ปทางดา้ นขววามอื

ค.ไมเ่ กิดอานาจแมเ่ หลก็ ไฟฟา้ ที่แกนเหล็กอ่อนจึงมีแรงผลัก เข็มช้จี ึงอยู่ทางดา้ นขวามอื

ง.เกดิ อานาจแม่เหล็กไฟฟ้าที่แกนเหลก็ อ่อนจึงมีแรงผลัก เข็มช้จี ึงเคล่อื นทีไ่ ปทางด้านซา้ ยมอื

28.เม่ือโอห์มมิเตอรแ์ บบอนกุ รมทางานโดยลดั วงจรที่ปลายสายวัด ข้อมลู สรุปได้ถกู ต้อง

ก.ตาแหนง่ 0 โอห์ม อยูท่ างด้านซ้ายมอื เพราะวา่ ไม่มีกระแสไฟฟ้า 1 M ไหลผ่านขดลวดเคลื่อนที่

ข.ตาแหนง่ 0 โอหม์ อยู่ทางด้านขวามอื เพราะว่ามีกระแสไฟฟา้ 1 M ไหลผ่านแกนเหล็กเคลอื่ นที่

ค.ตาแหนง่ 0 โอห์ม อยทู่ างด้านขวามอื เพราะวา่ มีกระแสไฟฟ้า 1 M ไหลผ่านขดลวดเคล่ือนท่ี

ง.ตาแหน่ง 0 โอหม์ อยู่ทางด้านซา้ ยมือเพราะวา่ ไม่มกี ระแสไฟฟา้ 1 M ไหลผ่านแกนเหลก็ เคลื่อนที่

29.ขอ้ ใดเปน็ สว่ นประกอของโอหม์ มิเตอร์แบบขนาน

ก.เครอื่ งวดั ไฟฟ้าชนิดขดลวดเคลอ่ื นที่และแหลง่ จา่ ยไฟฟา้ กระแสตรงต่อเข้าดว้ ยกนั แบบขนาน

ข.เครอื่ งวัดไฟฟา้ ชนิดแกนเหล็กเคลอื่ นที่และแหล่งจากไฟฟ้ากระแสตรงต่อเขา้ ด้วยกันแบบขนาน

ค.เคร่ืองวัดไฟฟ้าชนดิ ขดลวดเคล่ือนทตี่ ่อขนานกบั ตัวตา้ นทานไฟฟ้าทปี่ รบั ค่าไดซ้ ง่ึ ต่ออนุกรมกับ

แหลง่ จา่ ยไฟฟ้ากระแสตรง

ง.เคร่อื งวัดไฟฟา้ ชนิดแกนเหล็กเคล่ือนที่ตอ่ ขนานกับตัวต้านทานไฟฟ้าทปี่ รบั ค่าได้และตอ่ ขนานกับ

แหลล่งจา่ ยไฟฟา้ กระแสตรง

30.ขอ้ ใดอธบิ ายการทางานของโอห์มมเิ ตอร์แบบขนานเม่อื เปิดปลายสายวดั
ก.ไม่เกิดอานาจแมเ่ หลก็ ไฟฟ้าท่แี กนเหลก็ อ่อนจึงไมม่ ีแรงผลัก เข็มชี้จงึ อยู่ทางด้านซ้ายมือ
ข.เกิดอานาจแม่เหลก็ ไฟฟ้าที่แกนเหลก็ ออ่ นจึงไม่มแี รงผลัก เขม็ ช้จี ึงเคลือ่ นทไ่ี ปทางดา้ นขวามอื
ค.ไมเ่ กิดอานาจแม่เล็กไฟฟา้ ท่ีแกนเหลก็ อ่อนจงึ ไม่มแี รงผลกั เข็มช้จี ึงอยทู่ างดา้ นขวามอื
ง.เกิดอานาจแมเ่ หลก็ ไฟฟา้ ที่แกนเหลก็ ออ่ นจงึ มแี รงผลกั เข็มช้จี งึ เคล่อื นท่ไี ปทางด้านซา้ ยมือ

31.ขอ้ ใดเป็นสว่ นประกอบของโอห์มมเิ ตอร์แบบผสม
ก.เคร่อื งวดั ไฟฟา้ ชนิดขดลวดเคลอ่ื นทแ่ี ละมแี หลง่ จ่ายไฟฟ้ากระแสตรงต่อเข้าดว้ ยกันแบบผสม
ข.เครอ่ื งวดั ไฟฟ้าชนิดแกนเหล็กเคลอื่ นที่และแหลง่ จา่ ยไฟฟา้ กระแสตรงต่อเข้าดว้ ยกนั แบบผสม
ค.เครอ่ื งวดั ไฟฟ้าชนดิ ขดลวดเคล่ือนท่ี ตวั ต้านทานไฟฟ้าทีป่ รับคา่ ได้และแหล่งจ่ายไฟฟ้ากระแสตรง
ต่อเขา้ ดว้ ยกนั แบบผสม
ง.เครื่องวดั ไฟฟ้าชนดิ แกนเหล็กเคลอื่ นที่ ตวั ตา้ นทานไฟฟา้ ท่ีปรับคา่ ไดแ้ ละแหล่งจ่ายไฟฟ้ากระแสตรง
ต่อเขา้ ดว้ ยกนั แบบผสม

32.ขอ้ ใดอธิบายการทางานของโอหม์ มิเตอร์แบบผสมเม่ือเปิดปลายสายวดั
ก.ไมเ่ กิดอานาจแม่เหล็กไฟฟ้าทแี่ กนเหล็กอ่อนจงึ ไม่มแี รงผลัก เขม็ ชจ้ี ึงอยู่ทางดา้ นซ้ายมือ
ข.เกิดอานาจแม่เหลก็ ไฟฟ้าท่ีแกนเหล็กอ่อนจงึ ไม่มแี รงผลกั เข็มชจี้ ึงเคลื่อนทไ่ี ปทางดา้ นขวามอื
ค.ไม่เกิดอานาจแมเ่ ล็กไฟฟ้าท่ีแกนเหลก็ อ่อนจงึ ไม่มีแรงผลกั เข็มชจ้ี ึงอยูท่ างด้านขวามอื
ง.เกดิ อานาจแม่เหลก็ ไฟฟา้ ท่ีแกนเหลก็ ออ่ นจึงมีแรงผลัก เขม็ ชี้จึงเคลื่อนทีไ่ ปทางดา้ นซ้ายมือ

33.เมื่อโอห์มมิเตอรแ์ บบผสมทางานโดยลดั วงจรท่ปี ลายสายวัดข้อใดสรุปไดถ้ ูกต้อง
ก.ตาแหน่ง 0 โอหม์ อยูท่ างด้านขวามอื เพราะวา่ ไม่มกี ระแสไฟฟ้า 1 M ไหลผ่านขดลวดเคลอื่ นท่ี
ข.ตาแหน่ง 0 โอหม์ อยู่ทางด้านซา้ ยมือเพราะวา่ มีกระแสไฟฟ้า 1 M ไหลผ่านแกนเหลก็ เคล่อื นที่
ค.ตาแหน่ง 0 โอหม์ อยู่ทางด้านซ้ายมอื เพราะว่ามีกระแสไฟฟา้ 1 M ไหลผา่ นขดลวดเคลอ่ื นที่
ง.ตาแหนง่ 0 โอหม์ อยู่ทางดา้ นขวามือเพราะว่าไม่มีกระแสไฟฟ้า 1 M ไหลผา่ นแกนเหลก็ เคลอื่ นที่

34.ก่อนการวดั ความตา้ นทานไฟฟ้าทุกยา่ นวัด จะต้องทาการปรับตาแหนง่ 0 โอห์ม เพราะอะไร
ก.เพือ่ ใหก้ ารวดั ค่าความต้านทานไฟฟ้ามีความถูกต้อง
ข.เพ่ือใหก้ ารวดั คา่ ความต้านทานไฟฟ้ามคี วามเท่ียงตรง
ค.เพราะว่าตาแหน่ง 0 โอห์มอยทู่ างด้านขวามือ
ง.เพราะว่าตาแหน่ง 0 โอห์มอยู่ทาวด้านซา้ ยมือ

35.จงบอกความหมายของเครอ่ื งวัดไฟฟ้าแบบดิจิตอล
ก.เคร่ืองวัดไฟฟา้ ท่ีทาหนา้ ท่ีเปลย่ี นสัญญาณไฟฟ้าแบบอนาลอกใหเ้ ปน็ สญั ญาณไฟฟา้ แบบดิจิตอลแล้ว
แสดงการผลการวัดเป็นเลขฐานสบิ ท่ภี าคแสดงผล
ข.เครือ่ งวดั ไฟฟา้ ที่ทาหนา้ ท่ีเปลยี่ นสัญญาณไฟฟ้าแบบดิจิตอลใหเ้ ปน็ สญั ญาณไฟฟ้าแบบอนาลอกแล้ว
แสดงผลการวัดเปน็ เลขฐานสิบทภี่ าคแสดงผล

ค.เครื่องวัดไฟฟา้ ที่ทาหน้าทเี่ ปลี่ยนสัญญาณไฟฟ้าแบบอนาลอกให้เปน็ สัญญาณไฟฟา้ แบบดจิ ติ อลแลว้

แสดงผลการวัดเป็นเลขฐานสองทภี่ าคแสดงผล

ง.เครอื่ งวดั ไฟฟ้าท่ีทาหน้าทเี่ ปลีย่ นสัญญาณไฟฟ้าแบบดิจติ อลใหเ้ ป็นสัญญาณไฟฟา้ แบบอนาลอกแลว้

แสดงผลการวัดเปน็ เลขฐานสบิ หกทภ่ี าคแสดงผล

36.โครงสร้างของเครื่องวดั ไฟฟ้าแบบดิจติ อล ปรกอบดว้ ยภาคอะไรบ้าง

ก. ภาครับสญั ญาณอนาลอก ภาคประมวลผลและภาคแสดงผล

ข. ภาครับสญั ญาณดิจติ อล ภาคประมวลผลและภาคแสดงผล

ค.ภาครบั สญั ญาณอนาลอก ภาคแปลงสัญญาณดิจิตอลและภาคแสดงผล

ง.ภาครับสัญญาณดจิ ติ อล ภาคแปลงสัญญาณอนาลอกและภาคแสดงผล

37.จงอธบิ ายหลกั การทางานของเคร่อื งวดั ไฟฟา้ แบบดิจิตอล

ก. ภาครับสัญญาณอนาลอกรับสัญญาณทว่ี ดั ภาคประมวลผลทาการประมวลผลและสง่ ผลการวดั

ไปทีภ่ าคแสดง

ข.ภาครบั สัญญาณดิจิตอลรบั สญั ญาณท่ีวดั ภาคประมวลผลทาการประมวลผลและส่งผลการวัด

ไปทีภ่ าคแสดงผล

ค.ภาครับสญั ญาณอนาลอกรับสัญญาณทีว่ ัด ภาคแปลงสญั ญาณดจิ ิตอลทาการแปลงสัญญาณทวี่ ัด

และสง่ ผลไปที่ภาคแสดงผล

ง.ภาครับสญั ญาณดจิ ิตอลรับสญั ญาณทว่ี ดั ภาคแปลงสญั ญาณอนาลอกทาการแปลงสัญญาณและ

ส่งผลไปทภี่ าคแสดงผล

38.จงบอกการประยกุ ตส์ รา้ งเครอื่ งวดั ไฟฟ้าแบบดจิ ติ อลท่ีเปน็ เครอื่ งวัดไฟฟา้

ก. โวลต์มิเตอร์แบบดจิ ติ อล ข.แอมมเิ ตอร์แบบดิจิตอล

ค.มลั ตมิ ิเตอร์แบบดจิ ติ อล ง.ถกู ทกุ ข้อง

39.ขอ้ ใดอธิบายข้อดีและข้อเสยี ของเคร่ืองวัดไฟฟา้ แบบดจิ ิตอลได้ถกู ต้อง

ก.เครื่องวดั ดิจิตอลอ่านคา่ ไดง้ ่ายเพราะวา่ แสดงผลการวัดแบบดจิ ติ อล

ข.เครอ่ื งวดั แบบดิจติ อลอา่ นค่าได้ง่ายเพราะว่าแสดงผลการวดั เป็นเลขฐานสอง

ค.เครื่องวัดแบบดิจติ อลอ่านค่าไดง้ ่ายเพราะว่าแสดงผลการวดั เปน็ เลขฐานสิบ

ง.เครอื่ งวัดแบบดิจติ อลอ่านค่าได้ง่ายเพราะว่าแสดงการวดั เปน็ เลขฐานสิบหก

40.การบารงุ รักษาเคร่ืองวัดไฟฟา้ หมายถงึ

ก.การกระทาใด ๆ ที่ทาให้ความคลาดเคล่ือนของเครื่องวัดไฟฟา้ มคี า่ ลดลง

ข.การกระทาใด ๆ ทที่ าให้อายุการใช้งานของเครื่องวดั ไฟฟ้า

ค.การกระทาใด ๆ ท่ที าให้เคร่ืองวัดไฟฟ้าสามารถวดั ค่าได้แม่นยาย่งิ ข้ึน

ง.การกระทาใด ๆ ที่ทาใหค้ วามไวของเคร่ืองวดั ไฟฟ้ามี่ค่ามากข้ึน

41.ทาไมตอ้ งการปรับตาแหน่งในเขม็ ชี้ ช้ีตาแหน่ง 0 โอห์ม ( Zero ohm adjust ) ก่อนทาการวัดหรอื ทุกครง้ั
ทเี่ ปลยี่ นย่านวดั

ก.เพราะวา่ ตาแหนง่ 0 โอหม์ อยทู่ างด้านขวามือ
ข.เพราะวา่ จะทาให้ความไวของโอหม์ มิเตอร์มีคา่ มากย่ิงขน้ึ
ค.เพราะวา่ เป็นการตรวจสอบว่าโอห์มมเิ ตอร์ทางานได้ตามปกติ
ง.เพราะว่าจะทาให้คา่ ความต้านทานไฟฟา้ ท่ีวดั ได้มคี วามถูกต้อง
42.ทาไมต้องจดั เกบ็ มัลติมิเตอรช์ นิดขดลวดเคล่ือนทไี่ ว้ในตู้ไม้ไม่เก็บไวใ้ นตู้เหลก็
ก.เพราะวา่ จะทาให้แม่เหล็กถาวรของมลั ติมิเตอรเ์ ส่ือมเร็วจนเกนิ ไป
ข.เพราะว่าตู้เหล็กจะทาใหแ้ ม่เหลก็ ถาวรของมลั ตมิ ิเตอร์ไดร้ ับอานาจแม่เหลก็ เพ่ิมขึ้น
ค.เพราะว่าตูเ้ หล็กจะทาใหเ้ กิดการกรบกวนของสนามแมเ่ หล็กของแม่เหลก็ ถาวรของมลั ติมเิ ตอร์
ง.ไม่มีข้อถูก
43.ทาไมเมอ่ื เลกิ ใช้งานดิจิตอลมลั ตมิ เิ ตอร์ต้องปิดสวติ ช์ไปทต่ี าแหนง่ ปิด ( off ) ทุกคร้ัง
ก.เพราะวา่ เป็นการยืดอายกุ ารใชง้ านของแบตเตอร์รี่
ข.เพราะว่าเปน็ การยดื อายุการใชง้ านของมัลติมิเตอรื
ค.เพราะวา่ เป็นการยนื อายุการใชง้ านของหนา้ จอมัลติมิเตอร์
ง.เพราะวา่ เปน็ การยดื อายกุ ารใชข้ องวงจรภายในของมิเตอร์
44.ทาไมไม่ควรนาวตั ต์มเิ ตอร์ไปวัดกาลังไฟฟา้ ในบริเวรท่ีมีสนามแม่เหลก็ หนาแน่น
ก.เพราะว่าจะทาให้เกิดความคลาดเคลอื่ นเนื่องจากวัตต์แบบอิเลก็ ทรอไดนามิกทางานโดยอาศัย
อานาจแม่เหล็กถาวร
ข.เพราะว่าจะทาให้เกิดความคลาดเคลอ่ื นเนื่องจากวัตต์มิเตอร์แบบอเิ ลก็ ทรอไดนามิกทางานโดย
อาศัยแมเ่ หล็กไฟฟ้า
ค.เพราะวา่ จะทาให้เกดิ ความคลาดเคลื่อนเน่ืองจากวัตต์มเิ ตอร์แบบอิเล็กทรอไดนามิกทางานโดย
อานาจกระแสไฟฟ้า
ง.เพราะว่าจะทาใหเ้ กดิ ความคลาดเคลอ่ื นเนื่องจากวัตตม์ ิเตอร์แบบอเิ ล็กทรอไดนามิกทางานโดยอาศัย
อานาจแรงดันไฟฟา้
45.ทาไมไม่ควรเคลื่อนย้ายเครือ่ งวดั รูปคลื่นสัญญาณไฟฟา้ ขณะทกี่ าลงั ทางาน
ก.เพราะวา่ อาจทาให้หน้าจอภาพเสยี หาย
ข.เพราะอาจทาให้ไส้หลอดคาโทดขาด
ค.เพราะว่าทาให้เกิดความคลาดเคลอื่ นในการวดั
ง.เพราะว่าอาจทาใหเ้ กิดการลัดวงจรภายในเคร่ืองวัดรปู คลื่นสญั ญาณไฟฟา้
46.เครอื่ งวดั ไฟฟ้าชนิดแกนเหลก็ เคลื่อนท่ีทน่ี ยิ มประยุกต์สร้างเป็นเคร่อื งวดั ไฟฟ้าชนิดใด
ก.โวลต์มิเตอร์กระแสตรง ข.แอมป์มเิ ตอร์กระแสตรง
ค.โวลต์มิเตอร์กระแสสลับ ง.โอหม์ มิเตอร์

47.ขอ้ ใดต่อไปนก้ี ล่าวถึงข้อดีของเครอื่ งวดั ไฟฟ้าชนดิ แกนเหล็กเคลอ่ื นที่ไดถ้ ูกต้อง

ก.มคี วามไวสงู ไม่มีความคลาดเคลอ่ื นเน่ืองจากฮสิ เตอเรซีส
ข.สเกลเปน็ แบบเชิงเส้น สปรงิ กน้ หอยทที่ าหน้าที่สร้างแรงบิดควบคุมอาจล้า
ค.ราคาถูกและแข็งแรง
ง.สเกลไม่เชงิ เสน้ มีความคลาดเคลอ่ื นเน่ืองจากอิทธิพลของสนามแม่เหล็กภายนอก
48.ขอ้ ใดต่อไปนก้ี ล่าวถึงข้อเสียของเคร่อื งวัดไฟฟ้าชนดิ แกนเคลือ่ นท่ีไดถ้ ูกตอ้ ง

ก.มีความไวสงู ไมม่ ีความคลาดเคลื่อนเนื่องจากฮสิ เตอเรซีส

ข.สเกลเป็นแบบเชิงเส้น สปรงิ ก้นหอยทีท่ าหน้าทส่ี ร้างแรงบดิ ควบคุมอาจล้า

ค.ราคาถกู และแขง็ แรง

ง.สเกลไมเ่ ชิงเส้น มคี วามคลาดเคลอ่ื นเน่ืองจากอิทธิพลของสนามแม่เหลก็ ภายนอก

49.ขอ้ ใดไม่ใช่โครงสรา้ งเครื่องวัดไฟฟา้ ชนดิ ขดลวดเคล่ือนท่ี

ก.สปริงกห้ อย ข.แกนเหลก็ แข็ง

ค.เขม็ ช้ีพร้อมน้าหนกั สมดุล ง.ขวดลวดเคลอ่ื นท่พี ันบนกรอบอลมู เิ นียม

50.หลกั การทางานของเครื่องวัดไฟฟา้ ชนดิ ขดลวดเคล่ือนท่ีคอื

ก.ข้ัวเหล็กไฟฟา้ ที่ขดลวดเคลื่อนทผี่ ลักกับขวั้ แม่เหล็กถาวร

ข.ขั้วแม่เหล็กไฟฟ้าท่ีขดลวดอยกู่ ับท่ผี ลกั กับข้ัวแม่เหล็กถาวร

ค.ขวั้ แมเ่ หลก็ ไฟฟา้ ที่ขดลวดตา้ นกับสปรงิ กน้ หอย

ง.สปรงิ ก้นหอย แมเ่ หล็กถาวรและขดลวดเคลื่อนท่ีทาใหเ้ ข็มชี้เคล่ือนท่ี
51.หนา้ ท่ขี องสปรงิ กน้ หอยคือ

ก.สรา้ งแรงบิดหนว่ ง ข.สรา้ งแรงบดิ ควบคุมและเปน็ ทางเดนิ ของกระแสไฟฟา้
ค.สร้างแรงบดิ ควบคุม ง.สร้างแรงบิดหนว่ งและแรงบ่ายเบนร่วมกัน
52.ขอ้ ใดเป็นหลกั การขยายย่านวดั แรงดนั ไฟฟ้าของโวลต์มเิ ตอร์
ก.นาตัวตา้ นทาไฟฟา้ มาต่ออนุกรมกบั เคร่ืองวัดไฟฟ้าชนิดขดลวดเคลื่อนที่

ข.นาตัวตา้ นทานไฟฟ้ามาต่อขนาดกบั เคร่ืองวัดไฟฟา้ ชนดิ ขดลวดเคลอ่ื นท่ี

ค.นาตัวตา้ นทานไฟฟ้ามาต่อผสมกบั เคร่ืองวัดไฟฟ้าชนิดขดลวดเคลือ่ นที่

ง.นาเอาโวลตม์ ิเตอรห์ ลายๆ เครอื่ งมาตอ่ อนกุ รมเขา้ ด้วยกนั

53.กระแสไฟฟ้า หมายถึงอะไร

ก.กระแสไฟฟา้ ที่ไหลผา่ นแอมมิเตอร์
ข.กระแสไฟฟา้ ที่ไหลผา่ นขดลวดอยกู่ บั ท่ี
ค.กระแสไฟฟา้ ท่ีไหลผ่านแอมมิเตอรแ์ ล้วทาให้เข็มช้เี ต็มสเกล

ง.กระแสไฟฟ้าที่ไหลผา่ นแอมมิเตอร์แลว้ ทาให้เข็มชีค้ รึ่งสเกล

54.แรงดนั ไฟฟ้า หมายถงึ อะไร

ก.แรงดันไฟฟา้ ทไ่ี หลผ่านแอมมิเตอร์

ข.แรงดันไฟฟ้าท่ไี หลผ่านขดลวดอย่กู บั ที่

ค.แรงดนั ไฟฟ้าที่ไหลผ่านแอมมเิ ตอรแ์ ล้วทาใหเ้ ขม็ ชค้ี รึ่งสเกล

ง.แรงดนั ไฟฟา้ ที่ไหลผ่านแอมมิเตอรแ์ ลว้ ทาให้เขม็ ช้เี ต็มสเกล

55.ข้อใดเปน็ หลักการขยายย่านวัดกระแสไฟฟ้าของแอมมิเตอร์

ก.นาตัวตา้ นทานไฟฟ้ามาต่ออนกุ รมกบั เครอ่ื งวดั ไฟฟา้ ชนิดขดลวดเคลื่อนที่

ข.นาตวั ตา้ นทานไฟฟ้ามาต่ออนกุ รมกับเครอ่ื งไฟฟ้าชนิดขดลวดเคลื่อนท่ี

ค.นาตัวต้านทานไฟฟ้ามาต่อผสมกบั เครื่องวดั ไฟฟ้าชนิดขดลวดเคลอ่ื นท่ี

ง.นาเอาแอมมเิ ตอรห์ ลายๆ เคร่อื งมาต่อขนานเข้าดว้ ยกนั

56.ขอ้ ใดเป็นคุณลักษณะแรงดนั ไฟฟา้ และกระแสไฟฟา้ ของไดโอต

ก.ไดดอตไดร้ ับแรงดนั บวกเข้าท่แี อโนดและแรงดันลบท่ีข้ัวแคโธดทาใหไ้ ดโอดไมน่ ากระแส

ข.ไดโอดไดร้ ับแรงดันบวกเขา้ ท่ขี ัว้ แอโนดและแรงดันลบท่ีข้ัวแคโธดทาให้ไดโอดนากระแส

ค.ไดโอดไดร้ บั แรงดนั บวกเขา้ ท่ีขัว้ แคโธดและแรงดนั ลบทขี่ ั้วแอโนดทาใหไ้ ดโอดนากระแส

ง.ต้องจ่ายแรงดันไฟฟ้าบวกเข้าทแี่ คโธดและขว้ั แอโนดจงึ ทาใหไ้ ดโอดนากระแส

57.ถา้ Vac ทีจ่ายให้แก่เครือ่ งวดั ไฟฟ้ากระแสสลับชนิดเรยี งกระแสแบบครึ่งคลน่ื เท่ากับ

100 v จงคานวณหาค่า Vac

ก. 45 V ข. 50 V ค. 90 V ง. 100 V

58. ขอ้ ใดเป็นความหมายของการขยายยา่ นวดั ความตา้ นทานไฟฟา้ ของโวลต์มเิ ตอร์แบบอนุกรม

ก.การทาให้โอห์มมเิ ตอร์มีค่าความต้านทานไฟฟา้ ได้มากขนึ้

ข.การทาใหโ้ อห์มมิเตอรส์ ามารถวัดค่าความต้านทานไฟฟ้าได้มากข้นึ

ค.การทาให้โอห์มมิเตอร์แบบอนกุ รมมีคา่ ความตา้ นทานไฟฟา้ มากขึ้น

ง.การทาให้โอห์มมเิ ตอรแ์ บบอนุกรมสามารถวดั คา่ ความต้านทานไฟฟ้าไดม้ ากขน้ึ

59.มลั ตมิ ิเตอร์ หมายถึง

ก.เคร่อื งวัดไฟฟ้าทส่ี ามารถวดั ปริมาณไฟฟา้ ได้อย่างน้อย 1 คา่

ข.เคร่ืองวัดไฟฟ้าทสี่ ามารถปริมาณไดส้ องค่า

ค.เครอื่ งวัดไฟฟา้ ทส่ี ามารถวัดปรมิ าณไฟฟ้าทัง้ แรงเคลื่อนไฟฟา้ และกระแสไฟฟ้า

ง.เคร่อื งวัดไฟฟ้าทสี่ ามารถวัดสปริงไฟฟ้าทง้ั แรงเคล่ือนไฟฟ้า กระแสไฟฟ้าและความตา้ นทาน

60.เครอ่ื งวัดไฟฟา้ ชนดิ อิเลก็ ไดนามิก หมายถงึ เครื่องวดั ไฟฟ้าที่เปลีย่ นปรมิ าณไฟฟา้ ที่วดั เป็นปริมาณทางกล
แล้วทาให้เขม็ ช้ีคา่ ปราณท่วี ดั บนสเกล

ก.โดยอาศัยผลของสนามแม่เหลก็ ไฟฟ้าจานวน 2 สนาม
ข.โดยอาศยั ผลของสนามแม่เหล็กไฟฟา้ ถาวรจานวน 2 สนาม
ค.โดยอาศัยผลของสนามแมเ่ หล็กไฟฟา้ จานวน 1 สนาม
ง.โดยอาศยั ผลของสนามแมเ่ หลก็ ไฟฟา้ จานวน 1 สนาม และสนามแม่เหลก็ ถาวรจานวน 1 สนาม
61. ขอ้ ใดเปน็ โครงสรา้ งของเคร่อื งวดั ไฟฟ้าอเิ ล็กทรอไดนามิกแบบมีแกนเหล็ก
ก.ขดลวดสนามแม่เหล็กไฟฟา้ แม่เหลก็ ถาวร เข็มช้แี ละสเกล
ข.ขดลวดสนามแม่เหลก็ ไฟฟา้ ห้องอากาศ เข็มช้ีและสเกล
ค.ขดลวดสนามแมเ่ หล็กไฟฟ้าถาวร ห้องอากาศ เขม็ ช้ีสเกล
ง.แม่เหลก็ ไฟฟ้าอยู่กับท่ี แมเ่ หล็กถาวร เขม็ ชีแ้ ละสเกล
62. จงอธบิ ายหลักการทางานของเครอื่ งวัดไฟฟา้ อเิ ลก็ ทรอไดนามกิ แบบมีแกนเหลก็
ก.แรงผลกั ของสนามแม่เหลก็ ไฟฟ้าทีเ่ หมือนกนั ทาให้ขดลวดเคล่อื นท่ีไปทางดา้ นขวามือ
ข.แรงผลกั ของสนามแมเ่ หล็กไฟฟา้ ถาวรทีเ่ หมือนกันทาให้ขดลวดเคลอื่ นท่ีไปทางด้านขวามือ
ค.แรงผลักของสนามแม่เหลก็ ไฟฟ้าและแม่เหลก็ ไฟฟ้าถาวรทเี่ หมอื นกันทาให้ขดลวดเคล่ือนท่ไี ป
ทางดา้ นขวามือ
ง.แรงผลักของสนามแมเ่ หล็กไฟฟ้าและแม่เหลก็ ไฟฟ้าถาวรทเ่ี หมอื นกันทาให้ขดลวดเคลื่อนท่ีไป
ทางดา้ นซา้ ยมอื
63.จากรูปจงอธบิ ายหลักการทางานของเคร่ืองวัดไฟฟา้ อิเลก็ ทรอไดนามิกแบบมีแกนเหลก็
ก.เข็มชจ้ี ะเคลื่อนท่ีไปทางดา้ นขวามอื เพราะแรงผลกั ของข้ัวแม่เหลก็ ไฟฟา้
ข.เขม็ ชีจ้ ะเคลื่อนท่ีไปทางดา้ นซา้ ยมอื เพราะแรงผลักของขั้วแมเ่ หล็กไฟฟ้า
ค.เขม็ ชี้จะไม่เคล่ือนท่ีไปทางด้านขวามือเพราะแรงผลกั ของขว้ั แม่เหลก็ ไฟฟา้
ง.เขม็ ชีจ้ ะเคล่ือนที่ไปทางด้านซา้ ยมือเพราะแรงผลักของขั้วแม่เหลก็ ไฟฟา้
64.จากรูปจงอธบิ ายหลักการทางานของเครื่องวัดไฟฟา้ อเิ ลก็ ทรอไดนามิกแบบมีแกนเหลก็
ก.เขม็ ชีจ้ ะเคลอื่ นท่ีไปทางด้านขวามอื เพราะแรงผลกั ของขั้วแมเ่ หล็กไฟฟ้า
ข.เขม็ ชี้จะเคล่ือนที่ไปทางดา้ นซ้ายมือเพราะแรงผลักของข้ัวแม่เหลก็ ไฟฟา้
ค.เขม็ ชีจ้ ะไม่เคลื่อนท่ีไปทางด้านขวามอื เพราะแรงผลักของขว้ั แมเ่ หล็กไฟฟ้า
ง.เข็มชจ้ี ะเคล่ือนที่ไปทางด้านซ้ายมือเพราะแรงผลกั ของข้วั แม่เหลก็ ไฟฟา้
65.ถา้ เขม็ ช้ีของเคร่ืองวดั ไฟฟ้าอิเลก็ ทรอไดนามิกแบบมีแกนเหล็กบา่ ยเบนไปทางด้านซ้ายมอื
จะต้องแก้ไขอยา่ งไร
ก.สลับปลายสายของขดลวดเคลือ่ นทีเ่ พียง 1 ชุด ข.สลับปลายสายของขดลวดอยู่ทเ่ี พยี ง 1 ชดุ
ค.สลับปลายสายของขดลวดเคลอ่ื นทแ่ี ละขดลวดอย่กู ับที่ ง.ถูกทง้ั ข้อ ก และ ข

66.เครื่องวดั ไฟฟ้าชนิดอิเลก็ ทรอไดนามิกแบบแกนเหล็กนยิ มประยุกต์สรา้ งเป็นเคร่ืองวัดไฟฟา้ ชนิดใด
ก. โอหม์ มเิ ตอร์ แอมมิเตอร์และวตั ตม์ ิเตอร์
ข.โอห์มมิเตอร์ แอลมิเตอร์และวตั ตม์ ิเตอร์
ค.โอห์มมิเตอร์ อารม์ ิเตอร์และวตั ตม์ ิเตอร์
ง.โอหม์ มิเตอร์ โอห์มมิเตอรแ์ ละวตั ต์มิเตอร์

67.ข้อใดเป็นโครงสร้างของเครอ่ื งวัดไฟฟ้าอิเล็กทรอไดนามิกแบบไมม่ แี กนเหลก็
ก.ขดลวดสนามแม่เหลก็ ไฟฟา้ แม่เหล็กถาวร เขม็ ชีแ้ ละสเกล
ข.ขดลวดสนามแมเ่ หลก็ ไฟฟ้า หอ้ งอากาศ เข็มชแี้ ละสเกล
ค.ขดลวดสนามแมเ่ หล็กไฟฟ้าถาวร หอ้ งอากาศ เขม็ ชีส้ เกล
ง.แมเ่ หลก็ ไฟฟ้าอยู่กบั ที่ แม่เหล็กถาวร เขม็ ชี้และสเกล

68.ขอ้ ใดเป็นหลกั การทางานของเครอื่ งวัดไฟฟา้ อเิ ล็กทรอไดนามกิ แบบไม่มเี หลก็
ก.สนามแม่เหลก็ ไฟฟา้ ของขดลวดเคล่ือนทจ่ี ัดเรียงขัว้ แมเ่ หลก็ ให้อยู่ในแนวเดียวกันกับสนามแม่เหล็ก
ไฟฟ้าของขดลวด
ข.สนามแม่เหลก็ ไฟฟา้ ของขดลวดเคลือ่ นทจี่ ัดเรยี งข้ัวแม่เหลก็ ให้อย่ใู นแนวเดยี วกนั กบั สนามแมเ่ หล็ก
ไฟฟ้าถาวรของขดลวด
ค.สนามแมเ่ หล็กไฟฟ้าของขดลวดเคลื่อนท่จี ะผลักกนั กบั สนามแมเ่ หล็กไฟฟา้ ของขดลวดอยูก่ บั ท่ี
ง.สนามแม่เหลก็ ไฟฟ้าถาวรของขดลวดเคลื่อนที่จะผลักกันกบั แมเ่ หลก็ ไฟฟา้ ของขดลวดอยูก่ บั ท่ี

69.เครอ่ื งวัดไฟฟา้ อเิ ลก็ ทรอไดนามกิ แบบไม่มีแกนเหล็กไปประยกุ ต์สรา้ งเป็นเครื่องวัดอะไรได้บา้ ง
ก. โอห์มมเิ ตอร์ แอมมิเตอร์และวัตต์มิเตอร์
ข.โอหม์ มิเตอร์ แอลมิเตอรแ์ ละวตั ตม์ ิเตอร์
ค.โอห์มมเิ ตอร์ อาร์มเิ ตอรแ์ ละวตั ต์มเิ ตอร์
ง.โอห์มมเิ ตอร์ โอห์มมิเตอรแ์ ละวัตต์มิเตอร์

70.ข้อใดเป็นข้อเสียของเครื่องวดั ไฟฟ้าชนิดอเิ ล็กทรอไดนามกิ แบบไมม่ ีแกนเหลก็
ก.เม่อื ทาหน้าท่เี ปน็ โวลตม์ ิเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสสลบั สเกลจะเป็นเชงิ เส้น
ข.เมื่อทาหน้าทเี่ ป็นวตั ตม์ เิ ตอรส์ เกลจะไม่เป็นเชงิ เสน้
ค.เม่อื ทาหน้าทเี่ ป็นวตั ต์มิเตอร์สเกลจะเป็นเชิงเส้น
ง. สร้างยาก ราคาแพง

71.ขอ้ ใดเปน็ ข้อดีของเครอื่ งวัดไฟฟ้าชนิดอิเล็กทรอไดนามิกแบบไม่มีแกนเหลก็
ก.สรา้ งเปน็ เครอ่ื งวัดไฟฟา้ ได้ท้ังกระแสตรงและกระแสสลับ
ข.เมอื่ ทาหน้าที่เปน็ แอมมิเตอร์สเกลจะเป็นเชิงเสน้
ค.เมื่อทาหน้าท่เี ปน็ โวลต์มิเตอร์สเกลจะเป็นเชงิ เส้น
ง.สร้างง่าย ราคาถกู

72.เครอื่ งวดั ไฟฟา้ ชนดิ ขดลวดขวางแบบมีแกนเหลก็ หมายถึง เคร่ืองวดั ไฟฟ้าทีเ่ ปล่ียนปริมาณไฟฟา้ ทีว่ ดั เป็น

ปรมิ าณทางกลแลว้ ทาให้เขม็ ชีค้ า่ ปรมิ าณท่วี ดั บนสเกลโดยอาศยั แรงผลักของ

ก.อานาจแม่เหล็กไฟฟ้าของขดลวด 2 ชดุ ท่วี างไข้วกันหรือขวางกันและสนามแม่เหลก็ ไฟฟ้าของ

ขดลวดอย่กู ับท่ี

ข.อานาจแม่เหล็กไฟฟ้าของขดลวด 2 ชดุ ทีว่ างไข้วกนั หรอื ขวางกนั และสนามแม่เหลก็ ไฟฟา้ ของ

ขดลวดเคลอ่ื นที่

ค.อานาจแม่เหล็กไฟฟ้าถาวรของขดลวด 2 ชุดท่วี างไข้วกนั หรอื ขวางกนั และสนามแมเ่ หลก็ ไฟฟ้าของ

ขดลวดอย่กู บั ท่ี

ง.อานาจแมเ่ หลก็ ไฟฟา้ ของขดลวด 2 ชุดที่วางไข้วกนั หรอื ขวางกันและสนามแม่เหล็กไฟฟา้ ถาวร

เคลอ่ื นท่ี

73.โครงสรา้ งขอ้ ใดไมใ่ ช่เครื่องวดั ไฟฟ้าชนดิ ขดลวดขวางแบบมแี กนเหลก็

ก.ขดลวดเคลอ่ื นท่ี ข.ขดลวดอยกู่ บั ท่ี

ค.สปรงิ กน้ หอย ง.ไมม่ ีข้อใดถกู

74.จงอธิบายหลกั การทางานของเคร่ืองวดั ไฟฟา้ ชนิดขดลวดขวางแบบมีแกนเหลก็

ก.แรงผลกั ของสนามแมเ่ หลก็ ไฟฟ้าชนิดขดลวดขวางและขดลวดอย่กู บั ที่ทเ่ี หมือนกนั ทาให้เข็มช้ี

เคลือ่ นท่ีไปชคี้ า่ บนสเกล

ข.แรงผลกั ของสนามแม่เหลก็ ไฟฟ้าถาวรชนดิ ขดลวดขวางและขดลวดเคลอื่ นทที่ ี่เหมือนกันทาใหเ้ ข็มชี้

เคล่ือนที่ไปชี้ค่าบนสเกล

ค.แรงผลกั ของสนามแมเ่ หล็กไฟฟ้าชนดิ ขดลวดขวางและแมเ่ หล็กไฟฟา้ ถาวรที่เหมือนกนั ทาให้เขม็ ช้ี

เคล่อื นท่ีไปชีค้ ่าบนสเกล

ง.แรงผลักของสนามแมเ่ หล็กไฟฟ้าชนิดขดลวดอยู่กับทแี่ ละแม่เหลก็ ไฟฟา้ ถาวรที่เหมือนกันทาให้เขม็ ช้ี

เคลือ่ นที่ไปช้ีคา่ บนสเกล

75.เคร่อื งวดั ไฟฟา้ ชนิดขดลวดแบบมแี กนเหล็กนยิ มประยุกตส์ ร้างเป็นเคร่อื งวดั ไฟฟา้ ชนิดใด

ก.วตั ต์มเิ ตอร์ ข. กโิ ลวัตตช์ ั่วโมงมิเตอร์ ค.แอมป์มเิ ตอร์ ง.เพาเวอร์แฟกเตอร์มเิ ตอร์

76.เครอื่ งวัดไฟฟ้าชนิดขดลวดขวางแบบไมม่ ีแกนเหลก็ หมายถึง เคร่ืองวดั ไฟฟา้ ทเ่ี ปลี่ยนปรมิ าณไฟฟา้ ท่ีวัดให้

เป็นปรมิ าณทางกลแล้วทาใหเ้ ข็มชีค้ า่ ปรมิ าณทวี่ ดั บนสเกลโดยอาศัยแรงผลกั ของ

ก.อานาจแม่เหลก็ ไฟฟ้าของขดลวดขวาง 2 ชดุ ท่ไี มม่ แี กนเหลก็ ซึง่ วางไห้วกนั หรือขวางกันกบั

สนามแมเ่ หล็กไฟฟ้าของขดลวดอยูก่ ับที่

ข.อานาจแม่เหล็กไฟฟ้าของขดลวดขวาง 2 ชดุ ทีไ่ มม่ ีแกนเหล็กซ่งึ วางไห้วกันหรือขวางกันกับ

สนามแมเ่ หลก็ ไฟฟ้าของขดลวดเคลื่อนที่

ค.อานาจแมเ่ หล็กถาวรของขดลวดขวาง 2 ชุด ทไ่ี ม่มแี กนเหล็กซ่ึงวางไห้วกนั หรือขวางกันกับ

สนามแม่เหล็กไฟฟา้ ของขดลวดอยู่กบั ท่ี

ง.อานาจแม่เหล็กไฟฟา้ ของขดลวดขวาง 2 ชุด ทไี่ ม่มแี กนเหล็กซงึ่ วางไหว้ กันหรือขวางกัน

77.ข้อใดเปน็ โครงสร้างของเคร่ืองวัดไฟฟา้ ชนิดขดลวดแบบไมม่ เี หลก็

ก.ขดลวดสนามแมเ่ หล็กไฟฟ้าชนิดขดลวดทไี่ ม่มแี กนเหล็ก แม่เหลก็ ถาวร เข้มชี้และสเกล

ข.ขดลวดสนามแม่เหลก็ ไฟฟ้าชนิดขดลวดที่ไม่มีแกนเหล็ก หอ้ งอากาศ เขม้ ชแ้ี ละสเกล

ค.ขดลวดสนามแมเ่ หลก็ ไฟฟา้ ชนดิ ขดลวดท่ไี ม่มีแกนเหล็ก ห้องอากาศ เข้มช้ีสเกล

ง.แผน่ เหล็กอยูก่ บั ทีช่ นิดขดลวดท่ไี มม่ ีแกนเหลก็ ห้องอากาศ เขม้ ชแ้ี ละสเกล

78.โครงสร้างขอ้ ใดไมใ่ ชเ้ ครื่องวัดไฟฟา้ ชนดิ ขดลวดแบบไม่มีแกนเหล็ก

ก.ขดลวดขวาง ข.ขดลวดอยกู่ บั ท่ี ค.แมเ่ หล็กถาวร ง.แกนเหลก็ เคล่อื นท่ี

79.จงอธบิ ายหลกั การทางานของเคร่อื งวัดไฟฟา้ ชนิดขดลวดขวางแบบไมม่ ีแกนเหล็ก

ก.สนามแม่เหล็กไฟฟา้ ชนิดขดลวดขวางท่ีไม่มแี กนเหล็กจะจัดเรียงขวั้ แม่เหล็กในแนวเดยี วกับกบั

ขัว้ แม่เหลก็ ของลวดอยู่กับท่ีแล้วทาให้เข็มช้เี คล่ือนทไี่ ปช้ีค่าบนสเกล

ข.สนามแมเ่ หล็กไฟฟ้าชนิดขดลวดขวางที่ไม่มีแกนเหล็กจะจัดเรยี งข้วั แม่เหล็กขดลวดเคล่ือนทใ่ี นแนว

เดยี วกับกบั ขัว้ แมเ่ หล็กของลวดอยูก่ บั ทแี่ ล้วทาใหเ้ ข็มชเ้ี คลอื่ นที่ไปชค้ี ่าบนสเกล

ค.สนามแมเ่ หล็กไฟฟ้าชนิดขดลวดขวางที่ไม่มีแกนเหล็กจะจัดเรียงข้วั แมเ่ หล็กถาวรในแนวเดียวกับกับ

ขัว้ แม่เหล็กของลวดอยู่กับท่ีแล้วทาให้เข็มชเ้ี คลื่อนที่ไปชี้คา่ บนสเกล

ง.สนามแม่เหล็กไฟฟา้ ชนดิ ขดลวดขวางที่ไม่มแี กนเหล็กจะจัดเรยี งขั้วแม่เหล็กขดลวดอยู่กับที่และ

แม่เหล็กถาวรในแนวเดยี วกับกับข้วั แม่เหลก็ ของลวดอย่กู ับทีแ่ ล้วทาใหเ้ ข็มชี้เคล่ือนท่ีไปชี้ค่าบนสเกล

80. เคร่อื งวดั เพาเวอร์แฟกเตอร์ หมายถึง เครือ่ งวดั ไฟฟ้าท่ีทาหนา้ ท่ีวัด

ก. ค่า sin ของมุมระหวา่ งกระแสไฟฟา้ กับแรงดนั ไฟฟา้ กระแสสลับรูปไซน์ของภาระไฟฟ้าชนดิ ต่างๆ

ข. คา่ cos ของมุมระหวา่ งกระแสไฟฟ้ากับแรงดันไฟฟา้ กระแสสลับรูปไซนืของภาระไฟฟา้ ชนิดตา่ งๆ

ค. ค่า tan ของมมุ ระหวา่ งกระแสไฟฟ้ากับแรงดันไฟฟ้ากระแสสลับรูปไซนืของภาระไฟฟ้าชนิดตา่ งๆ

ง. คา่ cosec ของมมุ ระหวา่ งกระแสไฟฟ้ากับแรงดนั ไฟฟา้ กระแสสลบั รปู ไซนืของภาระไฟฟ้าชนิดตา่ งๆ

81. ข้อใดเปน็ โครงสร้างของเครอ่ื งวัดเพาเวอร์แฟกเตอร์ชนิด 1 เฟส

ก. ขอลองอยู่กบั ท่พี ันบนแมเ่ หล็กถาวร ขอลวดขวาง สากล เข็มชี้ สปรงิ กน้ หอย

ข. ขอลองอยกู่ บั ท่ีพันบนแมเ่ หล็กอ่อน ขอลวดขวาง สากล เข็มชี้ สปรงิ กน้ หอย

ค. ขอลองอยู่กับท่ีพนั บนแมเ่ หล็กถาวร ขอลวดขวาง สากล เข็มช้ี หอ้ งอากาศ

ง. ขอลองอยู่กับที่พันบนแมเ่ หล็กอ่อน ขอลวดขวาง สากล เข็มชี้ ห้องอากาศ

82. เครอื่ งวดั ไฟฟา้ ชนิดเหน่ียวนา หมายถงึ เคร่ืองวดั ไฟฟา้ ที่ทาหน้าทเ่ี ปล่ยี นปริมาณไฟฟ้าที่วดั ให้เป็นปริมาณ

ทางกลโดยอาศยั

ก. หลักการเหน่ียวนาแลว้ ทาใหส้ ว่ นเคลือ่ นทพี่ าเข็มช้ีค่าบนสเกล

ข. หลกั การเหนยี่ วนาแลว้ ทาใหจ้ านหมุนหมุนไปสะสมปรมิ าณไฟฟา้ ที่ทาการวัด

ค. หลักการเหน่ยี วนาแล้วทาให้จานหมุนไปชี้ค่าปริมาณไฟฟ้าทว่ี ดั บนสเกล

ง. หลกั การเหนยี่ วนาแล้วทาใหส้ ว่ นเคร่ืองที่พาเข็มชี้หรือส่วนอน่ื ใดใหเ้ คลือ่ นที่ออกจากตาแหนง่

เติมไปช้ีหรือบอกค่าปริมาณไฟฟ้าท่ีวดั บนสเกลหรือไปสะสมปรมิ าณไฟฟ้าที่ทาการวดั

83. ขอ้ ใดเป็นเคร่ืองวัดไฟฟา้ ชนดิ เหนีย่ วนาทีแ่ บ่งตามโครงสร้างได้ดงั น้ี

ก. แบบจานหมนุ และแบบเขม็ ชี้
ข. แบบจานหมนุ และแบบเหน่ียวนา
ค. แบบเขม็ ช้แี ละแบบทรงกระบอกหมุน
ง. แบบจานหมุนและแบบทรงกระบอกหมนุ
84. จงอธิบายเหลก็ การทางานของเคร่อื งวัดไฟฟา้ ชนิดเหนี่ยวนา 1 เฟสแบบจานหมนุ

ก. เมื่อจ่ายไฟฟ้ากระแสตรงเข้าระหว่างจุด AB จะทาให้เกดิ การเหนี่ยวนาจานหมนุ จะเคลื่อนท่ี

ข. เมื่อจา่ ยไฟฟ้ากระแสเสลับระหวา่ งจุด AB จะทาให้เกิดการเหน่ียวนาจานหมนุ จะเคล่ือนที่

ค. เมื่อจ่ายไฟฟ้ากระแสสลบั ระหว่างจุด CD จะทาใหเ้ กิดการเหนยี่ วนาจานหมุนจะเคลอ่ื นที่

ง. เม่ือจา่ ยไฟฟ้ากระแสตรงขา้ มระหว่างจุด CD จะทาใหเ้ กดิ การเหน่ียวนาจานหมุนจะเคลอื่ นท่ี

85. ขอ้ ใดไม่ถูกต้อง

ก. เครื่องวัดไฟฟ้าชนดิ เหนยี่ วนาสามารถทาสเกลได้กว้างถึง เพราะวา่ ส่วนเคลอื่ นท่ีเปน็ จากหมนุ

ข. สนามแม่เหลก็ รั่วไหลจากภายนอกมผี ลตอ่ การทางานของเครอ่ื งวดั ไฟฟ้าชนดิ เหนีย่ วนานอ้ ยกว่า
ค. สรา้ งเปน็ เครอ่ื งวดั ไฟฟ้าได้ท้งั ไฟฟา้ กระแสตรงและกระแสสลบั

ง. มีแรงบดิ หนว่ งท่ดี มี าก

86. ขอ้ ใดถูกต้อง

ก. มกี ารสญู เสียกาลังไฟฟ้าต่าเน่ืองจากการสูญของกระแสไฟฟ้าไหลวน และการสูญเสีย

ของฮสี เตอเรชสี ในจานหมนุ

ข. เมือ่ ความถ่ีไฟฟา้ กระแสสลับและอณุ หภูมเิ ปลย่ี นแปลงไปจะไม่ทาให้เกดิ ความผิดพลาด

ค. ราคาแพงและสร้างได้ยาก

ง. มีแรงบดิ หน่วงทนี่ อ้ ยมาก

87. เครอ่ื งวดั ไฟฟ้าชนิดเหนีย่ วนาสามารถประยุกต์สร้างเป็นเครอื่ งวดั ไฟฟ้าชนดิ ใด

ก. แอมมเิ ตอร์ไฟฟา้ กระแสตรง โวลตม์ ิเตอร์กระแสสลับ

ข. วตั ต์มเิ ตอรไ์ ฟฟา้ กระแสสลับ เครือ่ งวัดพลังงานไฟฟา้ กระแสสลบั

ค. วตั ตม์ เิ ตอร์ไฟฟา้ กระแสตรง เครื่องวัดพลงั งานไฟฟ้ากระแสสลบั

ง. วตั ตม์ ิเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ เคร่อื งวัดพลงั งานไฟฟ้ากระแสตรง

88. เคร่อื งวัดรูปคลืน่ สัญญาณไฟฟ้า หมายถึง เครื่องวดั ไฟฟ้าท่สี ามารถวัดไดท้ งั้

ก. ขนาดและรูปรา่ ง ข. ขนาด รปู ร่างและคาบเวลา

ค. ขนาด รปู ร่าง คาบเวลาและความถ่ี ง. ขนาด รูปร่าง คาบเวลา ความถี่และมุมเฟส

89. เสน้ สัญญาณบนหน้าจอภาพของออสซลิ โลสโคปเกิดจาก

ก. ลาอิเล็กตรอนวงิ่ ชนจอภาพเป็นเสน้ ตรง ข. ลาอิเลก็ ตรอนวิง่ ชนจอภาพเป็นจุดตอ่ เน่อื งกัน

ค. ลาอเิ ล็กตรอนวิง่ ชนจอภาพเป็นเสน้ ตรงต่อเน่ืองกัน ง. ไม่มีขอ้ ใดถกู ต้อง

90. การมองเห็นเปน็ เสน้ สญั ญาณแบบหนา้ จอภาพของออสซิลโลสโคปเกิดจากลาอิเลก็ ตรอนว่ิงชนจอภาพแล้ว
ทาให้

ก. สารฟอสเฟอร์เปล่งแสงในย่านท่ตี ามองเห็น
ข. สารฟอสฟอรสั เปล่งแสงในย่านท่ีตามองเห็น
ค. สารฟอสเฟตเปลง่ แสงในย่านทต่ี ามองเห็น
ง. สารฟอสเฟสเปล่งแสงในย่านที่ตามองเห็น
91. เม่อื จ่ายแรงดนั ไฟฟ้ากระแสตรงให้กับชุดเพลตเบ่ยี งเบนในแนวต้งั โดยให้ข้ัวบวกและข้วั ลบตอ่ เข้ากบั แผ่น
เพลตดา้ นบนและผ่านเพลตด้านลา่ งตามลาดับ ข้อใดได้ถูกตอ้ ง
ก. เส้นสญั ญาณลาอิเลก็ ตรอนจะเบ่ียงเบนลงขา้ งลา่ ง
ข. เสน้ สญั ญาณลาอเิ ลก็ ตรอนจะเบ่ียงเบนขนึ้ ข้างบน
ค. เส้นสัญญาณลาอิเล็กตรอนจะเบ่ยี งเบนไปทางดา้ นซ้าย
ง.เสน้ สญั ญาณลาอิเล็กตรอนจะเบีย่ งเบนไปทางดา้ นขวามือ
92. เม่ือจา่ ยแรงดนั ไฟฟ้ากระแสสลับรปู ไซนใ์ หก้ ับชุดเพลตเบยี่ งเบนในแนวต้ังข้อใดได้ถูกตอ้ ง
ก. เส้นสัญญาณท่หี น้าจอเคร่ืองวัดรูปคลื่นสญั ญาณกระแสสลบั รูปไซน์
ข. เสน้ สัญญาณท่ีหน้าจอเคร่อื งวดั รปู คลื่นสัญญาณไฟฟ้าจะเปน็ รปู สัญญาณกระแสสลบั รูปส่ีเหลี่ยม
ค. เสน้ สัญญาณทหี่ น้าจอเครอื่ งวัดรูปคล่ืนสัญญาณไฟฟ้าจะเป็นรปู สญั ญาณกระแสสลบั รปู สามเหล่ียม
ง. ยังไมส่ รปุ ไม่ได้
93. ขอ้ ใดเปน็ การทางาน Alternate Mode
ก. การสลบั กันทางานระหว่างชดุ เพลตเบ่ยี งเบนในแนวต้งั ชุดที่ 1และชุดท2่ี ที่ละ 1 จอภาพ
ข. การสลับกนั ทางานระหว่างชุดเพลตเบีย่ งเบนในแนวต้งั ชดุ ที่ 1และชุดท2ี่ ทลี ะจุด
ค. ถกู ทั่งข้อ ก และ ข
ง. ยังสรปุ ไม่ได้
94. ขอ้ ใดเป็นหลกั การทางานและ Chopper Mode
ก. การสลบั กันทางานระหวา่ งชุดเพลตเบี่ยงเบนในแนวตัง้ ชุดท่ี 1และชุดที2่ ท่ลี ะ 1 จอภาพ
ข. การสลบั กนั ทางานระหว่างชุดเพลตเบย่ี งเบนในแนวต้งั ชุดที่ 1และชุดท่2ี ทลี ะจุด
ค. ถกู ทง่ั ขอ้ ก และ ข
ง. ยังสรุปไม่ได้
95. ขอ้ ใดเปน็ หน้าทีข่ องปุ่ม Power on / off ของเครื่องวัดรูปคลื่นสัญญาณไฟฟ้า
ก. ปดิ เครอ่ื ง เคร่ืองวดั รปู คล่นื สญั ญาณไฟฟา้
ข. เปดิ เครือ่ ง เครือ่ งวัดรูปคลน่ื สญั ญาณไฟฟ้า
ค. ปิด – เปดิ เครอ่ื งวดั รูปคลน่ื สัญญาณไฟฟ้า
ง. ปดิ – เปิด แอลอีดี (LED)

96. ขอ้ ใดเป็นหน้าทขี่ องปุ่ม INTENS ของเครื่องวัดรปู คล่นื สญั ญาณไฟฟ้า

ก. ควบคมุ ความเข้มของเสน้ สัญญาณ

ข. ควบคุมความคมชดั ของเส้น

ค. ปิด – เปดิ เครื่องเคร่ืองวัดรูปคลนื่ สัญญาณไฟฟา้

ง. ควบคุมตาแหน่งภาพในแนวตง้ั ของช่วงท่ี 1

97. ขอ้ ใดเปน็ หน้าท่ขี องปุ๋ม Focus ของเคร่ืองวดั รปู คลื่นสัญญาณไฟฟา้

ก. ควบคมุ ความเข้มของเสน้ สญั ญาณ

ข. ควบคมุ ความคมชดั ของเสน้

ค. ปิด – เปดิ เคร่ืองเครื่องวัดรปู คลื่นสัญญาณไฟฟ้า

ง. ควบคุมตาแหน่งภาพในแนวตงั้ ของช่วงที่ 1

98. จงอธิบายหลักการตอ่ ใช้งานเครื่องวดั รปู คล่นื สัญญาณไฟฟา้

ก. ต่อใชง้ านเหมือนกับการใชง้ านแอมมิเตอร์เพือ่ วดั กระแสไฟฟ้า

ข.ตอ่ ใชง้ านเหมอื นกับการใช้งานแอมมิเตอร์เพ่ือวดั แรงดนั ไฟฟา้

ค. ตอ่ ใชง้ านเหมือนกบั การใช้งานโวลต์มเิ ตอร์เพือ่ วดั กระแสไฟฟ้า

ง. ตอ่ ใชง้ านเหมือนกบั การใชง้ านโวลต์มเิ ตอร์เพ่ือวัดแรงดนั ไฟฟา้

99. จงอา่ นแรงดันไฟฟา้ ของสัญญาณไฟฟ้ากระแสตรงจากจอภาพจาลองของเคร่ืองวัดรูป คล่นื สญั ญาณไฟฟ้า

เมือ่ เส้นสัญญาณไฟฟ้าเรมิ่ ต้นอยทู่ แ่ี นวกึ่งกลาง จอภาพและกาหนดใหส้ วติ ซเ์ ลือก ขนาดแรงดนั ไฟฟา้ ต่อช่อง

(VDLTS/DIV) อยู่ท่ตี าแหนง่ 2 V

ก. 2.2 v ข. 2.4 v ค. 4.4 v ง. 4.8 v

100. จงอา่ นแรงดนั ไฟฟ้าค่าสูงสุดของสญั ญาณไฟฟ้ากระแสสลบั รูปไซน์จากจอภาพจาลองของเคร่ืองวดั รปู

คลน่ื สญั ญาณไฟฟา้ เมอื่ เส้นสัญญาณไฟฟ้าเริ่มตน้ อยูท่ ี่แนวกง่ึ กลาง จอภาพและกาหนดใหส้ วติ ซเ์ ลือก ขนาด

แรงดนั ไฟฟ้าต่อชอ่ ง (VDLTS/DIV) อยู่ท่ีตาแหนง่ 1 V

ก. 3.2 v ข. 3.4 v ค. 6.2 v ง. 6.4 v

101. ข้อใดไม่ใช่เป็นการพฒั นาเครอื่ งมอื วัดที่ใชไ้ ฟฟา้ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกสม์ ารว่ มทางาน

ก. ความชดั เจน ข.ความสะดวก

ค. ประสิทธิภาพ ง. ความเทยี่ งตรง

102. เคร่อื งมอื วัดทีส่ ามารถวัดปริมาณจานวนนอ้ ยๆ ได้ แสดงว่าเคร่อื งมอื วัดตวั นี้มีคุณสมบตั ขิ องอะไร

ก. ความไว ข. ความแมน่ ยา ค. ความเทย่ี งตรง ง . การแยกรายละเอยี ด

103. เครือ่ งมอื วัดที่สามารถวัดปรมิ าณออกมาได้ใกล้เคียงค่าจริง แสดงว่าเคร่ืองมอื วัดตัวนมี้ คี ุณสมบัติของอะไร

ก. ความไว ข. ความแมน่ ยา ค. ความเทย่ี งตรง ง. การแยก

104. การแกค้ วามผดิ พลาดจากตามของเขม็ ชท้ี เ่ี รียกว่าเกดิ การเลือกใช้วิธีใด

ก. ใช้กระจก สะท้อน ข.ใชเ้ ข็มชแี้ บบแบน

ค.ทาสากลใหใ้ หญข่ ้ึน ง. มองดว้ ยตาเดียว

105. การแก้ค่าผดิ พลาดของเครือ่ งมอื วดั และการอ่านคา่ การวัดควรทาอย่างไร

ก. วดั และอา่ นค่าหลายๆ คร้ังเลอื กคา่ ท่ีถูกต้องทสี่ ุด

ข. ปรับเปรยี บเทียบเครอ่ื งมือวดั ให้ได้มาตรฐาน

ค.ระมดั ระวงั และใชเ้ คร่ืองมือวดั อยา่ งถูกต้อง

ง. ถูกทุกข้อ

106. ความผดิ พลาดท่เี กิดขึน้ ชองเคร่ืองมือวัดส่วนใหญ่มาจากสาเหตใุ ด

ก. ความบกพร่องของเคร่ืองมือวดั ข. ส่วนประกอบของเคร่ืองมือวดั

ค. ความประมาณของตัวผู้วดั ง.การปรบั แต่งเคร่ืองมือวัด

107. บกพรอ่ งเกิดจากผลการเตรยี มเครอ่ื งมือวดั ไม่เหมาะสมกับการใชง้ าน เกิดจากสาเหตใุ ด

ก. คา่ ผิดพลาดของระบบ ข. คา่ ผดิ พลาดทีไ่ มแ่ นน่ อน

ค. ค่าผิดพลาดจากความแมน่ ยา ง .คา่ ผิดพลาดจากความประมาณ

108. ความหมายของเครอ่ื งวดั ไฟฟา้ ข้อใดถูกต้อง

ก. อุปกรณช์ ่วยแสดงคา่ ปรมิ าณไฟฟ้าต่างๆ ออกมาในรปู เข็มชีบ้ า่ ยเบน

ข. เครือ่ งใช้ไฟฟ้าใช้งานเก่ียวกบั การตรวจวัดไฟฟา้

ค. เครอ่ื งมือวัดใชง้ านในการจัดค่าปรมิ าณไฟฟ้า

ง. ถกู ทุกขอ้

109. มาตราวัดชนดิ ขดลวดเคลื่อนที่จะใช้สว่ นใดแสดงผลปรมิ าณไฟฟ้าทีว่ ัดค่าออกมา

ก. เข็มชแี้ สดงคา่ ข. ตัวเลขแสดงค่า

ค. สนามแม่เหล็กแสดงคา่ ง. รปู สญั ญาณเปล่ยี นแปลงระดบั

110. กฎมอื ซ้ายของเฟรมม่งิ ทกี่ ล่าววา่ กางนวิ้ หัวแม่มือ นว้ิ ช้ี น้ิวกลาง ของมอื ซ้ายออก โดยใหน้ ว้ิ ท้ังสามตัง้

ฉากซง่ึ กนั ใชใ้ นการหาค่าสง่ั ใด

ก. การซักนาสนามแม่เหลก็ ข. ความตา้ นทานในการเกดิ ไฟฟา้

ค. การเคลื่อนที่ของแมเ่ หล็กไฟฟ้า ง. การเกดิ เสน้ แรงแมเ่ หล็กรอบตัวนา

111. ดาร์สันวาล์มิเตอร์เป็นมาตราวัดชนดิ ใด

ก. แถบตงึ เคลื่อนท่ี ข.แถบโลหะแบน

ค. แมเ่ หลก็ เคลื่อน ง. แกนเหลก็ อ่อนเคล่ือนที่

112. สว่ นใดไม่ใชเ่ ปน็ ส่วนโครงสร้างการบ่ายเบนของดารส์ ันวาล์มิเตอร์

ก. สปริง ข.สากล ค.แมเ่ หลก็ ถาวร ง. ขดลวดเคลอ่ื นท่ี

113. อาร์เมเจอร์ของดารส์ นั วาลม์ เิ ตอร์ชนิดพืน้ ฐานถูกควบคมุ การบา่ ยเบนกลับตาแหน่งปกติขณะไม่ทางาน

ดว้ ยอุปกรณ์ใด

ก. สปริง ข. แม่เหลก็ ถาวร ค.แถบโลหะแบน ง.ขดลวดเคลอ่ื นท่ี

114. อารเ์ มเจอรข์ องดารว์ าล์มเิ ตอร์ ชนดิ ห้อยแขวนดว้ ยแถบตึง ถกู ควบคุมการบา่ ยเบนกลับตาแหน่งปกติ

ขณะไม่ทางานดว้ ยอุปกรณ์ใด

ก. สปริง ข. แม่เหล็กถาวร ค.แถบโลหะแบน ง.ขดลวดเคล่ือน

115. ขอ้ เสยี ของดาร์สันวาล์มิเตอร์ชนิดหอ้ ยแขวนด้วยแถบตึงขอ้ ใดถูกตอ้ ง

ก. โครงสรา้ งไม่แข็งแรง ข.เกดิ ความคลาดเคล่อื นได้งา่ ย

ค.ถกู กระทบกระเทือนแรงๆ ไม่ได้ ง. ไม่สามารถสร้างมาใช้งานไดก้ ับฮารเ์ มเจอร์มีนา้ หนกั มาก

116. การบา่ ยเบนไปของเข็มชี้มาตราวัดข้อใดกลา่ วได้ถกู ต้อง

ก. จานวนรอบของลวดเคล่อื นทีน่ อ้ ยเข็มช้ีบ่ายเบนมาก

ข. อานาจแม่เหล็กถาวรน้อยเขม็ ชี้บา่ ยเบนมาก

ค. จ่ายแรงดนั ไฟฟ้ามากเมชีบ้ ่ายเบนน้อย

ง. จ่ายกระแสไฟฟ้านอ้ ยเขม็ ชี้บา่ ยเบนมาก

117. สาเหตคุ วามผดิ พลาดท่ีสาคญั มากและเกิดไดบ้ ่อยคร้ังในการใช้มาตราวัดคืออะไร

ก. ตัวผวู้ ดั ข. การเสอ่ื มอายุ ค. ความรกั ในตวั มาตราวดั ง. การเสยี ดสขี องสว่ นเคลื่อนไหว

118. การนาดาร์สนั วาล์มติ อร์ไปวดั กระแสไฟฟ้าในข้อใดถูกต้อง

ก. ไมส่ ามารถวัดกระแสไฟฟ้าได้ ข. วัดกระแสไฟฟ้ากระแสตรงคา่ นอ้ ยได้

ค. วดั กระแสไฟฟ้ากระแสสลับค่านอ้ ยได้ ง. วดั กระแสไฟฟา้ ไดท้ ุกชนิดในปรมิ าณนอ้ ย

119. ดาร์สันวาล์มเิ ตอร์สามารถดัดแปลงไปทาเป็นมาตรวดั ชนดิ ใดได้

ก. โวลตม์ เิ ตอร์ ข. โอห้มมเิ ตอร์ ค. แอมแปร์ ง. ถกู ทุกขอ้

120. ดซี แี อมมเิ ตอร์ทส่ี ร้างมาใช้งานสามารถวัดกระแสไฟฟ้าไดใ้ นปรมิ าณเท่าไร

ก. ไมโครแอมแปร์ ข. มิลลิแอมแปร์ ค. แอมแปร์ ง. ถูกทุกข้อ

121.สเกลของดซี ีแอมมเิ ตอร์โดยท่วั ไปมีลักษณะใด

ก. ค่าตวั เลขกากับบนสเกลเรียงคา่ น้อยทางขวาไปคา่ มากทางซา้ ย

ข. ขณะไม่วดั ค่าเขม็ ชี้ช้ีอยู่ทางขวาของสเกล

ค. แต่ละชอ่ งสเกลมีระยะหา่ งเทา่ กัน

ง. มคี า่ ศนู ยอ์ ยู่ทางขวาของสเกล

122. การวัดกระแสไฟฟ้าค่าการบ่ายเบนของเข็มชช้ี ค้ี า่ ท่ีบริเวณใดถือเปน็ การแสดงคา่ การวดั ทด่ี ี

ก. ผา่ นกลางสเกล ข. ผ่านตา่ ของสเกล

ค.ผา่ นสูงของสเกล ง. ทกุ บริเวณบนสเกลหนา้ ปดั

123. โครงสร้างดซี แี อมมเิ ตอร์ทตี่ ้องการทาให้วดั กระแสไฟฟ้าไดส้ งู ขน้ึ ต้องทาอยา่ งไร

ก. ใชต้ วั ต้านทานคา่ น้อยต่อขนาน ข. ใชต้ ัวตา้ นทานค่ามากต่อขนาน

ค. ใชต้ ัวตา้ นทานคา่ น้อยตอ่ อนุกรม ง.ใชต้ วั ต้านทานคา่ มากต่ออนุกรม

124. การวัดค่ากระแสไฟฟ้าต้องนาดซี ีแอมมเิ ตอร์ตอ่ อนุกรมกับวงจรเพื่ออะไร

ก. ลดความผิดพลาดขณะวดั คา่ ข. ลดความผดิ พลาดของมาตราวดั

ค. ใหก้ ระแสไฟฟ้าทว่ี ดั เปน็ ค่าเดยี วกัน ง. เพยี งคา่ ความต้านทานให้กบั วงจรไฟฟ้า

125. ตัวต้านทานทต่ี ่อเพิ่มในวงจรดซี ีแอมมเิ ตอร์ทาหนา้ ท่ีไร

ก. เพิม่ ความต้านทานรวมในวงจรมาตรวัด

ข. ลดปรมิ าณการไหลชองกระแสไฟฟ้าในวงจร

ค. เพม่ิ ค่าการจดั กระแสไฟฟา้ ของดีซแี อมมเิ ตอร์

ง. รบั กระแสไฟฟ้าทั้งหมดที่ไหลผ่านเข้ามาตรวดั

126. ดซี ีโวลสม์ ิเตอรท์ สี่ รา้ งมาใช้งานสามารถวดั ค่าปรมิ าณไฟฟา้ ไดใ้ นหนว่ ยใด

ก. มิลส์โวลต์ ข. กิโลโวลต์ ค. โวลต์ ง. ถูกทกุ ข้อ

127. ดซี ีโวลต์มิเตอรส์ ร้างขน้ึ มาเพื่อใชว้ ดั ปริมาณไฟฟ้าประเภทใด

ก .กาลงั ไฟฟ้า ข. แรงดันไฟฟ้า ค.กระแสไฟฟ้า ง. ความตา้ นทานไฟฟ้า

128. ตัวต้านทานทีต่ ่อเพิ่มในวงจรดีซีโวลตม์ เิ ตอรท์ าหน้าท่ีอะไร

ก. จากัดกระแสไฟฟ้าเขา้ มาตราวัดไมม่ ากเกินกวา่ กระแสไฟฟ้าเดมิ

ข. ทาใหด้ ซี ีโวลต์มเิ ตอร์สามารถวดั ปริมาณไฟฟา้ ค่า ต่าๆ ไก้

ค. แบง่ กระแสไฟฟา้ ให้ไหลผ่านตัวตา้ นทานมากขน้

ง. ลดความตา้ นทานรวบในวงจรมาตรวดั ใหต้ ่าลง

129. ดีซโี วลต์มิเตอร์ทีส่ ร้างมาใช้งานจะต้องมีค่าตา้ นทานรอบภายในมาตราวัดเท่าไร

ก. ศูนย์ ข. นอ้ ย ค. มาก ง. ปานกลาง

130. โครงสรา้ งดีซีโวลตม์ เิ ตอรต์ ้องการให้วดั แรงดันไฟฟา้ ได้สงู มากข้นึ ต้องทาอยา่ งไร

ก. ใช้ตวั ต้านทานค่ามากต่ออนุกรม ข. ใชต้ วั ตา้ นแทนค่าน้อยตอ่ อนุกรม

ค. ใชต้ ัวตา้ นทานค่ามากต่อขนาน ง. ใชต้ วั ต้านทานคา่ น้อยตอ่ ขนาน

131. การใชด้ ซี ีโวลต์มิเตอร์วดั ค่าในวงจรต้องตา้ นดซี โี วลต์มเิ ตอร์ขนานกับวงจรเพ่ืออะไร

ก. ลดความผิดพลาดขณะวดั คา่ ข. ลดคา่ ความผิดพลาดของมาตรวัด

ค. เพ่ิมคา่ ความตา้ นทานในวงจรไฟฟ้า ง. ใหแ้ รงดนั ไฟฟ้าทีว่ ัดไดเ้ ป็นค่าเดียวกัน

132. สเกลของดีซโี วลตม์ เิ ตอรโ์ ดยท่วั ไปมีลักษณะใด

ก. ค่าตัวเลขกากับบนสเกลเรียงคา่ นอ้ ยทางขวาไปคา่ มากทางซ้าย

ข. ขณะไม่วัดค่าเข็มช้ีชี้อยู่ทางขวาของสเกล

ค. แต่ละช่องสเกลมรี ะยะหา่ งเท่ากัน

ง. มคี ่าศนู ยอ์ ยู่ทางขวาของสเกล

133. ตวั ต้านทานทีต่ ่อเพ่ิมเข้าไผในวงจรดีซโี วลต์มเิ ตอร์มชี ื่อเรยี กว่าไร

ก. ตัวต้านทานขนาน ข. ตัวตา้ นทานทานอนุกรม

ค. ตัวตา้ นทานเพมิ่ ข้นึ ง. ตัวต้านทานปรบั สมดลุ

134. ไดโอดท่นี ามาใชใ้ นเอซ์โวลมิเตอรท์ าหน้าที่อะไร

ก. เรียงกระแส ข. กาจดั สัญญาณรบกวน

ค. สลบั ทศิ ทางการไหลของกระแสไฟฟ้า ง. กาหนดระดบั แรงดันไฟฟา้ จา่ ยออกคงที่

135.การนาไดโอดมาใชง้ านในเอซโี วลต์มิเตอร์คณุ สมบัติของไดโอดข้อใดถูกต้อง

ก. ใช้ขาแอโนดเป็นเอาต์ฟุตไดไ้ ฟลบออกมา ข. ใช้ขาแคโทดเป็นเอาตฟ์ ุตได้ไฟบวกออกมา

ค. ใช้ขาแคโทดเปน็ เอาต์ฟตุ ไดไ้ ฟบวกออกมา ง. ใชข้ าแอโนดเปน็ เอาต์ฟุตได้ไฟบวกออกมา

136. ปรมิ าณไฟฟ้ากระแสสลับแสดงค่าบนสเกลดอซโ์ วลต์มิเตอร์เป็นค่าปริมาณไฟฟ้าใด

ก. คา่ ยอด ข. คา่ เฉลี่ย ค. คา่ ยอดถงึ ยอด ง. คา่ อารเ์ อ็มเอส

137. ปริมาณไฟฟา้ กระแสสลับค่าใดผ่านขดลวดเคลอื่ นท่ีของเอชืโวลต์มเิ ตอร์ ทาให้เข็มชี้บา้ ยเบนไปช้คี ่านัน้

ออกมา

ก. ค่าผอด ข. ค่าเฉล่ยี ค. คา่ ยอดถึงยอด ง. ค่าอาร์เอ็มเอส

138. การเรียงกระแสแบบครึ่งคล่นื ในเอซีโวลส์บเิ ตอร์จะมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านประมาณเท่าไร

ก. 31. 8 % ข. 63.6 % ค. 70.7% ง. 100%

139.วงจรเรียงกระแสเติมบริดจ์และครึง่ บริดจ์ใชใ้ นเอชโิ วลต์มเิ ตอร์สว่ ยใดแตกตา่ งกัน

ก. สัญญาณไฟฟ้าผ่านเอซีโวลต์มเิ ตอร์เปน็ ชนดิ เต็มคลื่นและครึ่งคลืน่

ข. กระแสไฟฟ้าไหลผา่ นเอซีโวลตม์ ิเตอรเ์ ปน็ 63.6% และ 31.8%

ค.สร้างเปน็ มิเตอร์วัดแรงดนั ไฟฟ้าและวัดกระแสไฟฟา้

ง. ใช้ไดโ้ อดทางานในแตล่ ะครั้ง 2 ตวั และ 1 ตวั

140. แหลง่ จ่ายแรงดนั ไฟฟา้ กระแสสลับทผี่ ลติ ออกมาใช้งานมีรูปคล่นื สัญญาณเปน็ แบบใด

ก. พลั ส์ ข. ไซน์ ค. สเ่ี หลย่ี ม ง. สามเหลี่ยม

141. เมื่อนาดารส์ นั วาลม์ เิ ตอรไ์ ปวัดไฟฟา้ กระแสสลับจะทาอยา่ งไร

ก. ใช้งานได้โดยตรงไมต่ ิองต่อเพิ่ม ข. ตอ่ ไดโอดขนานกบั ขดลวดเคล่อื นท่ี

ค. ตอ่ ไดโอดอนุกรมกบั ขดลวดเคลอ่ื นที่ ง. ตอ่ ตวั ต้านทานอนกุ รมกับขดลวดเคล่ือนท่ี

142. มาตราชนดิ ใดที่อาศัยความรอ้ นในการวัดค่าแรงดนั ไฟฟา้ หรอื กระแสไฟฟา้ ออกมา

ก. โซลนิ อยด์ ข. ขดลวดเอียง ค. เทอรโ์ มคัปเปิล ง. แผ่นโลหะผลักเคลอ่ื นที่

143.มาตราวัดชนดิ ใดส่วนเคล่ือนไหวเป็นท่อนเหล็กเคล่ือนที่ ควบคมุ ให้เข็มบ่ายเบน

ก. แคลมป์ ข. โซลนี อยด์ ค. ขดลวดเอยี ง ง. แผ่นโลหะผลกั เคลอ่ื นท่ี

144. หลกั การทางานของมาตราชนิดไดราโมไฟฟ้าข้อใดถูกต้อง

ก. ใชห้ ลกั การทางานของตวั เก็บบรรจุ ข. ใช้แมเ่ หล็กถาวรดันกับแม่เหลก็ ไฟฟา้

ค. ใชแ้ ม่เหลก็ ไฟฟ้าดันให้เหล็กอ่อนเคลื่อนที่ ง. ใชแ้ ม่เหลก็ ไฟฟ้าคงท่ผี ลักกับแม่เหล็กไฟฟา้ เคล่ือนท่ี

145. มาตราชนิดใดท่ีขณะวัดกระแสไฟฟ้าวงจรไม่ตอ้ งตัดวงจรออกเพื่อนามาตราวัดไปต่ออนุกรม

ก. แคลมป์ ข. โซลนี อยด์ ค. ขดลวดเอียง ง. เทอรโ์ มคัปเปิล

146.มาตรวดั ชนิดใดทีส่ ว่ นเคลือ่ นไหวอาศยั การผลักดนั กันของแผน่ โลหะ 2 แผน่ ทาให้เขม็ ชบ้ี า่ ยเบนไป