ผู้ชาย ที่ไม่ให้เงินแฟนใช้

แฟนใครส่งเงินให้ใช้ทุกเดือนบ้าง

ผู้ชาย ที่ไม่ให้เงินแฟนใช้

michiyojung

ดู Profile


  • 9 ปีที่แล้ว

เราเห็นบางคน แฟนเค้าส่งเงินให้ใช้ทุกเดือน ตั้งแต่คบแรกๆจนแต่งงานกัน เราเลยอยากรู้ว่าเพื่อนๆที่เป็นผู้หญิงที่มีแฟน แล้วแฟนส่งเงินให้ใช้กันบ้างเปล่า แล้วเค้าให้เองแบบ auto เลย หรือคุณเป็นฝ่ายขอ

ขอบคุณค่ะ

No issues.

Jebanista คุณก็เป็นได้!

มีรีวิว หรือ How to อะไรเอามาแชร์กัน
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ JEBAN COMMUNITY
ได้ง่ายนิดเดียว เริ่มเขียนเลย

เรื่อง: นภาพร ไตรวิทย์วารีกุล


Hi-Lights :

  • เว็บไซต์ PayScale เขาทำการสำรวจกับพนักงานออฟฟิศจำนวน 42,000 คน  แล้วพบว่า มีเพียง 6% เท่านั้นที่ลงเอยด้วยการแต่งงานกับเพื่อนร่วมงาน โดยที่ 15% ยอมรับว่าเคยศึกษาดูใจกับเพื่อนในบริษัทเดียวกัน ส่วนกลุ่มที่อายุมากกว่า 30  ปี มีจำนวนสูงถึง 84% ที่กล้าที่จะลองเปิดใจศึกษาเพื่อนร่วมงาน
  • รักแท้ไม่ได้อยู่ที่เราเป็นเพศไหนแต่อยู่ที่เราไปรักกับใคร และรักของเราไปทำร้ายหัวใจคนอื่นหรือเปล่า ความรักที่เริ่มต้นด้วยความผิด คิดว่าเดินหน้าต่อไปแล้วมันจะกลายเป็นถูกหรือ? หากแย่งเขามาได้ก็ต้องระวัง เพราะรักที่ได้มาจากการแย่งชิง เราก็อาจถูกทิ้งไม่ต่างกัน 


Q:
"พอดีมีเรื่องจะปรึกษาค่ะพี่อ้อย คือหนูแอบคบกับเพื่อนที่ทำงานมาประมาณ 4-5 เดือนแล้วค่ะ  ซึ่งเพื่อนหนูเขาก็มีแฟนอยู่แล้ว และแฟนเขาก็เป็น ผู้ชายด้วย หนูพยายามบอกเลิกเขา แต่หนูก็เลิกไม่ได้ เขาบอกให้หนูรอเขา หนูก็อยากรอนะคะ แต่การกระทำของเขา คือเขายังรักแฟนเขาอยู่มาก หนูควรรอไหม”


A :
ไปอ่านเจอผลวิจัยหนึ่งจากเว็บไซต์ PayScale เขาทำการสำรวจกับพนักงานออฟฟิศจำนวน 42,000 คน  แล้วพบว่า มีเพียง 6% เท่านั้นที่ลงเอยด้วยการแต่งงานกับเพื่อนร่วมงาน โดยที่ 15% ยอมรับว่าเคยศึกษาดูใจกับเพื่อนในบริษัทเดียวกัน ส่วนกลุ่มที่อายุมากกว่า 30  ปี มีจำนวนสูงถึง 84% ที่กล้าที่จะลองเปิดใจศึกษาเพื่อนร่วมงาน


จริงๆ ก็ไม่แปลกอะไรนะคะ เพราะเราใช้เวลาที่ทำงานเกือบ 3 ใน 4 ส่วนของวัน  ถ้าจะดูใจกันไป ใช้สติกันไป  ทำไมจะคบกันไม่ได้ เราอาจเจอคนที่ยิ่งใกล้ยิ่งรัก ยิ่งนานนัก  ยิ่งรักมากขึ้นเรื่อยๆ    หรือถ้าไม่โลกสวยจนเกินไปมองทุกอย่างว่ามีสองด้าน เราอาจเจอคนที่ยิ่งใกล้ยิ่งเหงา  เพราะเขาไม่ใช่   หรือนานๆ ไปอาจกลายเป็นยิ่งใกล้ยิ่งเจ็บ แต่ก็นั่นแหละค่ะ หากรักใคร แล้วเผื่อใจไว้ถึงความไม่แน่นอน  อย่างน้อยเราจะได้ไม่รีบร้อนจนเกินไป แค่ดูแลกันและกันให้เต็มที่ ในเวลาที่ยังเป็นของเรา  แค่ต้องเผื่อใจไว้หน่อย  รักในที่ทำงาน  จะทรมานที่สุด ตอนที่ความสัมพันธ์ต้องหยุดลง ค่อยๆ ทำใจให้ไหว และเดินหน้าต่อไปให้ได้เท่านั้นเอง   

เจอเคสนี้แล้ว แฟนหญิงก็อยากได้ แฟนชายก็อยากมี อะไรจะโชคดีขนาดนั้น ไม่แตะแล้วกันว่าเพศไหนเป็นเพศไหน แต่ยังไงก็นับว่านอกใจค่ะ เขามีแฟนของเขา แล้วยังมีเราที่เฝ้ารอเวลาเหลือๆ ของเขากับแฟน  ช่วยคิดแทนแฟนเขาบ้างว่าจะรู้สึกอย่างไร ถ้าเรามีคนของเรา แล้วมีคนมาเฝ้ารอความรักจากแฟนเราจะเศร้าแค่ไหน


“เขาบอกให้รอ” ถามตัวเองหรือถามเขาก่อนดีว่าจะให้รออะไร? รอเขาเปลี่ยนใจจากแฟน? รอแฟนเบื่อเขา? รอเธอเลิกชอบผู้ชาย? หรือรอว่าเมื่อไหร่ฉันจะเลิกงมงายเสียที?


รักแท้ไม่ได้อยู่ที่เราเป็นเพศไหนแต่อยู่ที่เราไปรักกับใคร และรักของเราไปทำร้ายหัวใจคนอื่นหรือเปล่า ความรักที่เริ่มต้นด้วยความผิด คิดว่าเดินหน้าต่อไปแล้วมันจะกลายเป็นถูกหรือ? หากแย่งเขามาได้ก็ต้องระวัง เพราะรักที่ได้มาจากการแย่งชิง เราก็อาจถูกทิ้งไม่ต่างกัน


ระยะเวลาคบหาไม่นานนักก็อาจตัดใจกันไม่ยากเท่าไหร่ ส่องกระจกแล้วถามตัวเองดีๆ ว่า “ฉันไม่มีค่าพอที่จะรอคนที่รักฉันได้คนเดียวใช่ไหม ต้องคบฉันซ้อนกับใครๆ มีค่าคล้ายๆ เป็นวิตามินรวม” มองด้วยตาเปล่า เขาก็ยังรักแฟนเขาโดยมีเราล่องลอยรอคอยความรักจากแฟนคนอื่นเขา หัวใจเรามีค่ากว่านั้นค่ะ


โลกไม่ได้อนุญาตให้ใครมีแฟนได้เพศละคนอย่างไม่รู้สึกผิด จะเพศไหนทุกหัวใจรักได้และเจ็บเป็น    อย่าเห็นแก่ตัวจนไม่แคร์หัวใจใครอีกเลย


นอกใจเป็นปัญหาอันดับต้นๆ ของคนยุคนี้  ทำผิดพร้อมกันหลายคนไม่ได้แปลว่าสิ่งนั้นไม่ผิด การเฝ้ารอให้เขาเลิกกับคนของเขาเสียทีเป็นความหวังที่ทำให้ใจเราตกต่ำลงไปเรื่อยๆ รักใครให้ซื่อสัตย์ ถ้าเขายังให้ความซื่อสัตย์ง่ายๆ กับคนที่เขารักไม่ได้เลย เขายังจะเป็นคนรักล้ำค่าที่เราควรแลกมาด้วยความอดทนรอคอยอีกไหม


ถามใจตัวเองดีๆ ค่ะ


"เงิน"
เป็นเรื่องหนึ่งที่ทำให้ความสัมพันธ์เกิดปัญหา นำไปสู่การทะเลาะกัน ทำร้ายร่างกายกัน และเลิกรากันได้ แต่ถ้าไม่มีเลยก็เป็นไปไม่ได้อีก เพราะแค่ไปทานข้าวด้วยกัน ดูหนังด้วยกัน แค่นี้ก็ต้องออกเงินแล้ว 

ว่ากันว่า "เราต้องใช้เงิน" ไม่ใช่ "เงินใช้เรา" เพื่อคอนโทรลรักให้อยู่รอด ดังนั้น เราก็ควรจะคอนโทรลเรื่องเงินกันด้วย

หมายเหตุ
บทความนี้ไม่อนุญาตให้คัดลอกลงเว็บไซต์อื่น หากต้องการเผยแพร่ ให้กดไลค์ กดแชร์จากโพสต์นี้เท่านั้นนะคะ

ผู้ชาย ที่ไม่ให้เงินแฟนใช้

ออกเดท ทานข้าว ดูหนัง ไปเที่ยว ฯลฯ อย่าให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งออกตัวเลี้ยงตลอดไป แต่ควรช่วยกันแชร์หรือผลัดกันเลี้ยงบ้าง เพื่อแสดงให้เห็นว่า "เราต่างก็แบ่งรับแบ่งสู้กันได้ดี ไม่มีใครเสียเปรียบใคร" เพราะตามความเป็นจริงแล้ว แต่ละคนก็มีภาระค่าใช้จ่ายนอกเหนือจากชีวิตคู่กันทั้งนั้น จะให้มาทุ่มเทกันเฉพาะเรื่องนี้มันก็กระไรอยู่

ผู้ชาย ที่ไม่ให้เงินแฟนใช้

ถ้าเป็นกรณีที่คบกันต่างฐานะ ก็ต้องมีการปรับตัวในส่วนของไลฟ์สไตล์ส่วนตัวกันด้วย เช่น หากเราเป็นคนมีฐานะกว่าแฟน เราก็ควรปรับเข้าหาแฟนบ้าง เลือกทาน เลือกเที่ยวในราคาที่ไม่แพง เพื่อให้แฟนรู้สึกสบายตัวมากขึ้น กล้าที่จะมีส่วนร่วมกับเดทเรามากขึ้น ไม่ใช่ทำตัวเหมือนตอนเป็นโสด กินหรู เที่ยวแพงตามเดิม จนอีกฝ่ายรู้สึกอึดอัด ไม่เป็นตัวของตัวเอง อย่าลืมว่านี่คือชีวิตคู่ ไม่ใช่ชีวิตโสด ถ้าไม่สามารถปรับตัวเข้าหากันได้ ก็เชิญกลับไปโสดเหมือนเดิมจะดีกว่า

ผู้ชาย ที่ไม่ให้เงินแฟนใช้

แนวคิดกระเป๋าตังค์เดียวกันไม่เหมาะที่จะนำมาใช้กับคู่รักหนุ่มสาวทั่วไปที่ยังไม่ได้แต่งงานกัน คิดง่ายๆ ละกันว่า จะรวมกระเป๋าตังค์กันไปเพื่ออะไร ในเมื่อเราไม่ได้อยู่บ้านหลังเดียวกันแล้วต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายภายในบ้านร่วมกัน หรือมีลูกให้รับผิดชอบด้วยกัน ขืนใช้วิธีนี้ รังแต่จะอึดอัดกัน ดูเป็นการไม่ให้เกียรติกันเปล่าๆ 

เราขอให้เขาออกค่าใช้จ่ายก่อนได้ในกรณีที่เงินส่วนตัวเราไม่พอ (และต้องนำมาคืนในภายหลังด้วยนะ) แต่ไม่ควรควักจากกระเป๋าเขาเอาเองโดยถือวิสาสะว่า " เป็นแฟนกัน ไม่ถือกันหรอกมั้ง " เกรงใจกันนิดนึง เพราะเราไม่มีทางรู้หรอกว่าค่าใช้จ่ายส่วนตัวของเขาในเรื่องอื่นๆ ยังมีอะไรให้เคลียร์อีกมั้ย

ผู้ชาย ที่ไม่ให้เงินแฟนใช้

ทวงเงินแฟนเก่าไม่ได้ เพราะแฟนเก่าพูดตอกมาว่า "เธอให้โดยเสน่หาเอง ช่วยไม่ได้" เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในสังคมหลายต่อหลายครั้งแล้ว วิธีป้องกันเงินยืมเป็นพิษต่อความรัก มีดังนี้

- อย่าให้ยืมโดยเห็นแก่ว่าเป็นแฟนกัน ถ้าไม่ให้ยืมเขาขู่ว่าจะเลิกกันอย่างเดียว ตั้งสติสักนิด เขามีพ่อแม่ให้ขอเงินได้รึเปล่า? มีใครให้ช่วยเหลืออีกหรือไม่? อย่าสักแต่ให้โดยไม่ลืมหูลืมตา

- สังเกตด้วยว่าเขามีนิสัยการใช้เงินยังไง ฟุ่มเฟือยรึเปล่า? มีแนวคิดในการเก็บเงินบ้างรึเปล่า? เป็นคนพูดคำไหนคำนั้นรึเปล่า? ถ้าไม่มีหลักประกันอะไรเลยให้เชื่อใจได้ ก็ควรทำใจไว้เลยว่า เงินที่จะให้ยืมไป เป็นไปได้น้อยมากที่เขาจะหามาคืนให้ครบ

ผู้ชาย ที่ไม่ให้เงินแฟนใช้

ไม่ใช่แค่เรื่องหัวใจเท่านั้นที่ไม่ควรดึงคนอื่นมาเกี่ยวข้อง เรื่องเงินก็เช่นกัน ถ้าเราไม่มีให้ ก็จบที่ตัวเรา อย่าพยายามบากหน้าไปยืมเพื่อน หรือขอพ่อแม่เพิ่ม เพื่อนำมาให้แฟนได้ใช้ เพราะนั่นคือการทุ่มเทที่ค่อนข้างเกินตัวไปมาก หากเกิดอะไรขึ้นมีแต่เราเท่านั้นที่เสียกับเสีย แฟนเราก็ลอยนวลไปสิ

ผู้ชาย ที่ไม่ให้เงินแฟนใช้

มันก็ต้องมีบ้างที่แฟนเราจะถึงคราวซวย เดือดร้อน แล้วเราพอจะมีบ้าง เราก็ช่วยไปเท่าที่พอจะช่วยได้ แต่ไม่ทุ่มหมดตัวจนตัวเองลำบาก และอย่าคาดหวังสูงมากว่า "ฉันต้องได้คืนมาแบบไหนเป๊ะๆ" ปล่อยตัวตามสบาย เชื่อมั่นในตัวแฟนเราบ้าง การไปคาดคั้นอะไรมากมันก็ไม่ช่วยให้สบายใจขึ้นกว่าเดิมหรอก ในทางกลับกัน มันอาจสร้างความกดดันให้ความสัมพันธ์เราด้วยซ้ำ

ผู้ชาย ที่ไม่ให้เงินแฟนใช้

ถ้าเราเดือดร้อนจริง จะขอทวงสิทธิบ้างก็ไม่ผิดอะไร แต่อย่านำไปปนกันกับ "ทวงบุญคุณ" จนหลุดปากว่า "ทีเธอเดือดร้อน ฉันยังช่วยเธอเลย" ไม่อย่างนั้น เขาจะตอบกลับมาได้ว่า "ก็ไม่ได้ขอให้เธอช่วยนะ เธอเต็มใจช่วยเราเอง ออกตัวเอง" คุยกันดีๆ ก่อน อย่าเพิ่งชวนทะเลาะกันหรือกดดัน ไม่งั้นเขาจะไม่คืนเงินให้ดีๆ 

ผู้ชาย ที่ไม่ให้เงินแฟนใช้

คนเราก็ต้องมีบ้างที่จะต่างไลฟ์สไตล์ ต่างสังคม ต่างรสนิยม ใช่ว่าการเป็นแฟนกันจะต้องเหมือนกันทุกอย่าง ตามใจกันทุกเรื่อง ดังนั้น อย่าไปคาดหวังว่าเขาจะออกเงินซื้อเครื่องสำอางให้ หรือจะสามารถห้ามเขาเอาเงินไปแต่งรถได้ ความชอบของใครก็ของมัน ไม่จำเป็นต้องห้ามหรือร้องขอให้มายุ่งวุ่นวายกัน เคารพพื้นที่ส่วนตัวของกันและกันบ้าง

ผู้ชาย ที่ไม่ให้เงินแฟนใช้

หากนิสัยการใช้เงินของเขาค่อนข้างน่าเป็นห่วง เช่น จ่ายไปกับของสิ้นเปลืองแต่ละเดือนจนแทบไม่มีเงินเก็บ, เล่นการพนัน, เอาเงินไปลงกับสุรา ควรตักเตือนกันดีๆ ชี้แจงอย่างมีเหตุผล อย่าหักดิบจนถึงขั้นก้าวก่ายกระเป๋าตังค์กัน ยึดทรัพย์ หรือทำอะไรก็ตามโดยพละการ ไม่ปรึกษากัน เพราะสิ่งที่จะทำให้เขาคล้อยตามได้ ควรมีความเต็มใจของเขา และความโปร่งใสของเรารวมกันอยู่ด้วย

ผู้ชาย ที่ไม่ให้เงินแฟนใช้

หากกลัวว่าการเงินส่วนตัวจะไม่พอสำหรับกิจกรรมชีวิตคู่ เช่น ออกทริปไปพักร้อน, ดูหนังฟังเพลง, ทานข้าวมื้อใหญ่, เดินทางไปหากัน ( ในกรณีคู่รักระยะไกล ) ก็ชวนกันวางแผนเก็บเงินแยกไว้ต่างหากสิ ! การเงินจะได้เป็นสัดส่วนมากขึ้น บริหารง่ายขึ้น ไม่รู้สึกว่าช็อต หรือชักหน้าไม่ถึงหลังเกินไป ( และบางทีแล้วก็เป็นวิธีที่เนียนมาก ไม่ต้องไปขอเงินเพิ่มจากพ่อแม่ด้วย )

ถ้าปรับตัวแทบตายยังไงสุดท้ายก็ทะเลาะกันอยู่ดี จับเข่าคุยกันดีๆ ค่ะ บางทีปัญหาไม่ได้เป็นเพราะเงินหรอก แต่เป็นเพราะความรู้สึกที่เปลี่ยนไปแล้ว ทำให้เกิด " รักเราไม่เท่ากัน " นั่นไงล่ะ ถ้ายื้อไม่ได้ ก็แค่ Say Good Bye ดีกว่ายื้อกันให้เปลืองใจ เปลืองเงินกันเปล่าๆ เนอะ : )