Show พ่อขุนรามคำแหงมหาราช ทรงเป็นพระราชโอรสของพ่อขุนศรีอินทราทิตย์กับพระนางเสือง ทรงมีพระนามเดิมว่า ราม พระองค์ทรงขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ ๓ ของอาณาจักรสุโขทัย ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๑๘๒๒ ต่อจากพ่อขุนบานเมือง ซึ่งเป็นพระเชษฐา(พี่ชาย) อนุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช พ่อขุนรามคำแหงมหาราชทรงเป็นกษัตริย์นักรบที่มีพระปรีชาสามารถในด้านการทำศึกสงครามตั้งแต่ยังไม่ได้ครองราชย์ ดังจะเห็นได้จากเมื่อพระองค์มีพระชนมายุ ๑๙ พรรษา พระองค์ได้เสด็จตามพระราชบิดาไปทำสงครามแย่งชิงเมืองตาก กับขุนสามชนเจ้าเมืองฉอด และรบชนะขุนสามชน พระบิดาจึงเฉลิมพระนามให้ว่า รามคำแหงอาณาจักรสุโขทัยในสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช มีความเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก เนื่องมาจากพระราชกรณียกิจในด้านต่าง ๆ ของพระองค์ ดังนี้ ๑. ด้านการเมืองการปกครอง พระองค์ทรงใช้รูปแบบการปกครองแบบ พ่อปกครองลูก กล่าวคือ พระองค์ทรงดูแลเอาใจใส่ในทุกข์สุขของราษฎร์เหมือนพระองค์เป็นพ่อ ส่วนราษฎรหรือไพร่ฟ้าคือลูก เมื่อราษฎรมีเรื่องเดือดร้อนก็ให้มาสั่นกระดิ่งที่หน้าประตูวัง แล้วพระองค์ก็จะเสด็จออกมารับฟังเรื่องราว เพื่อทรงตัดสินปัญหาด้วยพระองค์เอง นอกจากนี้ พ่อขุนรามคำแหงมหาราช ทรงทำสงครามขยายอาณาเขตออกไปอย่างกว้างขวางมากกว่าพระมหากษัตริย์พระองค์ใดในสมัยสุโขทัย ๒. ด้านเศรษฐกิจ พระองค์ทรงโปรดให้สร้างทำนบกักเก็บน้ำที่เรียกว่า ทำนบาพระร่วง หรือสรีดภงค์ เพื่อใช้กักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง นอกจากนี้ พระองค์ทรงให้เสรีภาพแก่ประชาชนในการค้าขายได้อย่างมีอิสระเสรี ไม่มีการเก็บภาษีผ่านด่านจาการาษฎร ที่เรียกว่า จกอบ ทำให้การค้าขายขยายออกไปอย่างกว้างขวาง และทรงโปรดให้สร้างเตาเผาเครื่องสังคโลกเป็นจำนวนมาก เพื่อผลิตสินค้าออกไปขายยังดินแดนใกล้เคียง ๓. ด้านศิลปวัฒนธรรม นอกจากจะได้ทรงขยายอาณาเขตของไทย ทางปกครองทำนุบำรุงบ้านเมือง และจัดระบบการปกครองที่เป็นระเบียบเรียบร้อยดังกล่าวแล้ว พระเจ้ารามคำแหงยังได้ทรงสร้างสิ่งที่คนไทยจะลืมเสียมิได้อีกอย่างหนึ่ง สิ่งนั้น ได้แก่ การประดิษฐ์อักษรไทยขึ้นอันเป็นรากฐานของหนังสือไทยที่เราได้ใช้กันอยู่ในทุกวันนี้ ตามหลักฐานปรากฎว่าพระองค์ได้ทรงคิดอักษรไทยขึ้นใช้เมื่อปี พ.ศ. ๑๘๒๖ กล่าวกันว่าได้ดัดแปลงมาจากอักษรคฤนถ์อันเป็นอักษรที่ใช้กันอยู่ในอินเดียฝ่ายใต้ ตัวอักษรไทยซึ่งพระเจ้ารามคำแหงคิดขึ้นใช้ในสมัยนั้นตัวพยัญชนะ สระและวรรณยุกต์จึงอยู่เรียงในบรรทัดเดียวกันหมด ดังจะดูได้จากแผ่นศิลาจารึกในสมัยพระเจ้ารามคำแหง ซึ่งประดิษฐานอยู่ในพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ต่อมาจึงได้มีผู้ค่อยคิดดัดแปลงให้วัฒนาในทางดี และสะดวกในการเขียนมากขึ้น เป็นลำดับ จนกระทั่งถึงอักษรไทยที่เราได้ใช้กันอยู่ในทุกวันนี้
http://guru.sanook.com/9342/
ข้อใดเป็นที่มาของพระนามว่าพระรามคําแหงพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ทรงมีพระนามเดิมว่าขุนรามราช เมื่อทรงพระชนมายุได้ ๑๙ ปี ได้ช่วยพระราชบิดาออกสู้รบในการสงครามกับขุนสามชน เจ้าเมืองฉอด ซึ่งยกทัพมาตีเมืองตาก ทรงเป็นนักรบที่เข้มแข็งสามารถเข้าชนช้างชนะขุนสามชนพวกเมืองฉอดจึงแตกพ่ายไป พ่อขุนศรีอินทราทิตย์จึงให้พระนามแก่ขุนรามราช “พระรามคำแหง” ซึ่งหมายความว่า “พระรามผู้ ...
พระรามคำแหงมีที่มาอย่างไรพ่อขุนรามคำแหงมหาราชเป็นพระราชโอรส ของพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ปฐมกษัตริย์ แห่งกรุงสุโขทัย พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ มีพระมเหสีคือ พระนางเสือง มีพระราชโอรสสามพระองค์ พระราชธิดาสองพระองค์ พระราชโอรส องค์ใหญ่สิ้นพระชนม์ตั้งแต่ยังเยาว์ องค์กลางมี พระนามว่า บานเมือง และพระราชโอรสองค์ที่สาม คือ พ่อขุนรามคำแหงมหาราช เมื่อพระชันษาได้ ...
พ่อขุนรามคำแหงมหาราชมีพระนามเดิมว่าอะไร *พ่อขุนรามคำแหงมหาราช ทรงเป็นพระราชโอรสของพ่อขุนศรีอินทราทิตย์กับพระนางเสือง ทรงมีพระนามเดิมว่า ราม พระองค์ทรงขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ ๓ ของอาณาจักรสุโขทัย ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๑๘๒๒ ต่อจากพ่อขุนบานเมือง ซึ่งเป็นพระเชษฐา(พี่ชาย)
อักษรไทยที่พ่อขุนรามคําแหงประดิษฐ์ขึ้น เรียกว่าอะไรลายสือไทย คือ รูปแบบอักษรที่ปรากฏในจารึกพ่อขุนรามคําแหงมหาราช หรือจารึกสุโขทัย หลักที่ 1 ประดิษฐ์ขึ้นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 1826 (มหาศักราช 1205) ข้อมูลนี้ปรากฏในศิลาจารึกหลักที่ 1 ด้านที่ 4 บรรทัดที่ 8-11 ว่า
|