ข้อใดกล่าว ถึง ยีน และการ ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรม ได้ ถูก ต้อง

ข้อใดกล่าว ถึง ยีน และการ ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรม ได้ ถูก ต้อง

ข้อใดกล่าว ถึง ยีน และการ ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรม ได้ ถูก ต้อง
ลักษณะทางพันธุกรรม หมายถึง ลักษณะของสิ่งมีชีวิตที่ถูกควบคุมโดยกรดนิวคลีอิกชนิด DNA หรือ RNAที่สามารถถ่ายทอดจากรุ่นหนึ่งไปยังรุ่นต่อ ๆ ไป โดยอาศัยเซลล์สืบพันธุ์หรือเซลล์ชนิดอื่น ๆ เป็นสื่อกลางในการถ่ายทอด

ประเภทของลักษณะทางพันธุกรรม ลักษณะทางพันธุกรรมจำแนกเป็น 2 ประเภท คือ
1.ลักษณะที่มีความแปรผันไม่ต่อเนื่อง (Discontinuous variation) เป็นลักษณะพันธุกรรมที่

ข้อใดกล่าว ถึง ยีน และการ ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรม ได้ ถูก ต้อง
- แยกความแตกต่างกันได้อย่างเด่นชัด
ข้อใดกล่าว ถึง ยีน และการ ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรม ได้ ถูก ต้อง
- มักถูกควบคุมด้วยยีนน้อยคู่
ข้อใดกล่าว ถึง ยีน และการ ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรม ได้ ถูก ต้อง
- มักเกี่ยวข้องกับทางด้านคุณภาพ (Qualitative trait)
2. ลักษณะที่มีความแปรผันต่อเนื่อง (Continuous variation) เป็นลักษณะทางพันธุกรรมที่
ข้อใดกล่าว ถึง ยีน และการ ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรม ได้ ถูก ต้อง
- ไม่สามารถแยกความแตกต่างได้อย่างเด่นชัด
ข้อใดกล่าว ถึง ยีน และการ ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรม ได้ ถูก ต้อง
- มักถูกควบคุมด้วยยีนหลายคู่ (Polygenes or Multiple genes)
ข้อใดกล่าว ถึง ยีน และการ ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรม ได้ ถูก ต้อง
- มักเกี่ยวข้องกับทางด้านปริมาณ (Qrantitative trait)

คำศัพท์ที่ควรทราบในการศึกษาพันธุศาสตร์

ข้อใดกล่าว ถึง ยีน และการ ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรม ได้ ถูก ต้อง
1. เซลล์สืบพันธุ์ (Gamete or Sex cell) หมายถึง ไข่ (Egg) หรือ สเปิร์ม ( Sperm)
ข้อใดกล่าว ถึง ยีน และการ ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรม ได้ ถูก ต้อง
2. ลักษณะเด่น (Dominance)
หมายถึง ลักษณะที่ปรากฏออกมาในรุ่นลูกหรือรุ่นต่อ ๆ ไปเสมอ
ข้อใดกล่าว ถึง ยีน และการ ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรม ได้ ถูก ต้อง
3. ลักษณะด้อย (Recessive)
หมายถึง ลักษณะที่ไม่มีโอกาสปรากฏในรุ่นต่อไป
ข้อใดกล่าว ถึง ยีน และการ ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรม ได้ ถูก ต้อง
4. ยีน (Gene)
หมายถึง หน่วยควบคุมลักษณะทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตเป็นสารเคมีจำพวกกรดนิวคลีอิก โดยเฉพาะ ชนิด DNA จะพบมากที่สุด ชนิด RNA
ข้อใดกล่าว ถึง ยีน และการ ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรม ได้ ถูก ต้อง
5. โฮโมโลกัสยีน (Homologous gene)
หมายถึง ยีนที่เหมือนกันอยู่ด้วยกัน เช่น TT , tt , AA , bb
ข้อใดกล่าว ถึง ยีน และการ ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรม ได้ ถูก ต้อง
6. เฮเทอโรไซกัสยีน (Heterozygous gene)
หมายถึง ยีนที่ต่างกันอยู่ด้วยกัน เช่น Tt , Aa , Bb
ข้อใดกล่าว ถึง ยีน และการ ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรม ได้ ถูก ต้อง
7. จีโนไทป์ (Genotype)
หมายถึง ลักษณะหรือแบบของยีนที่ควบคุมลักษณะ
ข้อใดกล่าว ถึง ยีน และการ ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรม ได้ ถูก ต้อง
8. ฟีโนไทป์ (Phenotype)
หมายถึง ลักษณะของสิ่งมีชีวิตที่ปรากฏออกมาเนื่องจากการ แสดงออกของยีนและอิทธิพลของ สิ่งแวดล้อม
ข้อใดกล่าว ถึง ยีน และการ ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรม ได้ ถูก ต้อง
9. โฮโมโลกัสโครโมโซม (Homologous chromosome)
หมายถึง โครโมโซมที่เป็นคู่กัน มีขนาดและรูปร่างภายนอกเหมือนกัน
ข้อใดกล่าว ถึง ยีน และการ ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรม ได้ ถูก ต้อง
10. โฮโมไซกัสโครโมโซม (Homozygous chromosome)
หมายถึง โครโมโซมที่เป็นโฮโมโลกัสกันและมียีนที่เป็นโฮโมไซกัสกัน อย่างน้อย 1 คู่

กฏพันธุกรรมของเมนเดล

ข้อใดกล่าว ถึง ยีน และการ ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรม ได้ ถูก ต้อง
เมนเดลได้ทดลองผสมถั่วลันเตาที่มีลักษณะต่าง ๆ กัน 7 ลักษณะซึ่งกระจายอยู่บนโครโม
โซมต่างท่อนกัน โดยได้ทำ การทดลองนานถึง 7 ปี จึงพบกฏเกณฑ์การถ่ายทอดลักษณะต่าง ๆและได้รับการยกย่องเป็นบิดาแห่งวิชาพันธุศาสตร์ (Father of Genetics)

กฏการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมของเมนเดล ที่สำคัญ คือ

กฏข้อที่ 1 กฏแห่งการแยก (Law of segregation)

ข้อใดกล่าว ถึง ยีน และการ ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรม ได้ ถูก ต้อง
มีสาระสำคัญดังนี้คือ : ยีนที่อยู่คู่กันจะแยกตัวออกจากกันไปอยู่ในแต่ละเซลล์สืบพันธุ์ก่อนที่จะมารวมตัวกันใหม่เมื่อ จะมารวมตัวกันใหม่เมื่อ

กฏข้อที่ 2 กฏแห่งการรวมกลุ่มอย่างอิสระ (Law of independent assortment)

ข้อใดกล่าว ถึง ยีน และการ ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรม ได้ ถูก ต้อง
มีสาระสำคัญดังนี้คือ : ยีนที่เป็นคู่กันเมื่อแยกออกจากกันแล้ว แต่ละยีนจะไปกับ ยีนอื่นใดก็ได้อย่างอิสระนั่นคือเซลล์ สืบพันธุ์จะมีการรวมกลุ่มของหน่วยพันธุกรรมของลักษณะต่าง ๆ โดยการรวมกลุ่มที่เป็นไปอย่างอิสระ จึงทำให้สามารถทำนายผลที่เกิดขึ้นในรุ่นลูกรุ่นหลายได้

มัลติเปิลอัลลีลส์ (Multiple alleles)

ข้อใดกล่าว ถึง ยีน และการ ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรม ได้ ถูก ต้อง
อัลลีล หรืออัลลีโลมอร์ฟ (Allele or Allelomorph) หมายถึง ยีนต่างชนิดกันที่เข้าคู่กันได้ หรือ หน่วยกรรมพันธุ์ที่ ต่างชนิดกันแต่อยู่ในตำแหน่ง(Locus) ของโครโมโซมที่เป็นคู่กัน(Homologous chromosome) และควบคุมลักษณะพันธุกรรมเดียวกัน
ข้อใดกล่าว ถึง ยีน และการ ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรม ได้ ถูก ต้อง
มัลติเปิลอัลลีลส์
หมายถึง พันธุกรรมลักษณะใดลักษณะหนึ่งที่ถูกควบคุมด้วยยีนมากกว่า 2 อัลลีลส์ (Alleles) ที่ตำแหน่ง (Locus) หนึ่งของโครโมโซมที่เป็นคู่กัน (Homolo-gous chromosome)

มัลติเปิลยีนส์ หรือพอลียีนส์ (Multiple genes or Polygenes)
มัลติเปิลยีนส์ หรือ พอลียีนส์ หมายถึง กลุ่มของยีนหรือยีนหลาย ๆ คู่ที่กระจายอยู่บนโครโมโซมคู่เดียวกันหรือต่างคู่กัน ต่างทำหน้าที่ร่วมกันในการควบคุมลักษณะพันธุกรรมหนึ่ง ๆ ของสิ่งมีชีวิต

ยีน และโครโมโซม (Gene and Chromosome)

ข้อใดกล่าว ถึง ยีน และการ ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรม ได้ ถูก ต้อง
ยีน (Gene) หมายถึง หน่วยควบคุมลักษณะพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต ซึ่งเป็นแต่ละส่วนของสารพันธุกรรม ชนิด DNA หรือ RNA โดยบรรจุอยู่ในโครโมโซม (Chromosome) ตำแหน่งของยีนในโครโมโซมเรียก โลกัส (Locus) เนื่องจากสิ่ง มีชีวิตโดยทั่วไปจะมีโครโมโซม
เหมือนกันเป็นคู่ ๆ (Homologus chromosome) ดังนั้น 1 โลกัส จึงหมายถึง 2 ตำแหน่งที่อยู่ตรงกันบนโฮโมโลกัสโครโมโซม ซึ่งยีนต่างชนิดกันที่อยู่บนโลกัสเดียวกัน เรียกว่าเป็นอัลลีล (Allele) กัน
ข้อใดกล่าว ถึง ยีน และการ ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรม ได้ ถูก ต้อง
โครโมโซม (Chromosome)
ในเซลล์ร่างกาย จะมีรูปร่าง ลักษณะที่เหมือนกันเป็นคู่ ๆ แต่ละคู่เรียกว่า โฮโมโลกัสโครโมโซม(Homologus chromosome) ซึ่งโครโมโซมที่เป็นโฮโมโลกัสกันนี้ จะมีรูปร่าง ลักษณะเหมือนกัน ความยาวเท่ากัน ตำแหน่งเซนโทรเมียร์ตรงลำดับยีนในโครโมโซมเหมือนกัน และมียีนที่เป็นอัลลีลกัน
ข้อใดกล่าว ถึง ยีน และการ ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรม ได้ ถูก ต้อง
ในโครโมโซมเรามีโครโมโซม 23 คู่ แต่ละคู่มียีนควบคุมลักษณะพันธุกรรมมากมายเรียงต่อ ๆ กันไป ดังนั้นจึงอาจ แบ่งยีนที่ควบคุมลักษณะพันธุกรรมออกเป็น 2 ประเภท คือลักษณะพันธุกรรมที่ควบคุมโดยยีนในออโตโซม และที่ถูก ควบคุมโดยยีนในโครโมโซมเพศ

ยีนในออโตโซม

ข้อใดกล่าว ถึง ยีน และการ ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรม ได้ ถูก ต้อง
- ยีนที่ควบคุมหมู่เลือด ABO (ABO blood grorp)
ข้อใดกล่าว ถึง ยีน และการ ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรม ได้ ถูก ต้อง
- ยีนที่ควบคุมหมู่เลือด Rh (Rh blood group)
ข้อใดกล่าว ถึง ยีน และการ ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรม ได้ ถูก ต้อง
- ยีนที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งที่เรตินา (Retinoblastoma)
ข้อใดกล่าว ถึง ยีน และการ ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรม ได้ ถูก ต้อง
- ยีนที่ทำให้เกิดโรคทาลัสซีเมีย (Thalassemia)

กรดนิวคลีอิก (Nucleic acid) มี 2 ชนิดคือ

ข้อใดกล่าว ถึง ยีน และการ ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรม ได้ ถูก ต้อง
1. DNA (Deoxyribonucleic acid)
ข้อใดกล่าว ถึง ยีน และการ ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรม ได้ ถูก ต้อง
2. RNA (Ribonucleic acid)

DNA
DNA เป็นสารพันธุกรรมที่พบเป็นส่วนใหญ่ในสิ่งมีชีวิตซึ่งมีโครงสร้างดังนี้

ข้อใดกล่าว ถึง ยีน และการ ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรม ได้ ถูก ต้อง
1.DNA เป็นพอลีเมอร์(Polymer) ประกอบขึ้นจากหน่วยย่อย(Monomer) เรียกว่า นิวคลีโอไทด์(Nucleotide)
ข้อใดกล่าว ถึง ยีน และการ ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรม ได้ ถูก ต้อง
2.แต่ละนิวคลีโอไทด์เชื่อมต่อกันเป็นสายยาว โดยมีการสร้างพันธะระหว่างหมู่ฟอสเฟตของนิวคลีโอไทด์หนึ่งกับน้ำตาล ของนิวคลีโอไทด์อีกหนึ่งที่คาร์บอน
ข้อใดกล่าว ถึง ยีน และการ ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรม ได้ ถูก ต้อง
3.DNA โมเลกุลหนึ่งประกอบขึ้นจากพอลินิวคลีโอไทด์ 2 สาย โดยสายทั้งสองนี้ยึดกันด้วยพันธะไฮโดเจน
ข้อใดกล่าว ถึง ยีน และการ ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรม ได้ ถูก ต้อง
4.พอลินิวคลีโอไทด์สองสายในโมเลกุลของ DNA นั้น แต่ละสาย

ข้อใดกล่าว ถึง ยีน และการ ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรม ได้ ถูก ต้อง

ข้อใดกล่าว ถึง ยีน และการ ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรม ได้ ถูก ต้อง
https://sites.google.com/site/chawissil/laksna-thang-phanthukrrm

ข้อใดกล่าว ถึง ยีน และการ ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรม ได้ ถูก ต้อง