สถาบันการเงินสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ธนาคาร และสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร 1. ธนาคาร 2. สถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร ที่มา : http://together1711.wordpress.com/ประเภทของสถาบันการเงิน/ http://www.trueplookpanya.com/new/cms_detail/knowledge/1918-00/ ธนาคารกลาง คือ หน่วยงานกลางที่ดูแลในเรื่องเกี่ยวนโยบายการเงินของประเทศแต่ละประเทศ หน้าที่ของธนาคารกลาง จะเป็นเหมือน ธนาคารของธนาคาร ที่คอยควบคุมธนาคารและสถาบันการเงินที่อยู่ในอำนาจการควบคุมของธนาคารกลางของประเทศนั้นๆ ดังนั้น ธนาคารกลาง (Central Bank) จะไม่ทำธุรกรรมกับประชาชนโดยตรง แต่จะทำธุรกรรมกับธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินที่อยู่ภายใต้การควบคุมเท่านั้น ซึ่งหน้าที่ของธนาคารกลางของธนาคารกลางทุกประเทศจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก คือ
ธนาคารกลางของประเทศไทย คือ ธนาคารกลางแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือ Bank of Thailand (BoT) หรือบางคนอาจจะเรียกว่า “แบงค์ชาติ” นอกจากนี้ การที่ธนาคารกลาง (Central Bank) คือหน่วยงานที่คอยควบคุมเกี่ยวกับนโยบายการเงิน (Monetary Policy) ในแต่ละประเทศ นั่นหมายความว่าทุกประเทศมีธนาคารกลาง โดยธนาคารกลาง (Central Bank) ของประเทศที่สำคัญในเศรษฐกิจโลกมีดังนี้
หน้าที่ของธนาคารกลางอย่างที่บอกไว้ว่า หน้าที่ของธนาคารกลาง ของธนาคารกลาง (Central Bank) ทุกประเทศจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน มาดูกันว่าในแต่ละหน้าที่ของ ธนาคารกลาง ดูแลเกี่ยวกับอะไรบ้าง กำหนดนโยบายการเงินของประเทศ(Monetary Policy) มีเป้าหมายเพื่อดูแลเสถียรภาพการเงินของประเทศ ด้วยมาตรการต่างๆ เช่น การแทรกแซงอัตราแลกเปลี่ยน และการออกนโยบายทางการเงินอื่นๆ โดยหน้าที่ที่คุ้นเคยกันดีในส่วนนี้ของ ธนาคารกลาง คือ การควบคุมเพิ่ม/ลด/คงที่ดอกเบี้ยนโยบาย (Policy Rate) ที่เป็นดอกเบี้ยอ้างอิงของประเทศ กำกับดูแลสถาบันการเงินที่อยู่ในประเทศ มีเป้าหมายในการคุ้มครองประชาชนจากสถาบันการเงิน (เป็นเหมือนตำรวจที่คอยคุมธนาคารกับสถาบันการเงิน) เช่น การออกกฎต่างๆ เกี่ยวกับธนาคารในประเทศ การควบคุมการให้กู้ หรือแม้กระทั่งจะสั่งปิดสถาบันการเงินหรือธนาคารที่มีความผิด การกำกับดูแลสถาบันการเงินที่พบได้บ่อยของ ธนาคารกลาง คือ การควบคุมเงื่อนไขเกี่ยวกับสินเชื่อต่างๆ เพื่อทำให้ธนาคารพานิชย์ไม่ปล่อยสินเชื่อมากเกินไป และประชาชนไม่ก่อหนี้มากเกินไป หน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทยในส่วนของธนาคารกลางของไทย หรือ ธนาคารแห่งประเทศไทย (Bank of Thailand) มีหน้าที่ระบุไว้อย่างชัดเจน ตามพระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทย พ.ศ.2485 ที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2551 กำหนดและดำเนินนโยบายการเงิน ได้แก่ รับฝาก ควบคุมอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมเงินสำหรับสถาบันการเงิน ซื้อขายเงินตราต่างประเทศ กู้ยืมเงินตราต่างประเทศ กู้ยืมเงินเพื่อการดำเนินนโยบายการเงิน ซื้อขายหลักทรัพย์เท่าที่จำเป็นและแลกเปลี่ยนกระแสเงินสดในอนาคตเพื่อควบคุมปริมาณเงินของประเทศ รวมถึงยืมหรือให้ยืมหลักทรัพย์ตามที่กำหนดโดยมีหรือไม่มีค่าตอบแทน ออกและจัดการธนบัตรของรัฐบาลและบัตรธนาคาร โดยมีสิทธิแต่ผู้เดียวที่จะออกบัตรธนาคารในราชอาณาจักร บริหารจัดการสินทรัพย์ของ ธนาคารแห่งประเทศไทย ด้วยการนำสินทรัพย์ไปลงทุนหาประโยชน์ กำกับและตรวจสอบสถาบันการเงิน ด้วยการวิเคราะห์และตรวจสอบการดำเนินงาน ไปจนถึงการบริหารความเสี่ยงของสถาบันการเงิน บริหารอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา รวมถึงการบริหารสินทรัพย์ในทุนสำรอง ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน จัดตั้งหรือสนับสนุนการจัดตั้งระบบการชำระเงิน ระบบการหักบัญชีระหว่างสถาบันการเงิน รวมถึงทำให้เกิดความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ เป็นนายธนาคารและนายทะเบียนหลักทรัพย์ของรัฐบาล มีอำนาจรับจ่ายเงินเพื่อบัญชีฝากของกระทรวงการคลัง เป็นตัวแทนรัฐบาลในการซื้อขายหลักทรัพย์และสินทรัพย์ต่างๆ หรืออาจเป็นนายธนาคารของรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานอื่นของรัฐ เป็นนายทะเบียนหลักทรัพย์ของรัฐบาล มีอำนาจกระทำการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ของรัฐบาล จ่ายเงินต้นและดอกเบี้ย หรืออาจเป็นนายทะเบียนหลักทรัพย์ของรัฐวิสาหกิจ สถาบันการเงินที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้นหรือหน่วยงานอื่นของรัฐ เป็นนายธนาคารของสถาบันการเงิน ทำหน้าที่เหมือนธนาคารของธนาคาร เช่น ให้กู้ยืมเงิน ให้ความช่วยเหลือทางการเงิน การรับเก็บรักษาเงิน หลักทรัพย์ ของมีค่าอย่างอื่นของสถาบันการเงิน รวมถึงสามารถสั่งให้ส่งรายงานหรือชี้แจงเกี่ยวกับทรัพย์สิน หนี้สิน หรือภาระผูกพัน หน้าที่ของธนาคารกลางแห่งประเทศไทยแบบสรุปได้ที่เว็บไซต์ธนาคารแห่งประเทศไทยอ้างอิงจาก: บทบาทหน้าที่ ธปท. นอกจากนี้ สามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Fed หรือ Federal Reserve System ที่เป็นธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกาได้ที่: Fed Rate คืออะไร? ทำไมสำคัญกับประเทศอื่น Kris Pirojบรรณาธิการ GreedisGoods | อดีตที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์และการเงิน | นักลงทุนที่สนใจในเศรษฐศาสตร์มหภาคและอนุพันธ์เป็นพิเศษ | หากบทความเป็นประโยชน์สามารถติดตามเราได้บน Facebook และ Twitter |