การย้ายต้นกล้าควรใช้อุปกรณ์ใด

การย้ายต้นกล้าควรใช้อุปกรณ์ใด

การเพาะเมล็ด หรือ การเพาะกล้า จะต้องมีแปลงเพาะ หรืออาจเพาะในภาชนะ เช่น กระบะ หรือ ถ้วย กระป๋อง แต่ที่สำคัญคือ ต้องมีดินที่เหมาะสมสำหรับให้เมล็ดงอกและเจริญเติบโตได้ ดินหรือวัตถุที่ใช้เพาะควรโปร่ง ร่วนซุย คือ อุ้มน้ำ และมีการถ่ายเทอากาศดีด้วย เมื่อโรยเมล็ดเป็นแถว หรือหว่านลงในเครื่องปลูกแล้ว ควรคลุมเมล็ดด้วยฟางหรือแกลบ โดยทั่วไป การกระจายเมล็ดกะให้ได้ต้นกล้า 10 ต้น ในระยะยาวในแถว 30 เซนติเมตร หากมีกล้าขึ้นแน่นมาก กล้าจะไม่เจริญเติบโต ไม่แข็งแรงและยังอาจมีโรคเน่าระบาดได้ง่าย

ในการหยอดเมล็ดไม่ควรให้ลึกมากเกินไป ควรอยู่ประมาณ 0.5-1.0 เซนติเมตร ควรรดน้ำในตอนเช้าและตอนบ่ายไม่เกิน 15.00 น. ให้ดินมีความชื้นอยู่เสมอ น้ำที่ให้ควรเป็นฝอยละเอียด เมื่อเมล็ดงอกได้ 15 วัน ควรให้ปุ๋ยที่มีฟอสฟอรัสสูง เช่น ปุ๋ยวิทยาศาสตร์ 8-24-8 หรือ 13-26-13 โดยใช้ปุ๋ยนี้ละลายน้ำในอัตราปุ๋ยหนัก 60 กรัม ต่อน้ำ 10 ลิตร รดเป็นฝอยลงบนกล้า ปุ๋ยสูตรดังกล่าวนี้ จะทำให้รากของกล้าแข็งแรง ห้ามใช้ปุ๋ยไนโตรเจนสูงรดกล้าจะทำให้กล้าอ่อนแอ

เมื่อกล้าอายุได้ 7 วัน ควรถอนตรงที่หนาแน่นทิ้งเสียบ้าง และถอนต้นที่อ่อนแอทิ้งไป ในระยะเพาะกล้าแปลงกล้าไม่ควรโดนแดดจัด ควรมีวัสดุบังแสง แต่เมื่อกล้าพร้อมที่จะย้ายลงแปลงปลูกได้นั้น ควรมีการกระทำที่ทำให้กล้าแข็งแรง (Hardening) วิธีการนี้ควรทำก่อนกล้าถูกย้ายลงแปลง 1 สัปดาห์ ทำได้โดยนำกล้าโดนแสงมากขึ้นที่ละน้อยๆ จนกระทั่งไม่มีการบังแสงทั้งวัน และพร้อมกันกับให้แสงมาก ก็ให้น้ำน้อยลงด้วย แต่ต้องระวังอย่าให้กล้าเหี่ยวเฉา การกระทำเช่นนี้เพื่อที่ว่าเมื่อย้ายกล้าไปอยู่ในแปลงปลูกแล้วจะได้ไม่กระทบกระเทือนหรือชะงักการเจริญเติบโตมากนัก โดยทั่วไปกล้ามักอยู่ในแปลงกล้าประมาณ 4-6 สัปดาห์

การย้ายกล้า ทำได้ 2 วิธี คือ

1. แบบถอนต้นกล้าออกจากดินไป วิธีนี้รากกล้าอาจขาดมาก และไม่มีดินเพาะกล้าติดไปเลย ทำได้กับพืชที่งอกรากใหม่ได้รวดเร็ว เช่น มะเขือ กะหล่ำ ผักกาด

2. แบบแยกกล้าโดยการเอาดินหุ้มรากติดไปด้วย วิธีนี้รากกล้าแทบไม่ได้รับความกระทบกระเทือนเลย ในกรณีเพาะกล้ากับแปลงเพาะอาจทำลำบาก แต่จะสะดวกมากหากเพาะกล้าในถูกพลาสติกเล็กๆ โดยเพาะถุงละต้น หรือเพาะในแท่งเพาะชำ ซึ่งสามารถนำไปปลูกลงในแปลงได้เลย

เมล็ดผักจะงอกและต้นกล้าจะเจริญเติบโตได้ดีเพียงใด นอกจากการใช้เมล็ดพันธุ์ที่ดีมีคุณภาพแล้ว ยังขึ้นอยู่กับ “วัสดุเพาะกล้า” ด้วย

วัสดุเพาะกล้า ที่ดีควรมีความร่วนซุย มีความชื้นพอเหมาะ รวมถึงมีค่า pH และ EC เหมาะสม ไม่จำเป็นต้องเติมปุ๋ยระหว่างเพาะ ต้นกล้าก็สามารถเติบโตพร้อมย้ายปลูกได้ เนื่องจากต้นกล้ายังไม่ต้องการธาตุอาหารมากนัก

โดยทั่วไป เรานิยมใช้พีทมอส (peat moss) เป็นวัสดุเพาะเมล็ดหรือผสมกับวัสดุปลูกอื่น ๆ ในการปลูกพืชผักและไม้ดอกไม้ประดับ เนื่องจากใช้งานได้สะดวก ซึ่งพีทมอสเกิดจากซากสแฟกนัมมอสที่ตายแล้วทับถมกันจนย่อยสลายกลายเป็นผงสีดำ อุ้มน้ำและเก็บความชื้นได้ดี อุดมไปด้วยธาตุอาหาร แต่มีราคาค่อนข้างสูง

อาจารย์เติ้ล –เกศศิรินทร์ แสงมณี จากมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร แนะนำสูตรวัสดุเพาะกล้าราคาประหยัดที่ทุกคนสามารถผสมใช้เองแบบง่าย ๆ มาฝากกัน ซึ่งจากการใช้งานจริงพบว่า เมล็ดพันธุ์ผักแทบทุกชนิดสามารถงอกได้ดี ต้นกล้าแข็งแรง แถมยังย้ายปลูกได้งาม ให้ผลดีไม่แพ้การใช้พีทมอสเลยทีเดียว

การย้ายต้นกล้าควรใช้อุปกรณ์ใด

ต้นกล้าผักสลัดอายุประมาณ 15 วัน พร้อมย้ายลงกระถางและแปลงปลูก เมื่อลองนำต้นกล้าออกจากถาดเพาะจะเห็นว่าต้นกล้ามีใบจริงที่แข็งแรงและรากเจริญได้ดี

ต้นกล้าผักกินใบหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นผักสลัด สวิสชาร์ด คะน้าเคล คะน้าเห็ดหอม คะน้า กวางตุ้ง เบบี้กวางตุ้ง ผักกาดขาวน้อย ผักกาดเขียว รวมถึงแรดิช ควรย้ายปลูกเมื่อต้นกล้ามีอายุ 15-18 วัน

พืชผักตระกูลกะหล่ำ ทั้งกะหล่ำ กะหล่ำดอก กะหล่ำปลี และผักกาดขาวปลี ควรย้ายปลูกเมื่อต้นกล้ามีอายุ 21 วัน

ผสมวัสดุเพาะกล้าใช้เอง

สามารถผสมวัสดุเพาะกล้าใช้เองได้ง่าย ๆ ดังนี้  

การย้ายต้นกล้าควรใช้อุปกรณ์ใด

Step 1 เตรียมวัสดุเพาะที่มีส่วนผสมของขุยมะพร้าวร่อน 2 ส่วน มูลวัวร่อนหรือมูลไส้เดือน และขี้เถ้าแกลบ อย่างละ 1 ส่วน คลุกเคล้าให้เข้ากัน

การย้ายต้นกล้าควรใช้อุปกรณ์ใด

Step 2 รดด้วยไตรโคเดอร์มา อัตรา 10 กรัม (หากเป็นไตรโคเดอร์มาเชื้อสดผสมข้าวใช้ 1 ช้อนโต๊ะ ส่วนแบบผงใช้ 2 ช้อนโต๊ะ) ต่อน้ำ 10 ลิตร หรือจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง อัตรา 20 มิลลิลิตร (4 ช้อนโต๊ะ) ต่อน้ำ 10 ลิตร

การย้ายต้นกล้าควรใช้อุปกรณ์ใด

Step 3 ปรับความชื้นวัสดุเพาะให้ได้ประมาณ 60% หรือทดสอบง่าย ๆ ด้วยการกำวัสดุเพาะว่าจับเป็นก้อนไม่แตก บีบแล้วไม่มีน้ำไหลก็ใช้ได้ จากนั้นตักวัสดุเพาะใส่ถุงหรือกระสอบที่มีรูระบายอากาศ

การย้ายต้นกล้าควรใช้อุปกรณ์ใด

Step 4 หมักวัสดุเพาะในที่ร่ม 15-30 วัน ก็สามารถนำมาใช้เพาะเมล็ดผักได้ทุกชนิด สูตรวัสดุเพาะนี้ใช้แทนพีทมอสได้ดี ยิ่งหมักทิ้งไว้นานก็ยิ่งดี ลักษณะคล้ายพีทมอสมาก

วิธีเพาะเมล็ดอย่างง่าย

การย้ายต้นกล้าควรใช้อุปกรณ์ใด

หลังจากเตรียมวัสดุเพาะกล้าเรียบร้อยก็มาลงมือเพาะเมล็ดในถาดเพาะ ซึ่งนิยมใช้กับเมล็ดผักต่างประเทศที่ส่วนใหญ่เมล็ดมีราคาแพง เพราะช่วยประหยัดเมล็ดพันธุ์และทำให้ต้นกล้าเจริญเติบโตได้ดี แข็งแรงไม่เสียหาย โดยใช้อุปกรณ์ไม่มาก ได้แก่ ถาดเพาะ วัสดุเพาะกล้าหรือพีทมอส เมล็ดพันธุ์ผัก และป้ายชื่อ ทำได้ง่าย ๆ ดังนี้

การย้ายต้นกล้าควรใช้อุปกรณ์ใด

Step 1 นำวัสดุเพาะใส่ลงในถาดเพาะ เกลี่ยให้เรียบโดยไม่ต้องกด ใช้นิ้วหรือไม้เล็ก ๆ ทำหลุมแล้วใส่เมล็ดลงไป 1-2 เมล็ด กลบวัสดุเพาะบาง ๆ

Tip หากใช้กระบะเพาะควรใส่วัสดุเพาะสูงประมาณ 3 ใน 4 ของความลึก เกลี่ยผิวหน้าให้เรียบ แล้วใช้ไม้เสียบลูกชิ้นชักร่องเป็นแถวเพื่อโรยเมล็ด

การย้ายต้นกล้าควรใช้อุปกรณ์ใด

Step 2 รดน้ำให้ชุ่มโดยใช้บัวรดน้ำหัวฝอย เขียนป้ายชื่อระบุชนิดผักและวันที่เพาะ แล้วนำถาดเพาะไปวางในที่ร่มรำไร ดูแลรดน้ำทุกวันอย่าให้แห้งหรือแฉะเกินไป ประมาณ 3-7 วันเมล็ดจะเริ่มงอกและแตกใบเลี้ยง

การย้ายต้นกล้าควรใช้อุปกรณ์ใด

Step 3 นำถาดเพาะออกไปวางในที่มีแสงมากขึ้น รอจนต้นกล้ามีใบจริงอย่างน้อย 2 ใบ ค่อยย้ายปลูกลงถุงเพาะชำ กระถางขนาดเล็ก หรือแปลงปลูกต่อไป โดยใช้นิ้วดันใต้หลุมเพาะและบีบตุ้มดินขึ้น

การย้ายต้นกล้าควรใช้อุปกรณ์ใด

Step 4 ก่อนย้ายต้นกล้าลงแปลงปลูกประมาณ 1 สัปดาห์ ควรปรับสภาพต้นกล้าโดยรดน้ำให้น้อยลง และย้ายถาดเพาะให้ได้รับแสงมากขึ้น ถ้าย้ายกล้าเร็วเกินไปต้นอาจไม่แข็งแรง ทำให้ต้องดูแลมาก แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้จนต้นกล้ามีใบจริงหลายใบแล้วไม่ย้ายปลูก ต้นผักจะแคระแกร็น เนื่องจากธาตุอาหารในถาดเพาะมีไม่เพียงพอ

การย้ายต้นกล้าควรใช้อุปกรณ์ใด

ต้นกล้ามะเขือเทศอายุ 21 วัน พร้อมย้ายลงกระถางและแปลงปลูก พืชผักตระกูลพริกและมะเขือ ควรย้ายปลูกเมื่อต้นกล้ามีอายุ 21-30 วัน ผักกินผลตระกูลแตง ควรย้ายปลูกเมื่อต้นกล้ามีอายุ 12-14 วัน

การเพาะเมล็ดทำได้หลายวิธี อาจโรยหรือหยอดเมล็ดลงในแปลงปลูกโดยตรง หรือเพาะเมล็ดในถาดเพาะแล้วย้ายต้นกล้าลงแปลงปลูกก็ได้ ตัวอย่างเช่น พืชผักที่มีอายุสั้นและโตเร็วอย่างผักบุ้ง คะน้า ผักชี ผักกาดต่าง ๆ สามารถโรยหรือหว่านเมล็ดลงในแปลงปลูกได้เลย เมื่อต้นกล้างอกจึงค่อยถอนแยกต้นที่เบียดกันแน่นออก ส่วนแตงกวา บวบ น้ำเต้า และถั่วต่าง ๆ ซึ่งเมล็ดมีขนาดใหญ่ และต้นกล้ายืดยาวเร็ว นิยมหยอดเมล็ดเพาะในแปลงปลูกเช่นกัน

สำหรับพืชผักที่กินส่วนรากหรือหัวใต้ดินอย่างผักกาดหัว และแครอต ไม่นิยมย้ายกล้าเพราะอาจทำให้รากขาด ทำให้หัวผักกาดหรือแครอตไม่สมบูรณ์ ส่วนพืชผักที่ใช้เวลานานกว่าจะโตจนเก็บผลได้อย่างพริก มะเขือ มะเขือเทศ นิยมเพาะต้นกล้าก่อน แล้วย้ายปลูกลงในภาชนะหรือแปลงปลูกจริง ดังนั้นควรศึกษาการเจริญเติบโตของพืชผักที่ต้องการปลูกก่อน แล้วเลือกใช้วิธีเพาะเมล็ดที่เหมาะสม

เรื่อง : อังกาบดอย

ภาพ : อนุพงษ์ ฉายสุขเกษม

ข้อมูล : อาจารย์เกศศิรินทร์ แสงมณี คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร

โรสแมรี่ขยายพันธุ์ง่ายกว่าที่คิด

กักตัวแต่ไม่ต้องกักตุน เพาะผักงอก 7 วันกินได้

อัปเดทข่าวสารได้ที่บ้านและสวนGarden&Farm

การย้ายต้นกล้าใช้อุปกรณ์ใด

เมื่อต้นกล้ามีการเจริญเติบโตมากขึ้นต้องทำ การย้ายปลูกอีก ครั้งหนึ่งใส่ในภาชนะปลูกที่มีขนาดใหญ่ขึ้น สามารถทำได้โดย ใช้มือจับภาชนะปลูกแล้ว สอดนิ้วเข้าไปที่ลำต้นให้อยู่ระหว่างนิ้ว คว่ำกระถางลงเพื่อดันก้นกระถางให้ต้นออกมากับดิน จึงย้ายใส่ ในภาชนะปลูกที่มีขนาดใหญ่ขึ้นหรือย้ายปลูกในแปลง

ใช้สิ่งใดรดน้ำต้นกล้า

การรดน้ำต้นกล้าที่ถาดเพาะกล้าจะต้องเบาๆที่สุดใช้พ่นฝอยโดยใช้เครื่องฉีดน้ำได้ครับ รดน้ำต้นกล้า,รดน้ำผัก,รดน้ำผักถุกวิธี,รดน้ำต้นไม้,รดน้ำ,เร่งผล,แม่บ้านปลูกผัก,เร่งดอก,ปลูกเองกินเอง,บำรุงผัก …

การปลูกต้นกล้าของพืชควรใช้ดินชนิดใด

วัสดุเพาะกล้า ที่ดีควรมีความร่วนซุย มีความชื้นพอเหมาะ รวมถึงมีค่า pH และ EC เหมาะสม ไม่จำเป็นต้องเติมปุ๋ยระหว่างเพาะ ต้นกล้าก็สามารถเติบโตพร้อมย้ายปลูกได้ เนื่องจากต้นกล้ายังไม่ต้องการธาตุอาหารมากนัก

ก่อนย้ายต้นกล้าไปปลูก ควรทำอย่างไร

ก่อนย้ายกล้าผักลงปลูกควรรดน้ำให้ชุ่มก่อนย้าย 1 วัน เพราะจะทำให้ถอนได้ง่ายป้องกันรากขาด และ ป้องกันไม่ให้ดินร่วงหล่นได้ง่าย ก่อนย้ายต้นกล้า ควรใช้เวลาตอนเย็น เพราะต้นกล้าจะถูกแสงแดดน้อยและต้นกล้าตั้งตัวได้เร็วในช่วงกลางคืน หากจำเป็นนั้นก็สามารถย้ายต้นกล้าในช่วงเช้าได้บ้าง แต่ไม่ได้ผลดีเท่าช่วงเย็น