ประเทศใดเป็นผู้ผลิต PLC ขึ้นมาเป็นประเทศแรก

18 ก.พ.

  • 18 ก.พ. 2560 11:07:08
  • ไฟฟ้าอิเล็คทรอนิกส์

ส่วนประกอบของ PLC

Programmable Logic Controller เครื่องควบคุมเชิงตรรกที่สามารถโปรแกรมได้ PLC : Programmable Logic Controller (มีต้นกำ เนิดจากประเทศสหรัฐอเมริกา) เป็นเครื่องควบคุมอัตโนมัติในโรงงานอุตสาหกรรม ที่สามารถจะโปรแกรมได้ ถูกสร้างและพัฒนาขึ้นมาเพื่อทดแทนวงจรรีเลย์ อันเนื่องมาจากความต้องการที่อยากจะได้เครื่องควบ คุมที่มีราคาถูกสามารถใช้งานได้อย่างเอนกประสงค์ และสามารถเรียนรู้การใช้งานได้ง่าย

PLC แบ่งออกได้ 3 ส่วนด้วยกันคือ

1.ส่วนที่เป็นหน่วยประมวลผลกลาง (Control Processing Unit : CPU)

2.ส่วนที่เป็นอินพุต/เอาต์พุต (Input Output : I/O)

3.ส่วนที่เป็นอุปกรณ์การโปรแกรม (Programming Device)

1.ส่วนที่เป็นหน่วยประมวลผลกลาง (Control Processing Unit : CPU)

CPU เป็นส่วนมันสมองของระบบ ภายใน CPU จะประกอบไปด้วยวงจร Logic Gate ชนิดต่างๆ หลายชนิด และมี Microprocessor-based ใช้สำหรับแทนอุปกรณ์จำพวกรีเลย์ (Relay) เคาน์เตอร์(Counter) ไทเมอร์ (Timer) และซีเควนเซอร์ (Sequencers) เพื่อให้ผู้ใช้ได้ออกแบบใช้วงจรรีเลย์แลดเดอร์ ลอจิก (Relay Ladder Logic) เข้าไปได้

CPU จะยอมรับ (Read) อินพุต เดต้า (Input Data) จากอุปกรณ์ให้สัญญาณ (Sensing  Device) ต่างๆ จากนั้นจะปฏิบัติการและเก็บข้อมูลโดยใช้โปรแกรมจากหน่วยความจำ และส่งข้อมูลที่เหมาะสมถูกต้องไปยังอุปกรณ์ควบคุม (Control Device) แหล่งของกระแสไฟฟ้าตรง (DC  Current) สำรับใช้สร้างโวลต์ต่ำ (Low Level Voltage) ซึ่งใช้โดยโปรเซสเซอร์ (Processor) และไอโอ โมดูล (I/O Modules) และแหล่งจ่ายไฟนี้จะเก็บไว้ที่ CPU หรือแยกออกไปติดตั้งที่จุดอื่นก็ได้ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตแต่ละราย

การประมวลผลของ CPU จากโปรแกรมทำได้โดยรับข้อมูลจากหน่วยอินพุทและเอาท์พุท และส่งข้อมูลสุดท้ายที่ได้จากการประมวลผลไปยังหน่วยเอาท์พุท เรียกว่า การสแกน (Scan) ซึ่งใช้เวลาจำนวนหนึ่ง เรียกว่า เวลาสแกน (Scan Time) เวลาในการสแกนแต่ละรอบใช้เวลาประมาณ 1 ถึง 100 msec. (0.001-0.1วินาที) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อมูลและความยาวของโปรแกรม หรือจำนวนอินพุท/เอาท์พุทหรือจำนวนอุปกรณ์ที่ต่อจาก PLC เช่น เครื่องพิมพ์ จอภาพ เป็นต้น อุปกรณ์เหล่านี้จะทำให้เวลาในการสแกนยาวนานขึ้น การเริ่มต้นการสแกนเริ่มจากรับคำสั่งของสภาวะของอุปกรณ์จากหน่วยอินพุทมาเก็บไว้ในหน่วยความจำ (Memory) เสร็จแล้วจะทำการปฏิบัติการตามโปรแกรมที่เขียนไว้ทีละคำสั่งจากหน่วยความจำนั้นจนสิ้นสุด แล้วส่งไปที่หน่วยเอาท์พุท ซึ่งการสแกนของ PLC ประกอบด้วย

2.ส่วนของอินพุตและเอาต์พุต (I/O Unit)

ส่วนของอินพุตและเอาต์พุต (I/O Unit) จะต่อร่วมกับชุดควบคุมเพื่อรับสภาวะและสัญญาณต่างๆ เช่น หน่วยอินพุตรับสัญญาณหรือสภาวะแล้วส่งไปยัง CPU เพื่อประมวลผล เมื่อ CPU ประมวลผลแล้วจะส่งให้ส่วนของเอาต์พุต เพื่อให้อุปกรณ์ทำงานตามที่โปรแกรมเอาไว้

สัญญาณอินพุตจากภายนอกที่เป็นสวิตช์และตัวตรวจจับชนิดต่างๆ จะถูกแปลงให้เป็นสัญญาณที่เหมาะสมถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็น AC หรือ DC เพื่อส่งให้ CPU ดังนั้น สัญญาณเหล่านี้จึงต้องมีความถูกต้องไม่เช่นนั้นแล้ว CPU จะเสียหายได้

สัญญาณอินพุตที่ดีจะต้องมีคุณสมบัติและหน้าที่ดังนี้

1.  ทำให้สัญญาณเข้า ได้ระดับที่เหมาะสมกับ PLC

2.  การส่งสัญญาณระหว่างอินพุตกับ CPU จะติดต่อกันด้วยลำแสง ซึ่งอาศัยอุปกรณ์ประเภทโฟโตทรานซิสเตอร์เพื่อต้องการแยกสัญญาณ (Isolate) ทางไฟฟ้าให้ออกจากกัน เป็นการป้องกันไม่ให้ CPU เสียหายเมื่ออินพุตเกิดลัดวงจร                

3.  หน้าสัมผัสจะต้องไม่สั่นสะเทือน (Contact Chattering)

สัญญาณเอาต์พุต 

         จะทำหน้าที่รับค่าสภาวะที่ได้จากการประมวลผลของ CPU แล้วนำค่าเหล่านี้ไปควบคุมอุปกรณ์ทำงาน เช่น รีเลย์ โซลีนอยด์ หรือหลอดไฟ เป็นต้น นอกจากนั้นแล้ว ยังทำหน้าที่แยกสัญญาณของหน่วยประมวลผลกลาง (CPU) ออกจากอุปกรณ์เอาต์พุต โดยปกติเอาต์พุตนี้จะมีความสามารถขับโหลดด้วยกระแสไฟฟ้าประมาณ 1-2 แอมแปร์ แต่ถ้าโหลดต้องการกระแสไฟฟ้ามากกว่านี้ จะต้องต่อเข้ากับอุปกรณ์ขับอื่นเพื่อขยายให้รับกระแสไฟฟ้ามากขึ้น เช่น รีเลย์หรือคอนแทคเตอร์ เป็นต้น        

อุปกรณ์ที่ใช้เป็นสัญญาณอินพุท ได้แก่ พรอกซิมิตี้สวิตช์(Proximility Switch)  ลิมิตสวิตช์ (Limit Switch) ไทเมอร์(Timer) โฟโตอิเล็กืริกสวิตช์(Photoelectric Switch) เอนโค้ดเดอร์(Encoder)เคาน์เตอร์(Counter) เป็นต้น    

 อุปกรณ์ที่ใช้เป็นสัญญาณเอาท์พุท ได้แก่ รีเลย์(Relay)  มอเตอร์ไฟฟ้า(Electric Motor) โซลินอยด์(Solenoid)  ขดลวดความร้อน(Heat Coil) หลอดไฟ(Lamp) เป็นต้น  

3.เครื่องป้อนโปรแกรม (Programming Device)

          เครื่องป้อนโปรแกรม (Hand Held) ทำหน้าที่ ควบคุมโปรแกรมของผู้ใช้ลงในหน่วยความจำของ PLC นอกจากนี้ยังทำหน้าที่ติดต่อระหว่างผู้ใช้กับ PLC เพื่อให้ผู้ใช้สามารถตรวจการปฏิบัติงานของ PLC และผลการควบคุมเครื่องจักรและกระบวนการตามโปรแกรมควบคุมที่ผู้ใช้เขียนขึ้นได้อีกด้วย

          เครื่องป้อนโปรแกรม (Hand Held) แต่ละยี่ห้อจะไม่เหมือนกันแต่มีจุดประสงค์ในการใช้งานที่เหมือนกัน

PLC ผลิตครั้งแรก เมื่อ ปี พ.ศ. ใด

.. 2512 PLC เครื่องแรกสร้างโดย ดิค มอร์เลย์ (Dick Morley) ผู้ได้รับการยกย่องเป็นบิดา แห่ง PLC และต่อมาเป็นผู้ตั้งบริษัทโมดิคอน (MODICON ย่อมาจาก (MOdula DIgital CONtroller) เรียกว่า พีซี(PC ย่อมาจาก Programmable Controller) รุ่น 084 (สุเธียร เกียรติสุนทร: 2554)

PLC ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกเพื่อจุดประสงค์ใด

พีแอลซีเป็นอุปกรณ์ที่ถูกคิดค้นขึ้นมำเพื่อใช้ในกำรควบคุมกำรทำงำนของเครื่องจักรอัตโนมัติ ต่ำงๆ แทนกำรควบคุมกำรท ำงำนแบบเก่ำที่เป็นวงจรรีเลย์ที่มีกำรเดินสำยและกำรเปลี่ยนแปลง เงื่อนไขกำรท ำงำนยุ่งยำก (สรำวุฒิและคณะ, 2548; ณรงค์, 2550) ซึ่งวงจรรีเลย์มีข้อเสียคือ กำร เดินสำยและกำรเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขในกำรควบคุมมีควำมยุ่งยำก ...

PLC ถูกพัฒนาขึ้นแทนระบบใด

PLC ถูกพัฒนาขึ้นเพื่องานควบคุมอัตโนมัติโดยนำระบบคอมพิวเตอร์มาประยุกต์ใช้งาน แทนวงจรรีเลย์ จึงทำให้วงจรควบคุมที่ต้องใช้อุปกรณ์ต่างๆ มากมายถูกยุบอยู่ในรูปแบบโปร- แก รมแลดเดอร์หรืออาจเรียกว่าแลดเดอร์ไดอะแกรม ต่อมาได้มีการพัฒนาการสร้างโปรแกรมใน

การสื่อสารหว่าง PLC ไปยังคอมพิวเตอร์ใช้ระบบสื่อสารแบบใด

การสื่อสารอนุกรมภายใต้มาตรฐาน RS-232C ระหว่างเครื่อง PLC กับเครื่องคอมพิวเตอร์ จะใช้วิธีอะซิงโครนัสในแต่ละไบต์จะประกอบด้วย บิตเริ่มต้น (Start Bit) บิตข้อมูล (Data Bit) บิตพาริตี้ (Parity Bit) และบิตจบ (Stop Bit) ซึ่งมีการจัดเฟรม (Framing) ดังนี้

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก