ครั้น ถึงห้อง สุวรรณ บรรจง นั่งแนบแอบองค์นางโฉมศรี

เนื้อหา อิเหนา (๑)

Description: เนื้อหา อิเหนา (๑)

Read the Text Version

No Text Content!

    Pages:

  • 1 - 39

เอกสารประกอบการเรยี นวชิ าภาษาไทย อิเหนา ตอน ศึกกะหมังกหุ นงิ (เน้ือเร่อื ง) รหัสวชิ า ท๓๑๑๐๑ ระดับช้นั มธั ยมศึกษาปท; ่ี ๔ ผ#สู อน ครูนสิ ติ วชั รพงศ2 อาจอำนวยกจิ จา โรงเรียนสายปBญญา ในพระบรมราชินปู ถมั ภI บทละครเรื่องอิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนงิ ทา# วกะหมงั กหุ นิงปราศรยั กับระตูปาหยงั และทา# วปะหมนั เมอ่ื นั้น ท้าวกะหมงั กุหนงิ เรอื งศรี เสดจ็ เหนือแท่นรัตนม์ ณี ภูมีเห็นสองอนุชา จงึ ตรัสเรยี กให้นง่ั ร่วมอาสน์ สำราญราชหฤทัยหรรษา แล้วปราศรัยระตูบรรดามา ยงั ปรดี าผาสกุ หรอื ทุกข์ภัย ซ่ึงเราใหห้ ามาทั้งน้ี จะไปตดี าหากรุงใหญ่ ระตูทุกนครอยา่ นอนใจ ชว่ ยเราชงิ ชยั ใหท้ นั การ เม่อื น้นั เหลา่ ระตปู รีด์เิ ปรมเกษมศานต์ จงึ สนองมธรุ สพจมาน พระมีการสงครามแตล่ ะครั้ง จะตงั้ หนา้ อาสาออกชงิ ชัย มไิ ดย้ อ่ ท้อถอยหลัง สูต้ ายไมเ่ สียดายชวี งั กว่าจะสิ้นกำลงั ของข้าน้ี เมอ่ื นั้น ท้าวกะหมังกุหนิงเรอื งศรี ฟงั ระตูทลู ตอบชอบที สมถวลิ ยินดีปรีดา จึงตรัสว่าท่านมาเหนอ่ื ยนกั จงไปพกั พลขันธ์ใหห้ รรษา ตรัสพลางทางชวนอนชุ า เขา้ มหาปราสาทรจู ี ลดองค์ลงนงั่ บนแท่นทอง กบั ดว้ ยพระน้องทง้ั สองศรี จงึ ตรัสเลา่ ความตามคดี จนใช้เสนถี ือสารไป ๑ เมื่อนนั้ สองกษตั ริย์ฟังแจ้งแถลงไข จึงทูลขดั ทัดทานทนั ใด เปน็ ไฉนผ่านเกล้ามาเบาความ อนั สรุ ยิ ์วงศ์เทวัญอสัญหยา เรืองเดชเดชาชาญสนาม ท้งั โยธีก็ชำนาญการสงคราม ลือนามในชวาระอาฤทธ์ิ กรุงกษตั ริยข์ อขึ้นก็นับรอ้ ย เราเปน็ เมืองน้อยกระจิหรดิ ดังหิ่งห้อยจะแขง่ แสงอาทติ ย์ เหน็ ผิดระบอบบรุ าณมา ใชจ่ ะไร้ธิดาทกุ ธานี มงี ามแตบ่ ุตรที ้าวดาหา พระองคจ์ งควรตรึกตรา ไพร่ฟา้ ประชากรจะร้อนนัก เมื่อน้ัน สองระตทู ูลตอบพระเชษฐา เมอื่ นางยงั อยกู่ ับบดิ า ที่ในดาหากรงุ ไกร แมน้ เกิดการสงครามชว่ งชิง ท้าวดาหาหรอื จะนิ่งดูได้ จะบอกความไปสามเวียงชัย กรีธาทัพใหญม่ ามากมาย จะเป็นศกึ กระหนาบหนา้ หลงั เหลอื กำลังโยธาทง้ั หลาย ถา้ เสียทเี พล่ยี งพล้ำสิซำ้ ร้าย จะอปั ยศอดอายแกจ่ รกา เมื่อน้ัน ทา้ วกะหมังกุหนิงนาถา จงึ ตรัสตอบสองพระนอ้ งยา ซึ่งว่านี้เจ้าไมเ่ ข้าใจ อนั ระเด่นมนตรีกเุ รปนั ก็ขดั ขอ้ งเคืองกันเป็นข้อใหญ่ ไปอยูเ่ มืองหมันหยากว่าปีไป ทไี่ หนจะยกพลมา แต่กาหลังสงิ หดั ส่าหรี จะกลวั ดเี ปน็ กระไรหนกั หนา ฝ่ายเราเลา่ ก็สามพารา เปน็ ใหญ่ในชวาแวน่ แคว้น ถึงทพั จรกาล่าสำนน้ั พี่ไมพ่ รั่นให้มาสักสบิ แสน จะหกั โหมโจมตีใหแ้ ตกแตน พักเดียวก็จะแลน่ เข้าป่าไป เจา้ อย่ายอ่ ทอ้ ไมพ่ อท่ี แตเ่ พียงนไี้ มพ่ ร่ันหว่นั ไหว เอ็นดนู ดั ดาโศกาลัย วา่ มไิ ดอ้ รไทจะมรณา แมน้ วหิ ยาสะกำมอดมว้ ย พก่ี ็คงตายด้วยโอรสา ไหนไหนในจะตายวายชวี า ถึงเรว็ ถึงชา้ กเ็ หมอื นกัน ผิดกท็ ำสงครามดตู ามที เคราะห์ดีกจ็ ะไดด้ งั ใฝฝ่ ัน พี่ดังพฤกษาพนาวนั จะอาสญั เพราะลูกเหมือนกลา่ วมา ๒ ถอดความ ทา# วกะหมังกหุ นงิ ปราศรยั กับระตูปาหยังและท#าวปะหมัน ครั้นแลMวทMาวกะหมังกุหนิงเสด็จนั่งที่ประทับที่ประดับดMวยมณีทั้งหลาย พระองคI มองเห็นถึงพระอนุชาทั้ง ๒ คน จึงเรียกใหMมานั่งที่ประทับพูดคุยกันอยTางสนุกสนาน ครั้นแลMว จึงความเปUนไปของบMานเมือง และบอกถึงความประสงคIของตนวTาที่เรียกอนุชาทั้ง ๒ มาเพื่อ จะใหMชTวยไปตีเมืองดาหาขอใหMทั้งสอง ชTวยตีเมืองใหMไดMชัยชนะเร็วไว เจMาเมืองผูMนMองทั้งสองจึง ไดMรับสนองผูเM ปนU พ่ี คร้งั ใดทท่ี าM วกะหมงั กุหนิงมีศึกเจMาเมืองนMอยทั้งสองก็จะออกอาสาไมTยTอทMอ ถงึ ตายกไ็ มTเสียดายชวี ิตจะสMูจนกวาT กำลงั วงั ชาจะสูญสิน้ ไป เมื่อทMาวกะหมังกุหนิงไดMยินเจMาเมืองผูMเปUนนMองทั้งสองตรัสมาดังนั้น ดีใจเปUนอยTาง ยิ่ง พระองคIรับสั่งกับอนุชาทั้งสองใหMพาทัพทหารไปพักใหMสำราญ แลMวใหMอนุชาทั้งสองเขMามา อยูTในพระราชวัง และทMาวกะหมังกุหนิงก็ไดMลงองคIลงมานั่งขMาง ๆ กับเจMาเมืองทั้งสอง พรMอม กับเลTาเรื่องราวตาT ง ๆ ใหฟM งB แลวM ไดมM อบสารใหMเสนานำไปถวาย เมื่ออนุชาทั้งสองไดMฟBงถึงเรื่องราวทั้งหมดจึงไดMคัดคMานไปวTาเมืองที่จะไปตีนั้น มี ความเกTงกาจและชำนาญเรื่องการรบ อีกทั้งทางทหารในเมืองนั้นก็เกTงในเรื่องการรบ เลื่องลือ ในแควMนชวาและตTางเกรงกลัวในฤทธิ์เดชเมืองเขาเปUนเมืองใหญTเมือง เราเปUนเมืองนMอยเปรียบ เหมือนหิ่งหMอยจะเปลTงแสงแขTงกับดวงอาทิตยI ทั้งสองคิดวTาจะผิดจากเดิมมา ผูMหญิงงามไมTไดM มีคนเดียวในแผTนดิน ๓ เจMาเมืองนMอยทั้งสองไดMขอใหMทMาวกะหมังกุหนิงไดMคิดเสียใหมT ไมTอยTางนั้นประชาชนจะ เดือดรMอนไดM แตTทMาวกะหมังกุหนิงก็ยังทำศึก เพราะความหยิ่งในศักดิ์ศรีของตนจึงเลี่ยงที่จะตอบเจMาเมือง นMอยทั้งสอง เพราะตอนนี้ลูกสาวของทMาวดาหา จะถูกยกใหMจรการูปชั่วตัวดำ พวกเราจะตMองยกทัพไปรบ เพือ่ ชิงนาง เจMาเมืองนMอยทั้งสองก็ไดMตอบกลับไปวTา นางยังอยูTกับผูMเปUนพTอที่เมืองดาหา หากเกิดสงคราม ชิงลูกสาว ทMาวดาหาคงไมTนิ่งดูดาย และอาจจะสTงทัพเขMามารTวมรบก็เปUนไดM และเราอาจจะถูกลMอม หาก ทางเราเสียทาT และแพขM น้ึ มา จะอับอายจรกาไดM ทMาวกะหมังกุหนิงจึงไดMแยMงขึ้นวTา เจMาทั้งสองนี้ไมTเขMาใจอะไรเลย ทั้งเสนาตTาง ๆ ก็ขัดแยMงขMา กันไปหมด ไปอยูTเมืองหมันหยามาหลายป; หากที่ไหนจะยกทัพมาจะกลัวอะไรหนักหนา เราก็มีตั้ง ๓ เมืองก็ใหญTเหมือนกัน เราไมTตMองกลัว ถMาเราตีพวกนั้นใหMแตกเดี๋ยวพวกนั้นก็มันก็วิ่งเขMาปaา พวกเจMาอยTา กลัวเลย สงสารวิหยาสะกำเถอะ ถMาไมTไดMนางมาคงจะขาดใจตาย แมMนวิหยาสะกำสิ้นชีวิต ตนคงไดMตาย ตามเปUนแนT ไหน ๆ ก็จะตายถึงชMาเร็วก็ไมTตTางกัน แมMนวTาผิดก็จะลองทำสงครามดู หากเคราะหIดีก็คงจะ ไดMสมดังใจนึก เมื่อสองเจMาเมืองไดMฟBง ก็กMมหนMาไมTพูดจา เมื่อทMาวกะหมังกุหนิงเห็นทั้งสององคIไมTมีคำ โตMแยMงใด ๆ แลMวก็ชวน ทั้งสองเจMาเมือง เขาM พกั ผTอนในทบ่ี รรทมใหMสบายใจ ๔ กลุ่มท่ี ๑ ท้าวดาหาเสดจ็ ออกรับทูตกะหมงั กุหนิง เม่อื นั้น พระองค์ทรงพภิ พดาหา ครน้ั สรุ ยิ ์ฉายบา่ ยสามนาฬกิ า กโ็ สรจสรงคงคาอ่าองค์ ทรงเครือ่ งประดับสรรพเสร็จ แล้วเสดจ็ ยา่ งเยอื้ งยูรหงส์ ออกยงั พระโรงคลั บรรจง นัง่ ลงบนบลั ลังกร์ ูจี ยาสาบงั คมบรมนาถ เบกิ ทูตถือราชสารศรี จงึ ดำรัสสัง่ ไปทันที ใหเ้ สนนี ำแขกเมอื งมา บัดนน้ั อำมาตย์รับสง่ั ใสเ่ กศา ออกไปพาสองทูตา เข้ามาประณตบทมาลย์ บัดนัน้ เสนีผใู้ หญฝ่ ่ายทหาร จงึ ให้อาลักษณพ์ นกั งาน รับราชสารมาอ่านพลัน ในสารพระผู้ผา่ นนคเรศ กะหมงั กหุ นิงนเิ วศนเ์ ขตขนั ธ์ ขอถวายประณตบังคมคลั พระผู้วงศเ์ ทวญั ศักดา ไม่ควรเคอื งเบอ้ื งบาทบทศรี ดว้ ยขา้ น้อยนีม้ ีโอรสา เดมิ ไปไล่ล้อมมฤคา ได้รปู พระธดิ าในกลางไพร ชะรอยเปน็ บพุ เพนิวาสา เทวาอารักษม์ าชกั ให้ มีความเสน่หาอาลัย แตห่ ลงใหลใฝ่ฝนั รนั ทด หวังเป็นเกือกทองรองบาทา พระผูว้ งศเ์ ทวาอนั ปรากฏ จะขอพระบตุ รมี ยี ศ ใหโ้ อรสข้าน้อยดังจินดา อนั กรงุ ไกรไอศรู ยท์ ัง้ สอง จะเป็นทองแผ่นเดยี วไปวนั หนา้ ขอพำนักพักพง่ึ พระเดชา ไปกวา่ ชีวนั จะบรรลยั ๖ เมือ่ นั้น องคศ์ รปี ตั หราเปน็ ใหญ่ ฟังสารทราบอรรถแลว้ ตรัสไป แกเ่ สนาในทงั้ สองนัน้ อนั อะหนะบษุ บาบังอร ครง้ั กอ่ นจรกาตนุ าหงัน ไดป้ ลดปลงลงใจใหป้ ัน นดั กันจะแต่งการวิวาห์ ซ่งึ จะรบั ของสู่ระตนู ้ี เห็นผดิ ประเพณหี นกั หนา ฝูงคนทง้ั แผน่ ดินจะนินทา สิง่ ของท่เี อามาจงคนื ไป บดั นัน้ ทูตานุทูตแถลงไข ทา้ วกะหมงั กหุ นงิ ภูวไนย สั่งใหข้ า้ ทูลพระภมู ี ถ้าแม้นมยิ นิ ยอมอนญุ าต ให้พระราชธดิ ามารศรี เร่งระวงั พระองค์ให้จงดี ตกแตง่ บุตรีให้มั่นคง เม่ือนั้น พระผ้ผู า่ นไอศูรย์สูงสง่ ประกาศติ สีหนาทอาจอง จะณรงค์สงครามกต็ ามใจ ตรสั พลางย่างเย้ืองยุรยาตร จากอาสนแ์ ท่นทองผอ่ งใส พนักงานปดิ ม่านทันใด เสดจ็ เขา้ ขา้ งในฉับพลัน บดั น้ัน ทูตานทุ ตู ก็ผายผนั ออกจากพาราดาหานน้ั พากนั กลับไปมิได้ชา้ เม่อื น้ัน พระสุริย์วงศ์องคศ์ รีปตั หรา เผยสีหบัญชรแลว้ บัญชา ตรัสสั่งเสนาธบิ ดี จงเรง่ ไปทูลเหตุพระเชษฐา อีกองคอ์ นุชาทง้ั สองศรี บอกระตูจรกาอย่าชา้ ที วา่ ไพรจี ะยกมาชงิ ชัย ฯ ๗ ถอดความ ท้าวดาหาเสด็จออกรับทูตกะหมังกหุ นิง ครั้นเมื่อเวลาบTายสามนาbิกาองคIทMาวดาหาก็เสร็จเขMาสรงน้ำในคงคา จากนั้น ก็แตTงองคIทรงเครื่องประดับทั้งหลาย แลMวจึงเสด็จเยื้องยTางอยTางสวยงามดุจดั่งหงสI ออกมายังทMองพระโรงแลMวนั่งลง ณ บัลลังกIอันงดงาม เสนาบดีตำแหนTงยาสานั้นไดMบังคม ทูลเบิกทูตนำราชสารใหMพระองคI ดังนั้นจึงรับสั่งใหMเหลTาเสนานำแขกเขMามาพบในทันที ครั้นอำมาตยIไดMรับรับสั่งแลMว จึงออกไปพาสองทูตเขMามาเขMาเฝdาพระองคI แลMวเสนาชั้น ผูMใหญTฝาa ยทหารจงึ ใหMพนักงานผMรู ับผดิ ชอบรบั ราชสารมาอาT นถวายพระองคI ในสารนั้นบอกถึงองคIผูMครองเมืองกะหมังกุหนิงขอถวายบังคมถึงพระองคI ขอพระองคIทรงประนีประนอมไมTเขื้องโกรธกัน ดMวยวTาตนมีโอรสอยูTองหนึ่งไดMไปทTองปaา ลTาสัตวIและไดMพบเจอกับรูปของพระธิดาในกลางปaา เชื่อวTาคงเปUนบุพเพสันนิวาส อาจเกิดจากเทวานำพาใหM พระโอรสตกอยูTในเสนTหาและมีความอาลัย เฝdาแตTหลงใหล ใฝaฝBนหาพระธิดานTารันทดยิ่ง หวังเพียงรับใชMรองบาทพระองคIผูMเปUนกษัตริยIวงศIเทวัญ ขอพระธิดาผูMสูงศักดิ์ใหMกับโอรสของตนไดMสมดังใจหวัง อันกรุงของเราทั้งสองจะไดMเปUน ทองแผTนเดียวกนั ในวนั ขMางหนMา และขออาศัยพ่ึงพิงบารมไี ปจนกวาT จะสน้ิ ชวี ัน ๘ เมื่อองคIทMาวดาหาผูMเปUนใหญTไดMรับฟBงสารทราบถึงขMอความแลMว จึงรับสั่งแตTเสนาทั้ง สองของทMาวกะหมังกุหนิงที่มาเขMาเฝdาวTาอันนางบุษบาพระธิดาของเรานั้น ในครั้งกTอนเราไป ยกใหMแกTจรกาที่มาหมายหมั้นไวMไปกTอนแลMว และไดMปลงใจจะใหMแตTงงานกันแลMว อันจะรับ ของสูTของทMาวกะหมังกุหนิงนี้ ก็ดูจะผิดประเพณียิ่งนัก เหลTาประชาราชอาจนินทาไดM จึง ขอใหMนำสง่ิ ของเหลTานีก้ ลับคืนไป เหลTาทูตเมื่อรับแจMงแลMวก็ทูลบอกพระองคIวTา ทMาวกะหมังกุหนิงรับสั่งใหMตนทูล พระองคIวTาถMาแมMนพระองคIไมTยินยอมยกพระราชธิดาใหM ก็ใหMระวังพระองคIใหMดี ใหMสรMาง บMานเมืองของพระองคIใหMมั่นคง ครั้นแลMวองคIทMาวดาหาก็ประกาศิตอยTางองอาจวTา หากจะ ยังคงทำสงครามก็ตามใจ พลางเสด็จลงจากที่นั่งแทTนทองเขMาดMานในอยTางฉับพลัน ธารกำนัลก็ปfดมTานในทันที ฝaายทูตก็ไดMออกจากเมืองดาหาพากันกลับทันใด ฝaายองคIผูMเปUน สุริยIวงศIองคIดาหาเปfดหนMาตTางแลMวมีบัญชาสั่งเสนาใหMเรTงไปทูลเหตุการณIแกTผูMเปUนพี่ของ พระองคI และทูลกับผูMเปUนนMองอีกสองคนของพระองคI ไปบอกระตูจรกาอยTาจรกาอยTามัวชMา เพราะจะมขี าM ศกึ ยกทัพมาชิงชยั ๙ กลุ่มท่ี ๒ ท้าวกเุ รปันมรี าชสารถึงอเิ หนาและระตูหมนั หยา เมอ่ื นนั้ พระป่ินภพกเุ รปันราชฐาน แจง้ ว่าไพรีมารอนราญ พระจงึ ใหแ้ ตง่ สารหนงั สือลับ ครั้นเสด็จสงั่ สองเสนา จงถอื ไปหมันหยาสองฉบบั ใบหนึ่งนั้นเรง่ กองทพั กำชับอเิ หนาให้ยกมา ใบหนงึ่ น้ันไปใหร้ ะตู ท้าวผ้ผู ่านเมอื งหมันหยา จงรบี ไปให้ถงึ พารา แตใ่ นสิบหา้ ราตรี บดั นน้ั ตะหมังรบั สั่งใส่เกศี จงนำสาราจรลี มาจากที่พระโรงชัยฉับพลัน เรยี กหาบ่าวไพร่ไดพ้ ร้อมหนา้ ตะหมงั ขนึ้ ขม่ี ้าผายผัน ออกจากนคเรศกุเรปัน พากันเร่งรีบคลาไคล เมอ่ื นั้น องคท์ า้ วกุเรปนั เป็นใหญ่ ครนั้ ดะหมังเสนาทูลลาไป พระตรกึ ไตรในคดดี ้วยปรีชา แล้วตรัสแก่กะหรัดตะปาตี อันสงครามคร้ังนเ้ี ห็นหนักหนา จะเปลี่ยวเปล่าเศรา้ ใจอนุชา ไมม่ ที จี่ ะปรกึ ษาหารอื ใคร เจา้ จงยกพลขนั ธไ์ ปบรรจบ สบทบทัพอเิ หนาให้จงได้ ชวนกนั ยกรบี เร็วไป อย่าทันให้ปจั จามิตรติดพารา เม่อื นน้ั กะหรัดตะปาตโี อรสา กม้ เกลา้ ทูลสนองพระบญั ชา จะถวายบังคมลาพรุ่งน้ี เมอื่ นน้ั กะหรัดตะปาตศี รีใส ครั้นรงุ่ รางสรุ ยิ าก็คลาไคล เข้าในทีส่ นานสำราญองค์ ๑๑ รดชำระมลทนิ อินทรีย์ มรุ ธาวารีภเิ ษกสรง ลูบไล้เสาวคนธ์ธารทรง บรรจงสอดซบั สนบั เพลา ภูษายกพื้นดำอำไพ สอดใส่ฉลององค์ทรงวนั เสาร์ เจียระบาดคาดรัดหน่วงเนา ป้ันเหน่งเพชรเพรศิ เพราพรรณราย ตาบทศิ ทบั ทรวงหว่ งหอ้ ย สวมสรอ้ ยสงั วาลประสานสาย ทองกรแก้วกิง่ พรง้ิ พราย ธำมรงค์เรือนรายพลอยเพชร ทรงชฎามาลัยดอกไมท้ ดั กรรเจยี กจอนจำรสั ตรสั เตร็จ เหน็บพระแสงกั้นหยั่นกลั เมด็ แล้วเสดจ็ ข้ึนเฝา้ พระบิดา ก้มเกล้าเคารพอภิวาท พระป่ินภพภวู นาทนาถา ยบั ยง้ั คอยฟงั พระวาจา จะบัญชาให้ยกโยธี เมอ่ื นั้น องค์ทา้ วกุเรปนั เรอื งศรี จงึ อำนวยอวยพรสวสั ดี ใหเ้ จา้ มเี ดชาวราฤทธิ์ อนั เหล่าศตั รหู ม่รู า้ ย จงแพพ้ ่ายอยา่ รอตอ่ ติด อานภุ าพปราบปรามไปทว่ั ทศิ ปจั จามติ รจงเกรงฤทธริ อน เมอื่ นั้น กะหรัดตะปาตชี าญหาญ กราบถวายบงั คลประนมกร รับพรพระบดิ าแล้วคลาไคล ครั้นถงึ เกยชาลาหนา้ พระลาน พรอ้ มหมทู่ วยหาญนอ้ ยใหญ่ เสด็จทรงมงิ่ มา้ อาชาไนย ใหเ้ คลือ่ นพลไกรยาตรา รอนแรมมาในพนาเวศ ถึงทางรว่ มนคเรศหมันหยา พระสงั่ ให้หยดุ พลโยธา คอยทา่ ทัพระเดน่ มนตรี ๑๒ ถอดความ ท้าวกเุ รปันมรี าชสารถงึ อเิ หนาและระตหู มันหยา ฝaายองคIทMาวกุเรปBนไดMรับแจMงวTาจะมีขMาศึกมารุกราน จึงใหMแตTงสาร หนังสือลับแลMวสั่งใหMสองเสนาถือไปยังเมืองหมันหยา ฉบับหนึ่งเรTงนำกองทัพกำชับใหM อิเหนาเรTงยกมาชTวย อีกใบหนึ่งไปใหMกับเจMาเมืองผูMครองเมืองหมันหยา แลMวสั่งใหMรีบไป ใหMถึงเมืองหมันหยาภายใน ๑๕ คืน ครั้นแลMวขุนนางไดMรับคำสั่งแลMวจึงรีบนำสารไปจาก ทMองพระโรงในทันที พรMอมกับเรียกทั้งบTาวไพรTใหMมาพรMอมหนMา แลMวรีบขึ้นขี่มMาออกจาก นครกุเรปนB อยาT งเรTงรีบในทันใด ฝaายองคIทMาวกุเรปBนผูMเปUนใหญTหลังจากที่ขุนนางไดMทูลลาไปแลMวพระองคIก็ ตรึกตรองในคดีความดMวยพระปรีชา แลMวตรัสกับกะหรัดตะปาตี วTาสงครามนี้เห็นวTาจะ สาหัส หากกลัวอนุชาจะเปลTาเปลี่ยวเศรMาใจ ไมTมีที่ปรึกษา จึงรับสั่งใหMยกพลยกกองทัพ ไปสมทบกบั ทัพของอเิ หนาใหMทนั อยาT งเร็วไว อยTาใหขM าM ศึกทันยกทพั มาประชิดเมืองไดM ๑๓ ฝaายกะหรัดตะปาตีผูMเปUนโอรสทูลสนองรับสั่งพระองคI แลMวบอกวTาจะถวายบังคม ลาในวันพรุTงนี้ ครั้นถึงรุTงสางก็เขMาอาบน้ำชำระมลทินจากรTางกาย สรงน้ำศักดิ์สิทธิ์แสน บริสุทธิ์ ลูบไลMดMวยเครื่องหอม แลMวบรรจงสวมใสTสนับเพลาสวมใสTภูษาสีดำอำไพ ในวัน เสารI คาดผMารัดเอวใสTเข็มขัดเพชรแสนจะงดงาม หMอยดMวยตาบทิศสวมสรMอยสังวาลทั้ง ทองกรทั้งแกMวชTางงดงาม ธำมรงคIประดับดMวยพลอยเพชรมากมาย ทรงสวมชฎามาลัยมี ดอกไมทM ัดทแี่ สนจะเจดิ จMาเปลTงประกาย พรMอมดMวยเหน็บพระแสงแลวM เขาM เฝาd พระบิดา แลMวเคารพกราบบังคมพระบิดาคอยฟBงวาจารับสั่งจะใหMบัญชาใหMยกทัพ ฝaายองคI ทMาวกุเรปBนก็อวยพรใหMโชคดีใหMมีฤทธิ์เดชเกTงกลMาสามารถ ใหMศัตรูผูMมุTงรMายทั้งหลายจง พTายแพM ใหMมีอานุภาพสามารถสยบศัตรูไดMรอบทิศ ใหMศัตรูจงเกรงในฤทธิ์ในตัว ครั้นแลMว กะหรัดตะปาตีก็กราบบังคมไหวMรับพรจากพระบิดาแลMวทูลลาไป ครั้นทัพถึงถึงหนMาพระ ลานพรMอมดMวยบริวารทหารมากมาย ก็เสด็จขึ้นทรงมMาแลMวรับสั่งใหMเคลื่อนพลออกไป รอนแรมอยูTในปaาจนถึงทางรTวมเขMาสูMเมืองหมันหยาแลMวสั่งใหMหยุดพลทัพไวM คอยทัพของ อิเหนาทจี่ ะตามมา ๑๔ กลุ่มท่ี ๓ ทพั เมอื งกาหลังยกมาสมทบ บัดนนั้ ตำมะหงงกาหลังกรงุ ใหญ่ ทง้ั ตะหมงั มหาเสนาใน เรง่ เกณฑท์ ัพชยั ฉบั พลัน จัดทหารอาสาได้ห้าหมนื่ แต่พ้ืนกำแหงแข็งขนั ช้างม้าอาวุธครบครัน ธงสำคญั คอยนำดำเนินพล ทัง้ สองเสนีข้ึนข่มี ้า โยธาเยียดยดั อดั ถนน ทนายเดนิ เคียงข้างกางสัปทน ยกพลออกจากพารา มาถงึ ทางรว่ มริมดง พบสหุ รานากงวงศา สองทพั สมทบโยธา ยกล่วงมรรคามาพรอ้ มกนั บัดนัน้ ทั้งสองทตู าคนขยนั ซง่ึ ถอื สารไปเมอื งดาหานัน้ พากนั รีบกลบั มาฉบั ไว ถงึ กะหมังกุหนงิ นคเรศ มายังนิเวศน์วงั ใหญ่ พอเวลาเฝา้ ทา้ วไท ก็เข้าไปในพระโรงรจนา จงึ ประนมกม้ เกล้าเคารพ ทลู พระองคท์ รงภพนาถา ขา้ ไปไดถ้ วายสารา ท้าวดาหาทราบส้นิ ทุกประการ ตรสั ขาดว่าราชบุตรี จรกาธบิ ดมี ากลา่ วขาน พระยกใหไ้ ดก้ ำหนดนดั งาน ยังแตจ่ ะแต่งการววิ าหก์ ัน บรรดาของถวายนั้นไม่รบั สง่ กลบั คนื มาทกุ สิ่งสรรพ์ มิได้คดิ เกรงองคพ์ ระทรงธรรม์ บากบน่ั สลดั ตดั รอน ข้าทูลความตามดั่งนอกสารา วา่ มใิ ห้พระธิดาดวงสมร จงเร่งตกแต่งพระนคร รับทพั ภธู รจะยกมา จะชิงนางโฉมยงให้จงได้ ใครมีชัยกจ็ ะสมปรารถนา ท้าวตรสั ว่าตามแต่วิญญาณ์ พระราชาจงทราบบาทมลู ๑๖ เมื่อนน้ั ทา้ วกะหมงั กหุ นิงนเรนทร์สูร ได้ฟงั ทง้ั สองทตู ทูล ใหอ้ าดูรเดือดใจดังไฟฟา้ จงึ บญั ชาตรัสดว้ ยขดั เคือง ดดู ู๋เจา้ เมอื งดาหา เราออ่ นงอ้ ขอไปในสารา แต่ว่าจะรับไว้กไ็ ม่มี ถงึ จรกามากล่าวนางไว้ ได้ยกให้เขากอ่ นก็ควรที่ จะโอภาปราศรยั มาให้ดี นสี่ ติ ัดไมตรใี ห้ขาดทาง เราก็เรอื งฤทธาศกั ดาเดช อาณาจักรนคเรศกว้างขวาง จำต้องมมี านะไม่ละวาง จะชงิ นางบุษบาลาวัณย์ แมน้ มไิ ดส้ มคดิ ดงั จิตปอง ไมค่ นื ครองกรุงไกรไอศวรรย์ จะสงครามตามตตี ิดพัน ไปกวา่ ชีวนั จะบรรลัย บดั น้นั สองทูตทูลแจง้ แถลงไข ข้าได้ยินตระหนกั ประจักษ์ใจ ท้าวดาหาตรัสใช้เสนี ใหร้ บี ไปแจง้ เหตพุ ระเชษฐา กับพาราสงิ หดั ส่าหรี อนชุ ากาหลงั ธิบดี อกี บรุ รี ะตูจรกา เห็นกษัตริยท์ ้งั สธี่ านนี น้ั จะมาช่วยปอ้ งกันกรงุ ดาหา เมื่อวนั ขา้ ออกจากเมืองมา เสนาก็ไปพร้อมกนั เม่อื น้นั ท้าวกะหมงั กหุ นิงแข็งขัน ไดฟ้ งั กริ้วโกรธดงั เพลิงกัลป์ จงึ กระช้ันสหี นาทประภาษไป ถงึ ว่ากษัตริย์ทัง้ ส่กี รุง จะมาชว่ ยรบพงุ่ เป็นศกึ ใหญ่ กกู ็ไมค่ รนั่ ครา้ มขามใคร จะหักใหเ้ ปน็ ภัสมธ์ ุลลี ง ว่าพลางทางมพี จนารถ สง่ั อำมาตย์ดะหมงั ตำมะหงง เร่งเกณฑพ์ วกพลรณรงค์ ที่สามารถอาจองในสงคราม เลอื กสรรโยธีทง้ั ส่หี มู่ เคยทำลายค่ายคขู วากหนาม แตก่ องรอ้ ยรบพันไม่ครั่นคร้าม ให้ครบสามสิบหม่ืนพื้นตวั ดี เอาวหิ ยาสะกำเป็นกองหน้า ตรวจตราเตรยี มขบวนถว้ นถ่ี อันกองหลงั รั้งพลมนตรี ทั้งศรีอนชุ าผใู้ จภักดิ์ กูจะเป็นจอมพลโยธา หนนุ ทัพลูกยาเข้าโหมหกั ไม่เกรงวงศ์เทวาสรุ ารกั ษ์ ให้ปรากฏยศศักด์เิ สียครั้งนี้ ครั้นเสรจ็ สงั่ มหาเสนา จงึ ถามขุนโหราทง้ั ส่ี เราจะยกพลไกรไปตอ่ ตี พร่งุ นด้ี ีรา้ ยประการใด ๑๗ เมอื่ น้นั ท้าวกะหมังกหุ นงิ เรอื งศรี ได้ฟังโหราพาที จึงมีพจนารถประภาษไป เมื่อเราบัญชาการกำหนดทัพ แลว้ จะกลับงดอยอู่ ย่างไรได้ อายแก่ไพรฟ่ ้าเสนาใน จะว่ากลวั ฤทธิไกรไพรนิ จำจะไปต้านตอ่ รอฤทธิ์ ถงึ ม้วยมิดมิใหใ้ ครดหู มิน่ เกียรติยศจะไว้ในธรณนิ ทร์ จนสดุ สิ้นดนิ แดนแผน่ ฟา้ ประการหน่ึงถ้าวา่ ช้าวันไป ทัพใหญจ่ ะมาพร้อมยงั ดาหา จะต้องหักหนกั มอื โยธา เหน็ จะยากยงิ่ กวา่ นี้ไป สดุ แทแ้ ตบ่ ุญกบั กรรม จะฟงั คำโหราน้ันหาไม่ ตรสั พลางเสดจ็ คลาไคล เข้าในไพชยนต์มนเทียรทอง สบิ วันดัน้ เดินในไพรพง กส็ ้นิ ดงตกทงุ่ กรงุ ดาหา แลไปเห็นกำแพงพารา ทั้งมหาปราสาทเรยี งรนั จึงยับยัง้ ฟังองคพ์ ระทรงยศ จะกำหนดให้ต้ังค่ายมัน่ กองทัพนบั แสนแนน่ นนั ต์ พรอ้ มกนั หยดุ อย่ทู ่ีชายไพร ๑๘ ถอดความ ทัพเมืองกาหลังยกมาสมทบ ฝaายขุนนางตำมะหงงกาหลังรวมทั้งดะหมังและมหาเสนาใน ก็เรTงเกณฑIทัพในทันใด ไดMจัด ทหารอาสาผูMมีพื้นฐานการรบที่แข็งขันจำนวนหMาหมื่นคน มีชMางมMาและอาวุธอยTางครบครัน มีพล ธงที่สำคัญคอยนำกองทัพ สองจอมทัพขึ้นขี่มMากองทัพแนTนอัดเต็มถนนขMารับใชMเดินเคียงคอย กางสปั ทน แลวM เคลอ่ื นพลออกจากเมอื งไป เมื่อมาถึงทางรTวมริมปaาก็พบกับกองทัพของกะหรัดตะปาตี ทั้งสองกองทัพไดMสมทบกันพา กันเคล่ือนตามทางมาพรMอมกัน มาถึงฝaายทูตทั้งสองของทMาวกะหมังกุหนิงซึ่งไดMถือสารไปเมืองดาหานั้นก็พากันกลับมายัง เมืองของตน จนถึงตัวเมืองกะหมังกุหนิง ก็ตรงดิ่งมายังวังใหญT เมื่อถึงเวลาก็เขMาเฝdากะหมังกุหนิง เหนือหัวในทMองพระโรง แลMวจึงกMมกราบบังคมทูลเหนือหัว วTาไดMไปถวายสารมาแลMว องคIทMาวดา หาไดMทราบเนื้อความทุกประการ ทรงตรัสอยTางเฉียบขาดวTาพระธิดาของพระองคIนั้น มีจรกามาสูT ขอและไดMยกใหMทั้งยังไดMกำหนดนัดหมายงานวิวาหIไปแลMว สTวนบรรดาของถวายนั้นทTานไมTรับ ใหM สTงกลับมาทั้งหมด ทTานไมTไดMคิดเกรงองคIพระ คอยแตTจะตัดรอนทุกเรื่อง และไดMทูลความตาม ไดMรับนอกสาร ถMาทMาวดาหาไมTใหMพระธิดา ก็จงรีบเรTงทำการปรับแตTงพระนครใหMมั่นคง รับทัพ เหนือหัวที่จะยกมา จะชิงพระธิดาใหMไดMหากใครที่ไดMรับชัยชนะจะสมปรารถนา แตTองคIทMาวดาหา กลบั ตรัสวTาแลวM แตตT ามวญิ ญาณI ขอพระองคIจงทราบดวM ย เมื่อทMาวกะหมังกุหนิงไดMสดับฟBงทั้งสองทูตทูลความดังนั้นก็โกรธอยTางยิ่ง จึงมีบัญชาตรัส ออกมาดMวยความขัดเคืองใจวTา ดูดูlเจMาเมืองดาหา เราอุตสTาหIอTอนนMอมงMอขอไปในสาร จะรับไวMก็ไมT มีเลย ถึงแมMจรกามาขอนางไวM แลMวไดMยกนางใหMเขาไปกTอนก็สมควรอยูTที่จะปราศรัยมาใหMดี แลMวดู สิมาตัดไมTตรีใหMขาดกัน เรานั้นก็มีศักดามีบารมีมาก อาณาจักรก็กวMางขวางอยูTพอที่ จำเปUนจะตMอง มีความพยายามไมTละวาง จะตMองชิงนางบุษบามาใหMไดM หากไมTไดMสมดั่งใจหมายก็จะไมTขอกลับคืน พระนครแหTงน้อี กี จะทำสงครามตามรงั ควาญอยูทT ุกครา จนกวTาชีวติ จะหาไมT สองทูตทูลความอีกครั้ง ขMาไดMยินไดMตระหนักในใจวTาทMาวดาหาตรัสใหMเสนารีบไปแจMงเหตุ แกTเชษฐา กับเมืองสิงหัสสTาหรี อีกทั้งพระอนุชาแหTงกาหลัง ทั้งยังเมืองแหTงระตูจรกา เห็นวTา กษัตริยIทั้งสี่เมืองนั้นจะมาชTวยปdองกันเมืองดาหา เมื่อตอนที่ขMาออกมาจากเมืองนั้น เสนาก็ไป พรMอมกันดMวย ๑๙ ฝaายทMาวกะหมังกุหนิงไดMฟBงก็ยิ่งกริ้วโกรธยิ่งนัก จึงประภาษไป ถึงวTากษัตริยIทั้งสี่เมือง จะมาชTวยทMาวดาหารบเปUนศึกใหญT ตัวกูก็ไมTเกรงกลัวใคร จะหักลMางใหMเปUนธุลีจงไดM พูด พรMอมสั่งอำมาตยIดะหมังตำมะหงงใหMเรTงเกณฑIไพรTพลที่มาความสามารถในสงคราม ใหM เลือกสรรทหารทั้งสี่หมูTที่เคยทำลายคTายทำลายศัตรูมาแตTกองรMอยใหMมารบในฉับพลับอยTาไดM ครั่นครMาม หาใหMไดMครบสามสิบหมื่นนายที่มีพื้นฐานการรบดี นำเอาวิหยาสะกำเปUนกองหนMา คอยตรวจตราเตรียมกระบวนทัพใหMถี่ถMวน สTวนกองหลังรั้งที่พลมนตรีของทั้งสองอนุชา กูจะ เปUนจอมพลทัพ คอยหนุนทัพลูกใหMเขMาโจมตี ไมTเกรงวงศIเทวาแตTอยTางใด ใหMปรากฏถึงยศ ศักดิ์ในครั้งนี้ ครั้นแลMวเสด็จสั่งมหาเสนาถามขุนโหราทั้งสี่คนวTาการที่เราจะยกทัพไปตTอตีใน วนั พรุงT น้ี จะดรี Mายประการใด เมื่อโหราไดMฟBงองกษัตริยIกลTาวดังนั้นจึงคลี่ตำราพลางคำนวณเหตุเทียบดวงชะตาของ พระองคIกับโอรสจึงเห็นวTาอาจถึงฆาต ทั้งโชคที่ไมTอาจชัดเจนอีกทั้งเคราะหIในตอนนี้ที่เปUนตัว บดบังฤกษIทั้งหลาย จึงทูลไปวTาถMาหากยกทัพในวันพรุTงนี้ จะไมTอาจมีชัยเปUนแนT ขอใหMงดไป เจ็ดวัน ถMาพMนจากเจ็ดวันนี้ก็ยังพอทำเนาไดM ขอใหMพระองคIทรงสั่งใหMงดศึกแลMวหาเวลาเพื่อใหM ตวั โหราเองหาฤกษIใหมT เพราะการศึกชิงชยั ชนะนต้ี MองหนักหนวT งน้ำพระทัยใหMมน่ั ฝaายเทMากะหมังกุหนิงไดMฟBงดังนั้นก็บอกกลับไปวTาเมื่อตนนั้นมีคำสั่งใหMจัดทัพ ออกไป แลMวจะตMองสั่งยกเลิกไปใหMอับอายเหลTาเสนาหรือประชาชนไดMอยTางไร พวกเขาจะคิดเอาวTา ตนนั้นเกรงกลัวตTออำนาจของฝaายตรงขMาม จึงจำเปUนตMองออกทัพไปสูMศึกเพราะถึงตัวตายก็ไมT อาจใหMใครดูหมิ่นไดM จะทิ้งเกียรติยศใหMจารึกไวMในแผTนดินตราบจนวันที่โลกจะสูญสิ้นไป อีก ทั้งถMายังยกทัพไปชMากวTานี้เกรงวTาทางดาหาจะมีทัพใหญTมาชTวย แลMวการศึกจะยากยิ่งกวTานี้ ไปอีก จึงสุดแทMแตTบุญกับกรรมเทTานั้น แลMวพระองคIก็เสด็จออกไปยังที่พักโดยไมTฟBงคำกลTาว ของโหราเลย กลับมาฝaายวิหยาสะกำที่ออกศึกไดMรับชัยและเมืองอีกฝaายแลMว จึงสั่งใหMเตรียมทัพทุก หมูTยกพลไปตีเมอื งทุกเมืองที่เดินทางผTาน เปUนเวลาสิบวันที่เดินทางอยูTในปaาก็พMนออกมายังทุTงของกรุงดาหา เห็นถึงกำแพง เมืองและมหาปราสาทเรียงรายจึงหยุดไวM แลMวตั้งคTาย กองทัพนับแสนคนที่แนTนขนัดจึงหยุด พรอM มกนั ทชี่ ายปาa ๒๐ กลุ่มท่ี ๔ ทพั เมืองกาหลงั ยกมาสมทบ (ต่อ) เม่อื นั้น ทา้ วกะหมงั กหุ นิงเปน็ ใหญ่ เรง่ รีบร้พี ลสกลไกร มาใกล้ทิวทงุ่ ธานี เหน็ ละหานธารนำ้ ไหลหล่ัง รม่ ไทรใบบงั สุริยศ์ รี จงึ ดำรัสตรสั สัง่ เสนี ใหต้ ัง้ ทนี่ าคนามตามตำรา บดั น้นั ดะหมงั รับส่งั ใสเ่ กศา ออกมาเกณฑ์กนั ดังบญั ชา ใหโ้ ยธาถางทีน่ ี่นนั ทำค่ายหนา้ คา่ ยหลงั ตงั้ บรรจบ ยกหอรบข้นึ ปรับสับวิหลน่ั ชกั ปีกกาขงึ ไปถงึ กัน ผูกราวสามชัน้ ขนั ชะเนาะ หวา่ งปอ้ มเปน็ จังหวะระยะแย่ง ใส่บังตางาแซงมนั่ เหมาะ พนู ดนิ เต็มตามสนามเพลาะ ไมไ้ ผ่เจาะรวงปล้องเปน็ ชอ่ งปนื บา้ งปลูกโรงรถคชา ท้ังทผ่ี กู ชา้ งม้ามใิ หต้ ่ืน เสาตะลงุ หลักแหล่งแปลงปนื พ่างพน้ื ปราบเลย่ี นเตยี นตา บา้ งเรง่ ทำตำหนกั น้อยใหญ่ เพิงรายรอบในซา้ ยขวา ข้างนอกคา่ ยปักขวากดาษดา ชกั เขื่อนเข้าหาประจบมุม บ้างจดั คนลำลองทุกกองเกณฑ์ ออกตระเวนนง่ั ทางวางหลุม คอยเล็ดลอดสอดแนมจับกุม ชั้นในใหป้ ระชมุ จตุรงค์ เมื่อนั้น ทา้ วกะหมังกหุ นิงสงู สง่ เหน็ คา่ ยเสด็จพลนั มน่ั คง จึงชวนองคโ์ อรสธบิ ดี ตรัสเรียกสองราชอนชุ า เสดจ็ จากรถาเรอื งศรี พรอ้ มดว้ ยกดิ าหยนั เสนี จรลีข้นึ สุวรรณพลับพลา ๒๒ บดั น้นั กองร้อยคอยเหตขุ า้ งดาหา ออกสอดแนมอยู่นอกพารา เห็นไพรียกมาถึงชายไพร กระบวนทัพกอ่ นหลงั มาตงั้ ลง ทิวธงซ้อนซับไมน่ บั ได้ เสียงคนอึงอัดตัดไม้ ราบไปท้งั ป่าพนาลี ต่างคนต่างเผ่นขึ้นหลงั มา้ พลางประมาณหมายตาดูถ้วนถี่ แล้วออ้ มออกนอกทงุ่ ทนั ที ขบั ควบพาชีเข้าเวียงชยั คร้ันถึงจงึ ไปแจง้ กจิ จา แกป่ าเตะเสนาผ้ใู หญ่ เล่าความแตต่ น้ จนปลายไป โดยได้เห็นส้ินทุกส่งิ อัน บัดน้นั ปาเตะตกใจไหวหวนั่ ไดจ้ ดเอาถอ้ ยคำสำคัญ แลว้ ผายผนั เขา้ พระโรงรจนา จงึ ก้มเกลา้ ประณตบทบงสุ์ ทูลพระองค์ทรงพิภพดาหา วา่ ไพรีตเี มืองล่วงมา รี้พลโยธามากมาย ม้ารถคชกรรม์คร่ันคร้ืน ดงั เสียงคลนื่ ในสมทุ รไมข่ าดสาย บดั นม้ี าต้งั อยเู่ นนิ ทราย ท่ีชายทุ่งกบั ปา่ ตอ่ กัน ๒๓ เม่ือนัน้ องคศ์ รีปตั หรารังสรรค์ ได้ฟังปาเตะทลู พลนั พระทรงธรรม์ตรติ รกึ นกึ ใน อนั ศกึ ครง้ั นีซ้ ่ึงมมี า เพราะเขาขอบษุ บาเราไมใ่ ห้ จงึ เปน็ เสีย้ นศตั รหู มภู่ ัย นอ้ ยใจด้วยอิเหนานัดดา แกลง้ จะใหเ้ กิดการโกลาหล ร้อนรนไปท่ัวทุกเสน้ หญา้ เส่ือมเดชเพศพงศเ์ ทวา ศกึ มาถึงราชธานี คดิ พลางทางส่ังเสนาใน เรง่ ใหเ้ กณฑค์ นขึ้นหน้าท่ี รกั ษาม่นั ไวใ้ นบรุ ี จะดทู ขี า้ ศกึ ซ่ึงยกมา อนง่ึ จะคอยท่ามา้ ใช้ ทใ่ี ห้ไปแจ้งเหตุพระเชษฐา กับสองศรรี าชอนชุ า ยงั จะมาชว่ ยหรือประการใด แมน้ จะเคืองขัดตัดรอน ทง้ั สามพระนครหาช่วยไม่ แต่ผู้เดยี วจะเคยี่ วสงครามไป จะยากเย็นเป็นกระไรกต็ ามที มาจะกล่าวบทไป ถึงสหุ รานากงเรืองศรี กับเสนากาหลังบรุ ี ยกพลมนตรีรีบมา แรมรอ้ นนอนปา่ สิบหา้ วัน ก็ลถุ ึงเขตขณั ฑ์ดาหา ไดข้ ่าวปจั จามิตรตดิ พารา กเ็ รง่ ยกโยธาเขา้ กรงุ ไกร ครน้ั ถงึ กึ่งกลางพระนคร จึงใหห้ ยดุ พลนกิ รน้อยใหญ่ แลว้ ชวนตำมะหงงคลาไคล เข้าไปท่ีเฝา้ พระผ่านฟา้ เม่อื นั้น พระองคท์ รงพภิ พดาหา เหน็ สหุ รานากงพระนดั ดา กับเสนากาหลังบรุ ี จึงมีบญั ชาปราศรยั เราขอบใจอนุชาทัง้ สองศรี ให้ยกมาชว่ ยตอ่ ตี ก็เห็นชอบทว่ งทีดนี ัก แตก่ ารศึกครัง้ นี้ไมค่ วรเป็น เกดิ เขญ็ เพราะลูกอปั ลกั ษณ์ จะมีคูผ่ ู้ชายก็ไมร่ ัก จึงหักใหส้ าสมใจ อนั องค์พระบรมเชษฐา เห็นจะใหใ้ ครมาหรอื หาไม่ เจา้ มาในทางพนาลัย ยังไดข้ ่าวบ้างหรือนดั ดา ๒๔ เมือ่ นั้น สหุ รานากงวงศา กม้ เกล้าทลู สนองพระบญั ชา ข้ามาแจ้งข่าวท่กี ลางคนั พระปิ่นภพกเุ รปันธานี ให้กะหรดั ตะปาตเี ปน็ ทัพขนั ธ์ ยกจากเวียงชัยไดห้ ลายวนั บรรจบกันกบั ระเด่นมนตรีมา เมือ่ นัน้ พระองคท์ รงพภิ พดาหา ฟังสหุ รานากงนัดดา จึงมบี ัญชาว่าไป อันกะหรดั ตะปาตจี ะมาชว่ ย พอจะเห็นจริงด้วยไมส่ งสัย แต่อเิ หนาเขาจะมาทำไม ผดิ ไปเจ้าอยา่ เจรจา พระเชษฐาให้สารไปก่คี รงั้ เขายงั ไม่จากหมนั หยา จนสลัดตัดการวิวาห์ ศึกติดพารากเ็ พราะใคร เห็นจะรกั เมียจรงิ ย่งิ กว่าญาติ ไหนจะคลาดจากเมืองหมันหยาได้ ถงึ มาตรจะมากจ็ ำใจ ดว้ ยกลัวภัยพระราชบดิ า เราอยา่ คอยเขาเลยนะหลานรัก ก้มพักตร์รบศกึ ไปดกี วา่ แต่ว่าวันน้เี จ้าเหนอื่ ยมา จงไปพกั โยธาให้สำราญ เมื่อน้ัน สหุ รานากงใจหาญ ก้มเกล้าสนองพจมาน อนั การสงครามคร้ังนี้ จะขอเอาเมืองข้นึ บรรดามา กับโยธาสิงหัดส่าหรี ยกออกโรมรันประจญั ตี ดทู ฝี มี ือปัจจามิตร ถ้าเหน็ ศึกย่นย่อท้อกำลัง จะโหมหกั มใิ ห้ต้งั ต่อตดิ จะอาสากวา่ จะสน้ิ สุดฤทธิ์ ชวี ติ อยู่ใต้บาทบงสุ์ ๒๕ ถอดความ ทัพเมอื งกาหลังยกมาสมทบ (ตอ่ ) ฝaายเทMากะหมังกุหนิงก็รีบเกณฑIทัพพลมาใกลMๆกับทุTงเห็นลำธารน้ำที่ไหล เอือ่ ย อีกทง้ั รมT ไทรจงึ สัง่ ใหMตัง้ ทัพ ดะหมังไดMฟBงคำสั่งจึงเกณฑIคนใหMถางที่แลMวทำคTายหนMาหลังบรรจบกัน อีกทั้ง ยังยกหอรบปรับใหMคTอย ๆ ขยับเขMาหาขMาศึกตั้งป;กซMายขวาใหMขึงเชือกผูก ราวสามชั้น พรMอมขันชะเนาะระหวTางปdอม กะระยะแลMวใสTบังตาและงาแซงเพื่อกันศัตรูใหMมั่น แลMวตักดินมาใสTสนามเพลาะ เจาะไมMไผTเปUนชTองปoน บMางก็สรMางโรงเลี้ยงเหลTาชMาง มMา ทั้งผูกเหลTาสัตวIไมTใหMตื่น ผูกเสาตะลุงชMางเปUนแหTง ๆ และแปลงปoน พื้นก็ปราบใหM เรียบเตียน บMางก็เรTงทำตำหนักนMอยใหญT ทำเพิงรายรอบทั้งซMายขวา นอกคTายก็ปBก ขวากมากมาย ชักกำแพงเขMาหามุมประจบกัน บMางก็จัดคนลำลองทุกกอง ออก ตระเวนพรMอมวางกบั ดกั คอยสอดสอT งลาดเลา สวT นชั้นในก็เรยี กใหปM ระชมุ ทัพทัง้ สี่ เมื่อทMาวกะหมังกุหนิงเห็นคTายเสร็จมั่นคงแลMวก็ชวนบุตรและนMองชายทั้งสอง ใหM เสดจ็ ลงจากรถพรMอมดวM ยเหลาT มหาดเลก็ แลMวเดินทางไปยังท่ีพกั ฝaายกองรMอยรักษาการณIรอบขMางดาหาออกสอดแนมอยูTนอกเมือง ไดMเห็นทัพ ที่ยกมาถึงชายปaา กระบวนทัพทั้งหนMาหลังลMอมตั้งหนาแนTน ผืนธงซMอนทับกัน มากมายจนมิอาจนับไดM ทั้งเสียงคนอื้ออึง เสียงตัดไมM ราบไปทั้งปaา ตTางคนตTางก็รีบ ขึ้นหลังมMาแลMวกะสายตาดูกองทัพอยTางถี่ถMวน จึงอMอมออกมานอกทุTงแลMวควบมMาคูT กายเขาM เมอื งทันที เมื่อเขMาสูTเมืองจึงรีบไปแจMงขTาวแกTเสนาชั้นผูMใหญT เลTาความถึงสิ่งที่ไดMเห็นมา ทกุ ๆ สิง่ ตงั้ แตTตMนจนจบ ครั้นเสนาไดMยินขTาวดังนั้นก็ตกใจหวั่นไหว จึงใหMเหลTาทหารจดเอาใจความคำ สำคัญแลMวรบี พาเขMาไปยังทอM งพระโรงทนั ที เสนากMมหัวบังคมทูลทMาวดาหาถึงขTาววTามีทัพตีเมืองยกมา ไพรTพลในกองทัพ มากมาย ทั้งเสียงมMา เสียงรถ และเสียงชMาง ตTางอื้ออึงคั่นครื้นไมTขาดสายดังเสียงคลื่น ในมหาสมุทร และในตอนนี้ทัพนั้นก็ไดMเขMามาตั้งอยูT ณ เนินทรายที่เชื่อมตTอของชาย ทTงุ และปาa แลMว ๒๖ เมื่อทMาวดาหาไดMฟBงดังนั้นแลMวในใจก็ทรงคิดไตรTตรองถึงสาเหตุของศึกนี้ที่ มีเพราะตัว พระองคIเองที่ไมTสามารถยกบุษบาใหMแกTฝaายนั้นไดM จึงเปUนสาเหตุใหMเกิดศัตรู ครั้นแลMวก็นึก นMอยใจไปถึงอิเหนาผูMเปUนหลานที่แกลMงใหMเกิดเหตุการณI วุTนวายเชTนนี้ ทั้งรMอนรนไปทั่วทุกเขต ทั้งเสื่อมเสียไปยังชื่อเสียงวงศIเทวา อีกทั้งศึกก็มาถึงเมืองแลMว คิดพลางก็สั่งใหMเหลTาเสนา อำมาตยIใหMเรTงมือเกณฑIคนเขMารบ รักษาเมืองไวMใหMมั่นคง พลางรับสั่งใหMดูทTาทีขMาศึกที่ยกมา เหตุหนึ่งก็เปUนไปไดMวTาจะรอดูขTาวจากมMาเร็วที่สั่งใหMไปแจMงเหตุกับผูM เปUนพี่และอีกสองผูMเปUน นMองวTาจะมาชTวยหรือไมT แมMวTาเมื่อทั้งสามนครไมTมาชTวยอาจจะมีขุTนเคืองน้ำใจอยูTบMาง แตT อยTางไรตนกจ็ ะปราบศตั รยู ตุ ิสงครามแมMจะยากเย็นเทTาไรก็ตาม กลTาวไปถึงฝaายสุหรานากงกับเหลTาเสนาเมืองกาหลังไดMยกพลกองทัพเรTงรีบเดินทางมา รอนแรมกินนอนในปaาเปUนเวลาทั้งสิ้นสิบหMาวันก็ถึงเขตเมืองดาหาไดMยินถึงขTาว ศัตรูที่ยกทัพมา ประชดิ เมืองแลMวก็เรTงเดินทางเขาM ไปในเมืองทันที เมื่อเดินทางมาถึงกลางเมือง สุหรานากงก็หยุดพลกองทัพไวMและชวนตำมะหงง เดนิ ทางไปเขาM เฝdาทาM วดาหา เมื่อทMาวดาหาไดMทอดพระเนตรเห็นถึงสุหรานากงผูMเปUนหลานกับเหลTาเสนาแหTง เมือง กาหลังก็ไดMพูดคุยและขอบคุณนMองชายของพระองคIทั้งสองที่ยกทัพมาชTวยตน แตTสงครามครั้ง นี้นั้นไมTควรจะเกิดขึ้นเลย เพราะเหตุของมันคือลูกสาวของตนที่อัปลักษณIจะมีคูTทั้งทีฝaายชาย กไ็ มรT กั จึงหกั หาญน้ำใจกันเชTนน้ี แลMวไตรถT ามถงึ ผูเM ปUนพีว่ าT จะสTงใหMใครมาหรอื ไมT สุหรานากงก็ ตอบไปวาT ทMาวกเุ รปนB ไดใM หกM ะหรดั ตะปาตียกทัพมาสมทบกบั อิเหนา ทMาวดาหาไดMฟBงเชTนนั้นก็ประชดอิเหนาวTา กะหรัดตะปาตีมาชTวยก็ไมTเปUนที่นTาแปลกใจ แตTอิเหนาเลTา เขาจะมาทำไม ทMาวกุเรปBนเรียกใหMกลับกี่ครั้งก็ไมTยอมจากเมืองหมันหยาจนตัด ขาดการแตTงงาน มีศึกประชิดเมืองก็เพราะใคร เห็นทีคงจะรักเมียมากกวTาญาติ ถMามาก็เห็น วTาคงจะมาเพราะกลัวทMาวกุเรปBนเสียมากกวTา แลMวทMาวดาหาบอกสุหรานากงวTาคงไมTตMองคอย อิเหนาหรอก แลMวใหMสุหรานากงไปพักผTอน สุหรานากงจึงขอถวายชีวิตใหMเพื่อรับใชMทMาวดาหา และอาสาไปออกรบกับทพั ของทMาวกะหมังกหุ นงิ ๒๗ กลุ่มท่ี ๕ ดะหมงั กเุ รปันเฝา้ ถวายสารทา้ วหมันหยาและอิเหนา บดั น้ัน ฝา่ ยดะหมงั กุเรปนั กรงุ ศรี ครง้ั ถึงหมันหยาธานี กต็ รงไปยงั ทปี่ ระเสบนั ข้ึนบนชานพักตำหนกั นอก พอเห็นเสดจ็ ออกกดิ าหยัน จึงเขา้ ไปใกล้องค์พระทรงธรรม์ อภวิ ันท์แล้วถวายสารา เมือ่ นัน้ พระโฉมยงวงศอ์ สัญแดหวา คล่ีสารสมเด็จพระบดิ า พลางทอดทศั นาทันใด ในลักษณน์ ้ันว่าปัจจามติ ร มาตงั้ ติดดาหากรงุ ใหญ่ จงเรง่ รบี รพ้ี ลสกลไกร ไปช่วยชิงชัยใหท้ ันที ถึงไม่เลี้ยงบษุ บาเห็นว่าช่ัว แตเ่ ขารูอ้ ยู่ว่าตัวน้นั เปน็ พี่ อนั องศท์ ้าวดาหาธิบดี นน้ั มใิ ช่อาหรอื ว่าไร มาตรแม้นเสยี เมอื งดาหา จะพลอยอายขายหน้าหรือหาไม่ ซ่งึ เกิดศึกสาเหตเุ ภทภัย กเ็ พราะใครทำความไวง้ ามพักตร์ ครั้งหนึง่ กใ็ ห้เสยี วาจา อายชาวดาหาอาณาจกั ร ครัง้ นีเ้ ร่งคดิ ดูจงนัก จะซำ้ ใหเ้ สยี ศกั ดก์ิ ต็ ามที แม้นมิยกพลไกรไปชว่ ย ถึงเราม้วยกอ็ ย่ามาดผู ี อยา่ ดทู งั้ เปลวอคั คี แตว่ ันนี้ขาดกันจนบรรลัย ครนั้ อ่านสารเสร็จสิ้นพระทรงฤทธ์ิ ถอนฤทยั คิดแลว้ สงสยั บษุ บาจะงามสักเพียงไร จงึ ต้องใจระตทู กุ บุรี หลงรักรปู นางแตอ่ ยา่ งนัน้ จะพากนั มาม้วยไม่พอท่ี แมน้ งามเหมือนจินตะหราวาตี ถึงจะเสยี ชวี กี ็ควรนัก แล้วว่าแกด่ ะหมงั เสนา เราจะยกโยธาไปโหมหกั มใิ หเ้ สียวงศาสรุ ารักษ์ งดสักเจด็ วนั จะยกไป บดั นั้น ดะหมงั บงั คมประนมไหว้ ทลู วา่ ช้านักพระภูวไนย เกลอื กไปไมท่ ันจะเสยี ที เชิญเสด็จคลาไคลไปกอ่ น แลว้ จงึ คอ่ ยผนั ผ่อนมากรุงศรี อนั ข้าศึกซง่ึ ยกมาตอ่ ตี ป่านน้จี ะประชิดตดิ กรงุ ไกร ๒๙ เมอ่ื นั้น พระสุรยิ ์วงศเ์ ทวาอัชฌาสัย สุดที่จะบิดเบือนเลอ่ื นวันไป ด้วยเกรงในบิตุเรศตดั มา ความกลัวความรกั สลกั ทรวง ให้เปน็ หว่ งหนหลังกงั วลหนา้ แต่เรรวนหวนนึกตรึกตรา พระราชาสะทอ้ นถอนใจ จงึ ดำรัสตรัสส่ังตำมะหงง เรง่ เตรียมจตุรงคท์ พั ใหญ่ ม้ารถคชสารชาญชยั รบี รัดจดั ไว้ใหค้ รบครนั เลือกสรรโยธาจงสามารถ ทอี่ ยู่คงองอาจแขง็ ขัน แตป่ นื ตึงก็ถงึ ทันควนั เขา้ โรมรกุ บกุ บนั ฟนั แทง เราจะตัดศกึ ใหญ่ใหย้ อ่ ย่น ด้วยกำลงั รพี้ ลเขม้ แขง็ แม้นไพรหี นีมือกลางแปลง เห็นหักไดไ้ มแ่ คลงวิญญาณ์ ฤกษ์ร่งุ พรงุ่ นี้จะยกไป ชงิ ชยั ชว่ ยกรงุ ดาหา สั่งเสรจ็ เสด็จทรงอาชา ไปเฝา้ ท้าวหมันหยาฉับพลนั ครนั้ ถึงนิเวศนว์ งั ใน ลงจากมโนมยั ผายผนั ยรุ ยาตรนาดกรจรจรลั เขา้ พระโรงสุวรรณทนั ใด บดั นั้น ดะหมงั กเุ รปนั กรุงใหญ่ จงึ รบี ไปหาเสนาใน แถลงไขขอ้ ความตามคดี บดั น้นั อำมาตยห์ มนั หยากรุงศรี ไดแ้ จง้ แหง่ ดะหมงั เสนี กพ็ าไปยังท่ีพระโรงคลั ก้มเกล้าประณตบทมาลย์ พระผผู้ ่านเวียงชยั ไอศวรรย์ ทูลเบิกดะหมังเสนาน้ัน ว่าพระปิ่นกุเรปันใช้มา บดั นั้น ดะหมังผู้มียศถา นบนว้ิ บังคมคัลวนั ทา ทูลถวายสาราพระภมู ี ๓๐ เมื่อน้ัน ระตูหมันหยาเรืองศรี รบั สารมาจากเสนี แลว้ คล่ีออกอ่านทนั ใด ในลักษณ์อักษรสารา วา่ ระตหู มันหยาเป็นผใู้ หญ่ มรี าชธิดายาใจ แกลง้ ใหแ้ ต่งตวั ไว้ยว่ั ชาย จนลูกเรารา้ งคูต่ ุนาหงัน ไปหลงรกั ผูกพันม่นั หมาย จะใหช้ ิงผัวเขาเอาเดด็ ดาย ช่างไม่อายไพรฟ่ ้าประชาชน บัดน้ศี กึ ประชิดตดิ ดาหา กจิ จาลอื แจง้ ทกุ แหง่ หน เสยี งานการวิวาห์จลาจล ต่างคนต่างขอ้ งหมองใจ การสงครามครั้งนมี้ ไิ ปชว่ ย ยงั เหน็ ชอบด้วยหรือไฉน จะตดั วงศต์ ัดญาติใหข้ าดไป กต็ ามแตน่ ้ำใจจะเหน็ ดี ทรงอ่านสารเสรจ็ สิ้นเรือ่ ง กลัวจะเคอื งขุ่นขอ้ งหมองศรี จงึ ยน่ื สารให้ระเด่นมนตรี แล้วมีพจนารถวาจา เห็นงามอยู่แล้วหรอื หลานรกั เจ้าหาญหกั ไมฟ่ งั คำข้า มาพลอยไดค้ วามผิดดว้ ยนดั ดา เมือ่ กระน้ีจะว่าประการใด แม้นมยิ กพลขันธ์ไปพนั ตู หาใหอ้ ยู่กบั จนิ ตะหราไม่ อย่าหนว่ งหนกั ชักชา้ เร่งคลาไคล รบี ไปใหท้ นั ทว่ งที อันระเด่นดาหยนวงศา จงคมุ พลหมนั หยากรงุ ศรี สมทบทัพระเดน่ มนตรี ได้ฤกษ์รุง่ พรุง่ นีจ้ งยาตรา เมือ่ น้ัน พระโฉมยงพงศ์อสัญแดหวา รบั ส่งั แลว้ บงั คมลา ไปปราสาทจนิ ตะหราวาตี ครนั้ ถงึ ห้องสุวรรณบรรจง น่งั แนบแอบองค์นางโฉมศรี ทอดถอนฤทยั พลางทางพาที ภมู ีแจง้ ความแก่ทรามวัย บัดน้ดี ะหมังเสนา ถือสารพระบิดามาให้ เป็นเหตุดว้ ยดาหาเวียงชยั เกิดการศึกใหญไ่ พรี ให้พี่กรธี าทัพขนั ธ์ ไปช่วยปอ้ งกันกรุงศรี จะรีบยกพหลมนตรี พรุ่งน้ีใหท้ ันพระบัญชา อยู่จงดีเถดิ พ่ีจะลาน้อง อยา่ หมน่ หมองเศรา้ สรอ้ ยละห้อยหา เสร็จศกึ วันใดจะไคลคลา กลบั มาสู่สมภริ มย์รกั ๓๑ ถอดความ ดะหมงั กุเรปันเฝา้ ถวายสารท้าวหมันหยาและอิเหนา กลTาวถึงดะหมังจากเมืองกุเรปBน เมื่อเดินทางมาถึงเมืองหมันหยาก็ตรงไปยังเรือนพักของ อิเหนาเขMาเฝdาถวายพระราชสารแกTอิเหนา อิเหนาคลี่สารของทMาวกุเรปBนออกอTาน ซึ่งในสารนั้นกลTาว วTาตอนนี้มีขMาศึกมาตั้งทัพประชิดเมืองดาหา ขอใหMอิเหนารีบยกพลไปตีใหMทันทTวงที ถึงไมTเห็นแกTบุษบา ก็ขอใหMเห็นแกTทMาวดาหาผูMเปUนอา ศึกครั้งนี้เกิดขึ้นก็เพราะใครไปทำงามหนMาไวMใหM เสียคำพูดใหMอาย ชาวเมืองดาหา ครั้งนี้จะเมินเฉยอีกทำใหMเสียศักดิ์ศรีก็แลMวแตTใจ ถMาไมTมาชTวยก็ขาดกันอยTาไดMเผาผีกัน อีกเลย เมื่ออิเหนาไดMอTานดังนั้น ก็ถอนใจดMวยความสงสัยวTาบุษบาจะงามถึงเพียงไหนเชียวจึงถูกใจระตู ทุกเมือง แคTเพียงเห็นรูปก็จะพากันมาตายเสียแลMว หากงามเหมือนจินตะหราก็วTาไปอยTาง จึงบอกแกT ดะหมังไปวTาจะยกทัพไปในอีก ๗ วัน แตTดะหมังรีบทูลวTาตMองรีบไปในทันที เพราะตอนนี้ขMาศึกยกทัพ มาติดพระนครแลวM อิเหนาเกรงกลัวทMาวกุเรปBนพระบิดาสุดที่จะเลื่อนวันไป ทัง้ รักทัง้ กลวั หTวงหนาM พะวงหลังคดิ แลMว ก็ทอดถอนใจจึงสั่งตำมะหงงใหMรีบจัดทัพใหญTทั้งทัพมMา ทัพรถ ทัพชMางเลือกทหารที่มีความสามารถทั้ง ทหารปoนและทหารดาบ อิเหนาจะตัดศึกใหญTดMวยกำลังที่เขMมแข็งแมMนขMาศึกหนีก็จะทำลาย ใหMสิ้น ไป ถือเอาฤกษIพรุTงนี้จะยกทัพไปชTวยเมืองดาหาเมื่อสั่งเสร็จอิเหนา ก็ไปเขMาเฝdาทMาวหมันหยา เมื่อไปถึง เขตวังในก็ลงจากหลังมMาเขMาทMองพระโรงทันที ดะหมังเมืองกุเรปBนก็เขMาเฝdาทMาวหมันหยาเชTนกันแลMว ถวายสารแกT เจาM เมอื งหมันหยา ทMาวหมันหยารับสารจากดะหมังคลี่ออกอTานทันทีในสารมีใจความวTา ตัวทMาวหมันหยามีลูกสาว ใหMแตTงตัวยั่วชายจนอิเหนาตMองรMางคูTไป หลงรักไปติดพันชTางไมTอายผูMคน ตอนนี้มีศึกประชิดเมืองดาหา จนเกิดเรื่องวุTนวายเสียงานการวิวาหIไปหมดตTางคนก็หมางใจกัน ในการสงครามครั้งนี้ถMาไมTไปชTวยก็จะ ตัดญาติขาดมิตรกันไปก็แลMว แตTใจเมื่ออTานสารแลMวทMาวหมันหยากลัวทMาวกุเรปBนขุTนเคืองจึงยื่นสาร ใหMแกTอิเหนาและกลTาววTา เห็นหรือไมTอิเหนาหลานรักเจMาไมTเชื่อฟBงคำจึงทำใหMมีความผิดไปดMวย แลMวเรTง ใหMอิเหนารีบยกทัพไปชTวยเมืองดาหาหากไมTไปก็จะไมTใหMอยูTกับนางจินตะหรา พรMอมทั้งใหMระเดTนดาหย นคุมกองทัพของเมืองหมนั หยาไปดวM ย ไดฤM กษIยกทัพไปในตอนเชาM พรTุงน้ี อิเหนารับคำสั่งแลMวลาไปยังปราสาทนางจินตะหรา เมื่อไปถึงก็เขMาแนบชิดนางทอดถอนใจแลMว แจMงเรื่องราวแกTนางวTาดะหมังถือสารจากพระบิดาวTาเมืองดาหาเกิดศึกใหMอิเหนารีบยกทัพไปชTวยในวัน พรุงT นีข้ อใหนM างจงอยTูดอี ยTาโศกเศราM เสียใจเสร็จศึกแลวM จะรบี กลบั ทันที ๓๒ กลุ่มท่ี ๖ ดะหมงั กเุ รปันเฝา้ ถวายสารทา้ วหมันหยาและอเิ หนา (ตอ่ ) เมอ่ื นัน้ จินตะหราวาตมี ศี ักด์ิ ฟังตรสั ขัดแค้นฤทยั นกั สะบัดพกั ตรผ์ ินหลงั ไม่บงั คม แลว้ ตอบถอ้ ยน้อยหรอื พระทรงฤทธิ์ ชา่ งประดิษฐ์คิดความพองามสม ล้วนกล่าวแกล้งแสร้งเสเลห่ ์ลม คิดคมแยบคายหลายชัน้ พระจะไปดาหาปราบขา้ ศึก หรอื รำลกึ ถึงคูต่ นุ าหงนั ด้วยสงครามในจติ ยังติดพนั จึงบิดผนั พจนาไม่อาลัย ไหนพระผ่านฟา้ สญั ญานอ้ ง จะปกป้องครองความพสิ มัย ไม่นริ าศแรมร้างห่างไกล จนบรรลยั มอดม้วยไปดว้ ยกัน พระวาจาน่าเช่ือเป็นพ้นนัก จงึ หลงรกั ภักดไี มเ่ ดียดฉนั ท์ พาซอื่ สจุ รติ คิดสำคญั หมายมั่นว่าเมตตาปรานี มิรมู้ าอาภัพกลบั กลาย จะหลีกเลย่ี งเบ่ียงบา่ ยหน่ายหนี ยงั สมคำสญั ญาท่พี าที กรี่ อ้ ยปีพระจะกลับคืนมา เมื่อนน้ั พระสรุ ิย์วงศเ์ ทวัญอสญั หยา โลมนางพลางกลา่ ววาจา จงผนิ มาพาทกี ับพ่ีชาย ซึ่งสญั ญาวา่ ไว้กบั นวลนอ้ ง จะคงครองไมตรีไม่หนหี นา่ ย มไิ ดแ้ กลง้ กลอกกลบั อภปิ ราย อย่าสงกาว่าจะวายคลายรกั จะจำจากโฉมเฉลาเยาวเรศ เพราะเกรงเดชบิตรุ งค์ทรงศักด์ิ ขอ้ ความงามแคลงกินแหนงนัก ดว้ ยเจา้ ไมป่ ระจักษท์ ีจ่ รงิ ใจ สมเดจ็ พระบดิ าใหห้ าพ่ี ใช่แต่ครัง้ นี้นั้นหาไม่ ถึงสองครงั้ พี่ขดั รับสัง่ ไว้ ยังมิไดบ้ อกเจา้ ใหแ้ จ้งการ บัดน้เี กิดศึกก็สดุ คิด จนจติ ที่จะขดั พระบรรหาร สารามีมาเปน็ พยาน พระย่ืนสารให้นางทัศนา ๓๔ เมื่อนั้น โฉมยงองค์ระเดน่ จินตะหรา คอ้ นใหไ้ ม่แลดูสารา กลั ยาค่ังแคน้ แนน่ ใจ แล้วว่าอนจิ จาความรัก พ่ึงประจกั ษ์ดง่ั สายนำ้ ไหล ต้งั แตจ่ ะเช่ียวเปน็ เกลียวไป ท่ไี หลเลยจะไหลคนื มา สตรใี ดในพภิ พจบแดน ไมม่ ีใครไดแ้ ค้นเหมอื นอกข้า ด้วยใฝร่ ักใหเ้ กนิ พกั ตรา จะมแี ต่เวทนาเปน็ เนืองนิตย์ โอ้วา่ นา่ เสยี ดายตวั นัก เพราะเช่ือล้นิ หลงรักจงึ ชำ้ จติ จะออกช่ือลือชัว่ ไปทั่วทศิ เม่ือพล้ังคิดผดิ แลว้ จะโทษใคร เสียแรงหวังฝงั ฝากชวี ี พระจะมเี มตตาก็หาไม่ หมายบำเหนจ็ จะรีบเสด็จไป ก็รู้เท่าเข้าใจในทำนอง ด้วยระเด่นบุษบาโฉมตรู ควรคูภ่ ิรมยส์ มสอง ไม่ต่ำศักด์ริ ูปชัว่ เหมอื นตวั นอ้ ง ท้งั พวกพ้องสุรยิ ์วงศพ์ งศพ์ นั ธุ์ โอ้แตน่ ส้ี ืบไปภายหน้า จะอายชาวดาหาเป็นแมน่ มั่น เขาจะคอ่ นนนิ ทาทกุ ส่ิงอัน นางรำพนั ว่าพลางทางโศกา เมื่อนั้น พระสรุ ิย์วงศ์เทวัญอสัญหยา ปลอบนางพลางเชด็ ชลนา ดวงยิหวาอยา่ ทรงโศกี จงสรา่ งสิ้นกินแหนงแคลงใจ ทใ่ี นบษุ บามารศรี พ่สี ลัดตดั ใจไมไ่ ยดี มิไดม้ ปี รารถนาอาลยั จรกาจง่ึ ได้มาวา่ ขาน กำหนดนดั ทำงานการใหญ่ พอกะหมังกหุ นิงรไู้ ป ก็ซำ้ ใหม้ ากลา่ วกัลยา ครัน้ ขอนางมิได้ดงั ใจจง จึงเกดิ การณรงค์ในดาหา เพราะแหนหวงช่วงชงิ วนดิ า ใชว่ ่านางเปล่าอยเู่ มือ่ ไร อนั ลือข่าวบษุ บาวา่ งามนัก จะดกี ว่าน้องรกั น้ันหาไม่ นจี่ ำเปน็ จึงจำจากไป เพราะกลัวภัยพระราชบิดา แม้นเสยี ดาหากเ็ สยี วงศ์ อปั ยศถึงองคอ์ สัญหยา เจา้ กับพก่ี จ็ ะมแี ต่นินทา แก้วตาจงดำรติ รติ รอง ถงึ ไปก็ไม่อยูน่ าน เยาวมาลยอ์ ย่าโศกเศรา้ หมอง พระจมุ พิตชิดเชยปรางทอง กรประคองนฤมลข้นึ บนเพลา ๓๕ เมอื่ นัน้ จินตะหราวาตีโฉมเฉลา ได้เหน็ สารทราบความตามสำเนา คอ่ ยบรรเทาเบาทกุ ข์เเคลงใจ จงึ เคล่อื นองคล์ งจากพระเพลาพลาง นวลนางบงั คมแถลงไข ซง่ึ พระจะเสดจ็ ไปชงิ ชยั กต็ ามใจไม่ขดั อัธยา เเมน้ สำเรจ็ ราชการงานศกึ เเลว้ รำลกึ อย่าลมื หมนั หยา จงเรง่ รีบยกทัพกลับมา น้องจะนับวนั ท่าภวู ไนย เมอื่ นนั้ พระทรงโฉมประโลมจติ พสิ มยั รับขวัญกลั ยาเเลว้ วา่ ไป พจ่ี ะลืมปลมื้ ใจไยมี เปน็ เวรากรรมจึงจำจาก ขอฝากมาหยารศั มี กับนางสการะวาตี ดว้ ยทรามวัยไรท้ ่พี งึ่ พา นางไกลบิตรุ าชมาตุรงค์ โฉมยงอย่าเคียดขง้ึ หึงสา ถ้าพล้ังผิดสงิ่ ไรได้เมตตา อยา่ ถอื โทษโกรธาเทวี วา่ พลางทางเปลื้องสังวาลทรง ใหอ้ งคจ์ ินตะหรามารศรี จงเจา้ เอาเครอื่ งประดบั น้ี ไวด้ ูตา่ งพักตรพ์ จี่ ะขอลา ๓๖ ถอดความ ดะหมังกุเรปันเฝา้ ถวายสารทา้ วหมนั หยาและอิเหนา (ตอ่ ) นางจินตะหรา ไดMฟBงก็แคMนใจสะบัดหนMาหันหลังใหMพรMอมกับตัดพMอตTอวTาอิเหนาวTาจะไป ปราบขMาศึกหรือจะกลับไปหวนคืนสูTคูTหมั้นเกTากันแนT ไหนบอกวTาจะไมTไปไหนจนกวTาจะตายจาก กัน นางก็หลงเชือ่ ไมรT วMู าT ภายหลังจะมาเปนU เชนT นี้ แลวM อกี นานเทTาไหรTเลTาอิเหนาจะกลับมา อิเหนาชี้แจงวTาไมTเคยคลายความรักในตัวจินตะหราเลย แตTตนมีเหตุจำเปUนตMองไป เพราะ ทMาวกุเรปBนใหMกลับสองครั้งแลMว แตTครั้งนี้เกิดศึกสงคราม ไมTอาจจะขัดไดM แลMวจึงยื่นสารใหMจินตะ หราอTาน นางจินตะหราก็รูMสึกคับแคMนใจไมTมองดูสารแลMวคร่ำครวญวTา อนิจจาความรักนั้นก็เหมือน น้ำที่ไหลเชี่ยว ไฉนเลTาจะไหลกลับคืนมา คงไมTมีหญิงใดจะเจ็บช้ำไปกวTานาง เพราะหลงเชื่อ หลง รัก ถึงตอนนี้แลMวจะไปโทษใครไดM เสียแรงหวังที่จะฝากชีวิตไวMกับอิเหนาแตTก็ไมTปราณี ที่จักรีบ เสด็จไปนั้นก็เขMาใจเพราะนางบุษบานั้นคูTควรกับอิเหนา ไมTต่ำศักดิ์เหมือนนาง ตTอไปชาวเมืองดาหา ก็จะนินทาไดM นางเอาแตTรMองไหMคร่ำครวญ อิเหนาปลอบโยนใหMจินตะหราคลายความโศกเศรMา วTาท่ี อิเหนาไปนั้น แมMบุษบาจะสวยก็จริง แตTอิเหนาตัดสัมพันธIไปแลMว จรกาจึงมาทำการสูTขอและ เตรียมการวิวาหIพอทMาวกะหมังกุหนิงทราบก็มาสูTขอนางอีกเมื่อไมTไดMนางจึงเกิดศึกในเมืองดาหา เพื่อชTวงชิงนางบุษบาไมTใชTวTานางไมTมีใคร อันขTาวลือที่วTาบุษบางามนักนั้นแตTก็งามสูMนางจินตะหรา ไมTไดM ครั้งนี้จำเปUนจึงตMองจำจากไปเพราะเกรงกลัวทMาวกุเรปBนบิดาตTางหาก หากเสียเมืองดาหาก็ เหมือนเสยี ถึงวงศตI ระกลู มีแตTจะถูกนินทา ขอใหนM างคิดใหMดเี ม่ือไปแลMวก็ไมTอยูนT านจะรบี กลบั มาหา นาง นางอยTาไดMโศกเศรMาเสียใจ อิเหนาหอมแกMมนางและประคองขึ้นบนตัก นางจิตะหราเห็นสาร แลMวคTอยบรรเทาความทุกขIความแคลงใจ นางบอกอิเหนาวTาจะไปทำศึกก็ตามใจแตTเมื่อเสร็จศึกใหM คิดถึงเมืองหมันหยาและรีบกลับมานางจะรอ อิเหนารับขวัญนางแลMววTาคงเปUนเวรกรรมที่ตMองจาก ไปก็ขอฝากนางมาหยารัศมีและนางสการะวาตีใหMจินตะหราดูแลเพราะนางทั้งสองหTางไกลบิดา มารดาอยTาไดMเคียดแคMนหึงหวงถMาผิดก็ใหMเมตตานางทั้งสอง อยTาถือโทษโกรธเคือง แลMวถอดสังวาล ใหนM างจนิ ตะหราไวดM ูตTางหนMา ๓๗


Author

ครั้น ถึงห้อง สุวรรณ บรรจง นั่งแนบแอบองค์นางโฉมศรี

Top Search