สารฟอกขาวอยู่ในวัสดุอุปกรณ์ชนิดใดในการดูแลเสื้อผ้า

สารบัญ

• ผงฟอกขาว คืออะไร?
  • 1. คลอรีน บลีช (Chlorine Bleach)
  • 2. ออกซิเจน บลีช (Oxygen Bleach)
• วิธีการใช้ผงฟอกขาวและข้อระวัง
• สูตรผงฟอกผ้าขาว ทำเองง่าย ๆ ได้ที่บ้าน
  • 1. สูตรธรรมชาติ
  • 2. สูตรแบบเจลพกพา
  • 3. สูตรเบกกิ้งโซดา

ผงฟอกขาว คืออะไร?

ผงฟอกขาวคือ สารเคมีชนิดหนึ่งที่สามารถลบคราบและรอยเปื้อนที่ฝังลึกบนเนื้อผ้าและมีประสิทธิภาพช่วยให้ผ้าสว่างหรือขาวขึ้น มีคุณสมบัติ ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสได้ สารฟอกขาวนั้นแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท

1. คลอรีน บลีช (Chlorine Bleach)

สารฟอกขาวประเภทนี้ มีสารละลายโซเดียมไฮโปคลอไรท์ ที่มีฤทธิ์ในการกัดกร่อนคราบหนักสูง ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ดีเยี่ยม และยังมีคุณสมบัติในการฟอกผ้าให้ขาวสว่างสดใส จึงเหมาะกับการซักผ้าขาวโดยเฉพาะ

2. ออกซิเจน บลีช (Oxygen Bleach)

เป็นสารฟอกผ้าขาวที่มีสารละลายไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ และออกซิเจนผสมอยู่ด้วย ซึ่งสารทั้ง 2 ชนิดนี้ก็จะทำหน้าที่ในการจำกัดคราบอินทรีย์ และคราบเปื้อนทั่ว ๆ ไป และยังทำให้ผ้าสีดูสดใส จึงเหมาะกับการทำความสะอาดผ้าสี

รู้หรือไม่? คลอรีน บลีช มีฤทธิ์กัดกร่อนแรงกว่า สารฟอกขาวออกซิเจน 

ข้อดีและข้อเสีย

 ข้อดี : ที่เห็นได้ชัด คือ สามารถทำความสะอาดสิ่งสกปรกบนเสื้อผ้า กำจัดคราบเปื้อนหนัก ๆ เช่น คราบอาหาร เครื่องดื่ม (ชา-กาแฟ) และน้ำหมึกได้อย่างที่ผงซักฟอกธรรมดา ๆ ทำไม่ได้ นอกจากนี้ยังช่วยฆ่าเชื้อโรค และเชื้อแบคทีเรียบนเสื้อผ้าได้อย่างดีเยี่ยม

 ข้อเสีย : เนื่องจากน้ำยาฟอกผ้าขาวเป็นสารเคมีอันตราย และมีฤทธิ์กัดกร่อน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้อย่างระมัดระวัง และทำตามที่ระบุไว้ในฉลากอย่างเคร่งครัด

วิธีการใช้ผงฟอกขาวและข้อระวัง

หากคุณต้องการซักผ้าขาวและฟื้นฟูสภาพผ้าขาวของคุณให้กลับมาเหมือนใหม่อีกครั้ง สามารถทำตามขั้นตอน ดังนี้

• แช่ผ้าขาว คุณควรหากะละมังที่มีขนาดพอดีในการแช่ผ้า ก่อนที่จะผสมผงฟอกขาว หรือน้ำยาซักผ้าขาว คุณควรอ่านคู่มือการใช้ เพื่อปริมาณในการใช้ที่เหมาะสม ก่อนผสมลงไปในน้ำสะอาด
• หากคุณไม่ได้ซักผ้าในสถานที่โลงแจ้ง คุณควรเปิดประตู หรือหน้าต่างห้องไว้ เพื่อให้กลิ่นของสารฟอกขาวได้ระบายออก
• ใส่ถุงมือยางทุกครั้ง เมื่อใช้ผงฟอกขาว หรือน้ำยาซักผ้าขาว เพื่อป้องกันไม่ให้โดนมือเมื่อทำการแช่ผ้า
• หากเสื้อผ้ามีคราบสกปรกมาก สามารถใช้น้ำยาซักผ้า หรือผงซักฟอกผสมลงไปด้วย วิธีนี้จะช่วยสลายคราบสกปรกบนเนื้อผ้าให้จางลงได้ง่ายขึ้น
• แช่ผ้าไว้ในกะละมังที่ผสมผงฟอกขาวไว้ประมาณ 10-15 นาที ระวังอย่าแช่ผ้านานเกินไป เนื่องจากสารฟอกขาวอาจทำลายใยผ้าโดยเฉพาะผ้าละเอียดอ่อน เช่น ผ้าฝ้าย หรือ ผ้าลินิน
• เมื่อครบเวลา ล้างผ้าขาวของคุณออกด้วยน้ำสะอาดให้ได้มากที่สุด บิดน้ำออกจากผ้าให้หมาด ๆ ก่อนนำไปซักอีกรอบ เพื่อกำจัดกลิ่นคลอรีนจากสารฟอกขาว
• หากคุณต้องการซักผ้ากับเครื่องซักผ้า แนะนำให้ใช้น้ำยาซักผ้าขาวแทนผงซักผ้าขาว น้ำยาซักผ้าขาวจะเข้าซอกซอนถึงเนื้อผ้าได้อย่างทั่วถึงกว่า
• ไม่ควรขจัดคราบเฉพาะจุด โดยการใช้น้ำยา หรือผงฟอกขาวแต้มลงบนบริเวณคราบโดยตรง เพราะจะทำให้ผ้าเป็นรอยด่างได้ การแช่ผ้าสามารถช่วยคุณสลายคราบได้ดีที่สุด
• หากไม่ทราบว่าผงฟอกขาว หาซื้อที่ไหน หรือไม่อยากใช้ผงฟอกขาวโดยตรงกับเสื้อผ้าของคุณ สามารถมองหาผลิตภัณฑ์ซักผ้า ที่มีส่วนผสมของสารฟอกขาวอยู่ด้วย เพื่อให้การกำจัดคราบของคุณสะดวก และปลอดภัยมากขึ้น
• สังเกตุเครื่องหมาย อย. ต้องมีตัวเลข วอส. กำกับอยู่ด้วยทุกครั้ง เนื่องจากสารฟอกผ้าขาวนั้น จัดว่าเป็นวัตถุอันตรายที่อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โดยเฉพาะ

สูตรผงฟอกผ้าขาว ทำเองง่าย ๆ ได้ที่บ้าน

1. สูตรธรรมชาติ

อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่มีผิวหนังแพ้ง่าย ไม่สะดวกต่อการใช้สารฟอกผ้าขาวที่ผสมสารเคมีแรง ๆ ลงไป โดยผสมไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 1 ½ ถ้วยตวง น้ำมะนาว ½ ถ้วยตวง กรดซิตริก 1 ช้อนชา น้ำกลั่น 1 แกลลอน และหยดน้ำมันหอมระเหยกลิ่นมะนาว 10-30 หยด จากนั้นคนให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี นำไปซักผ้าได้แล้ว

2. สูตรแบบเจลพกพา

เริ่มจากเทแป้งข้าวโพด 3 ช้อนโต๊ะลงไปในน้ำร้อน ¾ ถ้วยตวง แล้วคนส่วนผสมให้เข้ากัน และกลายเป็นเนื้อเหนียวข้น พร้อมกับปิดฝาภาชนะให้สนิท และตั้งพักไว้ให้เย็น หลังจากเติมสารฟอกผ้าขาวลงไปทีละช้อนประมาณ 4-7 ช้อน แล้วคนส่วนผสมให้เป็นเนื้อเดียวกันอีกครั้ง เทใส่ขวดบีบที่มีฝาเปิด-ปิด เมื่อเจอคราบหนักที่ซักไม่ออกก็จัดการป้ายลงไปบนคราบ ก็จะเห็นผลลัพธ์ที่แตกต่างทันที

3. สูตรเบกกิ้งโซดา

ก่อนอื่นผสมเบกกิ้งโซดากับไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ในอัตราส่วนที่เท่ากัน แล้วยกขึ้นตั้งไฟระดับกลาง เมื่อส่วนผสมเริ่มร้อนก็นำผ้าขาวลงไปต้ม เมื่อคราบหลุดออกก็นำไปซักตามวิธีปกติอีกครั้ง

❝ ผงฟอกขาว คือสารเคมี ที่มีฤทธิ์กัดกร่อนดี ๆ นั่นเอง ฉะนั้นเราต้องระมัดระวังให้ดีเลยนะจ๊ะ เพราะถ้าพลาดไปเสื้อผ้าชุดสวยสุดรักของเราอาจจะพังไปเลยก็ได้