ช่วงฤดูร้อนของประเทศไทยควรสวมใส่เสื้อผ้าแบบใดจึงจะเหมาะสม

การออกแบบเสื้อผ้า ถือเป็นศิลปะรูปแบบหนึ่งในการถักทอวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ของผู้คนในสังคมลงบนเสื้อผ้า โดยอาศัยเวลา สถานที่ วัฒนธรรมและประเพณีเป็นพื้นฐานในการสร้างสรรค์ ซึ่งในหนึ่งปีคอลเลกชั่นของเสื้อผ้าจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ฤดูกาล คือ คอลเลกชั่นฤดูหนาว คอลเลกชั่นฤดูร้อน และคอลเลกชั่นฤดูใบไม้ผลิ แม้ในช่วงฤดูฝนเช่นนี้จะไม่มีคอลเลกชั่นนำก็ตาม แต่ก็สามารถออกแบบให้สวยดีดูได้ไม่แพ้ฤดูอื่น!!

วทานิกา ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา แฟชั่นดีไซเนอร์แบรนด์ Vatanika กล่าวถึงสไตล์การแต่งตัวของคนไทยว่าจะเห็นได้ว่า ผู้หญิงและผู้ชาย รวมทั้ง วัยรุ่นในสมัยนี้ กล้าที่จะลุกขึ้นมาแต่งตัวแต่งแต้มสีสันให้กับเรือนร่างผ่านเสื้อผ้ากันมากขึ้น กล้าที่จะเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น รวมทั้ง จากวัฒนธรรมของชาติต่าง ๆ ที่ถูกซึมซับเข้ามาด้วย ซึ่งมองว่า เป็นสิ่งที่ดี ทำให้ได้เห็นในหลาย ๆ แง่มุมที่มีความแตกต่างกันไปในการแต่งตัว

“วัยรุ่นเดี๋ยวนี้รู้จักจับโน่น ผสมนี่ จนกลายเป็นรูปแบบการแต่งตัวที่เป็นเอกลักษณ์ประจำตัว เช่นเดียวกับผู้ใหญ่บางคนแม้จะอายุมากแล้วแต่ก็ยังมีความสุขที่ได้แต่งตัวอยู่ ผู้หญิงก็หันมาแต่งเปรี้ยวกันมากขึ้น ในขณะที่ผู้ชายก็ให้ความสนใจ หรือให้ความสำคัญในการเลือกซื้อเสื้อผ้า พยายามสรรหารูปแบบที่เข้ากับตนเอง 

ซึ่งต่างจากสมัยก่อนที่เสื้อผ้าในแต่ละฤดูกาลจะไม่แตกต่างกันมากนักในประเทศไทย รวมทั้ง มีน้อยคนนักที่จะกล้าใส่เสื้อลายดอก กล้าที่จะใส่เสื้อผ้าสีสด ๆ อาจจะมาจากจารีตประ เพณี อีกทั้ง เสื้อผ้าในสมัยก่อนกว่าจะได้มาสักชุดจะต้องไปหาซื้อผ้ามาตัด จะต้องมีการออกแบบชุด แต่เดี๋ยวนี้จะเป็นเสื้อผ้าสำเร็จเสียส่วนใหญ่ งานตัดแทบจะไม่มีแล้ว นอกจากจะเป็นงานสำคัญ ๆ จริง ๆ ถึงจะซื้อผ้ามาตัดชุดกัน จึงทำให้การสวมใส่เสื้อผ้าในปัจจุบันมีหลากหลายสไตล์ด้วยกัน มองแล้วไม่น่าเบื่อเป็นสีสันในสังคมรูปแบบหนึ่งที่เสพได้จากการมอง” 

การออกแบบเสื้อผ้าในช่วงหน้าฝนนั้น สิ่งแรกที่จะคำนึงถึง คือ  เนื้อผ้า โดยจะเลือกเนื้อผ้าที่สวมใส่สบาย สามารถระบายอากาศได้ดี เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าลินิน มาใช้ในการตัดเย็บ เพราะเป็นผ้าที่เบา สวมใส่สบาย ซับเหงื่อได้ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับการนำมาใส่ในช่วงหน้าร้อน รวมทั้ง หน้าฝนด้วย เนื่องจากเป็นผ้าที่เมื่อเปียกแล้วแห้งง่าย ใช้เวลาตากไม่นานก็แห้งแล้ว นอกจากนี้ ยังมีการนำผ้าชีฟอง ผ้าไหมญี่ปุ่นและไหมซาติน เข้ามาเสริมเพื่อให้เสื้อผ้าดูมีความหลากหลายเหมาะกับหน้าฝนด้วย ’ปัจจัยหลักของการเลือกเนื้อผ้า คือ สภาพภูมิอากาศ เนื่องจากอากาศบ้านเรา เมื่อฝนหยุดตกแล้วอากาศจะชื้นเมื่อชื้นแล้วก็จะร้อนต่อทันที ฉะนั้น ผ้าที่เหมาะแก่การนำมาใช้จึงต้องเลือกผ้าที่สามารถระบายอากาศได้ดี โดยการออกแบบเสื้อผ้าของที่ร้านประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ จะเป็นเนื้อผ้าที่สามารถใส่ในช่วงหน้าฝนของประ เทศไทยได้ โดยจะคำนึงถึงผู้ใส่ไม่ต้องกังวลว่า เสื้อสวยแต่จะลำบากในการซัก ในการใส่หรือไม่ ให้หมดปัญหาเหล่านี้ไป ไม่ว่าจะเป็นเสื้อเชิ้ต กางเกงเข้าชุด กระโปรง ชุดเดรส เมื่อนำผ้าที่เป็นเนื้อผ้าบาง ถ่ายเทอากาศได้สะดวกมาตัดเย็บ จะขายดี ลูกค้าชอบ เพราะซักง่าย ใส่สบาย ไม่ร้อน แม้จะเป็นแขนยาว หรือกางเกงขายาวก็ตาม“

ด้านการออกแบบ จะมีบางส่วนที่โชว์ผิวมากกว่าเสื้อผ้าในช่วงฤดูอื่น เพื่อที่จะได้ช่วยในการระบายอากาศอีกทางหนึ่ง นอกจากจะใช้เนื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดีแล้ว โดยจะเป็นเสื้อผ้าที่มีลักษณะเป็นเสื้อทรงบรา สายเดี่ยว เสื้อเอวลอยตัวสั้น กระโปรงสั้น ชุดเดรสสั้น ในส่วนของสีจะเน้นสีหวาน ๆ สีอ่อน ๆ เช่น ชมพู ขาว ครีม เพราะเมื่อใส่แล้วมองดูสบายตา รวมทั้ง จะใช้ผ้าปริ้นท์ลายดอกไม้ ช่วยเพิ่มสีสันให้กับเสื้อผ้าช่วงหน้าฝน 

ในส่วนของผ้าพิมพ์ลายนั้น จะพยายามเปลี่ยนไปในทุกฤดู โดยในช่วงหน้าฝนจะทำเป็นผ้าลายดอกไม้ ซึ่งได้แนวคิดมาจากกระเบื้องเคลือบต่าง ๆ ของช่างฝีมือระดับโลก จาค็อป เปอติท (Jacob Petit) ศิลปินชาวฝรั่งเศส ที่วาดลวดลายด้วยมือทั้งหมดซึ่งทำให้ผลงานแต่ละชิ้นมีความพิเศษและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยได้มีโอกาสชมผลงานศิลปะของเขาที่พิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่งประเทศฝรั่งเศส

“เมื่อเห็นแล้วรู้สึกว่า น่าจะดึงความโดดเด่นของลวดลายมาประยุกต์เป็นผ้าพิมพ์ลายได้ ด้วยสี ด้วยแบบ เข้ากับช่วงหน้าร้อนต่อด้วยฤดูฝน จึงนำมาเป็นแบบในการตัดเสื้อผ้าในช่วงนี้ โดยนำมาประยุกต์กับโทนสีที่จะตัดเย็บอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นสีขาว สีครีม สีชมพูเบบี้พิ้ง  สีเขียวมรกต และสีดำ“   

สำหรับการออกแบบผ้าพิมพ์ลายจะใช้ผ้าพื้นดำแล้วพิมพ์ลายดอกไม้ซึ่งจะมีสีที่สดใสด้วยการวางล็อก ความพิเศษของการวางล็อกอยู่ที่รูปแบบแต่ละแบบที่เป็นแบบเฉพาะหมายความว่า เมื่อวางล็อกนี้ก็จะวางได้แค่แบบนี้เท่านั้น เช่น ล็อกของแบบของเสื้อสูทก็จะวางไว้เฉพาะเสื้อสูทเท่านั้น หากจะนำผ้ามาตัดเป็นกางเกงขาสั้นก็ต้องวางล็อกใหม่ ฉะนั้น การทำเสื้อผ้าออกมาแต่ละตัวก็จะมีแบบเฉพาะของแต่ละประเภท เพื่อให้ลายที่ออกมาสวยงาม เป็นอย่างที่ตั้งใจไว้ ซึ่งความพิเศษในการออกแบบเสื้อผ้าพิมพ์ลายจะอยู่ที่ความละเอียดอ่อนในส่วนของขั้นตอนในการตัดเย็บส่วนนี้ด้วย

มาที่ การตัดเย็บ เสื้อผ้าในช่วงฤดูฝนถือว่าตัดเย็บง่ายกว่าฤดูอื่น ๆ เพราะเนื้อผ้าที่ใช้บางเบาทำให้การตัดเย็บทำได้ง่าย ไม่ลำบาก ซึ่งต่างจากช่วงฤดูหนาวที่เนื้อผ้าที่ใช้จะมีความหนา การระมัดระวังในการตัดเย็บ ฝีเย็บ ก็จะต้องมีมากขึ้น ส่วนความประณีตจะต้องมีเหมือนกันในทุกฤดู

ขณะที่ ในส่วนของรายละเอียดจะมีความแตกต่างกันออกไป อย่างในปีนี้ บางส่วนของเสื้อผ้าจะทำเป็นดอกกุหลาบที่ทำมือทุกดอก หรือในส่วนของแขนที่ทำเป็นชั้น ๆ ต้องไล่ตีเกล็ดแล้วก็เย็บล็อกทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่แต่งเสริมเพิ่มเข้าไป เพื่อให้เสื้อผ้ามีความสวยงามยิ่งขึ้น

วทานิกา ดีไซเนอร์สาวสวย ให้คำแนะนำในการเลือกเสื้อผ้าช่วงหน้าฝนว่า ควรจะเป็นเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี ใส่ได้จริง หมายความว่า ไม่ใช่ดูจากภายนอกแล้วน่าจะใส่สบาย แต่เมื่อใส่จริงแล้วร้อน เพราะบางครั้งแม้จะใส่เสื้อแขนกุดแต่ทำไมรู้สึกร้อน นั่นเป็นเพราะเนื้อผ้าที่นำมาตัดเย็บไม่สามารถระบายอากาศได้ดี อากาศเมืองไทยร้อนขึ้นเรื่อย ๆ ฉะนั้น เสื้อผ้าที่ใส่ในหน้าฝน ควรจะเป็นเสื้อผ้าที่ใส่แล้วสบาย ซักรีดสะดวก แห้งง่าย และที่สำคัญใส่แล้วต้องสวย ดูดีด้วย  “ไม่ควรสวมใส่เสื้อผ้าที่หนา โดยเฉพาะ เสื้อผ้าที่เป็นประเภทหนัง หนังกลับ  หรือพวกเสื้อที่ทำจากขนม้า เพราะเมื่อโดนฝนจะทำให้เป็นรอยด่างได้ง่าย รวมทั้ง เป็นเนื้อผ้าที่อุ้มน้ำ แห้งยาก หากนำมาใส่ในช่วงหน้าฝนอาจทำให้เกิดกลิ่นอับได้ นอกจากนี้ไม่ควรใส่เสื้อผ้าสีขาว ยิ่งถ้าเป็นผ้าชีฟองหรือมีความบาง หากจะใส่ควรใส่ซับในเพิ่มด้วย ไม่เช่นนั้น เมื่อเสื้อเปียกฝนอาจโป๊ได้  หันมาใส่เสื้อผ้าสีสดใสจะดีกว่า ช่วยอำพรางสายตาได้ด้วย”

นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงเสื้อสีดำเมื่อต้องออกแดด เพราะจะยิ่งทำให้ร่างกายได้รับความร้อนเพิ่มมากขึ้น แต่ก็เป็นสีที่เมื่อเปียกฝนแล้วก็สบายใจเพราะสามารถปกปิดเรือนร่างได้ หากต้องการใส่อาจจะต้องเลือกเนื้อผ้าที่ไม่หนามากจนเกินไป ตลอดจน เลือกเสื้อผ้าที่ใส่แล้วทะมัดทะแมง ไม่ดูรุ่มร่ามจนเกินไป

หากเสื้อผ้าโดนฝนไม่ว่าจะเป็นประเภทใดก็ตาม แม้จะเปียกเพียงเล็กน้อยควรรีบซักทันที อย่าเก็บไว้หลายวัน หรือรอซักรวมกับเสื้อผ้าอื่น ๆ  เพราะเนื้อผ้าบางชนิดเมื่อเกิดกลิ่นอับขึ้นแล้ว จะนำไปซักอีกกี่ครั้งกลิ่นอับนั้นก็ไม่หายไป จึงอย่าปล่อยให้เสื้อผ้าอับ ถ้าไม่สามารถนำไปซักได้หลังจากโดนฝนหรือเปียกแล้ว ให้นำไปผึ่งลมไว้หรือทำให้แห้งก่อนแล้วค่อยนำไปซักรวมกับเสื้อผ้าอื่น

การแต่งตัวของคนในประเทศไทย ไม่มีความแตกต่างกันมากจากฤดูกาล เพราะมีปัจจัยหลัก คือ อากาศ แต่ก็อยากให้สนุกกับการแต่งตัวเหมือนช่วงฤดูอื่น ๆ แม้ฝนจะตกแต่ก็สามารถเลือกเสื้อผ้าที่จะใส่แล้วทำให้เรายังสวย หล่อ ดูดีได้ แต่ต้องหมั่นดูแลเสื้อผ้ามากกว่าช่วงฤดูอื่น โดยเฉพาะ การซัก อบ รีด  เพราะอาจจะทำให้เสื้อผ้าชำรุด เสียหายได้ และที่สำคัญ คือ จะต้องแต่งตัวให้เหมาะสม ถูกกาลเทศะ แม้จะเลียนแบบตะวันตกไปบ้างแต่ต้องไม่ทำลายวัฒนธรรมที่ดีงามของไทย.     

.......................................................................

เทคนิคดูแลเสื้อผ้า ‘จุดราสีดำ กำจัดได้’

รอยคราบราบนเนื้อผ้าเกิดขึ้นจากการทิ้งผ้าที่เปียกชื้นไว้เป็นเวลานาน วิธีป้องกันในเบื้องต้น คือ ก่อนนำผ้าไปเก็บเข้าตู้ หรือก่อนเก็บไว้ในตะกร้าเพื่อรอการซัก ตรวจดูให้แน่ใจเสียก่อนว่าผ้าชิ้นนั้นแห้งสนิทแล้วจริง ๆ แต่ถ้าหากเกิดมีราขึ้นแล้ว ให้ใช้น้ำมะนาวกับเกลือทาลงในบริเวณที่เกิดรา หากเป็นผ้าสีขาวให้ใช้น้ำยาขจัดคราบสำหรับผ้าขาวที่ไม่ทำให้ผ้าเหลืองร่วมด้วยได้ แต่หากเป็นผ้าสีควรใช้น้ำยาขจัดคราบสำหรับผ้าสีเท่านั้น ทิ้งไว้สัก 15 นาที เป็นอย่างน้อยแล้วล้างออก คราบราจะหายไป แล้วอย่าลืมผึ่งแดดให้แห้งก่อนพับเก็บ

ทีมวาไรตี้