�ŧ������ Show �ŧ������ ���¶֧ �ŧ����ըѧ��Ъ�� ��ͧ�����Һ���ŧ��ТѺ��ͧ�ҹ�����ŧ��ѵ������ �ŧ���ա�����ŧ����ѵ�Ҩѧ��� �͡�� � �дѺ���¡ѹ��� �. �ѵ�Ҩѧ��Ъ������ ���ѡɳТͧ�ŧ����ؤ�á �յ鹡��Դ�Ҩҡ�ŧ��鹺�ҹ���� �ŧ��Сͺ������� ���ŧ����ըѧ������� �������¡����ŧ���� �ŧ������Ǩ���ͧ�������� ��������ա����ͧ������¡��� ��Ѻ��ͧ��к���ŧ��Сͺ����ʴ����ʾ��ҧ� ������ҧ�ŧ������� ���� �ŧ�Ҥ�Ҫ �ŧ˹����� �. �ѵ�Ҩѧ����ͧ��� �ըӹǹ��ͧ�ŧ���ͧ��Ңͧ������� �ըѧ��лҹ��ҧ ������������Ǩ��Թ� ��ǹ�˭����ŧ���� �����ͧ��Шӷӹͧ���� ��Ѻ��ͧ��к���ŧ�����繡�âѺ����� ��л�Сͺ����ʴ����ʾ��ҧ� ������ҧ�ŧ�ͧ��� ���� �ŧ�ҧ�Ҥ �ŧ������ŧ �. �ѵ�Ҩѧ��������� �Դ������ѵ���Թ��� ��������ͧ�ѡ�ҫ�觼����蹵�ͧ��ʴ��������ҤԴ������ �ըӹǹ��ͧ�ŧ���ͧ��Ңͧ � ������������Ңͧ������� �ըѧ��Ъ�� ��ͧ�����Һ���ŧ��ТѺ��ͧ�ҹ�����ŧ��ѵ������ �ӹͧ��ͧ���ա����ͧ�������� ��Ѻ��ͧ��к���ŧ��͡�ʷ���� ������ҧ�ŧ������ ���� �ŧ������ �ŧ�������к�÷� �������ö�ѧࡵ��������ŧ�ѧ���������ѧࡵ�ҡ���§ ��� ��� ��ͧ ������¡�ѧ��з���Դ�ҡ����ͧ����շ���ͧ��Դ������ “�ѧ���˹�ҷѺ” ����ҡ������ ��ͧ�ŧ �ŧ���ա������ͧ�ŧ�͡���Ţ��� � � �ش���� � �� ���� � ��ͧ���� � ��ͧ �������ͧ���� � �ѧ��� �������Шѧ��Ф�� � ����� ���§�����ŧ�����ѵ�Ҩѧ����մѧ��� �ѧ��� � ��� | - - - - | - - - ���| - - - - | - - - �Ѻ| �ѧ��� � ��� | - - - ���| - - - �Ѻ| - - - ���| - - - �Ѻ| �ѧ��Ъ������ | - ��� - �Ѻ| - ��� - �Ѻ| - ��� - �Ѻ| - ��� - �Ѻ| ซึ่งความสั้นยาวของเพลงดังกล่าว เมื่อบรรเลงต่อเนื่อง จึงมีผลให้การบรรเลงเกิดความช้าเร็วไปตามสัดส่วนนี้ด้วย นั่นคือเพลงที่มีจังหวะ 3 ชั้นจะบรรเลงช้า เพลงที่มีจังหวะ 2 ชั้นจะบรรเลง ปานกลาง และจังหวะชั้นเดียวจะบรรเลงเร็ว แต่จริงๆ แล้ว การที่จะรู้ว่าเพลงใดเป็นเพลงบรรเลงในจังหวะใด สามารถสังเกตได้จากเสียง “ฉิ่ง” และ “กลอง” ซึ่งเรียกว่า จังหวะ “หน้าทับ” ที่ปรากฏในแต่ละห้องเพลงเป็นสำคัญ เพลงไทยจะมีการแบ่งห้องเพลงออกเป็นเลขคู่ (ตามคติทางพุทธศาสนา) ใน 1 ชุดหรือ1แถว จะมี 8 ห้อง,หรือ 4 ห้อง โดยแต่ละห้องจะมี 4 จังหวะ แต่ละจังหวะคือ 1 ตัวโน็ต ดังนั้น เสียงฉิ่งที่จะปรากฏในเพลงแต่ละอัตราจังหวะ ก็จะแสดงได้ดังนี้
ทำนอง เพลงไทยทุกเพลงจะใช้ทำนองหนึ่งเป็นทำนองหลักในการบรรเลง ( ทางฝรั่งเรียกว่า Theme หรือ Basic melody) ซึ่งจะบรรเลงโดยเครื่องดนตรีบางชิ้นสำหรับให้เป็นหัวใจหลักของวงเท่านั้น ไม่ได้บรรเลงโดย เครื่องดนตรีทุกชิ้น เช่นถ้าเป็นวงปี่พาทย์ ผู้ที่บรรเลงทำนองหลักนี้ก็คือ “ฆ้องวงใหญ่” ส่วนเครื่องดนตรีชิ้นอื่นจะบรรเลงทำนองหลักดังกล่าว โดยการแปรให้เป็นแนวเสียงและวิธีบรรเลงที่เหมาะกับบุคคลิกของตนเองประสานกันไป ซึ่งเรียกแนวการแปรนี้ว่า “ทาง” เช่น “ทางใน” – จะหมายถึงทำนองเพลงที่บรรเลงโดยแปรให้เป็นไปตามลักษณะเสียงของปี่ใน เป็นต้น สิ่งที่กำกับให้การแปรทำนองของเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นเหล่านี้เป็นไปในรอยเดียวกันก็คือ เครื่องประกอบจังหวะ อันได้แก่ ฉิ่ง ฉาบ กรับ โหม่ง นั่นเอง มาตราเสียง หมายถึงระดับความสูงต่ำของเสียง ดนตรีไทยมีอยู่ 7 ขั้นหรือ 7 เสียง เทียบได้กับเสียงดนตรีสากล (โด เร มี ฟา ซอล ลา ที) แต่มีข้อแตกต่างคือ แต่ละขั้นเสียงในดนตรีไทยมีความห่างของเสียงเท่ากันตลอดทั้ง 7 ขั้น ซึ่งต่างจากดนตรีสากลที่มีความห่างบางขั้นแค่ครึ่งเสียง (เช่น จากเสียง -มี ไป ซอล-) ทำให้เสียงจากเครื่องดนตรีไทยเดิม ไม่สามารถเล่นควบคู่กับเครื่องดนตรีสากลได้ ภายหลังจึงได้มีการพัฒนาปรับแต่งเครื่องดนตรีบางชิ้น ให้มีระยะห่างของเสียงเท่ากับเครื่องดนตรีสากลเพื่อให้สามารถเล่นพร้อมกันได้ เช่น ขลุ่ยเสียง C, ขลุ่ยเสียง Bb เป็นต้น การประสานเสียง ในดนตรีไทยจะมีการประสานเสียง 2 อย่าง คือ การประสานเสียงภายใน – ซึ่งเกิดจากการสร้างเสียงไม่น้อยกว่า 2 เสียงพร้อมกันภายในของเครื่องดนตรีบางชนิด เช่น ระนาด , ฆ้องวง, ซอสามสาย, ขิม.. ซึ่งมักใช้เสียงประสานที่เรียกว่า “ขั้นคู่เสียง” (interval) เป็นคู่แปด (เช่น โด ต่ำกับ โด สูง) หรือคู่ห้า (เช่น โด กับ ซอล) แต่จะไม่ใช้คู่เจ็ด หรือคู่เก้า และการประสานเสียงภายนอก – อันเกิดจากเสียงเครื่องดนตรีต่างชนิด ซึ่งมีทางเสียงต่างกัน แต่บรรเลง (แปร)ในทำนองเดียวกัน ประสานกันไป นอกจากนี้ยังมีเสียงจากเครื่องให้จังหวะต่างๆ (ฉิ่ง , กลอง..) อีกด้วย อัตราจังหวะ ๓ ชั้น ๒ ชั้น และชั้นเดียว จัดอยู่ในจังหวะประเภทใด1) จังหวะสามัญ หมายถึง จังหวะที่ใช้ยึดเป็นหลักในการขับร้องหรือบรรเลงซึ่งกำหนดเป็นอัตราความช้าหรือเร๊วของจังหวะ 2) จังหวะฉิ่ง หมายถึง จังหวะความสั้น ยาว เร๊ว เช้า ที่กำหนดโดยฉิ่ง จังหวะฉิ่งหลักที่ใช้ในการบรรเลงแบ่เป็น 3 อัตราจังหวะ ได้แก่ สามชั้น สองชั้น และชั้นเดียว แต่ละอัตรามีความลดหลั่นกันตามลำดับ
อัตราจังหวะ 3 ชั้น คือ อัตราจังหวะระดับใดจังหวะของดนตรีไทยที่มีระดับช้า คือช้ากว่าสองชั้นเท่าตัว หรือช้ากว่าชั้นเดียว ๔ เท่า เรียกเต็มว่า อัตราสามชั้น, ชื่ออัตราจังหวะหน้าทับและทำนองเพลงประเภทหนึ่ง มีความยาวเป็น ๒ เท่า ของอัตราสองชั้น.
จังหวะมีความสําคัญอย่างไรบ้าง1.จังหวะหรือลีลา (rhythm) หมายถึง การเคลื่อนไหวของเสียงในช่วงเวลาหนึ่ง หรือความสั้นยาวของเสียง จังหวะเป็นหัวใจสำคัญของดนตรี ความเร็ว-ช้า และชนิดของจังหวะ มีอิทธิพลต่อผู้ฟังมากที่สุด สามารถกระตุ้นกลไกการทำงานของระบบต่างๆในร่างกาย และทำให้เกิดการตอบสนองทางอารมณ์ได้ เช่น จังหวะที่เร็ว จะกระตุ้นให้เกิดความตื่นเต้นเร้าใจ ...
เพลงไทยอัตรา 3 ชั้น 2 ชั้นและชั้นเดียวมีความแตกต่างกันอย่างไรท่านจะสังเกตได้ว่า ความยาวของอัตราจังหวะจะยาว หรือ ขยาย หรือยืดออกจาก จังหวะที่เร็วกว่า 1 เท่าตัวเสมอ นั่นก็คือ เพลงในอัตราจังหวะ 2 ชั้น จะยาวกว่า อัตราจังหวะชั้น เดียว 1 เท่าตัว และอัตราจังหวะ 3 ชั้น ก็จะยาวกว่าอัตราจังหวะ 2 ชั้น 1 เท่าตัว ขอให้ดูแผนภูมิ ข้างล่างนี้จะช่วยให้เข้าใจขึ้น ชั้นเดียว
|