การออกกําลังกายระดับปานกลาง มีอะไรบ้าง

การออกกำลังกายแบบแอโรบิคคืออะไร

     การออกกำลังกายแบบแอโรบิค หรือ Aerobic Exercise หมายถึง การออกกำลังกายแบบที่ต้องใช้อากาศหรือออกซิเจน หรือก็คือต้องหายใจในขณะที่กำลังออกกำลังกายเพื่อนำเอาออกซิเจนไปเป็นตัวช่วยในการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต ไขมัน และโปรตีน

การออกกำลังกายแบบแอโรบิคร่างกายจะปรับตัวอย่างไร

     การออกกำลังกายแบบแอโรบิคทำให้ร่างกายต้องการออกซิเจนอย่างมากที่สุดเพื่อที่จะให้ร่างกายแปลงพลังงานที่สะสมอยู่มาใช้งานได้ ดังนั้นร่างกายก็จะมีการปรับตัว
ดังนี้

  • ระบบการหายใจของร่างกายจะทำงานเร็วและแรงมากขึ้น ทำให้ต้องหายใจทางปากเพื่อดูดอากาศหรือออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายให้ได้มากที่สุด
  • หัวใจจะเต้นเร็วขึ้นเพื่อเร่งการส่งเลือดจากปอดที่เต็มไปด้วยออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ในร่างกายให้
  • หลอดเลือดขยายตัวมากขึ้นเพื่อให้การลำเลียงเลือดในร่างกายมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การทำงานของระบบหายใจและระบบไหลเวียนเลือดขณะออกกำลังกายแอโรบิค

  • เมื่อเริ่มออกกำลังกายแบบแอโรบิคหลังจากที่หายใจเอาอากาศเข้าไปสู่ร่างกายแล้ว อากาศจะเดินทางไปยังปอดและเดินทางผ่านท่อเล็กๆ มากมายภายในปอดไปยังถุงลม ซึ่งบริเวณนี้จะเป็นจุดที่ออกซิเจนสามารถเข้าสู่กระแสเลือดได้
  • หลังจากนั้นกระแสเลือดจะไหลไปยังหัวใจโดยตรง เมื่อหัวใจรับออกวิเจนมากพอแล้วก็จะทำการส่งเลือดไปเลี้ยงยังส่วนต่างๆ ของร่างกายต่อไป
  • หลังจากส่วนต่างๆ ของร่างกายได้รับออกซิเจนแล้วก็จะไหลกลับเข้ามาที่หัวใจและส่งไปยังปอดต่อไปเพื่อรับออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายอีกครั้ง  

หากร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอขณะออกกำลังกายจะเป็นอย่างไร

     การออกกำลังกายแบบแอโรบิคร่างกายต้องการออกซิเจนเพื่อไปช่วยในการเผาผลาญพลังานในร่างกายมาใช้งาน แต่หากร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอก็จะทำให้การเผาผลาญพลังงานน้อยลงจนอาจจะมไ่เพียงพอต่อการใช้งาน ร่างกายก็จะสับเปลี่ยนไปเผาผลาญไกลโคเจนที่อยู่ในกล้ามเนื้อแทน ซึ่งเป็นการเผาผลาญพลังงานแบบที่ไม่ต้องใช้ออกซิเจนเข้าช่วย แต่ข้อเสียคือทำให้มวลกล้ามเนื้อลดลง และยังให้พลังงานน้อยกว่าด้วย

การออกกําลังกายระดับปานกลาง มีอะไรบ้าง

ออกกำลังกายแบบแอโรบิคเท่าไหนจึงจะพอ

     การออกกำลังกายแบบแอโรบิคต้องการความต่อเนื่อง และระยะเวลาการออกกำลังกายที่นานพอจึงจะมีประโยชน์ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องออกอย่างหนักแต่ต้องออกให้พอเหนื่อยและใช้ระยะเวลาการออกไม่น้อยกว่า 20 นาที

การออกกำลังกายแบบแอโรบิคมีอะไรบ้าง

     การออกกำลังกายแบบแอโรบิคได้แก่ การวิ่งระยะไกล ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน การเดินเร็ว ปีนเขา การเต้น การกระโดดเชือก และอื่นๆ ที่ต้องใช้ระยะเวลานานในการออกกำลังกายและทำให้ต้องหายใจเข้าเยอะล้วนเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิค

ข้อดีของการออกกำลังกายแบบแอโรบิคมีอะไรบ้าง

  1. ทำให้หัวใจและระบบไหลเวียนเลือดแข็งแรงเพราะหัวใจได้ฝึกบีบและคลายตัวอยู่บ่อยๆ หลังจากนั้นเมื่อกล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรงก็จะไม่ต้องบีบและคลายตัวบ่อยทำให้ไม่เหนื่อยง่ายตอนออกกำลังกายแบบแอโรบิค
  2. ทำให้ระบบเผาผลาญพลังงานในร่างกายทำงานได้ดีมากขึ้น การออกกำลังกายแบบแอโรบิคจะทำให้เซลล์ที่มีหน้าที่เผาผลาญพลังงานเพิ่มจำนวนมากขึ้นจึงเป็นสาเหตุให้คนที่ออกกำลังกายเป็นประจำไม่ค่อยอ้วนเพราะมีระบบเผาผลาญที่ดี

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คลิก!! ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู ชั้น 3 โซน C

การออกกำลังกายแบบแอโรบิคคืออะไร

การออกกำลังกายแบบแอโรบิค หรือ Aerobic Exercise หมายถึง การออกกำลังกายแบบที่ต้องใช้อากาศหรือออกซิเจน หรือก็คือต้องหายใจในขณะที่กำลังออกกำลังกายเพื่อนำเอาออกซิเจนไปเป็นตัวช่วยในการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต ไขมัน และโปรตีน

การออกกำลังกายแบบแอโรบิคร่างกายจะปรับตัวอย่างไร

การออกกำลังกายแบบแอโรบิคทำให้ร่างกายต้องการออกซิเจนอย่างมากที่สุดเพื่อที่จะให้ร่างกายแปลงพลังงานที่สะสมอยู่มาใช้งานได้ ดังนั้นร่างกายก็จะมีการปรับตัวดังนี้

1. ระบบการหายใจของร่างกายจะทำงานเร็วและแรงมากขึ้น ทำให้ต้องหายใจทางปากเพื่อดูดอากาศหรือออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายให้ได้มากที่สุด

2. หัวใจจะเต้นเร็วขึ้นเพื่อเร่งการส่งเลือดจากปอดที่เต็มไปด้วยออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ในร่างกายให้

3. หลอดเลือดขยายตัวมากขึ้นเพื่อให้การลำเลียงเลือดในร่างกายมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การทำงานของระบบหายใจและระบบไหลเวียนเลือดขณะออกกำลังกายแอโรบิค

1. เมื่อเริ่มออกกำลังกายแบบแอโรบิคหลังจากที่หายใจเอาอากาศเข้าไปสู่ร่างกายแล้ว อากาศจะเดินทางไปยังปอดและเดินทางผ่านท่อเล็กๆ มากมายภายในปอดไปยังถุงลม ซึ่งบริเวณนี้จะเป็นจุดที่ออกซิเจนสามารถเข้าสู่กระแสเลือดได้

2. หลังจากนั้นกระแสเลือดจะไหลไปยังหัวใจโดยตรง เมื่อหัวใจรับออกวิเจนมากพอแล้วก็จะทำการส่งเลือดไปเลี้ยงยังส่วนต่างๆ ของร่างกายต่อไป

3. หลังจากส่วนต่างๆ ของร่างกายได้รับออกซิเจนแล้วก็จะไหลกลับเข้ามาที่หัวใจและส่งไปยังปอดต่อไปเพื่อรับออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายอีกครั้ง  

หากร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอขณะออกกำลังกายจะเป็นอย่างไร

การออกกำลังกายแบบแอโรบิคร่างกายต้องการออกซิเจนเพื่อไปช่วยในการเผาผลาญพลังานในร่างกายมาใช้งาน แต่หากร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอก็จะทำให้การเผาผลาญพลังงานน้อยลงจนอาจจะมไ่เพียงพอต่อการใช้งาน ร่างกายก็จะสับเปลี่ยนไปเผาผลาญไกลโคเจนที่อยู่ในกล้ามเนื้อแทน ซึ่งเป็นการเผาผลาญพลังงานแบบที่ไม่ต้องใช้ออกซิเจนเข้าช่วย แต่ข้อเสียคือทำให้มวลกล้ามเนื้อลดลง และยังให้พลังงานน้อยกว่าด้วย

การออกกําลังกายระดับปานกลาง มีอะไรบ้าง

ออกกำลังกายแบบแอโรบิคเท่าไหนจึงจะพอ

การออกกำลังกายแบบแอโรบิคต้องการความต่อเนื่อง และระยะเวลาการออกกำลังกายที่นานพอจึงจะมีประโยชน์ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องออกอย่างหนักแต่ต้องออกให้พอเหนื่อยและใช้ระยะเวลาการออกไม่น้อยกว่า 20 นาที

การออกกำลังกายแบบแอโรบิคมีอะไรบ้าง

การออกกำลังกายแบบแอโรบิคได้แก่ การวิ่งระยะไกล ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน การเดินเร็ว ปีนเขา การเต้น การกระโดดเชือก และอื่นๆ ที่ต้องใช้ระยะเวลานานในการออกกำลังกายและทำให้ต้องหายใจเข้าเยอะล้วนเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิค

ข้อดีของการออกกำลังกายแบบแอโรบิคมีอะไรบ้าง

1. ทำให้หัวใจและระบบไหลเวียนเลือดแข็งแรงเพราะหัวใจได้ฝึกบีบและคลายตัวอยู่บ่อยๆ หลังจากนั้นเมื่อกล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรงก็จะไม่ต้องบีบและคลายตัวบ่อยทำให้ไม่เหนื่อยง่ายตอนออกกำลังกายแบบแอโรบิค

2. ทำให้ระบบเผาผลาญพลังงานในร่างกายทำงานได้ดีมากขึ้น การออกกำลังกายแบบแอโรบิคจะทำให้เซลล์ที่มีหน้าที่เผาผลาญพลังงานเพิ่มจำนวนมากขึ้นจึงเป็นสาเหตุให้คนที่ออกกำลังกายเป็นประจำไม่ค่อยอ้วนเพราะมีระบบเผาผลาญที่ดี

การออกกําลังกายมีอะไรบ้าง

4 ประเภทของการออกกำลังกาย.
การออกกำลังกายแบบแอโรบิก (Aerobic Exercise) หรือการฝึกความทนทาน (Endurance Exercise).
การฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ (Strength Training).
การยืดเหยียดกล้ามเนื้อ (Stretching).
การฝึกการทรงตัว (Balance exercise).

ตัวบ่งชี้ที่แสดงว่าร่างกายมีการออกกําลังกายหนักระดับปานกลาง คืออะไร

ออกกำลังกายปานกลางหัวใจจะเต้นอยู่ระหว่า 50-70%ของอัตราการเต้นเป้าหมาย เช่นคนอายุ 40 ปีหากออกกำลังกายปานกลางหัวใจจะเต้นอยู่ระหว่าง 90-126 ครั้งต่อนาที คนที่ออกกำลังกายอย่างหนัก หัวใจจะเต้นมากกว่า 70 - 85%ของอัตราการเต้นเป้าหมาย เช่นคนอายุ 40 ปีหัวใจต้องเต้นเกิน 126 -153ครั้งต่อนาที

การออกกำลังมีกี่ระดับ

ในการแบ่ง Zone การออกกำลังกายสามารถแบ่งได้ 5 โชน ตั้งแต่ออกเบาสุดจนหนักสุด โดยแบ่งระดับตาม percent ของอัตราการเต้นหัวใจสูงสุดในแต่ละอายุซึ่งคำนวณได้จากสูตร จากที่ 220- อายุ แบ่งได้ดังนี้ Zone 1 Very Light 50-60 %

ระดับความหนักที่เหมาะสมกับการออกกําลังกายเพื่อสุขภาพ คือข้อใด *

วิธีการจับชีพขจร การออกกำลังแบบเบาๆหัวใจจะเต้นอยู่ในเกณฑ์ 40-60 % การออกกำลังแบบปานกลางหัวใจจะเต้นอยู่ในเกณฑ์ 60-80% การออกกำลังแบบหนักหัวใจจะเต้นอยู่ในเกณฑ์ 80-100%