โรงรับจํานํารัฐบาล รับอะไรบ้าง

แฟนเพจเฟซบุ๊ก สธค. โรงรับจำนำของรัฐ ได้โพสต์ภาพและความระบุว่า ใครที่เคยสงสัยว่าของอะไรจำนำได้ หรือจำนำไม่ได้ ป๋าบอกเลย โพสต์นี้มีคำตอบ ปกติครกและสากหินโบราณ ที่ สธค.ก็รับจำนำอยู่แล้ว ยิ่งเก่า ยิ่งสภาพสมบูรณ์ ก็ยิ่งได้ราคางาม

สำหรับ หม้อหุงข้าว ต้องรุ่นใหม่สภาพดีๆ นอกจากนี้ สธค. ก็รับจำนำเครื่องเล่มเกม แต่ตอนนี้รับ PS4 หรือ เกม play 4 ส่วนสุราและเครื่องดื่มมึนเมาทุกชนิด สธค.ไม่รับจำนำ ขณะที่โทรศัพท์มือถือ หรือสมาร์ทโฟนรับจำนำอยู่แล้ว แต่ถ้าให้ดีต้องมีเต้ารับ สายชาร์จ และหูฟัง อุปกรณ์ทั้งหมดต้องอยู่ครบ

ส่วนจักรยาน สธค.ก็รับ แต่ก็ดูตามสภาพ ส่วนจักรยานยนต์ บ้าน ที่ดิน รถ ปืน สธค.ไม่รับจำนำ แต่ "ทองคำ" รับจำแน่ๆ

โรงรับจำนำ เป็นสถาบันทางการเงินที่อยู่คู่กับสังคมไทยมาอย่างยาวนาน ทำหน้าที่ช่วยให้คนที่ขาดสภาพคล่องทางการเงิน ได้มีโอกาสหาเงินทุนมาหมุนใช้ ด้วยการรับจำนำสิ่งของ รวมไปถึงอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ ทั้งของใหม่ และของที่ใช้แล้ว ซึ่งโรงรับจำนำ มีข้อดีหลายอย่างในการให้กู้ยืมเงิน ที่แตกต่างจากสถาบันทางการเงินอื่น โดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่าการใช้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด หรือการกู้ยืมหนี้นอกระบบ ทำให้โรงรับจำนำกลายเป็นแหล่งเงินทุนที่คุ้มค่ามากกว่าในระยะยาว อย่างไรก็ตาม โรงรับจำนำ เอง ก็มีการแบ่งประเภทการให้บริการที่แตกต่างกันออกไป ที่คนทั่วไปส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยทราบกัน ในวันนี้ พี่แคช เลยอยากอาสา ขอพาคุณผู้อ่าน ไปทำความรู้จักประเภทของ โรงรับจำนำ ว่ามีอะไรบ้าง  และมีการให้บริการที่แตกต่างกันอย่างไร เพื่อให้คุณผู้อ่าน ได้เลือกใช้บริการ โรงรับจำนำ ตอบโจทย์ของตัวเองได้มากที่สุดครับ

โรงรับจำนำ มีกี่ประเภท อะไรบ้าง?

โรงรับจำนำ สามารถแบ่งออกได้เป็นสองประเภทใหญ่ๆ คือ โรงรับจำนำของรัฐบาล กับโรงรับจำนำของเอกชน

1.โรงรับจำนำ สถานธนานุเคราะห์
 โรงรับจำนำ ที่ดำเนินกิจการโดยกรมประชาสงเคราะห์ ด้วยงบประมาณที่ทางรัฐบาลจัดสรรให้ และเงินกู้จากธนาคารออมสิน ในช่วงเริ่มแรก โรงรับจำนำประเภทนี้ ในช่วงเริ่มแรกใช้ชื่อว่า “โรงรับจำนำของรัฐ”

2.โรงรับจำนำ สถานธนานุบาล
 โรงรับจำนำ ที่ดำเนินการโดยเทศบาล หรือกรุงเทพมหานครฯ ใช้เงินทุนจากกองทุนส่งเสริมกิจการเทศบาล และเงินกู้จากกองทุนส่งเสริมกิจการเทศบา

3.โรงรับจำนำของเอกชน
 โรงรับจำนำ ของเอกชน ให้บริการโดยใช้เงินทุนของเจ้าของ หุ้นส่วน หรือเงินหมุนเวียนมาใช้ในการดำเนินการให้บริการรับจำนำ ในรูปแบบของธุรกิจแบบห้างหุ้นส่วนจำกัด/บริษัทจำกัด ซึ่งคนทั่วไปนิยมนำทรัพย์สินมาประเมินราคากับ โรงรับจำนำ ของเอกชนมากที่สุด เพราะให้ราคาที่สูงกว่าโรงรับจำนำของรัฐ ทำให้ได้รับเงินทุนหมุนเวียนสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก หรือใช้จ่ายในกรณีฉุกเฉินได้อย่างครอบคลุมมากขึ้นนั่นเอง ซึ่งในปัจจุบัน การให้บริการของ โรงรับจำนำ ของเอกชนเอง ก็มีการเปลี่ยนแปลงให้เข้ากับยุคสมัยใหม่ รองรับยุคแห่งดิจิทัล เพิ่มความสะดวกสบาย รวดเร็ว ของผู้ใช้บริการที่มากขึ้น

โรงรับจำนำ Cash Express เป็นหนึ่งในโรงรับจำนำ ดำเนินการโดยภาคเอกชน ที่มีวิสัยทัศน์ในการปฏิวัติวงการของ โรงรับจำนำ ให้ก้าวเข้าสู่ยุค 4.0 ด้วยการชูจุดเด่น ในการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของ โรงรับจำนำ ในประเทศไทย จากเดิมที่เป็นสถานบริการทางการเงินที่ไม่ว่าใครก็เบือนหน้าหนีไม่อยากเข้าไปใช้บริการ สู่รูปแบบของที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อช่วยเหลือคนที่ขาดสภาพคล่องทางการเงินชั่วคราว หรือต้องการเงินทุน เพื่อนำไปใช้ในธุรกิจขนาดเล็กของตัวเอง ผ่านระบบอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า อย่างเต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมบริการที่โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นการประเมินราคาทรัพย์สินผ่านระบบออนไลน์ เพียงแค่กรอกแบบฟอร์ม และดาวโหลดภาพของทรัพย์สินเข้าสู่ระบบ เพื่อรับการประเมินราคาล่วงหน้า หากลูกค้าพอใจในราคาประเมิน ก็สามารถนำสินค้ามาทำการจำนำที่สาขาใกล้บ้าน ที่มีมากถึง 11 แห่ง ครอบคลุมกรุงเทพฯ และปริมณฑล แล้วทำการกรอกรายละเอียด สแกนลายนิ้วมือ และรับเงินค่าทรัพย์สินได้ในทันที ด้วยการบริการระดับมืออาชีพ ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปมาหลายครั้งให้วุ่นวาย อีกทั้งยังสบายใจได้ ในความโปร่งใส ด้วยการตรวจสอบอัตราดอกเบี้ย และระยะเวลาในการจำนำทรัพย์สิน เพื่อวางแผนในการส่งงวดดอกเบี้ย หรือไถ่ถอนสินค้าได้ง่ายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ด้วยความใส่ใจในการบริการเหล่านี้เอง ทำให้ โรงจำนำ Cash Express ได้รับความไว้วางใจ และมีลูกค้ากลับมาใช้บริการอยู่โดยตลอดครับ

ถ้ามีวิกฤติการณ์ทางการเงิน แล้วไม่รู้จะหาเงินจากไหนมายืดชีวิตต่อดี ทางออกง่าย ๆ ของเราชาวหมุนเงินไม่ทันนั่นก็คือ! “โรงรับจำนำ” หรือ “โรงตึ๊ง” นั่นเอง ไม่ต้องรอนาน ไม่ต้องเช็กประวัติทางการเงิน ที่สำคัญดอกเบี้ยถูกกว่าร้านทอง หรือบัตรเครดิตจ้าาาา ขอแค่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป มีบัตรประชาชน มีสิ่งของมีค่า และมีลายนิ้วมือ ก็เดินเข้าแล้วไปเอาเงินออกมาได้แล้ววว ปันโปรเชื่อว่าเพื่อน ๆ หลายคนอาจจะไม่เคยเข้าโรงจำนำ หรืออยากเข้าไปลองจำนำดูแต่ไม่รู้ว่าวิธีการของมันจะเป็นอย่างไร วันนี้ปันโปรจะมาไขข้อข้องใจค่ะ

จุดเริ่มต้น “โรงรับจำนำ” หรือ “โรงตึ๊ง” มาจากคนจีนใน ร.4

“ตึ๊ง” เป็นภาษาแต้จิ๋ว แปลว่า จำนำ ทำไมถึงต้องเป็นภาษาจีนกันนะ? มันก็เพราะว่าโรงรับจำนำแห่งแรกในประเทศไทย เป็นโรงรับจำนำของเอกชน ที่ดำเนินการโดยคนจีนค่ะ ตั้งขึ้นมาในสมัยรัชกาลที่ 4 ในตอนนั้นคนไทยเชื้อสายจีนเวลาเอาของไปจำนำก็จะบอกว่า ไปตึ๊ง หรือ ไปโรงตึ๊ง ส่วนในปัจจุบัน โรงรับจำนำมี 3 ประเภท คือ โรงรับจำนำเอกชน โรงรับจำนำของกรมประชาสงเคราะห์ เรียกว่า “สถานธนานุเคราะห์” (ในช่วงเริ่มแรกใช้ชื่อว่า “โรงรับจำนำของรัฐ” ) และ โรงรับจำนำของเทศบาลหรือองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น เรียกว่า “สถานธนานุบาล”

โรงรับจำนำแต่ละที่มีความแตกต่างอย่างไร

โรงรับจำนำแต่ละที่เขาจะมีผู้เชี่ยวชาญตีราคาของที่แตกต่างกัน ดังนั้นแล้วราคาที่ได้ย่อมไม่เท่ากัน ส่วนมากคนทั่วไปจะชอบใช้บริการที่ “โรงรับจำนำเอกชน” เนื่องจากให้ราคาสูงกว่า แต่ถ้าหากใครต้องการจ่าย “ดอกเบี้ย” ที่ไม่แพง “สถานธนานุเคราะห์” หรือ “สถานธนานุบาล” ก็จะตอบโจทย์มากกว่า

โรงรับจำนำ รับ จำนำ อะไรบ้าง

• ทองคำ ทั้งทองแท่ง และทองรูปพรรณ ทองถือว่าเป็นที่ยอมรับของโรงรับจำนำทุกประเภทเลยค่ะ เขาจะให้ราคาดีสุด เมื่อเทียบกับของอย่างอื่น ที่สำคัญ “ดอกเบี้ยถูกกว่า” ไปจำนำที่ร้านทอง

• เครื่องประดับต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น อัญมณี เพชรพลอย แหวนเพชร ต่างหู สร้อย จี้ ต่าง ๆ (เพชร พลอย ทับทิม มรกต เครื่องเงิน นาก) พวกนี้โรงรับจำนำให้ราคาดี แต่ถ้าเป็นอัญมณีที่หลุดจากเครื่องประดับ แบบนี้ไม่รับค่ะ (ถือว่าเป็นของมันชำรุดแล้วเนอะ)

• สินค้าแบรนด์เนม ไม่ว่าจะเป็น กระเป๋า รองเท้า นาฬิกา แว่นตา แต่โรงรับจำนำของรัฐอาจจะไม่รับ เนื่องจากขาดผู้เชี่ยวชาญตีราคาค่ะ แต่ถ้าเป็นโรงรับจำนำเอกชนหลาย ๆ แห่ง เขายินดีรับ หรือถ้าขายขาดเป็นของมือสอง หรือปล่อยประมูล ก็อาจจะได้มูลค่ามากกว่าก็เป็นได้ อันนี้ต้องลองเช็กราคาดู

• เครื่องมือช่าง ทั้งสว่านไฟฟ้า เลื่อยไฟฟ้า กระเป๋าอุปกรณ์ช่างครบเซต ของพวกนี้สามารถเอาไปจำนำได้ เพราะส่วนหนึ่งคือของพวกนี้ใช้ประกอบสัมมาอาชีพ โรงรับจำนำเขารู้อยู่แล้วว่ายังไงก็มาไถ่ถอนคืนแน่ ๆ

• เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะทีวี ตู้เย็น เครื่องซักผ้า ถ้าขนมาไหวก็เอามาจำนำได้หมด แต่ที่หลายคนชอบเอามาจำนำกันอย่าง Notebook และ Smartphone ส่วนมากโรงรับจำนำจะไม่รับ มีบางแห่งรับแต่ราคาก็น้อยมาก ๆ แนะนำว่าไปตู้ตามห้างสายไอทีอาจจะได้ราคาดีกว่า

นอกจากทั้ง 5 กลุ่มนี้แล้ว ก็มี พวกเครื่องดนตรี ครกหิน งานศิลปะ ที่เอาไปจำนำได้ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นแล้วแต่ว่าโรงรับจำไหนแห่งไหนมีคนที่สามารถตีราคาของได้หรือเปล่า อาจจะมีบางแห่งไม่รับนะคะ อย่างพวก พระเลี่ยมทอง โรงรับจำนำของรัฐไม่รับนะ ชัวร์สุดก็ “ทองคำ” นี่แหละค่ะ ที่ได้เงินชัวร์ และได้เงินเยอะที่สุด

วิธีการจำนำ

1. นำทรัพย์สินที่ต้องการจำนำ พร้อมบัตรประจำตัวประชาชน ใบขับขี่ หนังสือเดินทาง หรือบัตรที่ทางราชการออกให้
2. เอาของมาให้ผู้เชี่ยวชาญดูว่าถูกลิขสิทธิ์หรือไม่ จากนั้นเจ้าหน้าที่จะประเมินราคาให้ (ในกรณีที่ทรัพย์สินนั้นมีใบรับประกัน, อุปกรณ์เสริม รวมถึงบรรจุภัณฑ์มาครบถ้วน จะทำให้ราคาประเมินสูงขึ้นนะคะ)
3. ลูกค้าสแกนนิ้วเพื่อรับเงิน และตั๋วรับจำนำ (เก็บตั๋วให้ดียิ่งชีพ ถ้าหายจะยุ่งยาก)
4. ลูกค้าสามารถไถ่ถอน และส่งดอกเบี้ยได้ ภายใน 4 เดือน 30 วัน

วิธีคิดดอกเบี้ยจำนำ

การคำนวณอัตราดอกเบี้ยของแต่ละโรงรับจำนำนั้นไม่เท่ากันค่ะ โรงรับจำนำเอกชนก็จะสูงหน่อย (แต่ก็คิดตามที่ พ.ร.บ.โรงรับจำนำ พ.ศ. 2505 ได้กำหนดไว้) แต่ถ้าเป็นโรงรับจำนำของรัฐบาล ก็จะดอกต่ำ เพราะเริ่มแรกโรงรับจำนำเขาตั้งใจมีไว้เพื่อช่วยเหลือประชาชน ยกตัวอย่าง “สถานธนานุบาลกรุงเทพมหานคร” ก็จะคิดดอกเบี้ยรับจำนำในอัตราที่ต่ำกว่าที่กำหนดไว้ตามพระราชบัญญัติโรงรับจำนำ พ.ศ. 2505

กล่าวคือ ตาม พ.ร.บ.โรงรับจำนำ พ.ศ. 2505 กำหนดห้ามเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตรา ดังนี้ + เงินต้นไม่เกิน 2,000 บาท อัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 2.00 ต่อเดือน + เงินต้นส่วนที่เกิน 2,000 บาท อัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 1.25 ต่อเดือน เพื่อเป็นการป้องกันมิให้โรงรับจำนำเอกชนเอารัดเอาเปรียบประชาชนผู้มาจำนำ โดยกดราคา หรือ เรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตรา หรือเรียกค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในราคาสูง

สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ >ที่นี่<  

✒️ อัตราดอกเบี้ยสถานธนานุบาล

สำหรับเงินต้นไม่เกิน 5,000 บาท : 0.25 % ต่อเดือน

สำหรับเงินต้น 5,001 - 15,000 บาท : 1.00 % ต่อเดือน

สำหรับเงินต้นเกิน 15,000 บาท : เงินต้น 2,000 บาทแรก 2 % (ส่วนที่เกิน 2,000 บาท 1.25 % ต่อเดือน)

(ขอบคุณข้อมูลจาก : สำนักงานสถานธนานุบาลกรุงเทพมหานคร)

✒️ อัตราดอกเบี้ยสถานธนานุเคราะห์

สำหรับเงินต้นไม่เกิน 5,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ย 0.25 % ต่อเดือน

สำหรับเงินต้น 5,001 บาท แต่ไม่เกิน 10,000 บาท คิดดอกเบี้ย 0.75 % ต่อเดือน

สำหรับเงินต้น 10,001 บาท แต่ไม่เกิน 20,000 บาท คิดดอกเบี้ย 1.00 % ต่อเดือน

สำหรับเงินต้น 20,001 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาท คิดดอกเบี้ย 1.25 % ต่อเดือน

(ขอบคุณข้อมูลจาก : สำนักงานสถานธนานุเคราะห์)

✒️ อัตราดอกเบี้ยโรงรับจํานําเอกชน

มูลค่าของทรัพย์สินไม่เกิน 2,000 บาทแรก อัตราดอกเบี้ย 2%

มูลค่าของทรัพย์สินส่วนที่เกิน 2,000 บาทขึ้นไป อัตราดอกเบี้ย 1.25% ( 15% ต่อปี และไม่เกิน 24% ต่อปี )

(ขอบคุณข้อมูลจาก : ThaiPBS)

ขอบคุณรูปภาพจาก Easy Money

4 เดือน 30 วัน คืออะไร?

ในส่วนนี้คนอาจจะงง ๆ ว่ามันยังไงกันแน่ อธิบายแบบง่าย ๆ คือ….

ตั๋วจำนำ 1 ใบ มีอายุ 4 เดือน ผ่อนผัน 30 วัน คือ หากครบกำหนด 4 เดือน ลูกค้ายังไม่มาส่งดอกเบี้ย ให้ลูกค้านำตั๋วจำนำ และบัตรประชาชน มาติดต่อยังสถานธนานุบาลภายใน 30 วัน และหากภายใน 30 วันยังไม่มาติดต่อ ทรัพย์จำนำนั้น ก็จะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของสถานธนานุบาล หรือโรงรับจำนำนั้น ๆ ตามกฎหมาย ทั้งนี้หากทรัพย์นั้นยังไม่ทำการประมูลทรัพย์หลุดจำนำค่ะ เพราะทางสถานธนานุบาลจะให้โอกาสลูกค้าได้มาติดต่อทำเรื่องขอซื้อทรัพย์คืนได้ 

การจ่ายดอกเบี้ยโรงรับจํานํา

ตั๋วจำนำ จะลงวันที่ ณ วันที่ ที่ลูกค้ามาติดต่อจำนำ ส่งดอกเบี้ยหรืออื่น ๆ และจะเริ่มนับหนึ่งตั้งแต่วันดังกล่าวตามหน้าตั๋วใบล่าสุด หากลูกค้ามาส่งดอกเบี้ย ไถ่ถอนหรืออื่น ๆ ภายใน 1-15 วัน จะคิดดอกเบี้ย ครึ่งเดือน

เมื่อเกินกว่า 15 วันขึ้นไป จะคิดดอกเบี้ย หนึ่งเดือน นับตั้งแต่วันที่ที่มาติดต่อครั้งที่แล้ว (หรือตามวันที่หน้าตั๋วจำนำใบที่เรามาติดต่อในครั้งล่าสุด) เช่น เรามาจำนำในวันที่ 1 มีนาคม 2563 ในวันที่ 5 มีนาคม 2563 เราต้องการมาไถ่ถอนของละ เราจะต้องเสียดอกเบี้ยเป็นเวลาครึ่งเดือน หรือ ในวันที่ 2 เมษายน 2563 เราต้องการมาส่งดอกเบี้ย เราจะต้องเสียดอกเบี้ย เป็นเวลา 1 เดือนครึ่ง

ใครที่อยากเห็นภาพชัดเจนในการไปโรงรับจำนำ แนะนำคลิปนี้เลยค่ะ รู้เท่ารู้ทัน : ทำความรู้จัก "โรงรับจำนำ"
ตั้งแต่ทางเข้า การเตรียมตัว ต้องพกอะไรไปบ้าง เคล็ดลับต่าง ๆ ในการจำนำของ 

ถ้าตั๋วจำนำครบกำหนด 4 เดือน ตรงกับวันหยุดแล้วไม่ได้มาส่งดอกหรือไถ่ถอน ถือว่าตั๋วจำนำขาดอายุหรือเปล่า?

ตั๋วรับจำนำมีอายุ 4 เดือน 30 วันตามที่อธิบายไว้ข้างต้น ทีนี้...ถ้าตั๋วรับจำนำครบกำหนดวันที่ที่จะส่งดอกเบี้ย หรือ ไถ่ถอน ตรงกับวันเสาร์ - อาทิตย์ หรือ วันหยุดนักขัตฤกษ์ ให้มาในวันที่ที่เปิดทำการวันแรก โดยไม่คิดดอกเบี้ยเพิ่ม เช่น ถ้าตั๋วครบกำหนดสี่เดือนในวันเสาร์ ซึ่งโรงจำนำปิดทำการ ก็สามารถมาส่งดอกหรือไถ่ถอนได้ในวันจันทร์ คิดดอกเบี้ย 4 เดือน แต่ถ้าเลยวันจันทร์มา 1 วัน แต่ไม่เกิน 15 วัน คิดเพิ่ม ครึ่งเดือน แต่ถ้าเกิน 15 วันขึ้นไปจนครบระยะเวลาผ่อนผัน คิดดอกเบี้ย 1 เดือนเต็ม

กรณีตั๋วรับจำนำหายจะดำเนินการอย่างไร?

1. ให้เจ้าของตั๋วมาติดต่อที่เจ้าหน้าที่ของโรงรับจำนำที่ได้ทำการจำนำทรัพย์สินเอาไว้ พร้อมกับแสดงบัตรประชาชนเพื่อแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของทรัพย์สิน เจ้าหน้าที่จะทำการออก “ใบแทน” หรือ “ใบแจ้งตั๋วรับจำนำสูญหาย” ให้กับผู้ใช้บริการ

2. ผู้ใช้บริการนำ “ใบแทน” หรือ “ใบแจ้งตั๋วรับจำนำสูญหาย” ที่โรงรับจำนำสาขานั้น ๆ ออกให้ไปติดต่อที่สถานีตำรวจ ภายในระยะเวลา 3 วันหลังจากที่แจ้งกับทางโรงรับจำนำเพื่อทำการลงบันทึกประจำวันให้เป็นหลักฐาน

3. นำใบบันทึกประจำวัน และ “ใบแทน” หรือ “ใบแจ้งตั๋วรับจำนำสูญหาย” ที่โรงรับจำนำออกให้ กลับมาติดต่อกับเจ้าหน้าที่โรงรับจำนำอีกครั้ง เพื่อทำการส่งดอกหรือไถ่ถอนต่อค่ะ

หากใครกำลังเดือดร้อนเรื่องเงิน แทนที่จะไปยืมเพื่อนหรือคนใกล้ตัว ก็ไปโรงรับจำนำเลยค่ะ ไม่ต้องเดือดร้อนใคร และรับผิดชอบการหมุนเงินไม่ทันด้วยตัวเองด้วยการจ่ายดอกเอง แมน ๆ ค่า!

📚  สรุปก่อนไปจำนำที่โรงรับจำนำ 📝

• จำนำ “ทอง” จะได้ราคาดีที่สุด และโรงรับจำนำทุกที่รับ 

• Notebook และ Smartphone ส่วนมากโรงรับจำนำจะไม่รับค่ะ หรือถ้ารับจำนำ จะได้ราคาที่ต่ำมาก แนะนำให้ไปขายตามที่ตู้ตามห้างไอทีจะได้ราคากว่า

• ถ้าเราส่งดอกไม่ครบภายในเวลาที่กำหนด ของ ๆ ที่เราไปจำนำ จะกลายเป็น “ทรัพย์หลุดจำนำ” ทันที โดยเฉพาะเมื่อเราไปจำนำที่โรงรับจำนำของรัฐ วันเวลาต้องเป๊ะนะคะ ให้ดูตั๋วรับจำนำดี ๆ ว่ามันลงวันที่เท่าไร

โรงรับ จํา นํา รัฐบาล รับจํานํา กล้อง ไหม

โรงรับจํานํารัฐบาลรับจำนำโน๊ตบุ๊คไหม

โรงรับจํานํา ต้องใช้อะไรบ้าง

ร้านทองรับจํานําอะไรบ้าง