Visual Tools ได้แก่อะไรบ้าง

การวิเคราะห์ข้อมูล ( Data ) เพื่อนำมาใช้ทำการตลาดยุคดิจิทัล ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากเป็นอันต้น ๆ ในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจออนไลน์ทราบดีว่า การนำข้อมูลมาวิเคราะห์ และใช้ให้เกิดประโยชน์ ทำให้ธุรกิจได้เปรียบมากกว่าคู่แข่งในตลาด ซึ่งข้อมูลที่นำมาประมวลผลนั้น สามารถแปลงเป็นรูปภาพ กราฟต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งวิดีโอ เพื่อนำเสนอผลงานในรูปแบบต่าง ๆ ทำให้เกิดการจดจำได้ง่ายกว่ารายงานทั่วไปในรูปแบบตัวอักษร โดยสิ่งนี้เรียกว่า Data Visualization

Data Visualization เป็นการนำ Data เชิงลึกที่ได้มาจากช่องทางต่าง ๆ มาวิเคราะห์และแสดงผลในรูปแบบของแผนภูมิ กราฟรูปแบบที่หลากหลาย วิดีโอที่แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของข้อมูลเชิงปริมาณ ซึ่งจะทำให้ผู้อ่านเข้าใจได้ง่ายขึ้น ดูน่าสนใจมากกว่าการอ่านข้อมูลแบบตารางทั่วไปค่ะ

 

ข้อดีในการใช้ Data Visualization

 

Visual Tools ได้แก่อะไรบ้าง
ภาพจาก https://www.tableau.com

จากภาพด้านบน เป็นหนึ่งในตัวอย่างของ Data Visualization

จริง ๆ แล้ว เราสามารถใช้ประโยชน์จาก Customer Data เหล่านี้โดยการนำข้อมูลดิบที่เรามี มาจัดประเภทให้เป็นหมวดหมู่ และทำการวิเคราะห์ เพื่อตอบคำถามบางอย่างที่แบรนด์ต้องการได้ เช่น

  • สินค้าที่ลูกค้านิยมซื้อมากที่สุดในช่วงเดือนนี้
  • คอนเทนต์ที่ลูกค้าชอบที่สุดเป็นวิดีโอหรือภาพ
  • ช่วงเวลาไหนมีคนเข้ามาที่หน้าเพจเรามากที่สุด
  • กลุ่มเป้าหมายค้นหาสินค้าเราจากช่องทางใดบ้าง

การใช้ Data Visualization จะช่วยให้แบรนด์สามารถดึงข้อมูลต่าง ๆ ออกมาใช้ในการวางแผนในการทำโฆษณา และโปรโมตสินค้า นอกจากนี้ การนำเสนอ Data ในรูปแบบของกราฟและรูปภาพ ยังเป็นเหมือนกับการเล่าเรื่อง ( Storytelling ) โดยหยิบยกเรื่องราวที่เป็น Highlight มานำเสนอ

ความสำคัญของ Data Visualization ที่มีต่อ Digital Marketing 

ในมุมมองของธุรกิจ โดยเฉพาะงานการตลาดดิจิทัล การสรุปการรายงานแบบทั่วไปที่เรามานั่งอ่านตามตาราง แล้ววิเคราะห์ก็สามารถทำการตลาดได้ค่ะ แต่การมองภาพให้เห็นชัดขึ้น หรือการทำ Data Visualization มีส่วนช่วยให้เราเข้าใจการวิเคราะห์ได้ดีขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง จากรูปภาพที่นำเสนอ ซึ่งมนุษย์เรามีกระบวนการจดจำเรื่องต่าง ๆ ในรูปแบบของรูปภาพได้ดี หรือยิ่งการนำเสนอภาพที่สามารถเล่าเรื่องราวได้นั้น ก็ยิ่งทำให้ความเข้าใจของเรามีเพิ่มมากขึ้นอีกขั้นหนึ่ง ประโยชน์ในการใช้ Data Visualization เพื่อการตลาด ยังช่วยเปรียบเทียบข้อมูล เพื่อให้เห็นความแตกต่างได้ดีขึ้น เช่น การเปรียบเทียบยอดขายในไตรมาสที่ 1 และ 2 เป็นต้น

นอกจากนี้ Data Visualization ยังเป็นประโยชน์ต่อสายงานอาชีพอื่น ๆ อีกด้วย เช่น

  • หน่วยงานรัฐบาล
  • การเงิน
  • ประวัติศาสตร์
  • ธุรกิจการบริการ
  • การศึกษา
  • การกีฬา เป็นต้น

ตัวอย่างการสร้าง Data Visualization

 

Visual Tools ได้แก่อะไรบ้าง
ภาพจาก https://www.tableau.com

หัวข้อในบทความ

  1. 1  การใช้ Data Visualization เพื่อสร้าง AR/VR
  2. 2  เข้าใจเนื้อหาจาก Storytelling 
  3. 3  นำไปปรับใช้กับอุปกรณ์เคลื่อนที่
  4. 4 วิทยาศาสตร์และการแพทย์
  5. 5  Real-Time Visualization
  6. Learning More

ประเภทของ Visualizations ที่จะเกิดขึ้นในปี 2021 

 

Visual Tools ได้แก่อะไรบ้าง
ภาพจาก https://www.tableau.com

Data Visualization ก็เหมือนกับการเล่าเรื่องด้วยรูปภาพ ซึ่งแน่นอนว่าภาพที่เราอยากนำไปถ่ายทอดให้กับคนอ่านที่มีหลากหลายรูปแบบ แต่ยังคงคำนึงถึงจุดเด่นของภาพ หรือจุดที่ควรโฟกัส ว่าข้อมูลไหน คือส่วนที่เราอยากสื่อสารไปยังผู้อ่านมากที่สุด ดังนั้น การใช้รูปแบบภาพในรูปทรงต่าง ๆ และเพิ่มจุดเด่นลงไป จะเป็นการช่วยให้เห็นภาพได้ดีขึ้น และเกิดความเข้าใจได้ง่ายขึ้นค่ะ

โดยทั่วไปแล้ว ประเภท Data Visualization ที่เราเห็นกันทั่วไปมักจะมีรูปแบบ ดังนี้:

  • ชาร์ต
  • ตาราง
  • กราฟ
  • แผนที่
  • Infographics คือการนำข้อมูลที่มีความซับซ้อนมาสร้างเป็นภาพกราฟิกให้ดูง่ายขึ้น

ตัวอย่างภาพ Infographic

Visual Tools ได้แก่อะไรบ้าง
ภาพจาก: https://killervisualstrategies.com/
  • Dashboards คือการนำข้อมูลในรายงาน หรือข้อมูลใหม่ มาสร้างเป็นภาพแล้วสรุปเอาไว้ในหน้าเดียวเพื่อให้ดูได้ง่ายขึ้น
Visual Tools ได้แก่อะไรบ้าง
ภาพจาก: https://www.idashboards.com

 

ตัวอย่างประเภท Data Visualization ประเภทอื่น ๆ

  • Area Chart                     แผนภูมิเชิงปริมาณ แบ่งเป็นชั้น ๆ และสีต่าง ๆ

 

Visual Tools ได้แก่อะไรบ้าง
ภาพจาก https://www.klipfolio.com

 

  • Bar Chart                       แผนภูมิแท่ง มักใช้เพื่อเปรียบเทียบยอดขาย หรือเปรียบเทียบระหว่าง

Targetที่ต้องการ และยอดขาย

  • Box Plots หรือ whisker Plots ใช้แสดงข้อมูลที่มีค่ากลาง และค่ากระจาย
  • Bubble Cloud                เป็นกราฟประเภทจุดในรูปแบบของแกน X, Y ซึ่งสามารถกำหนดขนาดของจุดได้
  • Bullet Graph                 กราฟที่สามารถเปรียบเทียบตัวชี้วัด
  • Cartogram                    แผนที่ที่แสดงให้เห็นวัตถุทางภูมิศาสาตร์
  • Circle View                    มีลักษณะคล้าย Pie Chart เป็น Chart วงกลม
  • Gantt Chart                  นิยมใช้ทำแผนกำหนดการต่าง ๆ ช่วยให้ทีมงานสื่อสารกันได้ดีขึ้น
  • Heat Map                     แผนที่ที่นำเสนอในรูปแบบของสี และระดับความถี่
  • Highlight Table            ตารางไฮไลท์สี
  • Histogram                    กราฟแท่งที่แสดงถึงชั้นข้อมูลและความถี่
  • Matrix                           แผนภูมิที่จะช่วยดูความสัมพันธ์ระหว่างจุดประสงค์และเป้าหมาย
  • Network                       แผนผังเครือข่าย
Visual Tools ได้แก่อะไรบ้าง
ภาพจาก https://www.interaction-design.org
  • Polar Area                       เหมาะสำหรับการนำเสนอตัวแปลหลาย ๆ ตัวในภาพเดียวกัน
Visual Tools ได้แก่อะไรบ้าง
ภาพจาก https://datavizproject.com
  • Scatter Plot (2D or 3D)   แผนภาพการกระจาย
  • Streamgraph                   กราฟที่ใช้แสดงช่วงเวลาต่าง ๆ
  • Timeline                          ภาพที่มีการกำหนดช่วงเวลาต่าง ๆ
  • Treemap                         แสดงข้อมูลที่เจาะลงลึกโดยมีการแสดงข้อมูลสองค่าไปพร้อม ๆ กัน
  • Word Cloud                    เป็นการจับกลุ่มคำมาแยกลำดับสถิติ

 

Data Visualization มีการพัฒนาไปตามเวลา และขึ้นอยู่กับว่าจะนำ Data ไปใช้ในทางไหน ซึ่งในวันนี้เราจะมาดูเทรนด์การใช้ Data Visualization ในปี 2020 กันค่ะว่ าเราสามารถนำไปใช้ต่อยอดในงานประเภทไหนได้บ้าง

 

1  การใช้ Data Visualization เพื่อสร้าง AR/VR

ในอนาคตอันใกล้นี้ การผสมผสานระหว่างภาพจากโลกเสมือนจริง และโลกแห่งความเป็นจริง รวมทั้งการสร้างประสบการณ์เสมือนจริงด้วยเทคโนโลยี หรือที่เราเรียกสิ่งเหล่านี้ว่า Augmented Reality (AR) และ Virtual Reality (VR) จะกลายเป็นเทคโนโลยีที่มาแรง ซึ่งการใช้ Data Visualization ในการสร้างกราฟิกเพื่อ AR และ VR จะทำให้ผู้ใช้สามารถสร้างโมเดลออกมาได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ตัวอย่างการสร้าง AR และ VR ด้วย Data Visualization ได้แก่

  •  การทำแผนที่
  • การพัฒนาเกม
  • การจัด Virtual Event
Visual Tools ได้แก่อะไรบ้าง
ภาพจาก https://www.nanalyze.com

ตัวอย่างด้านบน คือ Data Visualization ที่ LlamaZOO ออกแบบเพื่อจำลองเหมืองแฝดดิจิทัลขนาด 30,000 ตารางกิโลเมตรในรูปแบบ 3 มิติ ใน British Columbia ซึ่งข้อดีในการสร้างแผนที่จำลองนี้ คือการศึกษาแผนที่จำลองได้ในระยะไกล โดยที่เราไม่ต้องเสียงบประมาณ และเวลาในการเดินทางไปในสถานที่จริง

 

2  เข้าใจเนื้อหาจาก Storytelling 

การใช้ Data Visualization สามารถสร้างรายงานให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นเพียงรูปภาพ 1 หนึ่ง ซึ่งภาพเหล่านั้น ก็คือการหยิบยกเรื่องราวมาเล่าให้ผู้ฟัง หรือผู้อ่านได้ทำความเข้าใจในรูปแบบที่ย่อยง่ายขึ้น

ตัวอย่างการนำ Data มาใช้เพื่อสร้าง Storytelling คือ

  • การสร้างกราฟิก เพื่อสื่อสารเรื่องราวที่เป็น Timeline จากอดีตจนถึงปัจจุบัน
  • การทำสรุป Insight เรื่องราวต่าง ๆ ให้ผู้ชมได้อ่านและเข้าใจในหนึ่ง 1 หน้า
  • การสร้างแผนที่ เพื่อแสดงถึงความสำคัญเรื่องต่าง ๆ เช่น สถานที่ ๆ มีความเสี่ยงของโรคระบาด, สถานที่ที่เป็นร้านอาหาร เป็นต้น
Visual Tools ได้แก่อะไรบ้าง
ภาพจาก https://twooctobers.com

 

3  นำไปปรับใช้กับอุปกรณ์เคลื่อนที่

การนำข้อมูลที่ประมวลผลแล้ว มาปรับใช้กับเครื่องมือสื่อสาร หรืออุปกรณ์เคลื่อนที่ ย่อมเกิดประโยชน์แก่ผู้ใช้งานในแง่ของการรับข้อมูลได้มากขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวอย่างเช่น

ข้อมูลจากระบบการจราจร ที่ส่งถึงรถยนต์ที่มีแพลตฟอร์มรายงานสภาพจราจร หรือการใช้ภาพ AR หรือการเลี่ยงเส้นทางที่กำลังเกิดอุบัติเหตุ เพื่อให้ผู้ใช้ถนนขับรถได้สะดวกขึ้น และเพิ่มสภาพคล่องบนท้องถนน

 

4 วิทยาศาสตร์และการแพทย์

 

ปัจจุบัน บริษัท Start-Up ที่ชื่อว่า Pasadena ในแคลิฟอเนีย กำลังระดุมทุนในการสร้าง Virtualitics Immersive Platform (VIP) เพื่อสร้างระบบ AI, เครื่อง VR และระบบวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก เพื่อตรวจจับความผิดปกติบางอย่าง หลังจากนั้น ระบบซอฟต์แวร์จะสร้างภาพ ที่มาจากข้อมูลที่วิเคราะห์ได้ ผ่าน VR หรือหน้าเดสก์ท็อป ซึ่งจากกรณีศึกษาจาก Columbia Medical School ได้ทดลองใช้ตัวเครื่อง VIP เพื่อวิเคราะห์ข้อมูล ความเชื่อมโยงระหว่างการตายของมะเร็งและการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ค่ะ

Visual Tools ได้แก่อะไรบ้าง
ภาพจาก https://www.nanalyze.com

 

5  Real-Time Visualization

ข้อมูลแบบ Real-Time Visualization เรียกได้ว่ามีบทบาทสำคัญมากในการให้ข้อมูลแก่ผู้ใช้งานในช่วงปี 2020 ที่ผ่านมาจากการแพร่ระบาดของโรค Covid-19 ซึ่งเราสามารถนำข้อมูลดิบ ที่เป็นรูปแบบนามธรรมมาสร้างเป็น กราฟ และ Diagram ต่าง ๆ เพื่อทำให้ผู้ใช้งานเห็นภาพรวมได้ง่ายขึ้นว่า ที่ผ่านมาในเมืองนี้ ประเทศนี้มียอดผู้ติดเชื้อเท่าไหร่ โดยมีการอัปเดตกันแบบทุก ๆ 12 ชั่วโมง

ข้อดีในการทำ Real-time Visualization คือการประมวลผลที่สดใหม่ เนื่องจากมีการอัปเดตข้อมูลตลอดเวลา ซึ่งเราสามารถรับข้อมูลนั้นได้ง่ายขึ้นจากการสื่อสารด้วยรูปภาพ หรือกราฟต่าง ๆ

ตัวอย่าง Real-Time Visualization ที่เผยถึงข้อมูลของจำนวนผู้ติดเชื่อ Covid-19 ในประเทศเยอรมันแบบ Real-time

Visual Tools ได้แก่อะไรบ้าง

สรุป:

เมื่อเทรนด์โลก และพฤติกรรมการบริโภคของคนเราเปลี่ยน ธุรกิจก็จำเป็นต้องปรับเพื่อตอบสนองตลาด และเพื่อให้ธุรกิจของเรานั้นอยู่รอด ซึ่งการนำ Data Visualization ก็เป็นหนึ่งในแนวทางการพัฒนาการตลาดด้วยการใช้ข้อมูลที่เห็นภาพง่ายขึ้น และสามารถบอกเล่าเรื่องราวผ่านกราฟิกต่าง ๆ โดยเน้นการโฟกัสไปยังความสำคัญส่วนใดส่วนหนึ่งของเนื้อหา ทำให้การวิเคราะห์และการวางแผนงานนั้นสะดวกขึ้น และธุรกิจของคุณอาจเจอแนวทางใหม่ ๆ ในการสร้างแบรนด์ก็เป็นไปได้ ซึ่งเทรนด์การใช้ Data Visualization ที่จะเกิดขึ้นในปี 2021 นี้มีทั้งหมด 5 เทรนด์ด้วยกันคือ

ใช้ Visual Tool อะไรบ้าง

แนะนำ 5 เครื่องมือ Data Visualization ที่ใช้งานง่าย (ยอดนิยม).
1. Power BI. ที่มารูปภาพ powerbi.microsoft.com. ... .
2. Tableau. ที่มารูปภาพ tableau.com. ... .
3. Google Data Studio. ที่มารูปภาพ windsor.ai. ... .
4. Zoho Analytic. ที่มารูปภาพ zoho.com. ... .
5. Endlessloop. ที่มารูปภาพ thegrowthmaster.com..

Data Visualization Tool มีอะไรบ้าง

Data Visualization มี Tools อะไรบ้างนะ? ซึ่งพอสรุป Tools ที่นิยมใช้ในตอนนี้ได้แก่ Tableau, Microsoft Power BI, Qlik View, Google Charts, Fusion Charts,Data wrapper และอื่นๆอีกมากมาย รูปแบบในการใช้ Data Visualization จำแนกคร่าวๆได้ดังนี้ การนำเสนอแบบทิศทางหรือแนวโน้ม (Trending)

Visualization แบบนี้ เรียกว่าอะไร?

การทำให้เห็นได้ หรือ วิชวลไลเซชัน (อังกฤษ: visualization) และมีการเรียกว่า จินตทัศน์ เป็นการกล่าวถึงการสร้างภาพ แผนผัง หรือ ภาพเคลื่อนไหว ใช้ในการสื่อสารแทนข้อความ โดยวิธีการนี้สามารถใช้ได้ทั้งในทางรูปธรรม และนามธรรม โดยมีทั้งการจำลองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในอดีต เหตุการณ์ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ หรือการสร้างภาพในอนาคต ...

องค์ประกอบหลักของ Data Visualization มีอะไรบ้าง

ใน EP นี้เราได้เรียนรู้ถึงส่วนประกอบต่าง ๆ ในการทำ Data Visualization ให้มีประสิทธิผล ได้แก่ Visual Encoding, Coordinate System, Scale / Data types, และ Context โดยได้นำเสนอการทำ Visual Encoding ในรูปแบบต่าง ๆ ด้วย เช่น การใช้ขนาด, ตำแหน่ง, หรือสี รวมถึงอธิบายประเภทของข้อมูลพื้นฐานทั้ง 3 แบบ Numerical, Categorical, และ ...