15th August 2015 การออมเงิน Show ปัจจุบันมีนโยบายจากทุกภาคส่วนสนับสนุนให้คนในประเทศรู้จักการออมเงินมากขึ้น ตั้งแต่ระดับเด็กน้อยไปจนถึงวัยทำงาน เพราะทุกภาคส่วนเห็นตรงกันว่าการออมมีประโยชน์อย่างมหาศาล ช่วยให้สังคมในระดับครัวเรือนดีขึ้น ส่งผลให้ระดับใหญ่กว่านั้น นั่นคือระดับเศรษฐกิจของประเทศเจริญก้าวหน้า เพราะนำเงินที่ได้จากการออมนั้นมาปรุงปรับและพัฒนาระบบสาธารณูปโภคโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศให้มีความมั่นคงมากขึ้นดังนั้นจะเห็นได้ว่าเพียงเราทุกคนรู้จักการ ออมเงิน มันไม่เพียงแต่จะเกิดประโยชน์กับเรา แต่มันทำให้ประเทศของเราพัฒนาไปข้างหน้าด้วย เห็นอย่างนี้แล้วมาดูกันว่า 5 สิ่งที่คุณได้จากการ ออมเงิน มีอะไรบ้าง 5 สิ่งที่คุณได้จากการ ออมเงิน1. สร้างวินัยมีคนเคยบอกว่าการจะสร้างเด็กให้มีวินัยนั้น ให้สอนเด็กคนนั้นโดยเริ่มจากการออมเงิน รู้หรือไม่ว่า การออมเงินต้องใช้ความสามารถมากกว่าที่คุณคิด ไม่ใช่ทุกคนก็สามารถทำได้ สิ่งสำคัญเลยคือคุณต้องมีระเบียบวินัยอย่างมาก หากไม่แล้วกระปุกหมูของคุณคงไม่มีทางเต็มแน่ ฉะนั้นหากกระปุกหมูของคุณเต็มขอให้มั่นใจได้เลยว่าคุณเป็นคนมีวินัยระดับหนึ่งเลยทีเดียว แล้วถ้าหากคุณจะยกระดับความมีวินัยจากการหยอดกระปุก เป็นการเปิดบัญชีเงินฝากล่ะ คุณสามารถกำหนดเลยว่าคุณจะฝากเงินทุกๆสิ้นเดือนเป็นเงินเท่าไหร่ หากคุณทำได้สม่ำเสมอไม่ต่ำกว่าหนึ่งปี เชื่อแน่ว่า คุณคงกลายเป็นคนมีวินัยสูงมาก และรางวัลที่จะมอบให้คือเงินฝากทั้งหมดที่คุณออมไว้นั่นเอง 2. เงินเก็บแน่ล่ะ ผลตอบแทนที่ได้จากความพยายามออมเงินของคุณที่เห็นได้อย่างแรกเลยคือเงินเก็บ คุณคงไม่รู้หรอกว่าความสุขจากการมีเงินเก็บเป็นยังไร หากไม่รู้จักการออมเงิน มีเรื่องเล่าจากใครคนหนึ่งว่า มีเด็กน้อยที่อยากได้ของเล่นรุ่นใหม่ราคาแพง คุณพ่อคุณแม่เขาไม่ซื้อให้ เด็กน้อยคนนั้นใช้วิธีออมเงินจากค่าขนมที่ได้รับทุกๆวัน ในที่สุดก็เก็บเงินได้ครบตามราคาของเล่นที่เขาปรารถนา นอกจากที่เขาจะได้ของเล่นแล้ว เขายังได้ความภูมิใจที่เขารู้จักอดออม จนได้สิ่งที่เขาต้องการ ลองมองย้อนกลับมาที่ตัวคุณ หากคุณรู้จักออมเงินตั้งแต่วันนี้ เชื่อแน่ว่าคุณจะมีเงินเก็บมากพอ จนสามารถซื้อของที่คุณต้องการ ซึ่งใหญ่กว่าของเล่นธรรมดาแน่นอน 3. เป็นทุนในการนำไปสร้างมูลค่าเมื่อคุณมีเงินเก็บจำนวนที่มากพอแล้ว นอกจากที่คุณจะสามารถนำไปใช้ซื้อสิ่งที่คุณอยากได้แล้ว คุณอาจนำเงินจำนวนนั้นไปสร้างมูลค่าให้งอกเงยเพิ่มขึ้นอีกได้ด้วย แน่นอนว่าหากคุณฝากไว้กับธนาคาร คุณก็ได้อย่างน้อยคือดอกเบี้ย แต่หากคุณต้องการผลตอบแทนที่สูงกว่านั้น ก็อาจนำเงินออมนั้นไปเปิดกิจการเล็กๆ ซื้อกองทุนรวม หรือหากคุณมีความรู้ด้านตลาดหุ้น คุณก็สามารถนำส่วนหนึ่งของเงินออมนี้ ไปเล่นหุ้นเพื่อเพิ่มมูลค่าให้เงินของคุณสูงยิ่งขึ้นไปได้อีก อาจมีความเสี่ยงสูงที่เงินจะเสียไป แต่เงินจำนวนนี้ถึงเสียไป ก็อาจไม่มีผลต่อคุณมากนัก เพราะไม่ใช่เงินที่ได้มาจากการกู้หนี้ยืมสิน 4. เพิ่มความมั่นคงในอนาคตการมีเงินออมไว้จำนวนหนึ่งก็เหมือนคุณมีเกราะป้องกันสิ่งที่คาดไม่ถึง ใครจะรู้เล่าว่าอนาคตจะเป็นเช่นไร คุณอาจใช้ชีวิตปกติสุขดี เงินจำนวนนี้ก็เก็บเอาไว้ซื้อความสุข แต่หากเกิดสิ่งเลวร้ายกับคุณล่ะ แน่นอนว่าไม่มีใครอยากประสบปัญหาในชีวิต แต่เงินออมนี้แหละที่จะช่วยให้ปัญหาเบาขึ้น ตัวอย่างเช่น คุณอาจประสบอุบัติเหตุหรือตรวจพบโรคร้ายแรงจนคุณไม่สามารถประกอบอาชีพดังเดิมได้ชั่วขณะ ตราบใดที่คุณมีเงินออมเก็บไว้จำนวนหนึ่ง บางทีปัญหาเหล่านี้อาจเบาขึ้นกว่าหากเทียบกับการไม่มีเงินเก็บเลย เพราะคุณไม่ต้องกู้หนี้ยืมสิน และที่สำคัญ มีความมั่นคงว่าในอนาคตคุณจะไม่ต้องเป็นภาระให้กับลูกหลาน 5. เป็นเหตุให้เกิดการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศดังที่ได้เกริ่นมาแล้วข้างต้น การออมเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจภายในประเทศเจริญก้าวหน้า มีผลการวิจัยซึ่งการศึกษาเกี่ยวกับการออมพบว่า ประเทศที่มีการออมเงินเป็นปริมาณที่สูง จะส่งผลให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับประเทศที่มีการออมต่ำ เพราะสามารถนำเงินที่ได้ จากการที่ประชาชนรู้จักการออม ไปลงทุนเพื่อพัฒนาประเทศโดยตรง ไม่จำเป็นต้องอาศัยเงินทุนจากต่างประเทศ หากนำเงินที่ได้รับจากการกู้ในต่างประเทศมาพึงพิงในปริมาณที่สูงและต่อเนื่อง อาจเกิดวิกฤติเศรษฐกิจครั้งใหญ่ก็เป็นได้ ดังนั้น ประเทศชาติจะเดินไปในทิศทางไหน ก็อยู่ที่ประชาชนภายในประเทศ จะปฏิบัติตัวในทิศทางใด คุณเองมีส่วนทำให้ประเทศพัฒนาได้ เพียงแค่คุณรู้จักการออมเงินเท่านั้น เป็นยังไงบ้างเอ่ย ได้รับความรู้จากการออมเงินบ้างไหม หลังจากที่คุณอ่าน 5 สิ่งที่คุณได้จากการออมเงิน ประโยชน์ไม่เพียงแต่จะเกิดที่ตัวคุณเองเท่านั้น มันยังส่งผลไปถึงในระดับประเทศด้วย รู้อย่างนี้แล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเรามาวางแผนการออมกันเถอะ ร่วมกันบอกคนในครอบครัว มิตรสหายคนสนิท เพื่อมั่งคั่งแก่ตัวเราเอง และเพื่อเสถียรภาพที่มั่นคงของประเทศ หากจะกล่าวว่า ‘เงินออม คือ จุดตั้งต้นของความสำเร็จทางการเงิน’ ก็คงจะเป็นคำกล่าวที่ไม่เกินจริงนัก เพราะหากเราได้ศึกษาชีวิตของเศรษฐีหรือคนที่ประสบความสำเร็จทางการเงิน เกือบทุกคนมีพื้นฐานความร่ำรวยมาจาก ‘การประหยัด อดออม’ นั่นเอง แล้วเงินออม หมายถึงอะไร เงินออม หมายถึง เงินที่เก็บสะสม เพื่อให้พอกพูนขึ้นไปเรื่อยๆ ตามเวลา และควรเป็นเงินก้อนแรกที่หักออกจากรายได้ที่มีเข้ามาทันที ก่อนที่จะนำไปเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ (หรือเก็บก่อนใช้) ซึ่งสามารถแสดงสมการเงินออมได้ดังนี้ รายได้ - เงินออม = รายจ่าย แม้ทุกคนจะรู้ว่าการออมเป็นสิ่งที่สำคัญ แต่จากสถิติการออมของคนไทยจะพบว่า ในปัจจุบันมีคนไทยร้อยละ 77.4 เท่านั้นที่มีการออมเงิน ในขณะที่อีกร้อยละ 22.6 ไม่มีเงินออม และเมื่อพิจารณาข้อมูลเชิงลึก จะพบว่า รูปแบบการออมเงินของคนไทยส่วนใหญ่จะเป็นรูปแบบของบัญชีฉุกเฉิน หรือบัญชีเงินเก็บระยะสั้น มากกว่าการออมเงินเพื่อใช้หลังเกษียณ ซึ่งจากผลสำรวจของนิด้าโพลพบว่าจุดมุ่งหมายของการออมเงินของคนไทย คือ ใช้ในยามฉุกเฉิน 41.35% เพื่อการศึกษาบุตร 26.08% เพื่อการเกษียณอายุ 23.81% ซื้อบ้านและรถ 6.50% การศึกษาของตนเอง 2.26% นอกจากนี้เมื่อถามถึงระยะเวลาที่สามารถออมเงินได้ พบว่าสามารถออมเงินได้ มากกว่า 5 ปี แต่ไม่ถึง 10 ปี 44.74% ระหว่าง 1 – 5 ปี 32.23% น้อยกว่า 1 ปี 11.85% เท่ากับว่าเรานิยมออมเงินเพื่อเป้าหมายระยะสั้นและระยะปานกลางเท่านั้น ยังไม่ตระหนักและให้ความสำคัญในการออมเงินเพื่อเป้าหมายระยะยาว นั่นก็คือ เป้าหมายเพื่อการเกษียณอายุ ซึ่งน่าเป็นห่วงมากจริงๆ ที่คนยังไม่ตระหนักว่า หากไม่รีบวางแผนเกษียณอายุให้เร็วที่สุด โอกาสที่เราจะไม่สามารถเกษียณอายุได้ยิ่งมีมากเท่านั้น แล้วยิ่งเมื่อเทียบเงินออมเพื่อการเกษียณอายุต่อ GDP ของเรากับประเทศอื่นๆ ก็จะยิ่งเห็นว่าเรามีการออมเพื่อเกษียณอายุที่น้อยมากจริงๆ นอกจากนี้คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่รู้จักวิธีการบริหารเงินออม โดยพบว่าคนส่วนใหญ่จะนำเงินออมไปฝากไว้ในบัญชี หรือผลิตภัณฑ์การเงินที่ไม่ได้ทำให้เงินออมนั้นงอกเงย แน่นอนว่า ‘การออม เป็นจุดตั้งต้นของความสำเร็จทางการเงิน’ แต่ยุคนี้ สมัยนี้ แค่ออมเงินอย่างเดียว ไม่เพียงพออีกต่อไปแล้ว เราต้องรู้จักบริหารให้เงินออมงอกเงยด้วย เคล็ดลับบริหารเงินให้งอกเงย คือ ออมให้มาก อย่างน้อยให้ได้ 20 - 30% ของรายได้ กันเงินออกมาเพื่อเป็นเงินสำรองเผื่อฉุกเฉินอย่างน้อย 3 – 6 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือน มีการบริหารความเสี่ยงด้วยการซื้อประกันอย่างเหมาะสม เพราะเหตุการณ์ไม่คาดฝันจะเป็นตัวการทำลายเงินออม และนำเงินไปลงทุนให้งอกเงยผ่านการลงทุนหลากหลายรูปแบบตั้งแต่ การลงทุนในหุ้น ตราสารหนี้ กองทุนรวมต่างๆ สิ่งที่สำคัญที่สุด อย่าลืมลงทุนในการเพิ่มพูนความรู้ของตัวเองด้วย เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง สิ่งที่เสี่ยงกว่าคือการที่เราไม่เริ่มลงทุน แต่สิ่งที่เสี่ยงที่สุด คือการลงทุนในสิ่งที่เราไม่มีความรู้ ขอยกตัวอย่างวิธีการออม ให้มีกินมีใช้ตลอดชีวิต สมมติคุณมีเงินเดือน 25,000 บาท คุณควรจัดสรรเงินของคุณดังนี้
หากออมเงินและลงทุนได้อย่างนี้ มีสุขภาพทางการเงินที่ดีก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
การออมมีกี่ประเภทและมีอะไรบ้าง1. การฝากเงินกับธนาคาร (Deposit) 2. การประกันชีวิต (Life Insurance) 3. การออมทรัพย์กับสหกรณ์ 4. การซื้อพันธบัตรรัฐบาล
การออมมีความสําคัญอย่างไรทำไมเราต้องมีเงินออม
เงินออมถือเป็นปัจจัยที่จะทำให้เป้าหมายที่กำหนดไว้ในอนาคตสำเร็จและเป็นจริงขึ้นมา เช่น กำหนดเป้าหมายไว้ว่าจะต้องมีบ้านเป็นของตนเองในอนาคตให้ได้ นอกจากนี้เงินออมยังช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อนทางการเงินที่อาจเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิดอีกด้วย ดังนั้นทุกคนจึงควรมีการออมอย่างสม่ำเสมอ
ความหมายของการออมคืออะไรการออม เป็นการแบ่งรายได้ส่วนหนึ่งเก็บสะสมไว้สำหรับวัตถุประสงค์ต่าง ๆ เช่น เพื่อไว้ใช้ในอนาคต เผื่อเวลาฉุกเฉิน เพื่อใช้ในสิ่งที่อยากได้หรืออยากทำ การออมส่วนใหญ่มักอยู่ในรูปแบบที่มีความเสี่ยงต่อการสูญเสียเงินต้นต่ำ และได้รับผลตอบแทนไม่สูงนักเมื่อเทียบกับการลงทุน เช่น การฝากออมทรัพย์ การฝากประจำ การซื้อสลากออมทรัพย์
วิธีการออมเงินมีอะไรบ้างวางใจให้ออมสิน. 7 วิธีออมเงินง่าย ๆ ใช้เก่งยังไงก็เก็บเงินอยู่! 20 มิ.ย. 2562.. 1. เก็บก่อนใช้ ได้เปรียบกว่าเห็น ๆ ... . 2. เปิดบัญชีฝากประจำ ... . 3. หักบัญชีอัตโนมัติ ... . 4. มีเศษเหรียญ ให้หยอดกระปุก ... . 5. แบงก์ 50 เป็นของต้องห้าม ... . 6. ช้อปไปเท่าไหร่ ออมคืนเท่านั้น ... . 7. เงินเหลือเท่ากับออม. |