Show ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (PCOS - Polycystic Ovary Syndrome) คือ ความผิดปกติของระบบต่อมไร้ท่อ ทำให้ผู้ป่วยมีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน โปรเจสเตอโรน แอนโดรเจน และอินซูลินอยู่ในภาวะที่ไม่สมดุล เกิดถุงน้ำขนาดเล็กจำนวนหลายใบอยู่ในรังไข่ ซึ่งอาจเกิดเพียงข้างเดียวหรือทั้งสองข้างก็ได้ จึงทำให้รังไข่มีขนาดโตขึ้น และส่งผลให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ สิวขึ้น ขนดก หรือมีบุตรยาก โดยมักพบในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์เป็นหลัก ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ เกิดจากอะไร?ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ ยังไม่ทราบสาเหตุการเกิดที่แน่ชัดแน่ชัด อาจเกี่ยวข้องกับปัจจัยทางพันธุกรรม เชื้อชาติ สิ่งแวดล้อม หรือหลายๆ ปัจจัยรวมกัน แต่กลไกผิดปกติที่เกิดขึ้นหลัก จะมีดังนี้
อาการของภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบผู้ป่วยภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบมักมีอาการหรือรู้สึกถึงความผิดปกติภายหลังจากมีประจำเดือนครั้งแรก ซึ่งความรุนแรงที่เกิดขึ้นจะแตกต่างกันไปในแต่ละคน โดยส่วนใหญ่จะแสดงอาการหลักๆ ดังนี้ย
การรักษาภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ
Tags : ถุงน้ำรังไข่ , โรคทางนรีเวช , ประจำเดือนมาไม่ปกติ , ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ , PCOSประจำเดือนไม่มาประจําเดือนไม่มา, ประจําเดือนขาด หรือ ภาวะขาดประจำเดือน (Amenorrhea) เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยของผู้หญิงทั่วไป ซึ่งโดยปกติผู้หญิงจะเริ่มมีประจำเดือนมาครั้งแรกในระหว่างอายุ 11-14 ปี* ถ้าเลยอายุ 15 ปีไปแล้วและประจำเดือนยังไม่มาก็ถือว่าผิดปกติ ซึ่งในที่นี้จะเรียกว่า “ภาวะประจำเดือนไม่เคยมา” (Primary amenorrhea) ส่วนในผู้หญิงที่เคยมีประจำเดือนมาแล้ว แล้วอยู่ ๆ ประจำเดือนก็ไม่มาหรือขาดหายไปติดต่อกัน 3 เดือน ด้วยสาเหตุต่าง ๆ จะเรียกว่า “ภาวะประจำเดือนขาด” (Secondary amenorrhea) ซึ่งเป็นอาการที่พบได้บ่อยกว่าภาวะประจำเดือนไม่เคยมา (ถ้ายังไม่ถึง 3 รอบเดือนจะเรียกว่า “ประจำเดือนมาช้ากว่ากำหนด“) การที่ผู้หญิงมีเลือดประจำเดือนออกมาทุกเดือนเป็นปกตินั้น จะต้องมีระบบการสร้างฮอร์โมนและมีระบบโครงสร้าง (กายวิภาค) ของระบบสืบพันธุ์เป็นปกติ โดยฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการเจริญพันธุ์และการมีประจำเดือน คือ Gonadrotropin releasing hormone (GnRH) เป็นฮอร์โมนที่หลั่งออกมาจากสมองส่วนลึกในสมองใหญ่ (Hypothalamus) ซึ่งจะไปกระตุ้นเนื้อเยื่อส่วนหน้าของต่อมใต้สมอง (Anterior pituitary gland) ให้สร้างฮอร์โมนเอฟเอสเอช (Folli cular stimulating hormone – FSH) และฮอร์โมนแอลเอช (Luteinizing hormone – LH) ซึ่งฮอร์โมนทั้งสองตัวนี้จะไปกระตุ้นรังไข่ให้สร้างฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) และฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) ที่จะไปทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวขึ้น เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับรอรับการฝังตัวของตัวอ่อนที่เกิดจากการปฏิสนธิระหว่างไข่กับตัวอสุจิเพื่อที่จะตั้งครรภ์ต่อไป แต่หากไม่มีการปฏิสนธิเกิดขึ้น ระดับฮอร์โมนต่าง ๆ ดังกล่าวจะลดลง ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกหลุดลอกและมีการฉีกขาดของหลอดเลือดในโพรงมดลูกออกมาเป็นเลือดประจำเดือนต่อไป นอกจากนั้นระบบโครงสร้าง (กายวิภาค) ของระบบสืบพันธุ์จะต้องมีมดลูก ปากมดลูก และช่องคลอดที่ปกติด้วย เพื่อจะให้เลือดประจำเดือนไหลออกมาได้ หมายเหตุ : ประจำเดือน (Menstruation) หมายถึง การมีเลือดออกมาทางช่องคลอดเป็นประจำทุก ๆ เดือน เป็นเวลาครั้งละ 2-7 วัน ซึ่งเป็นอาการแสดงของการเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น (อายุ 11-14 ปี) ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนต่าง ๆ ภายในร่างกายเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเจริญพันธุ์ โดยอายุเฉลี่ยของการมีประจำเดือนครั้งแรกของเด็กผู้หญิงไทยจะอยู่ที่ประมาณ 12 ปี 7 เดือน เด็กผู้หญิงทางภาคเหนือจะมีอายุเฉลี่ยของการมีประจำเดือนเร็วกว่าภาคอื่น ๆ ส่วนเด็กทางภาคใต้จะมีอายุเฉลี่ยของการมีประจำเดือนช้ากว่าภาคอื่น ๆ ในช่วง 1-2 ปีแรกที่เริ่มมีประจำเดือน ประจำเดือนจะมาแบบไม่สม่ำเสมอ เนื่องจากการทำงานของรังไข่ยังไม่ค่อยสมบูรณ์ จึงทำให้ไข่ตกไม่สม่ำเสมอ สาเหตุที่ประจำเดือนไม่มาภาวะขาดประจำเดือนแบบปฐมภูมิ หรือ ภาวะประจำเดือนไม่เคยมา (Primary amenorrhea) เป็นอุบัติการณ์ที่พบได้ค่อนข้างน้อย คือการที่สตรีไม่เคยมีประจำเดือนมาก่อน โดยใช้เกณฑ์อายุ 15 ปีที่ยังไม่เคยมีประจำเดือน (เกณฑ์เดิมใช้อายุ 16 ปี) หรือใช้เกณฑ์อายุ 13 ปีที่ยังไม่มีลักษณะทางเพศของสตรี เช่น มีการขยายของเต้านม สะโพกผาย มีขนรักแร้และขนที่อวัยวะเพศขึ้นตามปกติ (เกณฑ์เดิมใช้อายุ 14 ปี) ส่วนสาเหตุการขาดประจำเดือนแบบปฐมภูมินี้อาจมีสาเหตุเกี่ยวกับความผิดปกติของรังไข่หรือฮอร์โมนภายในร่างกาย หรืออาจเกิดจากความผิดปกติทางโครงสร้าง (กายวิภาค) ของมดลูกหรือช่องคลอดมาแต่กำเนิด เช่น เยื่อพรหมจรรย์ไม่เปิด ไม่มีมดลูก รังไข่ หรือช่องคลอดมาตั้งแต่กำเนิด เป็นต้น หรือมีความผิดปกติของโครโมโซมทำให้มีผลต่อการทำงานของรังไข่ แต่ส่วนมากจะมีสาเหตุมาจากการเจริญเติบโตเป็นสาวที่ช้าโดยธรรมชาติ โดยไม่มีความผิดปกติใด ๆ เกิดขึ้น และมักจะมีประจำเดือนมาก่อนอายุครบ 15 ปี แต่ถ้าเลยจากนี้ไปแล้ว ก็น่าจะเกิดจากสาเหตุที่ผิดปกติดังที่กล่าวมา
ภาวะขาดประจำเดือนแบบทุติยภูมิ หรือ ภาวะประจำเดือนขาด (Secondary amenorrhea) เป็นอุบัติการณ์ที่พบได้เป็นส่วนมาก เป็นการที่สตรีเคยมีประจำเดือนมาก่อนแล้วต่อมาประจำเดือนเกิดขาดหายไปไม่มาติดต่อกัน 3 รอบเดือน ซึ่งในภาวะนี้ยังแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่ม คือ การขาดประจำเดือนตามธรรมชาติ (Physiologic secondary amenorrhea) เช่น การตั้งครรภ์ ระยะหลังคลอดในช่วงที่ให้นมลูก ช่วงวัยทอง เป็นต้น และการขาดประจำเดือนเนื่องจากมีพยาธิสภาพหรือโรคภายในร่างกาย (Pathologic secondary amenorrhea)
อาการประจำเดือนไม่มา
ผลข้างเคียงจากการขาดประจำเดือนผลข้างเคียงที่เกิดจากภาวะขาดประจำเดือนที่ไม่ได้เกิดจากการตั้งครรภ์ขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้ขาดประจำเดือน หากเกิดจากรังไข่ไม่ทำงานก็จะมีอาการคล้ายกับคนวัยหมดประจำเดือน เช่น มีอาการร้อนวูบวาบตามตัว แต่หากเกิดจากเยื่อบุมดลูกบางจนไม่มีเลือดออก เช่น จากการขูดมดลูก การฉีดยาคุมกำเนิด ก็อาจไม่มีอาการผิดปกติ แต่สาเหตุที่พบได้บ่อยในวัยรุ่นที่เกิดภาวะขาดประจำเดือนคือ ไม่มีการตกไข่ ฮอร์โมนเอสโตรเจนจึงกระตุ้นให้เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญไปเรื่อย ๆ อาจทำให้เซลล์เยื่อบุโพรงมดลูกเปลี่ยนแปลงแบ่งตัวมากผิดปกติ เป็นสาเหตุทำให้มีเลือดออกจากโพรงมดลูกแบบกะปริดกะปรอยได้ การวินิจฉัยหาสาเหตุของการขาดประจำเดือนแพทย์สามารถวินิจฉัยหาสาเหตุได้จากอายุ ประวัติการมีประจำเดือน ประวัติการมีเพศสัมพันธ์ ประวัติโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ประวัติการเจ็บป่วยทั้งในอดีตและปัจจุบัน ประวัติการใช้ยาโดยเฉพาะยาคุมกำเนิดและยาฮอร์โมนต่าง ๆ ประวัติอาการร่วมต่าง ๆ (เช่น คลื่นไส้ อาเจียน) ร่วมกับการตรวจร่างกายและการตรวจภายใน นอกจากนั้นอาจมีการตรวจอื่น ๆ ทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติม ซึ่งมีอยู่หลายวิธี ขึ้นอยู่กับอาการของผู้ป่วย ความผิดปกติที่ตรวจพบ และดุลยพินิจของแพทย์ (ผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องได้รับการตรวจทางห้องปฏิบัติการเหมือนกันทุกราย) เช่น
วิธีรักษาประจำเดือนไม่มา
เอกสารอ้างอิง
ภาพประกอบ : www.newhealthadvisor.com, womenshealtharticles.com, www.healthguide.net เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai) ประจําเดือนขาดเกิดจากอะไรสาเหตุใดที่ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ? ความเครียด ตั้งครรภ์ หรือการให้นมบุตร วัยทองหรือวัยหมดประจำเดือน เกิดขึ้นกับผู้ที่มีอายุระหว่าง 45-55 ปี เนื่องจากระดับฮอร์โมนเริ่มลดลง ทำให้ไข่ตกไม่สม่ำเสมอหรือไม่ตกเลย
ประจําเดือนไม่มาผิดปกติไหมสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดของประจำเดือนไม่มาก็คือภาวะฮอร์โมนที่ไม่ปกติ เป็นได้ตั้งแต่สาเหตุง่ายๆ เช่น มีภาวะเครียด ออกกำลังกายหักโหม น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างรวดเร็ว พักผ่อนไม่เพียงพอ มีอาการเจ็บป่วยเรื้อรัง หรือการได้รับฮอร์โมนมาก่อนหน้านี้ เช่น การใช้ยาคุมฉุกเฉิน หรือการกินยาคุมต่อเนื่องนานๆประจำเดือนอาจมาน้อยลง ...
ประจําเดือนไม่มานานสุดกี่วันโดยปกติประจำเดือนจะมาทุก ๆ 21-35 วัน แต่บางครั้งอาจมาเร็วหรือมาช้ากว่ารอบเดือนปกติประมาณ 3-7 วัน ซึ่งประจำเดือนเลื่อนอาจขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยที่ส่งผลให้ประจำเดือนมาเร็วหรือมาช้ากว่าปกติ อย่างไรก็ตาม ในแต่ละรอบประจำเดือนไม่ควรมามากกว่า 7 วัน
|