หัวใจ ของ โล จิ สติ ก ส์ มี กี่ ประการ

1. Right Quality คือ การซื้อให้ได้คุณภาพหรือข้อกำหนดคุณสมบัติ (Specifications) ตามความต้องการของหน่วยงานต่าง ๆ ในองค์กร รวมถึงการช่วยกำหนดคุณสมบัติของวัตถุดิบหรือสินค้าที่ต้องการด้วย เพื่อให้สามารถจัดหาและเปรียบเทียบคุณสมบัติได้อย่างถูกต้อง และควรหลีกเลี่ยงระบุตรายี่ห้อลงไป เพราะอาจอาจเกิดข้อครหาได้ว่าการจัดซื้อนั้นมีการทุจริตหรือมีการล็อคสเปกสินค้า

2. Right Quantity คือ การซื้อสินค้าให้ได้ปริมาณตรงตามความต้องการ เพื่อลดปัญหาและค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจากการสั่งซื้อที่ไม่เหมาะสม ทั้งนี้ควรจะต้องคำนึงถึงการวางแผนในการสั่งซื้อ เช่น การพยากรณ์ความต้องการในอนาคต การสั่งซื้อจากต่างประเทศ รวมถึงควรมีการประสานงานกับคลังสินค้าเพื่อตรวจสอบว่าสามารถรองรับปริมาณสินค้าที่จะสั่งซื้อได้หรือไม่

3. Right Time คือ การกำหนดเวลาในการส่งสินค้า/วัตถุดิบให้ได้ในเวลาที่ต้องการ ซึ่งขั้นตอนนี้มีความสำคัญในกิจกรรมต่าง ๆ ขององค์กร หากมีการส่งสินค้า/วัตถุดิบช้ากว่ากำหนดที่ต้องการอาจส่งผลทำให้โครงการ กระบวนการผลิตหยุดชะงัก ดังนั้น นักจัดซื้อจำเป็นจะต้องระบุเวลาในการจัดส่งที่แน่นอน (Lead Time)

4. Right Price คือ การซื้อสินค้าในราคาที่เหมาะสม ไม่เพียงแต่ปัจจัยด้านราคาซื้อที่ถูกเท่านั้น รวมถึงคุณภาพ และความคุ้มค่าของสินค้า/วัตถุดิบ ซึ่งที่มีผลกระทบต่อต้นทุนการดำเนินงานขององค์กรด้วย

5. Right Place คือ การส่งสินค้าได้ตรงตามสถานที่ที่ต้องการ ทั้งนี้นักจัดซื้อจะต้องระบุสถานที่ในการจัดส่ง มีการแนบแผนที่ ชื่อและเบอร์โทรศัพท์ผู้ติดต่ออย่างชัดเจน เพื่อให้ได้รับสินค้า/วัตถุดิบที่ถูกต้องตามคุณภาพ ปริมาณที่ครบถ้วน เวลาที่ตรงกับความต้องการ ราคาที่เหมาะสม ในสถานที่ที่ถูกต้อง

6. Right Source คือ การซื้อสินค้าจากแหล่งขายที่เชื่อถือได้ ควรมีการตรวจสอบประวัติผู้ขายเพื่อพิจารณาความน่าเชื่อถือในด้านต่าง ๆ เช่น มีทุนจดทะเบียนประกอบการถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ความมั่นคงในการดำเนินธุรกิจของผู้ขายเป็นอย่างไร รวมถึงงบการเงินหรือกระแสเงินหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจของบริษัทเพียงพอหรือไม่

7. Right Service คือ การให้บริการด้วยศักยภาพที่สามารถตอบสนองได้ตรงตามความต้องการหรือเกินความคาดหวังที่ก่อให้เกิดความพึงพอใจจากการซื้อผลิตภัณฑ์จากผู้ขาย เช่น มีการรับประกันสินค้า มีการบริการหลังการขาย หรือมีอุปกรณ์ให้ใช้ทดแทนขณะซ่อม

โลจิสติกส์ให้มีประสิทธิภาพ ว่าเป็นแกนหลักในการบริหารต้นทุน สร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันทั้งในแง่การสร้างผลกำไรเพิ่มเติมและโอกาสทางธุรกิจ ซึ่งการจะประสบความสำเร็จด้านการบริหารจัดการโลจิสติกส์นั้น เทคโนโลยี โซลูชั่น นวัตกรรม บริการ ความรู้ใหม่ และเครือข่ายระดับอาเซียน จะเปรียบเสมือนการเสริมเส้นเลือดหล่อเลี้ยงธุรกิจให้ผู้ประกอบการ สามารถพัฒนาธุรกิจให้เติบโตต่อไปในอนาคต

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับ บริษัท รี้ด เทรดเด็กซ์ จำกัด      จัดงาน “TILOG-LOGISTIX 2019” งานแสดงสินค้าและบริการด้านโลจิสติกส์ที่ครบครัน ภายใต้แนวคิด “Transformation and Collaboration for Tomorrow” ผนึกกำลังผู้ประกอบการและนักธุรกิจด้าน      โลจิสติกส์ นำเสนอเทคโนโลยีโซลูชั่นและผู้ให้บริการอย่างครบครันจาก 415 แบรนด์ 25 ประเทศ        เพื่อส่งเสริมศักยภาพทางการค้า เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน และสร้างเครือข่ายระหว่าง          ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ทั้งในประเทศและต่างประเทศกับผู้ประกอบการทั่วภูมิภาคอาเซียน

ในวันที่ 28-30 สิงหาคม 2562 ณ ฮอลล์ 98 ไบเทค บางนา

ผู้ใช้บริการโลจิสติกส์ในทุกอุตสาหกรรม เช่น อาหารและเครื่องดื่ม สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าเกษตร    ชิ้นส่วนยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และ อีคอมเมิร์ซ ไม่ควรพลาดโอกาสสำคัญที่จะได้มาพบกับเทคโนโลยี  หรืออุปกรณ์ เครื่องมือที่ทันสมัยรองรับกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก รวมทั้งพบปะผู้ให้บริการโลจิสติกส์ชั้นนำในวงการจากไทยและต่างประเทศ เช่น จีน ไต้หวัน มาเลเซีย และกลุ่มประเทศ CLMV เป็นต้น    เพิ่มเครือข่ายพันธมิตรและเจรจาธุรกิจกับหน่วยงาน พร้อมเสริมองค์ความรู้จากสัมมนาระดับนานาชาติ

ในสภาวะที่มีการแข่งขันสูง สิ่งที่จะสร้างความแตกต่างและเพิ่มฐานลูกค้าให้กับธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจที่ประกอบการคล้ายคลึงกันได้นั้นก็คือ “ต้นทุน” ซึ่งผู้ประกอบการส่วนใหญ่มักจะใช้บริการขนส่ง โลจิสติกส์ มาเป็นกลยุทธ์สำคัญในการสร้างความแตกต่าง แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าบริษัทโลจิสติกส์ที่เลือกมานั้นคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเองแล้ว และนี่คือ 5 หัวใจหลักที่ผู้ประกอบการควรรู้ในการพิจารณาเลือกใช้บริการ โลจิสติกส์ ได้อย่างมีคุณภาพมีอะไรบ้างเรามาดูกัน

1. เลือกบริษัทโลจิสติกส์ชั้นนำ

สำหรับผู้ประกอบการที่ยังไม่มีประสบการณ์มาก่อน จึงทำให้ไม่รู้ว่าควรจะเลือกผู้ให้บริการโลจิสติกส์เจ้าไหนดี ดังนั้นการเลือกผู้ให้บริการโลจิสติกส์ที่มีชื่อเสียง และเป็นที่ยอมรับตามมาตรฐานระดับสากล  จึงเป็นสิ่งแรกที่คุณสามารถนำมาใช้ในการพิจารณาได้ เพราะอย่างน้อยจะทำให้คุณมั่นใจได้ว่าคุณจะได้รับการบริการที่ดีมีคุณภาพอย่างแน่นอน

2. มีบริการให้เลือกหลากหลายรูปแบบ

นอกเหนือจากรูปแบบการให้บริการ ขนส่งทางบก ทางเรือ ทางอากาศ รถ4ล้อตู้ทึบ รถบรรทุถ 6ล้อ หรืออื่นๆ สิ่งที่จะต้องมีคือ Customer services เช่น การบริการรับสินค้าพัสดุถึงสถานประกอบการโดยตรง ก็จะทำให้ผู้ประกอบการไม่ต้องเสียเวลาในการขนย้ายพัสดุหลายต่อ มีบริการส่ง SMS คอยแจ้งเตือนลูกค้าก่อนการจัดส่งสินค้าทุกครั้ง จะได้ไม่เสียเวลาต้องมานั่งเช็คเอง หรือแม้แต่บริการชำระเงินปลายทาง (COD) สำหรับลูกค้าที่ไม่สะดวกชำระเงินออนไลน์ ยิ่งมีบริการที่ “อำนวยความสะดวก” ได้ครอบคลุมมากเท่าไร ก็จะยิ่งทำเราสามารถทำงานได้ง่ายขึ้น

3. คุณภาพในด้านของการให้บริการ

พิจารณาคุณภาพของการให้บริการว่าสามารถขนส่งได้เป็นจำนวนมากหรือเปล่า และมีการจัดส่งสินค้ารวดเร็ว ตรงต่อเวลา ปลอดภัยหรือไม่ สิ่งนี้เป็นคุณสมบัติพื้นฐานที่ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ควรมี และอีกหนึ่งคุณสมบัติหนึ่งที่ผู้ประกอบการควรมองหาประกอบควบคู่ด้วยก็คือ ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ มีความใส่ใจ และพิถีพิถันในทุกขั้นตอนตั้งแต่กระบวนการการรับสินค้า การขนถ่ายสินค้า ไปจนถึงการจัดส่งสินค้าที่ถูกต้องให้ถึงมือลูกค้าหรือเปล่า เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยสามารถสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า หรือที่เรียก Customer Experience ทำให้เกิดความประทับใจในการให้บริการ

4 สามารถติดตามสถานการณ์ขนส่งได้อย่าง Real-Time

เพราะจะทำให้เราสามารถเช็คข้อมูล เพื่อที่จะได้สร้างความมั่นใจในการขนส่งว่าสินค้า ให้กับตัวเองหรือผู้รับ ว่าตอนนี้มีการดำเนินการขนส่งถึงขั้นตอนไหน เพื่อตัดความกังวลในเรื่องของการจะไม่ได้รับสินค้าถึงมือภายในวันที่กำหนด จะได้วางแผนรับมือหากเกิดปัญหาขึ้น

5. ต้นทุนที่จะต้องใช้ในการขนส่ง

ต้นทุนในการขนส่ง เพราะถ้าหากคุณเลือกใช้บริการที่มีต้นทุนในการขนส่งที่มีราคาสูง แน่นอนว่ากำไรที่คุณจะได้ก็จะต้องลดลง ก็จะทำให้คุณไม่สามารถสร้างความแตกต่างในเรื่องของราคาให้โดดเด่นกว่าลูกค้าได้ ยิ่งคุณใช้ต้นทุนแพงเท่าไหร่ โอกาสที่จะอยู่เหนือคู่แข่งก็ยากมากเท่านั้น

0 comment

0

FacebookTwitterGoogle +Pinterest

Giztix

Online Logistics Marketplace that gathers transporters for shippers for various types of Full Truck Load (FTL) services, Imports and Exports. You can check price and instantly book shipment, with real time status tracking system.