อุปกรณ์ดิจิทัลแบบไร้สายมีข้อเสียอย่างไร

            2.  การเชื่อมต่อส่วนบุคคล  บุคคลทั่วไปสามารถขอเชื่อมต่อเข้าสูอินเตอร์เน็ตโดยใช้คอมพิวเตอร์ที่ใช้อยู่  เชื่อมต่อผ่านทางสายโทรศัพท์  ผ่านอุปกรณ์ที่เรียกว่า Modem  การเชื่อมต่อแบบนี้เรียกว่า การเชื่อมต่อแบบdial-up  โดยผู้ใช้ต้องสมัครเป็นสมาชิกของ ISP ก่อน

ระหว่างผู้ส่งกับผู้รับ Bluetooth ใช้สัญญาณวิทยุในการติดต่อสื่อสารผู้รับและผู้ส่งสามารถอยู่จุดไหนก็ได้

ภายใต้รัศมีไม่เกิน 10 เมตร

ข้อเสีย (weakness)

1.ความง่ายดายในการโอนถ่ายข้อมูลอาจทำให้เกิดอาชญากรรมเพิ่มมากขึ้นได้ถ้าบุคคลเหล่านั้นนำ

บูลทูธไปใช้งานในแบบที่ไม่เหมาะสม
2. ถ้ามีการเปิดบูลทูธทิ้งไว้นานอาจมีกลุ่มบุคคลที่ไม่ประสงค์ดีปล่อยตัวไวรัสมาที่อุปกรณ์อิเล็คโทรนิคของ

เราได้ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินและข้อมูลต่างๆได้
3. การใช้ Booth Headset และโทรศัพท์มือถืออย่างเพลิดเพลินและความสะดวกสบาย อาจทำให้ผู้ใช้ขาด

ความระมัดระวังได้
4. การส่งข้อมูลทาง Bluetooth อาจทำให้เกิดการดักฟังหรือการลักลอบขโมยข้อมูลต่างๆได้ถึงแม้ว่าจะทำ

ได้ยากก็ตาม

โอกาส (Opportunity)

Bluetooth มีโอกาสที่พัฒนาไปอีกมาก เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีในโลกของดิจิตอล ที่มีคุณค่าและประโยชน์มากมาย ซึ่งการใช้ Bluetooth ทั้งในปัจจุบันและอนาคตจะทำให้โลกของเราก้าวหน้าไปไกลและ Bluetooth มีส่วนช่วยให้โลกพัฒนาขึ้นเป็นลำดับไม่ว่าหน่วยงานใดก็จะใช้ Bluetooth ในการสื่อสาร และในส่วนของเทคโนโลยีต่างๆก็จะมีระบบ Bluetooth รองรับรวมทั้งเครือข่าย เครื่องใช้ของใช้ในชีวิตประจำวันด้วย

อุปสรรค (Threat)

ในปัจจุบันและอนาคตที่มีการใช้ Bluetooth กันอย่างแพร่หลายก็อาจทำให้ให้เกิดมีการดักฟังหรือการลักลอบขโมยข้อมูลต่างๆได้ และที่ร้ายแรงไปกว่านั้นหากมีบุคคลซึ่งไม่ประสงค์ดีก็อาจใช้ Bluetooth เป็นตัวก่ออาชญากรรมต่างๆได้ ซึ่งปัญหาในส่วนนี้จะเป็นปัญหาที่สำคัญมาก

ข้อดีและข้อเสียของระบบเครือข่ายไร้สาย

ข้อดี

1. ช่วยลดปัญหาในการติดตั้งระบบเครือข่าย
2. ช่วยลดปัญหาในการวางสายระบบเครือข่าย
3. ไม่ต้องใช้สาย cable
4. ช่วยให้เกิดความเป็นระเบียบ เรียบร้อย

ข้อเสีย

1. มีอัตราการลดทอนสัญญาณสูง นั่นหมายความว่า “ ส่งสัญญาณได้ระยะสั้น ”
2. มีสัญญาณรบกวนสูง
3. ต้องแชร์กันใช้ช่องสัญญาณคลื่นความถี่เดียวกัน
4. ยังมี หลายมาตรฐาน ตามผู้ผลิต แต่ละราย ทำให้ มีปัญหา ในการ ใช้งาน ร่วมกัน
5. ราคาแพงกว่าระบบเครือข่ายแบบมีสาย
6. มีความเร็วไม่สูงมากนัก

อุปกรณ์ดิจิทัลแบบไร้สายมีข้อเสียอย่างไร

ข้อดี
1. ช่วยลดปัญหาในการติดตั้งระบบเครือข่าย
2. ช่วยลดปัญหาในการวางสายระบบเครือข่าย
3. ไม่ต้องใช้สาย cable
4. ช่วยให้เกิดความเป็นระเบียบ เรียบร้อย

ข้อเสีย
1. มีอัตราการลดทอนสัญญาณสูง นั่นหมายความว่า “ ส่งสัญญาณได้ระยะสั้น ”
2. มีสัญญาณรบกวนสูง
3. ต้องแชร์กันใช้ช่องสัญญาณคลื่นความถี่เดียวกัน
4. ยังมี หลายมาตรฐาน ตามผู้ผลิต แต่ละราย ทำให้ มีปัญหา ในการ ใช้งาน ร่วมกัน
5. ราคาแพงกว่าระบบเครือข่ายแบบมีสาย
6. มีความเร็วไม่สูงมากนัก

หากถามคุณแม่บ้านพ่อบ้านหลายคนว่า งานบ้านงานไหนที่ยุ่งยากและน่าเบื่อเป็นอันดับต้น ๆ เชื่อว่าหลายคนคงตอบว่าการซักผ้าอย่างแน่นอน แต่ด้วยนวัตกรรมใหม่ ๆ ในปัจจุบันจึงช่วยให้การซักผ้าไม่ใช่เรื่องที่น่าเหนื่อยใจอีกต่อไป อย่างเช่น "เครื่องซักผ้าฝาหน้า" ที่เพียงแค่นำผ้าใส่เครื่อง ปิดฝา แล้วก็กดปุ่ม เราก็จะได้ผ้าที่สะอาด นอกจากนี้ ยังประหยัดน้ำและซักผ้าได้สะอาดกว่าเครื่องซักผ้าฝาบน แถมบางรุ่นยังมีฟังก์ชันอบผ้าในตัว ช่วยประหยัดพื้นที่และสะดวกสบายขึ้นมากเลยค่ะวันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับวิธีการเลือกเครื่องซักผ้าฝาหน้าที่เหมาะสมกับการใช้งานในบ้านของคุณ รวมทั้งแนะนำ 10 อันดับ เครื่องซักผ้าฝาหน้ายี่ห้อยอดนิยม เช่น Electrolux, LG, SAMSUNG, TOSHIBA, Hisense พร้อมรวบรวมจุดเด่น จุดขายของแต่ละแบรนด์มาให้คุณเปรียบเทียบพิจารณาให้เข้าใจง่ายค่ะ

ข้อมูลการสังเกต (Observable Data) ได้สะท้อนถึงสิ่งประดิษฐ์ดิจิทัล เช่น บันทึก การติดตาม การเรียก API เวลาที่ใช้ไป การดาวน์โหลดและการถ่ายโอนไฟล์ ที่จะปรากฏขึ้นเมื่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียดำเนินการใดๆ

ความสามารถในการสังเกตประยุกต์ใช้ดึงข้อมูลสิ่งประดิษฐ์ที่สังเกตได้เหล่านี้กลับมาในแนวทางที่มีการประสานและบูรณาการอย่างสูงเพื่อเร่งการตัดสินใจขององค์กรธุรกิจ

คารามูซิส กล่าวว่า การสังเกตประยุกต์ช่วยให้องค์กรสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลสิ่งประดิษฐ์ของตนเพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันซึ่งมีประสิทธิภาพมาก เพราะช่วยยกระดับความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของข้อมูลที่ถูกต้องในเวลาที่เหมาะสมสำหรับดำเนินการอย่างรวดเร็วตามการกระทำของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่ได้รับการยืนยันมากกว่าความตั้งใจ

“เมื่อวางแผนอย่างมีกลยุทธ์และดำเนินการได้สำเร็จ ความสามารถในการสังเกตที่นำไปใช้จะเป็นแหล่งข้อมูลที่ทรงพลังที่สุดในการตัดสินใจสำหรับขับเคลื่อนธุรกิจด้วยข้อมูล”

AI Trust การจัดการความเสี่ยงและความปลอดภัย (AI Trust, Risk and Security Management)

หลายๆ องค์กรยังเตรียมการได้ไม่ดีพอในการจัดการความเสี่ยงด้าน AI จากการสำรวจของการ์ทเนอร์ในสหรัฐ สหราชอาณาจักร และเยอรมนี พบว่า 41% ขององค์กรต่างประสบปัญหาการละเมิดความเป็นส่วนตัวหรือมีเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยที่เกิดจาก AI 

อย่างไรก็ตาม ยังพบว่าองค์กรที่จัดการความเสี่ยง ความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัย AI อย่างจริงจังนั้น ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นกับโครงการ AI โดยส่วนใหญ่เปลี่ยนสถานะจากไอเดียที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว (Proof of Concept) ไปสู่การผลิตและสร้างมูลค่าทางธุรกิจได้มากกว่าโครงการ AI ในองค์กรที่ไม่ได้จัดการฟังก์ชันเหล่านี้อย่างจริงๆ จังๆ 

องค์กรต้องนำความสามารถใหม่ๆ มาใช้ เพื่อให้แน่ใจว่าแบบจำลองมีความเสถียร เชื่อถือได้ มีความปลอดภัยและการปกป้องข้อมูล โดย AI Trust การจัดการความเสี่ยงและความปลอดภัย (หรือ TRiSM) กำหนดให้ผู้เข้าร่วมจากแผนกต่าง ๆ ในองค์กรสามารถทำงานร่วมกันได้เพื่อนำมาตรการใหม่นี้มาปรับใช้

แพลตฟอร์มคลาวด์สำหรับภาคอุตสาหกรรม (Industry Cloud Platforms)

แพลตฟอร์มคลาวด์ของภาคอุตสาหกรรมนำเสนอบริการ SaaS แพลตฟอร์มเป็นบริการ (หรือ PaaS) และโครงสร้างพื้นฐานเป็นบริการ (IaaS) อย่างผสมผสาน ด้วยชุดการทำงานแบบแยกส่วนเฉพาะอุตสาหกรรมเพื่อรองรับการใช้งานของภาคอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ

องค์กรต่างๆ สามารถใช้ความสามารถที่บรรจุไว้ของแพลตฟอร์มคลาวด์สำหรับภาคอุตสาหกรรมเป็นส่วนประกอบในการสร้างสรรค์ไอเดียทางธุรกิจดิจิทัลที่ไม่เหมือนใครและแตกต่างได้ พร้อมยังมีความคล่องตัว มีนวัตกรรมล้ำสมัย และลดระยะเวลาการนำออกสู่ตลาด โดยไม่ต้องล็อคอินเพื่อเปิดใช้งาน

ภายในปี 2570 การ์ทเนอร์คาดการณ์ว่าองค์กรมากกว่า 50% จะใช้แพลตฟอร์มคลาวด์สำหรับภาคอุตสาหกรรมเพื่อเร่งการดำเนินโครงการใหม่ ๆ ของธุรกิจ

แพลตฟอร์มวิศวกรรม (Platform Engineering)

แพลตฟอร์มวิศวกรรมเป็นแนวทางการสร้างและปฏิบัติงานบนแพลตฟอร์มภายในของนักพัฒนาแบบทำได้ด้วยตนเอง เพื่อการส่งมอบซอฟต์แวร์และจัดการกระบวนการพัฒนาได้อย่างครบวงจร

โดยเป้าหมายของแพลตฟอร์มวิศวกรรม คือ การเพิ่มประสิทธิภาพด้านประสบการณ์ของนักพัฒนาและเร่งการส่งมอบคุณค่าแก่ลูกค้าของทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์

การ์ทเนอร์คาดการณ์ว่า 80% ขององค์กรด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์จะจัดตั้งทีมดูแลแพลตฟอร์มภายในปี 2569 และ 75% จะรวมพอร์ทัลการใช้งานด้วยตนเองสำหรับนักพัฒนา

การรับรู้ถึงคุณค่าของระบบไร้สาย (Wireless Value Realization)

แม้ว่าจะไม่มีเทคโนโลยีใดเข้ามาครอบครองตลาด แต่องค์กรธุรกิจต่างๆ จะใช้โซลูชันไร้สายที่หลากหลายเพื่อรองรับกับทุกสภาพแวดล้อม ตั้งแต่ Wi-Fi ในสำนักงาน ผ่านบริการในอุปกรณ์พกพา ไปจนถึงบริการที่ใช้พลังงานต่ำ และแม้กระทั่งการเชื่อมต่อวิทยุ การ์ทเนอร์คาดการณ์ว่าภายในปี 2568 ราว 60% ขององค์กรจะใช้เทคโนโลยีไร้สาย 5 อย่างขึ้นไปพร้อม ๆ กัน

เมื่อเครือข่ายพัฒนาก้าวหน้าไปไกลมากกว่าแค่การเชื่อมต่อ เครือข่ายจะนำเสนอข้อมูลเชิงลึกโดยใช้การวิเคราะห์ในตัวและระบบที่ใช้พลังงานต่ำจะสะสมพลังงานไว้ได้โดยตรงจากเครือข่าย นั่นหมายความว่าเครือข่ายจะกลายเป็นแหล่งที่มาของมูลค่าทางธุรกิจโดยตรง

ซูเปอร์แอป (Superapps)

ซูเปอร์แอป รวมคุณสมบัติของแอป แพลตฟอร์ม และระบบนิเวศไว้ในแอปพลิเคชันเดียว นอกจากมีฟังก์ชันต่างๆ ครบครันในแอปแล้ว ยังเป็นแพลตฟอร์มที่เปิดโอกาสให้กับบุคคลอื่นได้สร้างสรรค์พัฒนาและเปิดตัวมินิแอป ภายในปี 2570 การ์ทเนอร์คาดการณ์ว่าในแต่ละวันประชากรโลกมากกว่า 50% จะใช้ซูเปอร์แอปหลายตัว

แม้ตัวอย่างส่วนใหญ่ของ Superapps จะเป็นแอปในมือถือ แต่แนวคิดนี้ยังสามารถนำไปใช้กับแอปพลิเคชันของลูกค้าบนเดสก์ท็อป อาทิ Microsoft Teams และ Slack ด้วยปัจจัยสำคัญก็คือ Superapp สามารถรวมและแทนที่แอปหลากหลายเพื่อให้ลูกค้าหรือพนักงานได้ใช้งาน

AI ที่ปรับเปลี่ยนได้ (Adaptive AI)

ระบบ AI ที่ปรับเปลี่ยนได้ มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาโมเดลขึ้นใหม่อย่างต่อเนื่องและเรียนรู้ภายในช่วงเวลาการทำหรือใช้งานและอยู่ในสภาพแวดล้อมของการพัฒนา

โดยอาศัยฐานข้อมูลใหม่เพื่อปรับระบบให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตามสถานการณ์จริงที่ไม่ได้คาดการณ์ไว้หรือที่ไม่ได้เตรียมไว้ในระหว่างการพัฒนาครั้งแรก ซึ่งตอบโจทย์การให้ฟีดแบคแบบเรียลไทม์ สามารถปรับเปลี่ยนการเรียนรู้ได้แบบไดนามิกและตรงตามเป้าหมาย

เมตาเวิร์ส (Metaverse)

การ์ทเนอร์กำหนดให้ Metaverse เป็นพื้นที่จำลอง 3 มิติเสมือนจริง ที่เปิดโอกาสให้ผู้คนมาใช้งานร่วมกัน สร้างขึ้นจากการผสานรวมโลกความเป็นจริงทางกายภาพและดิจิทัลไว้ด้วยกัน ซึ่ง Metaverse จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและมอบประสบการณ์ที่สมจริงยิ่งขึ้น

การ์ทเนอร์คาดว่า Metaverse ที่สมบูรณ์ไม่ได้ขึ้นกับอุปกรณ์และจะไม่มีใครเป็นผู้จำหน่ายหรือเจ้าของแต่ผู้เดียว แต่จะมีระบบเศรษฐกิจเสมือนของตัวเอง โดยใช้สกุลเงินดิจิทัลและโทเค็นที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ (NFTs) 

ภายในปี 2570 การ์ทเนอร์คาดการณ์ว่ามากกว่า 40% ขององค์กรขนาดใหญ่ทั่วโลกจะใช้เทคโนโลยีผสมผสานกัน เช่น Web3, AR Cloud และ Digital Twins ในโครงการใดๆ บน Metaverse โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มรายได้

ความยั่งยืน (Sustainability)

ความยั่งยืนครอบคลุมเทรนด์เทคโนโลยีเชิงกลยุทธ์ทั้งหมดในปี 2566 จากการสำรวจของการ์ทเนอร์ เมื่อเร็วๆ นี้ ชี้ให้เห็นว่า ผู้บริหารไอทีมองว่าการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมมีความสำคัญสูงสุดติดสามอันดับแรกสำหรับนักลงทุน รองจากเรื่องของผลกำไรและรายได้

นั่นหมายความว่าผู้บริหารต้องลงทุนมากขึ้นกับนวัตกรรมโซลูชันที่ได้รับการออกแบบมาสำหรับตอบโจทย์ความต้องการด้าน ESG และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน ซึ่งองค์กรธุรกิจจำเป็นต้องมีกรอบการทำงานด้านเทคโนโลยีที่ยั่งยืนใหม่ ที่เพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงานและวัสดุอุปกรณ์ของบริการไอที ที่จะช่วยทำให้องค์กรมีความยั่งยืนผ่านเทคโนโลยีต่างๆ

อาทิ ความสามารถในการตรวจสอบแบบย้อนกลับ การวิเคราะห์ พลังงานหมุนเวียน เทคโนโลยีเอไอ และปรับใช้โซลูชันไอทีเพื่อช่วยให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนตามที่วางแผนไว้

เดวิด กรูมบริดจ์ นักวิจัยอาวุโส การ์ทเนอร์ กล่าวว่า ในปีหน้านี้การส่งมอบเทคโนโลยีจะไม่เพียงพออีกต่อไป เนื่องด้วยธีมเหล่านี้ต่างได้รับผลกระทบจากความคาดหวังและกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (หรือ ESG) ซึ่งหมายถึงความรับผิดชอบร่วมกันในการใช้เทคโนโลยีอย่างยั่งยืน

ในทุกการลงทุนทางเทคโนโลยีจะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และต้องคำนึงถึงคนรุ่นต่อๆ ไปในอนาคต “Sustainable by Default หรือความยั่งยืนเป็นพื้นฐาน” เป็นเป้าหมายในการนำเทคโนโลยียั่งยืนมาใช้”

การใช้งานอุปกรณ์ดิจิทัลแบบไร้สายมีข้อเสียอย่างไร

มีอัตราการลดทอนสัญญาณสูง นั่นหมายความว่า “ ส่งสัญญาณได้ระยะสั้น ”.
มีสัญญาณรบกวนสูง.
ต้องแชร์กันใช้ช่องสัญญาณคลื่นความถี่เดียวกัน.
ยังมี หลายมาตรฐาน ตามผู้ผลิต แต่ละราย ทำให้มีปัญหาในการใช้งานร่วมกัน.
ราคาแพงกว่าระบบเครือข่ายแบบมีสาย.
มีความเร็วไม่สูงมากนัก.

อุปกรณ์ดิจิทัลแบบไร้สายมีข้อดีอย่างไร

ระบบเครือข่ายไร้สาย เป็นระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก ที่ประกอบไปด้วยอุปกรณ์ไม่มากนัก และมักจำกัดอยู่ในอาคารหลังเดียวหรืออาคารในละแวกเดียวกัน การใช้งานที่น่าสนใจที่สุดของเครือข่ายไร้สายก็คือ ความสะดวกสบายที่ไม่ต้องติดอยู่กับที่ ผู้ใช้สามารถเคลื่อนที่ไปมาได้โดยที่ยังสื่อสารอยู่ในระบบเครือข่าย

เครือข่ายไร้สายในปัจจุบันมีผลดีอย่างไร

ความสะดวกในการติดตั้งและจัดการง่าย (Manageability) : เนื่องจากระบบเครือข่ายไร้สายไม่ ต้องติดตั้งสายน าสัญญาณ ท าให้เวลาในการติดตั้งเร็วขึ้น และไม่ต้องจัดการสายน าสัญญาณ ความยืดหยุ่น (Flexibility) : เทคโนโลยีไร้สายท าให้ระบบเครือข่ายไปยังที่ที่สายน าสัญญาณไม่ สามารถติดตั้งได้

เครือข่ายไร้สายมีข้อจำกัดเรื่องความปลอดภัยอย่างไร

เครือข่ายไร้สายมีข้อจำกัดเรื่องความปลอดภัยอย่างไร เกิดการชนกันของข้อมูลได้ คลื่นวิทยุจะรบกวนอุปกรณ์อื่นๆได้ ข้อมูลอาจจะหายไปในอากาศได้