ข้อเสียของ โครงการเราเที่ยวด้วยกัน คืออะไร

วิธีรับสิทธิ์ เราเที่ยวด้วยกัน ใช้ยังไง ที่นี่มีคำตอบ

เนื่องจากพิษโรคระบาด ทำให้ธุรกิจต่างได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า หนึ่งในนั้นก็คือธุรกิจท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่ต้องปิดตัวลงชั่วคราว ทำให้ขาดรายได้เป็นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา

รัฐบาลจึงจัดโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการโรมแรม ร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ในประเทศให้กลับมาดีเหมือนเดิม

โครงการ เราเที่ยวด้วยกัน คืออะไร?

โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” เป็นโครงการที่รัฐบาลจัดขึ้น เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนเกิดการใช้จ่ายผ่านการท่องเที่ยวภายในประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม และธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร หรือธุรกิจการบิน เพื่อเป็นการช่วยส่งเสริม และสนับสนุนการสร้างงาน รวมถึงช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศด้วย

สำหรับสิทธิ์เราเที่ยวด้วยกันในภาคประชาชนนี้นี้จะได้รับสิทธิ์อะไร ใช้ได้ที่ไหน หรือมีวิธีการใช้อย่างไรบ้าง เราสรุปรวมไว้แบบอ่านครบ จบที่เดียว

ใครบ้างที่สามารถใช้สิทธิ์เราเที่ยวด้วยกันได้

สำหรับคุณสมบัติของผู้ที่จะสามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ในโครงการนี้ได้ คือ

1. ต้องเป็นบุคคลที่มีสัญชาติไทย และต้องมีบัตรประจำตัวประชาชนเท่านั้น
2. ต้องมีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียนเข้ารับสิทธิ์ของโครงการ

หมายเหตุ* เราจะสามารถใช้สิทธิได้เมื่อลงทะเบียนสำเร็จ โดยสามารถใช้จ่ายในโรงแรม ร้านอาหาร หรือสถานที่ท่องเที่ยว ได้ทุกจังหวัดทั่วประเทศ รวมจังหวัดตามทะเบียนบ้านของผู้ใช้สิทธิ

ระยะเวลาที่สามารถใช้สิทธิเที่ยวด้วยกันได้

รัฐบาลได้ประกาศขยายระยะเวลาการใช้สิทธิ์ในโครงการเที่ยวด้วยกันออกไป จากเดิมที่สามารถใช้สิทธิได้ถึงวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เป็นสามารถใช้สิทธิได้จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2564 แบบไม่จำกัดจำนวนผู้ลงทะเบียน

3 สิทธิประโยชน์ที่จะได้รับ จากโครงการเราเที่ยวด้วยกันแบบจัดเต็ม

นอนสบายกับส่วนลดค่าโรงแรมที่พัก

• รัฐบาลสนับสนุนค่าโรงแรม 40% ของราคาที่พักต่อห้องต่อคืน แต่ต้องไม่เกิน 3,000 บาท ต่อห้องต่อคืน โดยสามารถจองผ่านโรงแรมโดยตรง หรือจองผ่านเอเจนซี่ก็ได้เช่นกัน
• เพิ่มจำนวนสิทธิเป็นคนละไม่เกิน 10 ห้อง หรือ 10 คืน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2563 เป็นต้นไป งานนี้จะไปคืนเดียวแล้วจอง 10 ห้อง หรือ จองห้องเดียว 10 คืนก็ได้เช่นกัน หมายความว่า คุณสามารถจองกี่ครั้งก็ได้ แต่ใช้สิทธิส่วนลดห้องพักได้ไม่เกิน 10 ห้อง นั่นเอง
• ต้องจองที่พักล่วงหน้าก่อนเข้าพักอย่างน้อย 3 วัน
• เมื่อจองที่พัก และชำระเงินเรียบร้อยแล้ว จะไม่สามารถยกเลิกการ หรือเปลี่ยนแปลงการจองภายหลังได้

กินอิ่มเที่ยวเพลินกับส่วนลดค่าอาหารและค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยว

• รัฐบาลจะให้คูปองสำหรับค่าอาหาร และท่องเที่ยวเมื่อ check-in ที่โรงแรมเสร็จเรียบร้อยเท่านั้น โดยในช่วงวันจันทร์-พฤหัสบดี จะได้รับคูปองมูลค่า 900 บาท ต่อห้องต่อคืน และ วันศุกร์-อาทิตย์ จะได้รับคูปองมูลค่า 600 บาท ต่อห้องต่อคืน
• คูปองที่ได้รับนั้นเป็นคูปองแบบรายวัน โดยจะได้รับคูปองอาหาร และท่องเที่ยว วันละ 1 ครั้ง หลังเวลา 17:00 น. ของวันที่ check-in และคูปองจะหมดอายุเวลา 23:59 น. ของวันที่ check-out สูงสุดไม่เกิน 5 คืน
• คูปองอาหาร และท่องเที่ยวนี้ สามารถใช้ได้กับร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยว ที่เข้าร่วมโครงการ โดยมีเงื่อนไขว่าเราจะต้องชำระเอง 60% และรัฐบาลจะช่วยสนับสนุนอีก 40% ผ่านแอปพลิเคชันถุงเงิน ด้วยการตัดเงินจากคูปอง และหากใช้ไม่ครบมูลค่าของคูปองที่ได้รับระบบจะยึดเงินส่วนที่เหลือ ไม่สามารถยกยอดไปใช้ในวันถัดไปได้

บินคุ้มกับส่วนลดสำหรับค่าเดินทางโดยเครื่องบิน

• รัฐบาลจะช่วยสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบิน 40% ของมูลค่าตั๋ว แต่ต้องไม่เกิน 2,000 บาทต่อ 1 ผู้โดยสาร
• การสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบินนี้จะเป็นการสำรองจ่ายไปก่อน เมื่อมีการตรวจสอบแล้วว่ามีการเดินทางและได้เข้าพักจริง จึงจะได้เงินส่วนนี้คืน
• คุณจะได้แลกค่าตั๋วเครื่องบินได้เพียงห้องพักละ 2 ที่นั่ง โดยยึดจากที่จำนวนที่เข้าพักกับโรงแรมจริง ๆ และมีเงื่อนไขว่าต้องไม่เกิน 10 ที่นั่ง
• สนามบินปลายทางจะต้องอยู่ในกลุ่มจังหวัดเดียวกับโรงแรมที่จอง เช่น จองโรงแรมที่ภูเก็ตไว้ แต่ลงสนามบินที่สุราษฎร์ธานีเพื่อเที่ยวก่อน แล้วค่อยนั่งรถไปเที่ยวต่อที่จังหวัดภูเก็ต แบบนี้ก็สามารถทำได้ เนื่องจากสองจังหวัดนี้อยู่ในกลุ่มจังหวัดเดียวกัน เป็นต้น (ตรวจสอบกลุ่มจังหวัดได้ที่นี่)
• การเดินทางตามเที่ยวบินที่จองสามารถบินไปถึงก่อนวัน check-in โรงแรมได้ แต่ต้องไม่เกิน 5 วัน และบินกลับหลังจากวันที่ check-out ได้ แต่ไม่เกิน 5 วัน เช่นกัน
• การเดินทางกลับจากการท่องเที่ยวจะต้องอยู่ภายในวันที่ 31 มกราคม 2564 เท่านั้น

สรุป 9 ขั้นตอนง่ายๆ ในการลงทะเบียน “เราเที่ยวด้วยกัน”

อ่านเงื่อนไขทั้งหมดแล้วกดยอมรับเงื่อนไข เพื่อลงทะเบียน จากนั้นกรอกข้อมูลส่วนตัวสำหรับใช้ในการรับสิทธิ์ของโครงการ รอรับรหัส OTP จากเบอร์โทรศัพท์หรืออีเมลล์ที่กรอกไป และนำรหัสที่ได้ไปกรอกในเว็บอีกครั้ง เพื่อเป็นการยืนยันตัวตน

ระบบแจ้งผลการลงทะเบียนรับสิทธิ์ผ่าน SMS โดยจะทำการส่งมาตามเบอร์โทรศัพท์ที่คุณลงทะเบียนไว้ในขั้นตอนแรก โดยจะใช้เวลาในการดำเนินการประมาณ 3 วัน หลังการยืนยันการลงทะเบียน

ต้องดาวน์โหลดแอปฯ “เป๋าตัง Paotang” ที่จะใช้เป็นแอปฯ หลักในการใช้จ่าย และทำการยืนยันตัวตนสำหรับผู้ที่ไม่เคยมี G-Wallet เพื่อใช้รับคูปองส่วนลดสำหรับค่าอาหารและค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ

จองห้องพักกับโรงแรม พร้อมชำระเงินค่าที่พัก 60% ผ่านเว็บไซต์ของโรงแรม หรือโทรสำรองห้องพักกับเจ้าหน้าที่โรงแรมโดยตรง นอกจากนี้ยังสามารถจองผ่าน Online Travel Agency ที่เข้าร่วมโครงการ เช่น Agoda, Ascend Travel, Traveloka หรือ Hotel.com เป็นต้น

เมื่อทำการจองที่พักและชำระเงินเรียบร้อยตามเงื่อนไขที่กำหนดแล้ว คุณจะได้รับ Voucher สำหรับการ Check-in โรงแรม

กรณีที่เดินทางโดยเครื่องบิน ให้จองตั๋วเครื่องบินตามช่องทางปกติ และสำรองจ่ายโดยการชำระเงินเต็มจำนวนไปก่อน

เมื่อเข้าพักตามวันที่กำหนด คุณจะได้รับคูปองอาหาร และท่องเที่ยวสำหรับใช้จ่ายในร้านอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวที่ร่วมโครงการ ในระหว่างวันที่เข้าพัก

เมื่อ Check-out เรียบร้อยแล้ว ให้เข้าเว็บไซต์ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com อีกครั้งเพื่อกรอกข้อมูลสำหรับใช้ขอรับสิทธิค่าตั๋วเครื่องบิน ที่สำรองจ่ายไปก่อนหน้า

ได้รับเงินส่วนลดคืนค่าตั๋วเครื่องบินตามเงื่อนไข หลังจากที่ได้รับการตรวจสอบแล้วว่ามีการเดินทางและเข้าพักจริงตามวันเวลาที่แจ้ง

1. ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่าน www.เราเที่ยวด้วยกัน.com

2. รับ SMS แจ้งผลการลงทะเบียนสำเร็จ

3. ดาวน์โหลด และยืนยันตัวตนบน แอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”

4. จองห้องพัก

5. รับ voucher

6. จองตั๋วเครื่องบิน

7. Check-in เข้าพักตามวันที่กำหนด

8. ลงทะเบียนรับสิทธิ์ส่วนลดค่าตั๋วเครื่องบิน

9. ได้รับเงินส่วนลดค่าตั๋วเครื่องบินคืน

ข้อมูล

www.เราเที่ยวด้วยกัน.com